WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


" การเตือนภัย และการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติ ในอนาคต... "
005
จาก BoyDogtag,TTC-005
IP:115.87.62.36

ศุกร์ที่ , 25/11/2554
เวลา : 21:12

อ่านแล้ว = 77105 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      


fiogf49gjkf0d
ยืนยันจากผู้มีประสบการณ
จาก : คนเดือน10(คนเดือน10) 12/12/2554 10:29:32 [124.122.29.171]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 6 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

คำตอบที่ 151
      

fiogf49gjkf0d
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล...

ข้อมูลแผ่นดินไหว 2 เขื่อนน่าห่วง
ศรีนครินทร์-เขาแหลม "รอยเลื่อน"พร้อมปะทุ จี้"12จว.-กทม."รับมือ

ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวยกข้อมูลล่าสุดเตือน พบรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์เคลื่อนตัวตลอดเวลา จี้วางระบบเตือนภัย เตรียมแผนอพยพ ดูแล 2 อำเภอในเมืองกาญจน์เป็นพิเศษ เชื่อแค่ไหวไม่ถึง 7.5 ริกเตอร์ เขื่อนศรีนครินทร์-เขาแหลม มีโอกาสแตกสูง อดีตวิศวกร กฟผ.อ้างข้อมูลบริษัทที่ปรึกษา 3 ประเทศ ระบุหากเขื่อนแตก น้ำจะท่วม 13 จว.


คณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำและแร่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเวทีสัมมนาการเสี่ยงต่อภัยพิบัติและอันตรายจากการพิบัติของเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ขึ้นที่สำนักงาน กสม.เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 มกราคม โดยมีนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว ตัวแทนจากบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเดิมเข้าร่วม ทั้งนี้ ในเวทีสัมมนามีการเปิดเผยข้อมูลที่ค้นพบใหม่จากนักวิชาการผู้ชำนาญการเรื่องแผ่นดินไหว ที่อาจจะนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่าพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบันมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนที่มีพลังมหาศาลหากเกิดแผ่นดินไหวอาจทำให้เขื่อนแตกได้


ดร.ปัญญา จารุศิริ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นดินไหว กล่าวว่า จากการศึกษาเก็บข้อมูลรอยเลื่อนที่มีผลกระทบต่อตัวเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งทำร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ครั้งล่าสุด พบข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจมากคือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ที่อยู่ในเขตประเทศพม่า เคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และมีรอยเลื่อนที่ชัดเจนมาก โดยรอยเลื่อนดังกล่าวจะค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเข้ามาในเขตประเทศไทย


"จากข้อมูลนี้ทำให้วิตกว่าพื้นที่ที่ถูกขนาบด้วยรอยเลื่อนคืออำเภอไทรโยค และสังขละบุรี (จ.กาญจนบุรี) ที่อยู่ติดกับชายแดนพม่าอาจได้รับอันตราย เราสำรวจพบว่าบริเวณดังกล่าวมีชุมชนอยู่ 550 หลังคาเรือน สะพาน 38 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดต่างๆ อีก 5 แห่ง รวมทั้งเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนเขาแหลม พื้นที่เหล่านี้ต้องได้รับการดูแลพิเศษเรื่องการเตือนภัย และเตรียมแผนอพยพไปสู่ที่ปลอดภัยให้พร้อม" ดร.ปัญญากล่าว


ดร.ปริญญา นุตาลัย นักวิชาการด้านแผ่นดินไหว กล่าวว่า ก่อนที่เขื่อนศรีนครินทร์จะถูกสร้างขึ้นมานั้น เคยคุยกับวิศวกรชาวญี่ปุ่น สมัยนั้นไม่ได้นำข้อมูลเรื่องแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวมาพิจารณาในการก่อสร้างเลย สำหรับข้อมูลที่ กฟผ.อ้างอยู่ตลอดเวลาที่มีการถกเถียงเรื่องแผ่นดินไหวแล้วทำให้เขื่อนแตกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเขื่อนนี้สร้างไว้รองรับการไหวของแผ่นดินได้ถึง 7.5 ริกเตอร์นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะในอดีตก่อนสร้างไม่ได้นำเรื่องนี้มาเป็นตัวตั้ง และยังไม่มีความรู้เรื่องแนวรอยเลื่อนเท่ากับปัจจุบัน


"พื้นที่ตามแนวรอยเลื่อน ซึ่งมีเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนเขาแหลมรวมอยู่ด้วยนั้น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวใต้เขื่อน ไม่จำเป็นต้องถึง 7.5 ริกเตอร์ เขื่อนก็มีโอกาสแตกอยู่ดี" ดร.ปริญญากล่าว


นายธำรง ธวัชชัยประชา ซึ่งร่วมในเวทีสัมมนาครั้งนี้ด้วย เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นอดีตวิศวกรโยธา กฟผ.ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวิศวกรที่ปรึกษาที่ดูแลรักษาเขื่อนศรีนครินทร์มาตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง


"ยอมรับว่า ขณะนั้นผมมีความฮึกเหิมอย่างมากที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ มั่นใจระบบการก่อสร้าง และไม่เคยยอมฟังคำทัดทานของใคร โดยเฉพาะอาจารย์ปริญญาที่ค้านมาตลอดว่าอันตรายมากที่สร้างเขื่อนทับแนวรอยเลื่อนที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหว กระทั่งเขื่อนสร้างเสร็จระยะหนึ่ง กฟผ.ให้บริษัทที่ปรึกษาจากสหรัฐอเมริกา สวีเดน และแคนาดา ตรวจประเมินเขื่อนจากข้อมูลเรื่องการเกิดแผ่นดินไหว ทั้ง 3 แห่ง สรุปผลออกมาเหมือนกันว่าจังหวัดกาญจนบุรีอาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขนาด 7.5-8.0 ริกเตอร์ นั่นคือ มากกว่าที่ กฟผ.ออกแบบเขื่อนไว้ 500-4,000 เท่า และทั้งหมด แนะนำให้ กฟผ.เพิ่มมาตรการเสริมความแข็งแรงของเขื่อน" นายธำรงกล่าว


นายธำรงกล่าวว่า ที่ กฟผ.บอกกับสาธารณะว่าเขื่อนรับแรงไหวของแผ่นดินได้ 7.5 ริกเตอร์นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะความจริงคือ ตัวเลข 7.5 ริกเตอร์ ที่เขื่อนจะรองรับความเสียหายได้ จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว จะต้องห่างจากตัวเขื่อนมากกว่า 250 กิโลเมตร แต่จากข้อมูลใหม่และความรู้ในปัจจุบัน พบว่าแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวที่มีพลังนั้น อยู่บริเวณเดียวกับที่เขื่อนสร้างอยู่นั่นเอง


นายธำรงกล่าวว่า บริษัทที่ปรึกษาเหล่านั้นยังระบุอีกว่าหากเขื่อนศรีนครินทร์แตกแล้ว โอกาสที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุม 13 จังหวัด 65 อำเภอ เป็นพื้นที่ถึง 7,500 ตารางกิโลเมตร หรือราว 4,700,000 ไร่ สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น น้ำจะไหลมาถึงเขตบางกอกน้อย ตลิ่งชัน ธนบุรี ภาษีเจริญ จอมทอง ราษฎรบูรณะ และบางขุนเทียน ภายใน 35 ชั่วโมง และ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จะเจอสภาพหนักสุด คือ น้ำจะไหลสู่ อ.เมือง ภายใน 5 ชั่วโมง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 11 ชั่วโมง


"สมัยที่ผมอยู่ กฟผ.รู้สึกสำนึกผิดที่มีส่วนร่วมให้เกิดเขื่อนแห่งนี้ขึ้น หลังจากทราบข้อมูลจากหลายๆ ฝ่ายแล้ว จึงเขียนบันทึกขึ้นมา 25 หน้า ขอให้ กฟผ.เปลี่ยนเครื่องวัดระดับน้ำที่ท้ายเขื่อน เพื่อเพิ่มมาตรการเตือนภัย เพราะมาตรวัดล้าสมัยมาก รวมทั้งข้อมูลเรื่องรอยเลื่อนต่างๆ แต่บันทึกดังกล่าว ต้องผ่านผู้ใหญ่หลายระดับ ผมพยายามติดตาม แต่กระทั่งออกมาจาก กฟผ.ก็ยังไม่ได้ข่าวว่าบันทึกที่ผมทำขึ้นมานั้น ไปอยู่ที่ไหนกับใคร แต่ผมก็สำเนาเอกสารเก็บเอาไว้" นายธำรงกล่าว


ขณะที่นายแกว่น สีตะธนี ผู้จัดการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา กฟผ. ซึ่งนั่งในเวทีนี้ด้วย กล่าวว่า ขณะนี้ กฟผ.มีแผนป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากเขื่อนแตกอยู่แล้ว ทั้งนี้ เมื่อเกิดข้อมูลใหม่ๆ ขึ้น กฟผ.ก็ได้เพิ่มการกวดขันในการตรวจสอบรอยร้าวรอยรั่วของเขื่อนเพิ่มมากขึ้น


______________________
มติชน 25 มกราคม 2549


Ref. 1 : http://www.carefor.org/content/view/1356/2/
Ref. 2 : http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9490000010570

fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2555 11:16:36

 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2555 11:17:45

 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2555 11:55:14





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.4.193 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 11:11  IP : 115.87.4.193   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115178

คำตอบที่ 152
      

fiogf49gjkf0d
อ่านรับฟังไว้เพื่อเตือนสติ ถ้าเกิดขึ้นจริง เราจะมีแผนการดูแลครอบครัวเราอย่างไรดี???

ถ้าไม่เชื่อ ก็เพียงแค่ปล่อยมันผ่านหูซ้ายทะลุออกหูขวาออกไป.. ก็เท่านั้นเอง
แต่ไม่ควรไปปรามาสพระสงฆ์องคเจ้าท่าน มันจะเป็นบาปเป็รกรรมติดตัวเราไปเปล่าๆครับ...

Copy เขามาอีกทีนะครับ..
... หลวงปู่หงษ์ท่านได้เมตตากล่าวเตือนไว้เมื่อกลางปีที่แล้ว ว่าปลายปีนี้น้ำจะท่วมและก็เป็นไปตามที่หลวงปู่ท่านได้เมตตากล่าวเตือนไว้ และเมื่อวานนี้ ( 10/11/54 ) ได้โทรไปหาหลวงพี่หนึ่งที่สุสานทุ่งมนเรื่องงานกฐิน หลวงพี่หนึ่งบอกว่า...

"หลวงปู่หงษ์ท่านได้เมตตาเตือนลูกศิษย์ไว้ว่าให้เก็บเสบียงอาหารไว้ก่อนอย่าพึ่งเลิกเก็บ เพราะว่าจะเกิดภัยพิบัติอีกละลอกที่จะสร้างความเสียหายมากกว่าครั้งนี้หลายเท่าครับ"

สนใจเพิ่มเติม.. หาอ่านเอาเองใน webLink ครับ
- http://board.palungjit.com/f178/หลวงปู่หงษ์เตือนภัยพิบัติ-325026.html
- http://th-th.facebook.com/LuangpuHong/posts/307902585888921

อีกเรื่องนึงครับ... อ่านดูเล่นๆครับ ก็น่าสนใจรับฟังเอาไว้บ้าง รู้ไว้ใช่ว่าดีครับ..
เพราะเนื่อหาข้อมูลไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน.. ( น่าจะเป็นต้นน้ำของข้อมูลแห่งหนึ่ง ; คุณ Aunyasit )
http://board.palungjit.com/f178/น้ำท่วมปี-2555-นี้จะร้ายแรงหรือไม่-325211.html

ซึ่งก็มีส่วนสอดคล้องกับที่หลวงพ่อบุญช่วยได้รับการเตือนมา..
"ล่าสุดปีที่แล้วพระองค์พรึมเรียกหลวงพ่อบุญช่วยไปหาเตือนว่า
ต่อไปนี้ปี 2554-2555 จะเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ บ้านเมืองก็วุ่นวาย ที่สำคัญคือเตือนว่า จะมีแผ่นดินไหวใหญ่จากจีนแล้วจะส่งผลลงมายังเมืองกาญจนบุรีอันนี้อันที่หนึ่ง

อันที่สองจะเกิดพายุใหญ่จากเวียดนามแล้วส่งผลถึงเมืองไทย
"
fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2555 13:11:07

 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2555 13:31:09



fiogf49gjkf0d
ขอบคุณครับคุณบอย มันยังเป็นเรื่องใหม่มากๆสำหรับพวกเรา ปรกติหาเลี้ยงชีพเรื่องหลัก ก็ยังลำบากอยู่เลย
จาก : ฅนบางกอก(rawat) 26/2/2555 13:06:20 [124.120.46.244]
และเรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่2 ที่เราต้องคิดต้องทำ แต่ไม่ตื่นตูมครับ
จาก : ฅนบางกอก(rawat) 26/2/2555 13:08:35 [124.120.46.244]
ครับพี่เร.. ไม่เห็นสนุกเลย..ไม่ได้เท่ห์อะไรด้วย.. ถ้าหากเกิดขึ้นมาจริงๆ
จาก : 005 (005 ) 26/2/2555 20:38:28 [110.169.157.196]
ถ้ามาจริง.. มีแต่เดือดร้อน มาก-น้อย ก็อยู่ที่แต่ละคนจะเตรียมตัวรับสภาพได้ดีแค่ไหนเท่านั้นครับ...
จาก : 005 (005 ) 26/2/2555 20:40:03 [110.169.157.196]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 115.87.4.193 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 12:45  IP : 115.87.4.193   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115182

คำตอบที่ 153
      

fiogf49gjkf0d
" สิ่งบอกเหตุก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่... "

ปรากฏการณ์ล่วงหน้า (Precursory phenomena) อาจเป็นสิ่งเตือนภัย หรือลางบอกเหตุสัญญาณให้รู้ว่า อีกไม่นานจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ในอเมริกา รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น ต่างให้ความสนใจ พยายามค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับปรากฏการบางอย่างกันมาก ได้แก่

1) พื้นดินเกิดการยกตัวขึ้นมาอย่างผิดปกติ 2) ค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงไป
3) สภาพการนำไฟฟ้าของหินเปลี่ยนแปลง
4) เกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ เกิดขึ้นเป็นการเตือนภัยก่อน
5) มีปริมาณก๊าชเรดอนในบ่อน้ำสูงกว่าปกติ

- สัญชาตญาณของสัตว์
จากการศึกษาวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบว่า หากสัตว์ป่ามีพฤติกรรมผิดไปจากปกติ มักจะเกี่ยวข้องกับการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ทั้งนี้เพราะสัตว์มีความสามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งในการเอาชีวิตรอด

- พฤติกรรมผิดปกติของนก
นกมีความรู้สึกไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะนกพิราบป่าจะไวเป็นพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวประเทศจีนพบว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือน 3 ริกเตอร์ขึ้นไป

ฝูงนกพิราบป่าที่อยู่ภายในรัศมี 50 กม. จากศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะล่วงรู้ล่วงหน้า และบินหนีไปภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ กาและนกเลี้ยงบางชนิด เช่น นกแก้ว ก็มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวเช่นกัน

- พฤติกรรมผิดปกติของปลา
- ปลาน้ำเค็ม เมื่อ ค.ศ. 1995 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ชาวประมงจับปลาได้ปลาได้มากกว่าปกติ และมีปลาจากทะเลลึกว่ายเข้ามาในเขตน้ำตื้นด้วย
-ปลาน้ำจืด ปลาน้ำจืดในแม่น้ำหรือทะเลสาบที่มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวหรือปลาคาร์ป ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เคยมีคนเห็นปลาคาร์ปจำนวนมากกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำเหมือนตกใจหนีอะไรบางอย่าง

- พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลื้อยคลาน
ผลการวิจัยพบว่า สัตว์ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหวก่อนใครคืองู ทั้งนี้เพราะงูจำศีลอยู่ในโพรงใต้ดิน (งูในประเทศเขตหนาว) จึงรู้สึกถึงความผิดปกติได้ง่ายเมื่อมีการสั่นสะเทือนของเปลือกโลก มีก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ฯลฯ และจะหลบภัยด้วยการเลื้อยขึ้นมาบนดินแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวก็ตาม

ตัวอย่างเช่นเมื่อ ค.ศ. 1855 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นหนึ่งวัน พบฝูงงูเลื้อยขึ้นมาบนดินหลายตัว เมื่อ ค.ศ. 1977 ตอนเกิดแผ่นดินไหวที่โรมาเนีย ก็มีฝูงงูเลื้อยขึ้นมาแข็งตายบนดิน เมื่อ ค.ศ. 1976 หนึ่งวันก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองถังซานประเทศจีน ก็มีฝูงงูจำนวนมากเข้าไปหลบอยู่ในซอกหิน

- พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
กบก็แสดงพฤติกรรมผิดปกติเช่นเดียวกับงู เมื่อ ค.ศ. 1976 ไม่กี่ชั่งโมงก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่เมืองถังซานในประเทศจีน มีคนเห็นฝูงกบนับพันนับหมื่นตัวพากันอพยพ

- พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สุนัข ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ มีรายงานว่าสุนัขจะแสดงพฤติกรรมแปลกๆ มากที่สุด สุนัขเป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดกับคน จึงสังเกตความผิดปกติจากสุนัขได้ง่าย และพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหว สุนัขจะมีอาการตื่นตระหนก วิ่งไปวิ่งมา บางตัวก้าวร้าวขึ้น ส่วนบางตัวก็เห่าและหอน

แมว ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวส่วนใหญ่จะหาที่หลบ ญี่ปุ่นมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า "ก่อนแผ่นดินไหว แมวจะปีนขึ้นต้นไม้สูง" และมีคนเห็นเช่นนี้จริงๆ ก่อนเกิดแผ่นไหว แมวบางตัวแสดงอาการงุ่นง่าน วิ่งไปมา และส่งเสียงร้องอย่างกระวนกระวาย

หนู เมื่อ ค.ศ. 1923 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่คันโต หนูพากันหลบหนีไปหมด และตอนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ก็พบปรากฏการณ์หนูพากันหลบหนีเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวจะมีหนูติดกับดักเพิ่มขึ้น และหนูบางตัววิ่งพล่านไปทั่ว

- การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน
นับแต่โบราณ ชาวจีนค้นคว้าหาความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดแผ่นดินไหวกับระดับน้ำใต้ดิน และนำมาใช้ในการคาดการณ์การเกิดแผ่นดินไหว ตั้งแต่ ค.ศ. 1981-1985 มีรายงานความผิดปกติของระดับน้ำใต้ดินหลายครั้ง เป็นการลดลง 27 ครั้ง เพิ่มลดสลับกัน 3 ครั้ง น้ำใต้ดินเกิดคลื่น 3 ครั้ง และระดับน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ 12 ครั้ง

ค.ศ. 1975 มีการคาดการณ์แผ่นดินไหวที่ชายฝั่งทะเลของประเทศจีนเป็นครั้งแรกของโลก จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่มีความสั่นสะเทือน 7 ริกเตอร์ขึ้นไป

บางครั้งระดับน้ำใต้ดินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติล่วงหน้าเป็นปี ๆ แต่หากแผ่นดินไหวที่มีความสั่นสะเทือนต่ำกว่า 6 ริกเตอร์ การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดินครั้งแรกเกิดขึ้นราวสองสามเดือนก่อนแผ่นดินไหว

- ความสั่นสะเทือนที่ใต้ดิน
ลางบอกเหตุแผ่นดินไหวที่พิเศษที่สุดคือเสียงสั่นสะเทือนที่ใต้ดิน เท่าที่ค้นพบในเวลานี้มีบันทึกเกี่ยวกับเสี่ยงสั่นสะเทือนจากใต้ดินในสมัยราชวงศ์เว่ย เมื่อ 1,500 ปีก่อนแล้ว ซึ่งบันทึกไว้ว่า ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 464 เกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณเมืองเยียนเหมินฉี (มณฑลชานซีในปัจจุบัน)

ก่อนเกิดแผ่นดินไหวมีเสียงสั่นสะเทือนจากใต้ดินดังครืนๆ เหมือนฟ้าร้องพอสงบลงก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง และในปี ค.ศ 1967 หลังเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เมืองถังซาน ได้มีการสอบถามผู้คนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 1,000 กิโลเมตรจากศูนย์กลางของแผ่นดินไหว พบว่า 95 % ได้ยินเสียงดังครืนๆ อย่างชัดเจน

- ชนิดของเสียงสั่นสะเทือนที่ใต้ดิน
เสียงสั่นสะเทือนที่พื้นดินที่เป็นลางบอกเหตุแผ่นดินไหวมีมากหลายแบบ จากผลการวิจัยแบ่งได้เป็น 6 แบบคือ

1. เสียงฟ้อง : เป็นเสียงที่พบบ่อยที่สุด มักจะดังขึ้นก่อนเกิดแผ่นดินไหว
2. เสียงพายุ: ดังเหมือนพายุพัด คล้ายเสียงร้องของช้างพลาย
3. เสียงระเบิด: ดังตูมตามเหมือนเสียงระเบิดขนาดใหญ่
4. เสียงเครื่องยนต์: ดังเหมือนเสียงรถยนต์ รถไถ รถรางไฟฟ้า หรือเครื่องบิน
5. เสียงเลื่อยไม้: ตอนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่เมืองถังซาน มีคนจำนวนไม่น้อยได้ยินเสียสั่นสะเทือนที่ใต้ดินที่ดังเหมือนเสียงระเบิดและเสียงเลื่อยไม้
6. เสียงฉีกผ้า: เสียงนี้มักได้ยินที่ทะเลมากกว่าบนบก

- ท้องฟ้าก็บอกเหตุแผ่นดินไหว
ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า ท้องฟ้าก็บอกเหตุแผ่นดินไหว โดยก่อนแผ่นดินไหวรุนแรง ท้องฟ้าจะมี ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ เช่น มีเมฆรูปร่างประหลาด เกิดประกายแสง มีรุ้งกินน้ำ เป็นต้น แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือมี "เมฆแผ่นดินไหว" (Earthquake Clouds)







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 20:47  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115187

คำตอบที่ 154
      

fiogf49gjkf0d
- โมเดลของการเกิดเมฆแผ่นดินไหว

หลักการของการเกิด "เมฆแผ่นดินไหว" นั้น Zhonghao Shou (Earthquake Prediction Center, New York, USA) อธิบายไว้ว่า ในบริเวณที่มีแนวรอยเลื่อนมีพลัง เมื่อหินถูกแรงเค้นจากภายนอกเข้ากระทำ ทำให้หินบริเวณนั้นแตกร้าวบางส่วน เป็นรอยเลื่อนในชั้นหิน

และเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กทันที (ก่อแผ่นดินไหวใหญ่จะตามมา) แอ่งน้ำร้อนที่สะสมตัวใต้ดิน/หิน (Hydrothermal) จะกลายเป็นไอที่มีอุณหภูมิร้อน และความดันสูง ไหลพุ่งขึ้นมาตามรอยเลื่อนนี้ ระเหยขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน

ขณะที่บรรยากาศโดยรอบมีอุณหภูมิเย็น จะก่อให้เกิด เมฆแผ่นดินไหว ปรากฏเหนือและ ขนานยาวตามแนวรอยเลื่อนนั้นๆ

ภาพถ่ายลักษณะต่างๆ ของเมฆแผ่นดินไหว ที่ไม่สามารถอธิบายด้วยวิชาอุตุนิยมวิทยา ถูกบันทึกภาพโดย Zhonghao Shou ในพื้นที่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ใต้รูปภาพบอก วัน/เดือน/ปี พ.ศ. ที่ถ่ายภาพ และทิศทางที่มอง)

รูป 1 เมฆรูปเส้นตรง (Line-shaped cloud) พบบริเวณเมือง Pasadena ในวันที่ 8 มกราคม 2537 ที่เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 6.7 ริกเตอร์ ของวันที่ 17 มกราคม 2537 (Northridge earthquake, ศูนย์กลางแผ่นดินไหว 34.21N, 118.53W)

ภาพที่ 1 : รูป 1 (08/01/2537 NW)






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 20:49  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115188

คำตอบที่ 155
      

fiogf49gjkf0d
รูป 2 เมฆรูปคลื่น (Wave-shaped cloud) ที่บันทึกภาพได้วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2537 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ริกเตอร์ ของวันที่ 20 มีนาคม 2537 (Northridge earthquake)







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 20:50  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115189

คำตอบที่ 156
      

fiogf49gjkf0d
รูป 3 เมฆรูปเส้นตรง ที่ถูกถ่ายภาพไว้ได้วันที่ 31 สิงหาคม 2537 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์ ของวันที่ 1 กันยายน 2537 บริเวณนอกชายฝั่งทะเลตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ศูนย์กลางแผ่นดินไหว 40.40N, 125.68W)







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 20:51  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115190

คำตอบที่ 157
      

fiogf49gjkf0d
รูป 4 เมฆรูปขนนก (Feather-shaped cloud) ) ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าในวันที่ 18 ตุลาคม 2537 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ ของวันที่ 27 ตุลาคม 2537 บริเวณนอกชายฝั่งทะเลของรัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา (ศูนย์กลางแผ่นดินไหว 43.51N, 127.42W)







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 20:53  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115191

คำตอบที่ 158
      

fiogf49gjkf0d
รูป 5 เมฆรูปตะเกรียง (Lantern-shaped cloud) ถูกบันทึกภาพได้เหนือท้องฟ้าเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2537 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริกเตอร์ ของวันทื่ 19 กุมภาพันธ์ 2538 บริเวณนอกชายฝั่งทะเลตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา (ศูนย์กลางแผ่นดินไหว 40.55N, 125.53W)







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 20:54  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115192

คำตอบที่ 159
      

fiogf49gjkf0d
รูป 6 เมฆรูปรัศมี (Radiation-pattern-shape cloud) ที่ถูกถ่ายภาพไว้ได้วันที่ 22 กรกฎาคม 2539 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.4 ริกเตอร์ ของวันที่ 14 สิงหาคม 2539 บริเวณเมือง Joshua Tree (ศูนย์กลางแผ่นดินไหว 34.59N, 116.28W)







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 20:55  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115193

คำตอบที่ 160
      

fiogf49gjkf0d
ภาพดาวเทียมของ University College London ได้บันทึกไว้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2541 เวลา 7:32 ปรากฏ เมฆแผ่นดินไหวรูปตะแกรง เหนือ ประเทศอัฟกานิสถาน ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์ ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2541








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 20:57  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115194

คำตอบที่ 161
      

fiogf49gjkf0d
ภาพดาวเทียมที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2542 ปรากฎ เมฆแผ่นดินไหวรูปขนนก เหนือพื้นที่ตอนกลางประเทศเม็กซิโก ก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ ในวันที่ 15 มิถุนายน 2542

อ้างอิง : http://www.dmr.go.th/main.php?filename=precursory

fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2555 20:58:29





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 20:57  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115195

คำตอบที่ 162
      

fiogf49gjkf0d
"สมิทธ"ทำนายอนาคตไทย "สึนามิ" ถล่มใต้อีกรอบ

ที่ รพ.ราชวิถี วันนี้ ( 24 ก.พ.) ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ บรรยายพิเศษเรื่อง “ภัยพิบัติทางธรรมชาติและสถานการณ์ภัยพิบัติของโลกในอนาคต” ในการประชุมวิชาการ รพ.ราชวิถี ตอนหนึ่งว่า โลกมีชั้นบรรยากาศโอโซนอยู่สูงจากโลกประมาณ 40-50 กม. ทำให้มนุษย์ปลอดภัยจากแสงอุลตราไวโอเลต นอกจากนี้ยังมี สนามแม่เหล็กป้องกันอุกาบาตรที่จะมากระทบผิวโลก นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ว่า โลกเหมือนกับลูกข่างที่กำลังจะหมดแรงหมุน โดยมนุษย์ทำให้ลูกข่างหยุดหมุนเร็วขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนมีการสร้างเขื่อนเก็บน้ำใหญ่ที่สุดในโลก เหมือนเอาดินน้ำมันไปแปะบนหัวลูกข่าง ส่วนประเทศอียิปต์ก็สร้างเขื่อนในลักษณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์เชื่อกรณีของ 2 ประเทศจะทำให้โลกล่มสลายเร็วขึ้น

ดร.สมิทธ กล่าวต่อว่า ที่น่าห่วง และอาจจะกระทบกับประเทศไทย คือ การระเบิดของภูเขาไฟใต้มหาสมุทรที่มองไม่เห็น หากมีขนาดใหญ่มากจะดันให้เปลือกโลกใต้มหาสมุทรยกตัว และอีกข้อมูลที่เริ่มมีการพูดถึงกันคือ พายุสุริยะจากการระเบิดของผิวดวงอาทิตย์ หากสนามแม่เหล็กไม่สามารถต้านทานได้จะเกิดผลกระทบกับโลก นอกจากนี้การเคลื่อนตัวขนตัวของเปลือกโลกรุนแรงจะทำให้เกิดแผ่นดินไหว ประเทศไทยมีรอยเลื่อนอยู่ 13 รอยส่วนใหญ่อยู่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ โดยภาคเหนือไล่ตั้งแต่ เชียงใหม่ เชียงราย อุตรดิตถ์ ภาคตะวันตกก็น่าเป็นห่วง เขื่อนศรีนครินทร์ที่ไปสร้างเขื่อนทับรอยเลื่อนและเคยเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งบริเวณรอยเลื่อน การที่เขื่อนดังกล่าวเก็บกักน้ำไว้ถึง 17,000 ล้านลูกบาศก์เมตรไปทับรอยเลื่อนจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ง่าย อย่างไรก็ตามพื้นที่ต้องระวัง คือ พื้นที่ไหนในประเทศไทยมีบ่อน้ำพุร้อนต้องระวัง

ดร.สมิทธ กล่าวว่า กรุงเทพฯตั้งอยู่บนดินเหลวเหมือนเม็กซิโก หากมีแผ่นดินไหวห่างออกไป 200-300 กม. แผ่นดินจะมีการขยายตัวได้ ดังนั้นถ้าเกิดแผ่นดินไหวห่างกรุงเทพฯ 200-300 กม. อาจส่งผลกระทบกับตึกรามบ้านช่อง ทาวเฮาส์ ที่โครงสร้างไม่แข็งแรง ประเทศไทยไม่มีระเบียบควบคุมการก่อสร้าง ใครอยากสร้างอะไรก็สร้าง กรมโยธาธิการยังไม่ออกกฎหมายมาควบคุม

“น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ความจริงมีพายุเข้าเพียงลูกเดียว ส่วนอีก 3-4 ลูกเป็นหางพายุที่มีน้ำปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ โดยพายุสุริยะเข้ามากระทบทำให้เกิดความชื้นสูง ฝนจึงตกมาก ปริมาณน้ำในเขื่อนสูงมากและปล่อยน้ำออกมาพร้อมกันทำให้น้ำท่วม” ดร.สมิทธ กล่าว

ดร.สมิทธ กล่าวด้วยว่า ในอนาคตขอทำทายว่า จะเกิดสินามิแน่นอน จุดที่เกิดมี 2 จุด คือ ระหว่างหมู่เกาะอันดามันไปจนถึงปากแม่น้ำอิรวดี และบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้จังหวัดทางภาคใต้ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้หากจะมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้น รัฐบาลจะต้องออกมาตรการเตือนภัยผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจอย่างน้อยล่วงหน้า 2-3 วัน ส่วนภาวะโลกร้อนนั้นประเทศไทยเคยมีอุณภูมิสูงสุด 42.5 องศาที่ จ.ลำปางในปีที่แล้ว และมีสถิติ 16 รายเสียชีวิตจากภาวะโลกร้อนแต่ปีนี้ไม่รู้ว่าจะมีภาวะโลกร้อนหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้นและมีพายุเกิดขึ้นมาก

อ้างอิง : http://www.dailynews.co.th/thailand/14262






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 110.169.157.196 อาทิตย์, 26/2/2555 เวลา : 21:22  IP : 110.169.157.196   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115197

คำตอบที่ 163
      

fiogf49gjkf0d
ที่เกาะสมุย ตัดต้นไม้ทำรีสอรท์แบบนี้ สึนามิมาคงแย่





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047Mr.RAYฅนบางกอก 58.11.236.101 พุธ, 29/2/2555 เวลา : 05:32  IP : 58.11.236.101   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115231

คำตอบที่ 164
      

fiogf49gjkf0d
1ใน10กว่าโรงงาน ฟอกย้อม อยู่ กม 34 สุขุมวิทย์(บางปู ใกล้สะพานสุดตา) ปล่อยน้ำเสียแบบนี้ประจำ ภาพข่าวช่อง3 แต่ข่าวบอกว่าเป็น รง ฟอกหนัง เด๋วคงถึงเวลาที่ธรรมชาติจะเอาคืนแล้วครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047Mr.RAYฅนบางกอก 58.11.236.101 พุธ, 29/2/2555 เวลา : 05:42  IP : 58.11.236.101   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115232

คำตอบที่ 165
      

fiogf49gjkf0d
ขอเชิญร่วมฟังสัมมนาฟรี "มหาภัยพิบัติ เรียนรู้เพื่อป้องกัน รู้ทันเพื่ออยู่รอด"

วันเสาร์ที่ 7 เมษายน 2555 เวลา 08.00 – 17.00 น.
ณ ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
...

เวลา 08.00 – 08.30 น. ลงทะเบียน
เวลา 08.30 – 09.00 น. พิธีเปิดงานสัมมนา
กล่าวต้อนรับ โดย ดร.ปชา ภาณุบุญ ข้าราชการบำนาญ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าวเปิดงาน โดย ศาสตราจารย์ระพี สาคริก อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฯลฯ

เวลา 09.00 – 10.00 น. บรรยายโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ปัญญา จารุศิริ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เวลา 10.00 – 11.00 น. บรรยายโดย ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการ มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา อดีตประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ฯลฯ
เวลา11.00 – 12.00 น. บรรยายโดย ผู้แทนกองทัพบก เชี่ยวชาญด้านงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

เวลา 12.00 – 13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน

เวลา13.00 – 14.00 น. บรรยายโดย พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เวลา14.00 – 15.00 น. บรรยายโดย รองศาสตราจารย์ ดร.พิชัย โตวิวิชญ์ ภาควิชาเคมี จุฬาลงกรณ์
เวลา15.00 – 15.30 น. บรรยายโดย ดร.ปชา ภาณุบุญ ข้าราชการบำนาญ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เวลา15.30 – 16.00 น. แนะนำศูนย์ปฏิบัติการรับมือมหาภัยพิบัติ มหาสุรสิงหนาท (ศภม.)
เวลา16.00 – 17.00 น. สวดพระคาถาอุปปะปาสันติ หรือมหาสันติงหลวง เพื่อบรรเทาภัยพิบัติและเหตุร้ายต่าง ๆ แก่บ้านเมือง โดยพระอาจารย์มหา ดร.สิงห์ทน นราสโภ วัดวรเชษฐ์ (นอกเกาะ) จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลา17.00 น. พิธีปิดงานสัมมนา

สำรองที่นั่งได้ที่ mahasurasinghanat.gmail.com
หรือทางโทรศัพท์ โทร. 084-546-9743
700 ที่นั่งเท่านั้น!!








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 1/3/2555 เวลา : 17:49  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115281

คำตอบที่ 166
      

fiogf49gjkf0d
‘2583’ อุกกาบาตพุ่งชนโลก!?!
ตื่นตระหนกมหาวิบัติภัยล้างโลกบนฐานแห่งความจริง...

แม้เหตุอุกกาบาตพุ่งชนโลกครั้งร้ายแรงที่สุดตามที่มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือข้อมูลได้ จะล่วงเลยมากว่า 65 ล้านปีแล้ว แต่บทเรียนแห่งมหาวิบัติภัยในครั้งนั้นก็ยังสร้างความน่าสะพรึงกลัวแก่มนุษยชาติเสียทุกครั้งไป

ยิ่งมีข่าวคราวของวัตถุไม่พึ่งประสงค์บนท้องฟ้าอย่าง ‘อุกกาบาต’ จ่อพุ่งชนโลกทีไร...ความตื่นกลัวก็เข้าปกคลุมไปทุกอาณาเขตของโลก เพราะนั้นเท่ากับว่าจุดจบของสรรพสิ่งบนโลกใกล้เข้ามาทุกที

แต่อย่างน้อยวิทยาการในยุคปัจจุบัน ก็สามารถทำให้ชาวโลกสามารถรับรู้ข้อเท็จจริงได้ทันท่วงที เมื่อไม่นานมานี้เอง องค์การนาซา (องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ของประเทศสหรัฐอเมริกา) ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า จะมีอุกกาบาตชื่อ ‘2011 เอจี 5’ พุ่งชนโลกในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2040 หรือในพ.ศ.2583 มีขนาดความกว้างประมาณ 140 เมตร คาดการณ์ว่าหากอุกกาบาตลูกนี้ตรงดิ่งบริเวณพื้นที่ชุมชนจะทำให้สิ่งมีชีวิตล้มตายนับล้านโดยเฉพาะมนุษย์

แต่ทางองค์การนาซาก็ยอมรับถึงความไม่แน่นอนว่า ระยะอีก 28 ปีข้างหน้านั้น ความเสี่ยงที่ ‘2011 เอจี 5’ จะพุ่งชนโลกในการคิดคำนวณ ณ ปัจจุบันมีความเสี่ยง 1 : 625 แต่อนาคตความเสี่ยงที่มันจะพุ่งชนโลกอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เบื้องต้นทางนาซาเองยังไม่มีข้อมูลของอุกกาบาตลูกนี้เสียเท่าไหร่นัก ว่ากันว่าจะมีการตรวจสอบกันอีกครั้งในปีหน้า และจะมีการคำนวณความเสี่ยงกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่องค์การนาซาแถลงออกมาครั้งนี้ ก็สั่นสะเทือนประชาคมโลกไม่น้อย ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ก็สนองตอบในเรื่องอุกกาบาตพุ่งชนโลกโดยการระดมมันสมองของนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำเร่งหาทางออกของวิบัติภัยที่จ่อทำลายโลก

ทำความรู้จัก ‘อุกกาบาต’

หากกำหนดนิยามของคำว่า 'อุกกาบาต' ง่ายๆ ก็คงต้องบอกว่า มันคือวัตถุขนาดเล็กที่ล่องลอยอยู่ในห้วงอวกาศ และถูกแรงดึงดูดให้ตกลงมาบนพื้นโลก ซึ่งช่วงที่อยู่ในอวกาศ มันจะถูกขนานนามว่า 'สะเก็ดดาว' มีขนาดตั้งแต่ก้อนหินขนาดใหญ่เรื่อยไปถึงละอองฝุ่น และเมื่อมันเคลื่อนที่ไปสู่ชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ต่างๆ จะทำให้ความร้อนและแสงสว่าง จนคนจำนวนมากเรียกมันว่า 'ดาวตก' ซึ่งแสงที่ว่านั้น มาจากแรงเสียดทานระหว่างสะเก็ดดาวกับชั้นบรรยากาศนั่นเอง เพราะเมื่อสะเก็ดดาวหลุดเข้ามาจะเกิดการแตกตัวเป็นไอออน และหากมีสะเก็ดใดตกลงมาถึงพื้นโลก ก็จะเปลี่ยนไปเรียกว่า 'อุกกาบาต' แทน

ซึ่งองค์ประกอบของอุกกาบาตนั้นจะแตกต่างกันออกไป แต่หลักๆ ที่พบมี 3 ชนิดคือ หิน เหล็ก และเหล็กปนหิน แต่ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นชนิดหิน ซึ่งก้อนหินใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อ ‘จีหลิง’ ตกที่อำเภอจีหลิง ประเทศจีน เมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ.2519 หนักเกือบ 2,000 กิโลกรัม ส่วนอุกกาบาตชนิดเหล็ก ก้อนใหญ่ที่สุดที่พบคือ ‘โฮบา เวสท์’ หนักประมาณ 66 ตัน ตกกลางป่าในแอฟริกาตะวันออกเฉียงใต้ โดยอุกกาบาตชนิดหินส่วนใหญ่มีลักษณะเหมือนหินบนโลก และมักกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมของโลก เพราะฉะนั้นจึงมีแต่ ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า หินก้อนใดที่เป็นอุกกาบาตกันแน่

อย่างไรก็ดี การตกลงมาของอุกกาบาตของโลกนั้นมีหลายแสนหลายล้านครั้งแล้ว และแต่ละก้อนคนก็จะนำมาสู่ผลกระทบที่แตกต่างกันออกไป โดยครั้งที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ส่งผลกระทบมากที่สุด ก็คือเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ที่ว่ากันว่า อุกกาบาตพุ่งชนโลก จนสัตว์ในตำนานอย่างไดโนเสาร์สูญพันธุ์ โดยข้อเขียนของ ศ.ดร.สุทัศน์ ยกส้าน ราชบัณฑิตสาขาฟิสิกส์ ระบุว่า ในปี 2523 หลุยส์ อัลวาเรซ และวอลเตอร์ อัลวาเรซ นักวิทยาศาสตร์ 2 พ่อลูก ได้นำเสนอผลงานทางวิชาการที่ชื่อว่า ‘การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์เมื่อ 65 ล้านปีก่อนหรือที่เรียกว่าการสูญพันธุ์ยุคครีตาเชียส-เทอร์ทิอารี’ โดยมีเนื้อหาว่า

“...ได้มีอุกกาบาต หรือดาวหางขนาดใหญ่ลูกหนึ่ง ตกลงมาชนโลก พลังระเบิดครั้งนั้น มีความรุนแรง เทียบเท่ากับการระเบิดของลูกระเบิดปรมาณู หนึ่งแสนลูกพร้อมกัน....และเมื่ออุกกาบาตลูกนั้นพุ่งชนโลก ฝุ่นละอองธุลีหินและดินต่างๆ ได้พุ่งกระจัดกระจายสู่ท้องฟ้า เมฆฝุ่นได้บดบังแสงอาทิตย์ มิให้ส่งกระทบโลกนานเป็นปี ส่วนแผ่นดิน เมื่ออุกกาบาตชน ได้ลุกไหม้ทำให้เกิดไฟป่าลุกท่วมโลก นอกจากนี้ก๊าซไนโตรเจน ไอน้ำ และคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ได้รวมตัวกันเป็นฝนกรด ตกรดพืชและสัตว์ต่างๆ ทำให้สัตว์และพืช หลายชนิดล้มตาย ตัวไดโนเสาร์ เมื่อขาดอาหารจึงได้ล้มตายมากมายจนสูญพันธ์ในที่สุด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อ่อนแอกว่าจึงมีโอกาสวิวัฒนาการตนขึ้นจนเป็น เจ้าโลกในที่สุด...”

นอกจากนี้ อุกกาบาตยักษ์ยังทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมาหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ตก โดยมีการบันทึกว่า หลุมใต้น้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกาซึ่งลึกกว่า 400 กิโลเมตร ก็เป็นผลงานของอุกกาบาต หรือแม้แต่ในทะเลทรายอริโซน่า ซึ่งเกิดเมื่อ 20,000 ปีก่อน ก็เกิดหลุมปริศนากว้างถึง 1 กิโลเมตร ซึ่งว่ากันว่า การเกิดแต่ละครั้งจะเกิดการระเบิดที่แรงมาก บางคนก็โชคร้ายเจอลูกอุกกาบาตตกใส่เสียชีวิตก็มี

ส่วนในประเทศไทยเองก็มีหลักฐานว่า เกิดเหตุอุกกาบาตแบบหินตกใส่เหมือนกัน โดยในวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2466 มีรายงานว่าลูกอุกกาบาตตกที่ตำบลดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม โดยแตกออก 2 ก้อน น้ำหนักรวม 32 กิโลกรัม ปัจจุบันแสดงอยู่ที่ท้องฟ้าจำลอง และอีกครั้งเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2524 ที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เป็นอุกกาบาตชนิดเนื้อหินเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ดี ก็ยังมีหลักฐานแน่ชัดว่า อุกกาบาตจะมีพลังเพียงพอในการทำลายโลก อย่างที่หลายคนและภาพยนตร์บางเรื่องจินตนาการเอาไว้

‘ดาราศาสตร์’ ศาสตร์แห่งการคาดคะเน

“ดาวเคราะห์น้อย ‘2011 เอจี 5’ มันเกิดขึ้นเนื่องจากมีการพูดคุยกันในที่ประชุมของสหประชาชาติในคณะกรรมการเฝ้าระวังวัตถุที่เข้ามาใกล้โลก (Near-Earth Objects) เขาก็เอ่ยถึงดาวเคราะห์น้อย 2011 เอจี 5 และก็พูดถึงความเป็นไปได้ว่าในอีก 28 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ.2583 ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะชนโลก แต่โอกาสที่จะเป็น 1 : 625 ไม่ใช่ว่าชนแน่นอน ต้องขออธิบายว่าเจ้าดาวเคราะห์ดวงนี้ มันเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่บัญชีที่เขาจัดว่าอยู่ในบัญชีวัตถุใกล้โลก หรือเป็นวัตถุที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อโลกของเราได้ เป็นหนึ่งในเจ็ดพันกว่าดวง”

รศ. บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ อธิบายถึงปรากฏการณ์อุกกาบาตจ่อพุ่งชนโลกในอีก 28 ปี ข้างหน้าที่องค์การนาซาได้ออกมาแถลงต่อชาวโลก ชึ่งดาวเคราะห์ดวงนี้พบเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว โคจรเป็นวงรีโดยจุดที่ไกลที่สุดจะเลยดาวอังคารออกไป และจุดที่ใกล้ที่สุดมันจะอยู่แถวดาวศุกร์ และจะผ่านวงโคจรของโลกเราด้วย มีวงโคจรรอบละประมาณ 1.7 ปี เพราะฉะนั้นทุกๆ 1.7 ปี มันจะเข้ามาตัดกับวงโคจรของโลกเรา แต่ว่าช่วงเวลาต่างๆ มันจะไม่ใกล้โลกเพราะโลกเองก็โคจรรอบดวงอาทิตย์ ฉะนั้นเวลาที่ผ่านวงโคจรโลกอาจไม่ได้อยู่ตำแหน่งนั้น มีการคำนวณวงโคจรและมีข้อสรุปว่าอาจจะมีความเป็นไปได้ว่า ในปี พ.ศ. 2583 โลกกับดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อาจจะอยู่ใกล้กันมากและก็มีความเป็นไปได้มันจะเฉียดชนโลก

แม้จะยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า ดาวเคราะห์น้อย 2011 เอจี 5 จะพุ่งชนโลกตามที่คาดคะเนกันไว้หรือไม่ แต่ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่โดยอย่างองค์การนาซา องค์กรที่มีบทบาทในการพัฒนาเทคโนโลยีบนอวกาศและองค์ความรู้ใหม่ๆ ทางด้านดาราศาสตร์และอวกาศของประเทศสหรัฐอเมริกา ย่อมผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์และความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง

“ส่วนใหญ่ข่าวที่ออกมาจากทางองค์การนาซานั้น จะค่อนข้างน่าเชื่อถือ เพียงแต่ว่าเมื่อมีข่าวออกมาแล้วความเข้าใจของสังคม หรือของประชาชนจะถูกต้องตามที่นาซาเปิดเผยมาหรือไม่ การเข้ามาของดาวเคราะห์น้อยในแต่ละครั้ง วงโคจรมันเปลี่ยนไปหมดมันไม่ได้เข้ามาเหมือนเดิมตลอด ถ้าคงที่แบบที่คำนวณกันมันก็อาจมีโอกาสเข้าใกล้อาจจะเฉียดชนได้ แต่ว่าวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยที่เข้ามาในแต่ละครั้งมันเปลี่ยนไปตลอดเวลา เพราะฉะนั้นนาซาก็บอกว่า ประมาณเดือนกันยายนปีหน้าจะมีการคำนวณอีกครั้ง ซึ่งวงโคจรมันอาจจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นและอาจมีการสรุปว่า จริงๆ แล้วมันอาจจะห่างมากก็ได้ เพราะการคำนวณจะไม่เหมือนกันสักครั้งเดียว ดังนั้น ทำนายว่าอีก 28 ปีแล้วชนแน่ๆ มันไม่น่าเชื่อถือ มันเป็นอะไรที่เราไม่ต้องกังวลเพราะว่าวงโคจรมันเปลี่ยนตลอดเวลา”

จะว่าไปแล้ววิบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นกับโลกอย่างกรณีอุกกาบาตพุ่งชนโลก อย่างองค์การนาซาก็จะมีหน่วยงานติดตามวัตถุที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อโลกของเรา มีรายชื่อเต็มไปหมดซึ่งตรงนี้ก็มีการเผยแพร่ รศ. บุญรักษา กล่าวทิ้งท้ายว่า การป้องกันโลกจากวัตถุนอกโลกที่อาจพุ่งชนโลกนั้นต้องมีการวิจัยและพัฒนาในด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยี ซึ่งก็มีความมั่นใจว่าในอนาคตมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสมองล้ำเลิศก็คงจะสามารถปกป้องโลกของเราไว้ได้

“พอเฝ้าระวัง แน่นอนเขาก็ต้องคิดเทคโนโลยีเฝ้าระวัง ถ้าหากมีดวงใดดวงหนึ่งเข้ามาใกล้โลกและเกิดควงสว่านชนโลกเรา มันก็มีความเป็นไปด้ที่เขาจะจัดการตรงนี้ มันก็มีการพูดกันเยอะเลยว่าจะทำอย่างไรดีหากมีการพุ่งชนโลก มีการเสนอว่าก็ยิงจรวดไปทำลายมันอย่าง 2011 เอจี 5 มันก็ขนาดประมาณ 100 กว่าเมตร มันก็ไม่ใหญ่มาก แต่การยิงทำลายมันก็ค่อนข้างจะอันตรายเพราะว่าโอกาสที่มันจะกระจายชนเราก็มีสูง เพราะฉะนั้นดาราศาสตร์หรือนักวิทยาศาสตร์ก็เสนอถึงการเปลี่ยนวงโคจร อาจจะใช้รังสีที่มันมีพลังงานสูงที่จะผลักวัตถุก้อนนี้มันเบี่ยงวงโคจรที่จะไม่ชนโลก เป็นวิธีการที่ไม่ทำลายมันและมันไม่ชนเรา”

คิดกันตามหลักความเป็นจริง

ในฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่สนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ แทนไท ประเสริฐกุล เมื่อได้ยินข่าวว่าองค์การนาซาออกมาเตือนเรื่องอุกาบาตจะชนโลกในปี พ.ศ.2583 เขาก็แสดงความคิดเห็นว่ามันเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์น่าสนใจ และน่าตื่นเต้นแต่ไม่ใช่เรื่องให้ตื่นตระหนก ต้องดูกันในรายละเอียดด้วยเพราะโอกาสในการชนคือ 1 ใน 600 กว่าๆ ถือว่าค่อนข้างน้อย ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนยังไงคงต้องศึกษาเส้นทางโคจรอีก

“ลูกนี้มีความเสี่ยง เขาก็จะมีการจดบันทึกไว้อยู่แล้ว คนก็อาจจะตกใจกันทีหนึ่ง ซึ่งถ้าลูกนี้มันจะชนโลก ภารกิจในการหยุดยั้งไม่ให้อุกาบาตชนก็จะน่าสนใจ ปกติดูจากหนังอาจจะแค่เอาลูกระเบิดไปฝังอุกกาบาตแล้วจบ แต่จริงๆ มันไม่ได้ง่ายอย่างงั้น ผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ‘เดธ ฟรอม เดอะ สกาย’ เขาเล่าให้ฟังว่า การป้องกันโลกมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น อุกกาบาตบางลูกแข็งมาก เป็นเหล็กทั้งก้อน ต่อให้ระเบิดโดยนิวเคลียร์ก็แทบไม่เกิดอะไรกับมันเลย บางลูกเป็นรูพรุนแรงระเบิดก็กระจาย ไม่เสียรูปทรง หรือหากเราระเบิดมันได้จริง มันกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย มันอาจจะซับซ้อนกว่าเดิม ชนสองจุดอาจจะเสียหายมากกว่าจุดเดียว”

สำหรับองค์การนาซานั้น จะมีการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีวัตถุที่โคจรเข้ามาใกล้โลก ในมุมมองของ แทนไท ถือเป็นองค์กรที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ในทางประวัติศาตร์ก่อตั้งขึ้นจากการแข่งขันในช่วงสงครามเย็น แต่เขามีการจดรายงานเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว ปัจจุบันทิศทางของนาซาเขาก็ยังเป็นผู้นำของโลกในการอวกาศอยู่ องค์กรนาซาก็ถือว่ามีคุณูปการเยอะ ผมค่อนข้างจะมีทัศนคติที่ดีต่อองค์กรนี้ แต่มันก็ยังมีดีเบท (โต้แย้ง) อยู่ว่า การสำรวจอวกาศควรเป็นเรื่องของเอกชนได้แล้ว หรือการส่งหุ่นหรือคนออกไปอวกาศดี”
...........

การออกมาแสดงข้อมูลขององค์การนาซาในครั้งนี้ ก็คงถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหากตรวจพบวัตถุใดเข้าใกล้โลก ซึ่งที่แน่ๆ คงไม่ได้ต้องการให้เกิดความแตกตื่น...เพียงแต่ต้องการสร้างความตื่นตัวในการเปิดรับข่าวสารข้อมูลความเป็นไปของสถานการณ์โลก ‘ดาวเคราะห์น้อย 2011 เอจี 5’ แม้จะมีการคาดการณ์ว่าจ่อพุ่งชนโลกในปี พ.ศ. 2583 แต่ก็ต้องยอมรับว่าในศาสตร์ของดาราศาสตร์นั้น การโคจรของดวงดาวในระบบสุริยะไม่ได้มีความแน่นอนหรือคงที่เสมอไป อย่างไรก็ตาม พัฒนาการทางด้านวิทยาศาสตร์อาจเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปกป้องโลกใบนี้ไว้ได้

Reference : http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000029266






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 อังคาร, 6/3/2555 เวลา : 11:31  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115361

คำตอบที่ 167
      

fiogf49gjkf0d
มันมาแล้วระดับ G1 ทำเอาเวียงป่าเป้าไหวเลย แต่ตอนนี้เพิ่มเป็น G2 แล้ว http://www.swpc.noaa.gov/today.html#xray






fiogf49gjkf0d
ขอบคุณครับ.. คุณปัญ
จาก : 005 (005 ) 7/3/2555 21:36:35 [110.168.34.2]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mr.ปัญ จาก E22GED 125.24.66.36 พุธ, 7/3/2555 เวลา : 19:09  IP : 125.24.66.36   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115377

คำตอบที่ 168
      

fiogf49gjkf0d
http://www.youtube.com/watch?feature=fvwp&v=6aYEDckyPQo&NR=1 สึนามิที่ญี่ปุ่น เอามาศึกษาครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047Mr.RAYฅนบางกอก 110.169.228.116 พุธ, 7/3/2555 เวลา : 20:47  IP : 110.169.228.116   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115379

คำตอบที่ 169
      

fiogf49gjkf0d
http://hilight.kapook.com/view/54736
พิมท์ไม่ไหวครับ อ่านแล้ว หดหู่พิลึก ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย อยากให้คาดการณ์ผิด






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rawat จาก TTC-047Mr.RAYฅนบางกอก 124.120.61.44 พฤหัสบดี, 8/3/2555 เวลา : 09:40  IP : 124.120.61.44   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115380

คำตอบที่ 170
      

fiogf49gjkf0d
" นักวิทยาศาสตร์สหรัฐเตือนชาวโลก รับมือพายุอวกาศจากการระเบิดของพื้นผิวดวงอาทิตย์ คาดกระทบต่อโลกรุนแรงสุดในรอบ 5 ปี ตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐ ไปจนถึงวันศุกร์ "

วันนี้ (8 มี.ค.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า การปะทุระเบิดพลังงานร้อนระอุ 2 ครั้งควบคู่กัน บนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ก่อให้เกิดการแผ่รังสีและพายุแม่เหล็กโลก ส่งผลกระทบต่อโลกรุนแรงสุดในรอบ 5 ปี โดยคาดว่าพายุอวกาศนี้จะทำปฏิกิริยาต่อโลกเต็มที่ ตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐ ไปจนถึงวันศุกร์ ซึ่งจะทำให้เกิดการขัดข้องของเครือข่ายพลังงาน ระบบจีพีเอส ดาวเทียม และสายการบินต่างๆ ที่บินผ่านขั้วโลก ต้องเปลี่ยนเส้นทาง


นายโจเซฟ คุนช์ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอวกาศ ประจำองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (เอ็นโอเอเอ) สหรัฐ เผยในวันนี้ว่า จากการติดตามตรวจสอบปรากฏการณ์สภาพอวกาศน่าสนใจมาก ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยปรากฏการณ์เริ่มเกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ แถบพื้นที่แหล่งพลังงานของดวงอาทิตย์ ที่รู้จักกันในชื่อ 1429 ซึ่งเกิดการลุกจ้าของเปลวสุริยะครั้งใหญ่ ควบคู่กับการระเบิดของพายุสุริยะ และพลาสมา ส่งพลังงานมหาศาลมาในทิศทางของโลก


คุนช์ กล่าวอีกว่า เปลวสุริยะซึ่งทำให้ระบบวิทยุคลื่นความถี่สูงบนโลกขัดข้องชั่วขณะ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่พายุสุริยะกำลังจะมาถึง ชาวโลกที่อยู่แถบเอเชียกลางจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนตอนกลางคืนของวันพฤหัสบดี และคาดว่าพายุอวกาศลูกนี้จะกระทบต่อโลกรุนแรงสุด นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2549 เลยทีเดียว.

อ้างอิง : http://www.dailynews.co.th/world/16183>






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 8/3/2555 เวลา : 13:13  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115386

คำตอบที่ 171
      

fiogf49gjkf0d
พอดีเข้ามาหาข้อมูล เลยเจอเขาคุยกัน.. เลยคัดลอกเขามาให้อ่านดูครับ..

คุณ Falkman : " เป็น Fast CME ความเร็ว 2,300 km/s (เร็วกว่าลูก ปีที่แล้วช่วงเดียวกัน) มีความเร็วสูง เพราะฉะนั้นเดินทางมาเร็วกว่า จะมาถึงโลกประมาณพรุ่งนี้เย็นๆ เตรียมตัวต้อนรับ อิอิ สำหรับตัวเองคิดว่าเรื่องอากาศแปรปรวนมากกว่า ไม่ว่าจะเรื่องฝน พายุ หรืออะไร แต่ลูกก่อนหน้า ที่มาเยอะแยะ เหมือนเอามะกอกใส่ตระกร้า ปามาตูมๆ อาจจะมีโดนบ้างไม่โดนบ้าง อันนี้น่าเป็นห่วงกว่าสำหรับเรื่องแผ่นดินไหว "

คุณ gun2555 : " ถ้าแปรปรวนก็คงร้อนเพิ่มขึ้นกะพายุพัดบ้านเรือนพัง แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นแผ่นดินไหวมากกว่าก็ตั้ง X 5 แต่ที่ไหนจะถูกถล่ม ..... ยังไม่รู้ คุณ..sunny430 สิ้นปีจะเอาของที่เตรียมไว้รับภัยภิบัติออกมาแจกให้หมดนะ.......ยังไงก็ขอจองปืนไว้เพิ่มอีกสักกะบอกนะ ยินดีรับแจก.......555... "

คุณ sunny430 : " ผมก็หวั่นหวั่นว่าจะมีอะไรก็คราวนี้ครับ เพราะนี่มันลูกใหญ่ไม่ธรรมดาเลย แล้วที่พี่ falkman ว่าเร็วกว่าลูกปีที่แล้วช่วงเดียวกันก็คือลูกที่ไหว 9 ริกเตอร์ กว่าๆที่ japan ใช่ไหมครับ แบบนี้เราต้องลุ้นกันตั้งแต่พรุ่งนี้บ่ายๆเลยครับ "

คุณ Falkman : " ลูกวันนี้ x5.4 มีความเร็ว 2,300 km/s
.........................ลูกปีที่แล้ว 2,200 km/s "
......................... อ้างอิง : FAST CORONAL MASS EJECTION: A coronal mass ejection (CME) exploded from the vicinity of sunspot 1164 during the late hours of March 7th. It lept away from the sun traveling some 2200 km/s, making it the fastest CME since Sept. 2005. A movie of the cloud prepared by Karl Battams of the Naval Research Lab seems to show a small but non-negligible Earth-directed component. This CME and at least one other could brush against Earth's magnetic field on March 9th or 10th. High-latitude sky watchers should be alert for auroras.

คุณ Falkman : " คนส่วนมากคิดว่าการระเบิดของดวงอาทิตย์แค่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ไม่ได้คิดเรื่องอากาศแปรปรวน อย่างวันที่ 27 มกรา ก็ทำให้เกิดหิมะตกแถวยุโรป กระจาย อย่างวันที่ 6 และ 7 กันยา ที่มี X สองลูกติดกัน ก็ทำให้ฝนตกกระหน่ำในไทย (คนคิดแต่เรื่องแผ่นดินไหว) ช่วงนั้นบอกเพื่อนๆ หลายคนเค้างงว่า ทำไมพระอาทิตย์ระเบิดแต่มีฝน เป็นต้น "

คุณ sunny430 : " เอาละสิครับ เพราะว่าหากว่าปีที่แล้ว 2200 วันที่ 7 และวันที่ 11 ก็เกิด 9 ริกเตอร์ในญี่ปุน แบบนี้ปีนี้จัดมา 2300km/s แล้วก็วันที่ 7 เหมือนกันด้วย แบบนี้ผมว่าน่ากลัวยังไงอยู่นะครับ และผนวกกับผลพวงของปฏิกริยาสะสมตามที่คุณ somdul ได้บรรยายไว้ก่อนแล้วด้วย ตั้งแต่พรุ่งนี้เย็นเป็นต้นไปผมจะเฝ้าระวังสูงสุดครับพี่ falkman เป็นห่วงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แถบบ้านเราขึ้นมาชอบกล และนอกจากจะสะเทือนสภาพดินฟ้าอากาศแล้วผมสังเกตุส่วนตัวว่า CME กระทบสุขภาพและอารมด้วยครับ "

คุณ Falkman : " แน่นอนที่สุด กระทบอารมณ์ด้วย และสุขภาพด้วย
อย่งไรไม่ต้องพรุ่งนี้เลยนะ เพราะมันมีลูกก่อนหน้าเข้ามาแล้ว กับลูกระดับปานกลาง (M) หลายสิบลูกที่กำลังเข้ามาอยู่ คืนนี้ก็เฝ้าระวังกันได้เลยจ้า "

............................................................................................

อันนี้..ผมเอง ตาบอยครับ : " ถึงว่า..เมื่อวานดูทีวี สัญญาณทีวีล้มทุกช่องเลย ตอนแรกที่เป้นก็นึกสงสัยว่า เครื่องบินมันบินผ่านบ้านเราหรือ?? ... แต่เอ๊ะ !!... มันล้มตลอดเลยแห๊ะ !!"

สรุปว่า.. พึ่งได้มาอ่านกระทู้ของชาวบ้านเขา.. เลยพึ่งจะรู้ว่า เมื่อวานก่อน ดวงอาทิตย์มันระเบิดลูกใหญ่อีกครั้ง... เฮ้อ !!!




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 8/3/2555 เวลา : 13:28  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115387

คำตอบที่ 172
      

fiogf49gjkf0d
พายุสุริยะ ลูกนี้ แผ่รังสีเข้ามากระทบโลก ใช้เวลานานมาก ตั้งแต่บ่ายโมง ถึง 5โมงเย็น ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบกว่าครึ้งโลก (เพราะโลกหมุนรอบตัวเอง ในขณะที่พายุสุริยะกระทบโลก) ระบบการสื่อสาร อิเล็คทรอนิกส์ จะได้รับผลกระทบตั้งแต่ช่วงหัวค่ำเป็นต้นไป ส่วนจะมากน้อย ขึ้นกับโดนมากหรือน้อยของแต่ละประเทศ แต่ในทางภูมิอากาศแล้ว จะทำให้แหล่งน้ำละเหยมาก โดยเฉพาะน้ำทะเล ซึ่งกรณีนี้จะเกิดผลกระทบอุณหภูมิ บางแห่งฝนจะตกหนัก มีพายุ หรือจากหนาวหิมะตก ก็จะกลับเป็นร้อน อย่างรวดเร็ว น่ากลัวจริงๆ

ถ้าใครที่อยู่ริมทะเล ช่วงหัวค่ำลองไปนั่งดู จะเห็นไอน้ำลอยตัวขึ้นผิวน้ำทะเล (ถ้ามันมืดมากก็เปิดไฟหน้าส่องไปที่ทะเล ก็จะเห็นปรากฏการณ์นี้) ส่วนตัวไปนั่งดูมาแล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว สวยและแปลกดี



fiogf49gjkf0d
เมื่อวานผมดูละครหลังข่าว... ยันสี่ทุ่มกว่า.. มันยังโดนรบกวนอยู่เลยครับ.. พี่โกศล
จาก : 005(005) 8/3/2555 17:38:01 [202.122.130.31]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kosol จาก 083 113.53.101.236 พฤหัสบดี, 8/3/2555 เวลา : 17:32  IP : 113.53.101.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115390

คำตอบที่ 173
      

fiogf49gjkf0d
สำหรับกระทู้.. พี่เรวัต ที่ 170 นั้น..

ผมว่า.. ถ้าเรา Save เครื่องใช้ไฟฟ้า.. ควรต้องดึงปลั๊กออกจากเต้าไฟฟ้าทุกครั้งที่เลิกใช้งานครับ..

เคยเจอกรณีตัวอย่าง..เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วโน้น..
สมัยคุณพ่อผมย้ายไปทำงานที่ศรีสะเกษ
ที่บ้านพักคุณพ่อ.. ทุกครั้งที่เลิกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า
คุณพ่อจะสั่งให้ทุกคนในบ้าน ดึงปลั๊กออกทุกครั้งเสมอ...

ได้เรื่องเลย.. ผลก็คือ.. ดันเกิดพายุฝนฟ้าคะนองใหญ่
เสาไฟฟ้าแรงสูง.. ดันล้มไปพาดเข้ากับเสาไฟฟ้าแรงต่ำ... เท่านั้นเองนะครับ

ร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ในตัวเมืองศรีสะเกษ ยุคนั้นรวยขึ้นทันตาเห็นจริงๆ...
เพราะมีแต่คนเอามาให้ช่วยซ่อมให้หน่อย... เพราะว่าไม่เคยถอดปลั๊กไฟฟ้าหลังการใช้งาน เลยโดนไฟฟ้าแรงสูงวิ่งเข้าเครื่องเจ็งกันทั้งเมืองเลยครั้บ..



fiogf49gjkf0d
ถูกต้องแล้วครับ ตามที่คุณบอย บอกไว้
จาก : 130(130) 8/3/2555 21:55:57 [49.48.124.208]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 พฤหัสบดี, 8/3/2555 เวลา : 17:53  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115391

คำตอบที่ 174
      

fiogf49gjkf0d
ท้องฟ้าเมื่อเย็นวันที่ 8 มีนาคม 2555





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

mr.ปัญ จาก E22GED 125.24.50.74 ศุกร์, 9/3/2555 เวลา : 00:26  IP : 125.24.50.74   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115413

คำตอบที่ 175
      

fiogf49gjkf0d
ผลของพายุสุริยะเมื่อวานนี้ ที่ได้พูดถึงการระเหยของน้ำ และจะทำให้เกิดฝน วันนี้ที่สิงห์บุรีประมาณ 3 ทุ่ม เกิดฝนโปรดปรายลงมา กลุ่มเมฆปกคลุมดวงจันทร์ เหมือนช่วงแรม 15 ค่ำ เลย ทั้งๆที่เป็นแรม 1 ค่ำ เอง

อีกเรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องแปลกแต่จริง คือ ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับกลุ่มคนสายปฏิบัติ ช่วงปลายปี พวกท่านเหล่านั้นพูดถึงปีใหม่ 2555 เป็นต้นไป ประเทศไทยจะพบเจอกับกลุ่มก้อนความร้อน ผมถามว่ามันคืออะไร ท่านบอกว่า น่าจะเป็นเรื่องไฟไหม้ หรือคลื่นความร้อน ว้าว.. วันก่อนไฟไหม้แถวอโศก เมื่อวานไทยโดยพายุสุริยะ มาวันนี้ไฟไหม้โรงแรม แล้ววันต่อๆไปล่ะ จะเป็นเช่นไร แต่ที่แน่ๆ แผ่นดินไหวบ่อยและใกล้เขื่อนเข้าไปทุกที (แผ่นดินไหว ก็เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ของพระเพลิงใต้แผ่นดิน) ถ้าตามทฤษฎีของธรรมะ ชาติ เมื่อมีพระเพลิงปรากฎขึ้น อีกไม่นานพระแม่คงคาก็จะมาล้างพระเพลิง เหมือนดังฤดูกาลที่เราประสบอยู่ ร้อน ฝน หนาว ช่วงนี้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kosol จาก 083 113.53.97.57 ศุกร์, 9/3/2555 เวลา : 01:06  IP : 113.53.97.57   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115414

คำตอบที่ 176
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อวันที่ 7 มีนา.. ก็ว่าระเบิดใหญ่สุดในรอบ 5 ปีแล้วนะครับ..
แต่.. เจอของวันที่ 9 มีนาแล้ว... ใหญ่กว่าอีก.. น่ากลัวจริงๆครับ..

เครดิต : คุณ Falkman

สำหรับบางส่วนที่เกี่ยวกับบริษัทของผมนั้น.. ก็คือ
ช่วงหลายวันที่ผ่านมา.. การใช้วิทยุสื่อสารของเครื่องบินที่บินในระดับสูงมากๆ..
โดนรบกวนอย่างมากๆ จนสื่อสารไม่ได้เลยครับ..
ต้องใช้เพดานบินที่ต่ำลงมา เพือใช้สามารถยังใช้วิยุสื่อสารได้..
แต่การที่บินในระดับต่ำลงมานั้น.. ก็จะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น..






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.24.3 ศุกร์, 9/3/2555 เวลา : 21:47  IP : 124.121.24.3   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115423

คำตอบที่ 177
      

fiogf49gjkf0d
SOHO/LASCO detected a full halo CME in association with the M6.3 flare in Catania sunspot group 65 (NOAA AR 1429) this morning. The CME first appeared in the LASCO C2 field of view at 04:14 UT and had a speed around 750 km/s.We expect the CME arrival at the Earth late on March 11

- early on March 12. An evaluation of the possible erupting flux rope orientation on the basis of HMI photospheric magnetograms and AIA images of the post-eruption arcade gives the south-east-north (SEN, left-handed) configuration. Due to the position of the CME source region close to the solar central meridian, we expect a nearly central encounter of the resulting ICME, which will probably be a magnetic cloud
with leading southward field. A strong geomagnetic storm (K = 7 or higher) is probable.

การระเบิด class M6.3 เมื่อเช้านี้ ( 9 มีนาคม ) เป็นการระเบิดรอบทิศทาง และจากจุดดับ 1429 อีกแระ และคาดว่าจะมาถึงโลกเราวันที่ 11 มีนาคม ด้วยความเร็ว 750km/s ( กิโลเมตร/วินาที ) และมันจะทำให้เกิดพายุแม่เหล็กโลกแปรปรวน ด้วย kp=7 หรือ มากกว่านั้น แป่วมาก
__________________
A1-WarRoom Falkman

เครดิต : คุณ Falkman
fiogf49gjkf0d


 แก้ไขเมื่อ : 9/3/2555 22:04:35





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.24.3 ศุกร์, 9/3/2555 เวลา : 21:53  IP : 124.121.24.3   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115424

คำตอบที่ 178
      

fiogf49gjkf0d
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 มีนาคม.. มีฝนตกหนักบริเวณพื้นที่ปากช่อง โคราช
จนถึงเช้าวันอาทิตย์อีกครึ่งวัน...
งานก่อสร้างบ้านของผม เลยต้องหยุดเพื่อหลบชั่วคราว...


แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอก.. ก็คือว่า
ไม่ว่าพืนที่ไหนบนโลกจะเกิดอะไรขึ้นนั้น..
ฝนตก.. ดินถล่ม.. แผ่นดินไหว.. ภูเขาไฟระเบิด... เป็นต้น
จะมีองค์กร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของชาติตะวันตกเป็นคนเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา
และก็จะส่งข้อมูล หรือคำเตือนภัย ให้กับประเทศที่คาดว่าจะประสพวิบัติภัยนั้นๆ

ปัญหาอยู่ที่ว่า.. บ้านเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อมูลเตือนภัยเหล่านี้เลย.. น่าเศร้าดีจริงๆครับ..
ต้องรอให้เกิดขึ้นก่อน.. แล้วค่อยมาทำหน้าเศร้าว่าเสียใจที่เกิดเรื่องขึ้น

ปัญหาก็คือ.. เขาเหล่านั้นรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบนโลกนี้ตลอดเวลา
หลายคำเตือนถูกส่งมาให้รัฐบาลไทยหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัตินั้นๆ.
แต่ไม่มีคำเตือนเหล่านั้น.. มาถึงหูประชาชนให้ได้ระวังเตรียมตัวรับมือจริงๆสักเท่าไรเลย..

ภาพ : แผนที่แสดงศักยภาพการเกิดน้ำท่วมโดย NASA (24 ชั่วโมง)






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 124.121.35.234 จันทร์, 12/3/2555 เวลา : 01:39  IP : 124.121.35.234   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115439

คำตอบที่ 179
      

fiogf49gjkf0d
เพิ่งเกือบตายด้วยโรคนี้ครับ "ฮีทสโตรก" โปรดเข้ามาอ่านครับเพื่อตัวท่านเอง

--------------------------------------------------------------------------------

ฮีทสโตรก โรคที่เกิดช่วงหน้าร้อน


ปัจจุบัน ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ทุกคนให้ความสำคัญ เพราะนับวันอุณหภูมิโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับประเทศไทย ขณะนี้สภาพอากาศร้อนจัดกว่าทุกปี ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหลายโรค เช่น โรคในระบบทางเดินอาหารที่เกิดจากการรับประทานอาหาร และน้ำที่มีเชื้อโรคปน เปื้อนเข้าไปซึ่งเกิดบ่อยที่สุด แต่โรคที่มีการพูดถึงกันน้อย คนเป็นบ่อยช่วงหน้าร้อนคือ "โรคฮีทสโตรก" หรือ "โรคลมแดด" (Heat Stroke) แต่บางที่ก็เรียกว่า "โรคอุณหพาต" หรือ "โรคลมเหตุร้อน" นั้นเอง

อาการของโรค ฮีทสโตรก

โรคฮีทสโตรก เป็นโรคที่เกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้ความร้อนในร่างกาย (core temperature) สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส อาการที่เบื้องต้น ได้แก่ เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล สับสน ปวดศีรษะ ความดันต่ำ หน้ามืด ไวต่อสิ่งเร้าง่าย และยังอาจมีผลต่อระบบไหลเวียน ซึ่งอาจมีอาการเพิ่มเติมอีก ได้แก่ ภาวะขาดเหงื่อ, เพ้อ, ชัก, ไม่รู้สึกตัว, ไตล้มเหลว, มีการตายของเซลล์ตับ, หายใจเร็ว, มีการบวมบริเวณปอดจากการคั่งของของเหลว, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, การสลายกล้ามเนื้อลาย, ช็อค และเกิดการสะสมของ fibrin จนไปอุดตันหลอดเลือดขนาดเล็กทำให้อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลว ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้

ผู้ป่วย โรคฮีทสโตรก สามารถแบ่งตามสาเหตุการเกิดโรคออกเป็น 2 ประเภท คือ

Classical Heat Stroke เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่มีมากเกินไป ส่วนใหญ่เกิดในช่วงที่ มีอากาศร้อน พบบ่อยในผู้ที่มีอายุมากและมีโรคเรื้อรัง มักเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง อาการที่สำคัญ คือ อุณหภุมิร่างกายสูง, ไม่มีเหงื่อ

Exertional Heat Stroke เกิดจากการออกกำลังที่หักโหมเกินไป มักจะเกิดในหน้าร้อนโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานและนักกรีฑา อาการคล้ายกับ Classical แต่ต่างตรงที่กลุ่มผู้ป่วยประเภทนี้จะมีเหงื่อออก นอกจากนี้ยังพบการเกิดการสลายเซลล์กล้ามเนื้อลาย โดยจะมีอาการแทรกซ้อน ได้แก่ ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ และพบไมโอโกลบินในปัสสาวะด้วย

บุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดโรคฮีทสโตรก

บุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดโรคฮีทสโตรก ได้แก่ ทหารที่เข้ารับการฝึก โดยปราศจากการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมในการเผชิญสภาพอากาศร้อน รวมถึงบรรดานักกีฬาสมัครเล่นและผู้ที่ทำงานในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น รวมทั้งผู้สูงอายุ เด็ก คนอดนอน คนดื่มเหล้าจัด และผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงด้วย

สัญญาณสำคัญของโรคฮีทสโตรก

สัญญาณสำคัญของโรคฮีทสโตรก ก็คือ ไม่มีเหงื่อออก ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน ซึ่งต่างจากการเพลียจากแดดทั่ว ๆ ไป ที่จะพบว่ามีเหงื่อออกด้วย หากเกิดอาการดังกล่าวจะต้องหยุดพักทันที

หากพบเจอผู้เป็นโรคลมแดดสามารถช่วยเหลือเบื้องต้นได้โดย

นำผู้มีอาการเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าออก

ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศรีษะ ร่วมกับการใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน

เทน้ำเย็นราดลงบนตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลงโดยเร็วที่สุด แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล

วิธีการป้องกันโรคลมแดด คือ

หากรู้ว่าจะต้องไปทำงานท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน ก็ควรเตรียมตัวโดยการออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ๆ อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาพอากาศร้อน

ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนออกจากบ้านในวันที่มีอากาศร้อนจัด และหากต้องอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน หรือออกกำลังกลางสภาพอากาศร้อน ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม และแม้ว่าจะทำงานในที่ร่มก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว

สวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายความร้อนได้ดี

ก่อนออกจากบ้านควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่าเอสพีเอฟ 15 ขึ้นไป

หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในวันที่อากาศร้อนจัด

หลีกเลี่ยงการกินยาแก้แพ้ แก้น้ำมูก โดยเฉพาะก่อนการออกกำลังกาย หรือการอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนเป็นเวลานาน

หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาเสพย์ติดทุกชนิด

ในเด็กเล็กและคนชราควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ต้องจัดให้อยู่ในห้องที่อากาศระบายได้ดี และอย่าปล่อยให้เด็กหรือคนชราอยู่ในรถที่ปิดสนิทตามลำพัง

อ้างอิง : http://board.palungjit.com/f178/ผมเพิ่งเกือบตายด้วยโรคนี้ครับ-ฮีทสโตรก-โปรดเข้ามาอ่านครับเพื่อตัวท่านเอง-327061.html



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

005 จาก BoyDogtag,TTC-005 202.122.130.31 อังคาร, 13/3/2555 เวลา : 17:03  IP : 202.122.130.31   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115465

คำตอบที่ 180
      

fiogf49gjkf0d
ปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ฝูงปลาฉลามราว 50 ตัว ที่เข้ามาไล่กินปลาทูน่า อย่างบ้าคลั่ง บริเวณชาวฝั่งออสเตเลีย กำลังบอกหรือเตือนอะไรกับมนุษย์หรือเปล่า เพราะปกติปลาทูน่า จะอาศัยอยู่บริเวณน้ำลึก จะไม่เข้ามาบริเวณน้ำตื้นโดยเฉพาะใกล้ชายฝั่ง ที่มีคนอาศัยอยู่ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ปลาทูน่ารับรู้อะไรที่ใต้ท้องทะเล จึงหลบหนี้เข้ามาชายฝั่ง จำนวนมาก


ส่วนอีกเรื่องดูเหมือนปกติ แต่ไม่ปกติ ฝูงเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจำนวนมาก ระบาดกัดกินต้นข้าวเกษตรกรภาคกลาง ปกติแล้วในช่วงหน้าร้อนจะไม่มีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล จะมีก็ในช่วงหน้าฝน หรือก่อนฝนตก ฉะนั้นจะต้องเฝ้าดูฝนฟ้าอากาศอย่างใกล้ชิด เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีเพลี้ยบินเล่นไฟที่สิงห์บุรีเยอะมา ไร่นาเสียหายแล้วหลายพันไร่ พอเช้าวันจันทร์ ที่โรงแรมโกลเด้นดราก้อน แจ้งว่าได้เก็บกวาดเพลี้ยกระโดยใส่เข่งใบใหญ่ได้ 10 กว่าเข่ง ยังไม่รวมที่ตกค้างบนหลังคาและตามระเบียง มันเยอะจริงๆ และกำลังจะระบาดในวงกว้าง ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาแก้ไขหรือเตือนชาวนาเลย



fiogf49gjkf0d
ข้อมูลพี่โกศล.. น่าสนใจมากๆเลยครับ..
จาก : 005(005) 16/3/2555 16:53:45 [202.122.130.31]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kosol จาก 083 180.180.150.209 อังคาร, 13/3/2555 เวลา : 20:07  IP : 180.180.150.209   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 115467

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 6 จาก >>> 1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,4 พฤษภาคม 2567 (Online 3426 คน)