sport rider 5L EFI

คำตอบที่ 3
ขอเพียงแต่ส่งเสียงมา....จะมาหา....
มาแว้วคร้าบบบ
บอกตรงๆเลยครับว่า เครื่อง 5L EFI นี่ก็ไม่ธรรมดาครับ เครื่องถ้าเทียบกันแบบสแตนดาร์ดเดิมๆ ระหว่าง 5L EFI กับ 5L ปั๊มฯธรรมดา 5L ไม่มีทางเร่งแซงได้เลยครับ (เคยลองมาแล้ว ตอนเจออักคันบนถ. ลาดพร้าว) ทั้งอัตราเร่ง และ แรงบิด สู้ไม่ไหวจริงๆ ทั้งนี้เพราะ วิศวกรโตโยต้าหัวเสครับ ที่หาทางเพิ่มแรงม้าและแรงบิด แค่ด้วยการเปลี่ยนปั๊มธรรมดาเป็นปั๊มไฟฟ้าให้จ่ายน้ำมันได้แม่นยำขึ้น แต่เครื่องก็ยังตัวเดิมๆ ส่วนแรงม้าและแรงบิดที่เพิ่มขึ้นนั้นได้มาเป็นของแถมครับ

ส่วนเรื่องรายละเอียดเชิงลึก ขอยกเครดิตให้พี่ปืนครับ ผมพยายามไปค้นหาในเมลเก่าที่เคยคุยกับพี่ปืนเรื่องนี้แล้วไม่เจอครับ เลยขอรบกวนพี่ปืนช่วยเสริมนิดนึงครับ

แต่ถ้าตอนนี้ที่ผมได้ทำการโมฯเครื่องใหม่มาแล้ว (ด้วยการติดเทอร์โบ + เปลี่ยนปั๊ม) ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าอาจจะฉีก 5L EFI กระจายไปเลยก็ได้ ล่าสุดก็เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ ออกจากบ่อดินกันมา SPRD 5L ของผมคันเดียวที่เกาะตูดพี่ป้อม Bluezone ได้อย่างไม่ลดละ (เครื่อง KZ เปลี่ยนเป็นปั๊มธรรมดา ต้องถามพี่แกด้วยครับว่าเปลี่ยนลูกปั๊มเป็น 12 มิลฯด้วยหรือเปล่า)

ว่ากันต่อเรื่องผลหลังจากการติดตั้งเทอร์โบครับ ขอบอกตรงๆนะครับว่า อย่าหวังว่ามันจะประหยัดกว่าเดิมถ้าไสตล์การลงเท้าขวาคุณยังไม่เปลี่ยน มันจะกินบันไลทันทีครับ แต่ถ้าพฤติกรรมการขับของคุณยังเดิมๆ เทอร์โบ+ลูกปั๊มที่ใหญ่ขึ้น จะทำให้สไตล์การลงเท้าขวาของคุณเปลี่ยนไปเองครับ จากที่ต้องเค้นหนักๆเพื่อเร่งแซง หรือเอาแรงขึ้นเขา พอลงเทอร์โบ+เปลี่ยนลูกปั๊มมา กดนิดเดียวก็มาแล้วครับ (อย่าเกิดอาการติดตีนแล้วกันครับ)

สเตปของผมที่ทำไปก็ไม่มีอะไรมาครับ เน้นความแรงแต่ปลอดภัยกับเครื่องเดิมเป็นหลักคือ
1. ใส่เทอร์โบสแตนดาร์ดของเครื่อง 2L รหัส CT-20 (อันนี้ต้องถามน้องแบงค์เฉื่อยว่าไปหามายังไงได้รุ่นใบพัดโข่งหน้า-หลังใหญ่พิเศษแล้วมันมีผลยังไงครับ) เซ็ตบูสท์สแตนดาร์ด (ยังไม่มีมิเตอร์วัดบูสท์ไว้ดูให้ชัวร์ครับ แต่กำชับช่างไว้)

2. เปลี่ยนลูกปั๊มให้ใหญ่ขึ้นจาก 10 เป็น 11 มิลฯ อันนี้น้องแบงค์เคยแนะหลายครั้งก่อนจะตัดสินใจครับว่าทำดีกว่า ป้องกันเรื่องความร้อนขึ้นในรอบกลาง - สูง http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/question.asp?id=692 (ตอนที่ลังเลอยู่ ผมก็ลืมไปว่าเคยอ่านกระทู้นี้ เลยตัดสินใจทำไปเลยครับ) ในอนาคตอาจเปลี่ยนเป็นปัม 12 มิลฯ + เซ็ตบูสท์ให้หนักกว่าเดิมหน่อยนึงครับ สัก 15-17 ปอนด์พอแล้วครับ

3. กรองอากาศ ยังใช้แบบเดิมๆ ไส้กรองกระดาษเดิมๆครับ คิดอยู่ว่าจะเปลี่ยนเป็นกรองเปลือยจะดีไหม เพราะส่วนใหญ่ก็วิ่งถนนดำแต่เวลาออกทริปค่อยเอากรองกระดาษมาใส่(เสียตังค์เพิ่มดีไหมเรา 555)

สิ่งที่จะทำต่อไป
1. ใส่อินเตอร์ดีๆสักใบ (โชคดีจริงๆครับที่หม้อน้ำที่เปลี่ยนไปคราวก่อน มันเป็นทองเหลืองสามช่อง ยาวพิเศษมาถึงชายกันชนล่างอยู่แล้ว เลยสิ้นสงสัยไปเลยว่าทำไมวิ่งๆไปความร้อนถึงอุณภูมิทำงานเร็วขึ้น แต่ไม่ขึ้นจากเดิมเลย ประหยัดค่าหม้อน้ำไปเลย)

2. ตัดหม้อพักปลายออก (แต่ยังมีหม้อพักกลางอยู่) โดยตัดท่อให้ยาวถึงแค่เพลาท้ายพอแล้ว

3. ติดวัดบูสท์ วัด water temp, oil pressure เพิ่ม

เรื่องในอนาคต

1. เพิ่มขนาดท่อจาก 2.2 เป็น 2.5 นิ้วทั้งเส้น ตัดหม้อพักกลางออก
2. ปั๊ม 12 มิลฯ

สำหรับดีเซลปั๊มทำมะดานั้นการแต่งปั๊มสำคัญกว่าเทอโบครับ โชคดีที่ผมได้เจอช่างที่ทำแล้วจบครับ
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 6/8/2554 15:57:28 [118.173.252.134]

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ม้าเขียว SRC 057 203.144.184.129 ศุกร์, 5/8/2554 เวลา : 14:40 IP : 203.144.184.129

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 17300

คำตอบที่ 4
ขอเพิ่มเติมต่อครับ ถึงผลข้างเคียงจากการติดเทอร์โบ + เปลี่ยนลูกปั๊ม
1. กินน้ำมันขึ้น เพราะรอบเหลือ
อันนี้ได้คุยและปรึกษากับหลายๆท่านครับ มีอยู่ สองทางคือ ก ใส่ยางใหญ่ขึ้น (อาจจะขยายเป็นยาง 33 นิ้ว) ข. เปลี่ยนเฟืองขับจาก 9/41 เป็น 10/43 ทั้งสองทางเสียตังส์น่าจะพอๆกันคือ
ก. ถ้าใส่ยางใหญ่ขึ้นเป็นเบอร์ 33 นิ้ว ก็ต้องยกรถสูงขึ้น โดนค่าชุดยก 4 นิ้วๆแน่ๆ (เอาการยกแบบทีเดียวจบนะครับ) แถมต้องเสียค่ายางใหม่อีก อีกอย่างไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะไม่ต้องเปลี่ยนเฟืองขับ เพราะพอใส่ยางใหญ่ๆเข้าไป เฟืองขับมันจะเอาไม่อยู่ พอเฟืองแตกขึ้นมาก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดี (แต่ผมก็พิจารณายาง 32 นิ้วอยู่นะครับ)
ข. เปลี่ยนเฟืองขับใหม่ อันนี้ก็น่าสนใจครับ เพราะไม่ต้องเปลี่ยนยาง ยังใช้เบอร์ 31 ต่อไปได้ แต่ เฟืองขับเดิมไม่รู้จะเทิร์นได้เท่าไร เช็คราคาเฟืองขับหน้า - หลังมีเต็ดแล้ว ก็เหยียบหมื่นกว่าๆอยู่
ทางแก้ของผมหรือครับ? ก็ขับมันไปเดิมๆนี่แหละ ไม่ต้องไปเหยียบไปเค้นอะไรมันมา เน้นติดมาเพราะเอาอัตราเร่งให้ลอยตัวได้เร็วๆ แรงมาในรอบต่ำๆตอนออกตัว เร่งแซงได้ให้คุ้มกับค่าน้ำมันก็พอครับ (ไม่ว่ารถจะโมหรือไม่โม ก็กินน้ำมันบรรลัยครับ ถ้าคุณเหยียบแบบไม่บันยะบันยัง)

2. ต้องเบาๆเท้าครับ อย่าให้ใจไปเร็วกว่ารถ เพราะ
๑. เครื่องแรงขึ้นได้จริง แต่ชิ้นส่วนที่เป็นตัวส่งกำลังมันไม่ได้ทนขึ้นตามไปด้วยครับ เช่นเกียร์ อย่าใช้เกียร์ 5 ที่ความเร็วไม่ถึง 80 เพราะเดี๋ยวเกียร์มันจะพังเร็ว (อยู่ในเมืองผมไม่มีโอกาสใช้อยู่แล้วครับ 1-4 ก็วิ่งฉิวแล้ว แถมยังต้องขับๆเบรกๆเพราะไฟแดง) ถ้ามีตังค์เหลือๆอาจจะไปโมฯเกียร์เหมือนพี่ป้อมบลูโซนก็ได้ครับ เพราะรายนั้นลงเครื่องเคแซดมาแต่ยังใช้เกียร์แมนน่วลห้าแอลเดิมๆอยู่เลย
๒. ฝาสูบเครื่องห้าแอลนี่มันไม่ได้ทนทานครับ อีกอย่างช่วงล่างรถ PPV อย่างเราไม่ได้ถูกออกแบบมาวิ่งแข่งที่ความเร็วสูงๆอยู่แล้วครับ อันนี้ยกเครดิตให้พี่ปืนมาอธิบายครับ

เท่าทีคิดออกมีเท่านี้ครับ

ส่วนเครื่อง 5L EFI น่ะ ผมไม่เคยใช้เลยไม่รู้หรอกครับ ให้คนที่รู้หรือเคยใช้มาอธิบายดีกว่าว่าทำไมใช้ไปสักพักแล้ว เปลี่ยนจากปั๊มไฟฟ้าเป็นปั๊มธรรมดากันเฉยๆเลย....

ลืมพูดถึวคลัชไปดสียสนิทเลยครับ ตอนนี้ลื่นทีี่
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 6/8/2554 13:56:07 [118.173.252.134]

คลัทช์ลื่นที่เกียร์4แล้วครับ ให้ใหม่แค่ไหน พอลงโบแล้วมันลื่นอยู่ดีแหละครับ เพราะแรงม้าแรงบิดเพิ่มขึ้น
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 6/8/2554 13:57:13 [118.173.252.134]

ทั้งๆที่ผมยกคลัทช์ไปเมื่อปลายปรก่อนเองแท้ๆ
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 6/8/2554 13:58:15 [118.173.252.134]

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ม้าเขียว SRC 057 203.144.184.129 ศุกร์, 5/8/2554 เวลา : 14:57 IP : 203.144.184.129

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 17301

คำตอบที่ 6

นี่ครับ E-mail ฉบับที่ผมได้คุยกับ น้องม้าเขียว ที่น้องมาเขียว Reference ถึง...
แต่นี่ตัดมาบ้างส่วนทีเกี่ยวข้องกับทางเทคนิค ของเครื่อง 5L ครับ.......

-------Original Message-------

From: Khamjohn Juthathipayakul
Date: 6/2/2011 4:55:35 PM
To: BH.Theerawat
Subject: Re: ประเด็น 5L / Up grade Turbo / เรียงเฟือง

ครับพี่ปืน

อ่านๆมาแล้วก็เข้าใจมากขึ้นครับ งั้นเรื่องเปลี่ยนลูกปั๊ม กับ ไล่เฟืองเกียร์ใหม่ ผมก็จะ....จะ.....จะยังไม่ทำครับ 5555
แต่เรื่องติดเทอร์โบนี่คงทำแน่ๆ (ไม่ไหวแล้วครับ อืดเหลือเกิน อายพวกวีออส กะ ซิตี้มัน) แต่ก็จัดชุดไว้ในใจแล้วครับ ว่าจะเอาติดเร็วๆนี้เป็นชุดเทอร์โบ CT20 มาทั้งชุด (ไม่มีอินเตอร์ฯ เพราะบูสท์น้อยๆครับ) ที่เอาชุดนี้เพราะจะเอามาบูสท์ใช้งานพอครับ และจะไม่บูสท์เยอะ เน้นว่าติดแล้วไม่ต้องไปยุ่งกับพวกเกียร์หรือเฟืองท้ายเพื่อให้รับกับอัตราเร่งของเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้น (แต่ถ้ามันขาดๆอะไร ก็คงเอาไปเช็คเปลี่ยนลูกปั๊มให้ใหญ่ขึ้นเป็นลำดับต่อไปเพื่อให้จ่ายน้ำมันให้สมดุลกับอากาศที่อัดเข้ามาครับ) พี่ปืนมีคำแนะนำในการดูแลและวิธีการขับเครื่องดีเซลติดเทอร์โบให้เซฟไหมครับ?

ขอบคุณครับ

2011/6/1 BH.Theerawat <theerawat@swdengineering.com>

อ้าวววว .....ว่าไง น้องม้าเขียว

รอจนหง่อมละม้าง ....โทดทีๆ ช่วงนี้ งานเต็มๆ ..ก็ไม่เชิงนะ แต่ มันทำไม่เสร็จสักกะที งง งง ตัวเองอยู่เหมือนกัน งานเดิม แก้ไปแก้มา อยู่นั่นแหล่ะ..เลยเซ็งๆ อยู่เนี่ย

เอ้า มาเช้าประเด็นเรากันดีกว่า ......

เอา ประเด็นแรกก่อน .....เครื่อง 5L อย่างที่ผมเคยบอก มันเป็นแนวคิดของเฮียโตเค้าที่อยากจะเพิ่มแรงบิด โดยที่สมัยนู้นยังหวังเอาดีกะ Turbo ที่ทำงานรอบต่ำได้ยาก ...ดังนั้น เลยใช้วิธีขยายบล็อคเพื่อเพิ่มความจุเพื่อเพิ่มแรงบิดแทน ซึ่งก็ได้ผลดี ในเครื่อง 3L (2.8L) และก็เอามาทำอีกทีใน 5L แต่ไอ้ที่แย่ คือ มันดันใช้เสื้อเดิมๆ และ ฝาเดิมๆ .... ซึ่งเดิมๆ ของมันเอง ก็ไม่ได้ หนามากมายอะไร หากเปิดฝามาดูเสื้อของ 5L จะบางจ๋อยเลย เพราะมันเอาเครื่อง 3L มาคว้านเพิ่ม ...และอย่างที่เราๆ รู้ เหล็กยิ่งบาง ยิ่งสะสมความร้อนมากกว่าเหล็กหนา ...ดังนั้น เครื่อง 5L แค่เดิมๆ มันก็แทบจะมีปัญหาเครื่องความร้อนเป็นทุนอยู่แล้ว

ซึ่ง บล็อค 5L ยัน 5L-EFI ...ไม่เคยมีรุ่นที่เป็น Turbo นะน้องม้าเขียว??? Series L ค่ายพี่โต มีแค่ 2L เท่านั้นแหล่ะ ที่มีเครื่องรุ่น Turbo โรงงาน!!!

ดังนั้น มันจะมีได้ ก็ต่อเมื่อ มันเอาชุด Turbo Kit มาลง ....ซึ่งก็เห็นหลายค่ายอยู่ อย่างของ AXT แต่ไม่ค่อยหลุดมาบ้านเราหรอก.... หากเป็นอย่างนี้น่ะ พอเชื่อได้ว่า มันมี 5L Turbo kit....
ซึ่งจะ kit หรืออะไรก็ตามแต่ ...กำลังอัดที่เพิ่มขึ้น และค่าความร้อนแฝงที่มาพร้อมกับเจ้ากังหันนรก ...คงต้องบอกว่าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เรื่องความร้อนสำหรับ เครื่อง 5L ......

ส่วน 5L กับ 5L EFI ...มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากมายนักหรอก ..EFI ก็ มีปั๊มไฟฟ้า มาจ่ายน้ำมันให้หัวฉีด เท่านั้นเอง โดยที่ไม่มีปั๊มธรรมาดา ที่กินแรงเครื่อง ผลลัพธ์ที่ออกมา ก็ง่ายโคตรๆ เพราะไม่มีปั๊มมาฉุดแรงเครื่อง ก็ได้กำลังส่วนนี้กลับมาตรงๆ (เออ.... ง่ายดีเหมือนกัน) ส่วนที่สอง คือ การจ่ายน้ำมันทำได้แม่นยำมากขึ้น เพราะมันสั่งด้วยไฟฟ้า ดังนั้น ความเร็วในการสั่งงงานและตอบสนอง มันก็ต้องคนละเรื่องกับ เครื่อง Mechanic Pump อยู่แล้ว ซึ่งส่งผลในแง่ความประหยัดมากขึ้น กับอัตราเร่ง ที่ตอบสนองเท้าได้ดีขึ้น (...นั่นหมาถึงว่า เครื่องต้องมีแรงมาตอบสนองด้วยนา....) จบ..... ง่ายๆ สำหรับ 5L EFI.....

คราวนี้ มาที่ว่าเรื่อง เปลี่ยนลูกปั๊ม ...สำหรับเครื่องปั๊มธรรมดาอยู่แล้วอย่างของเรา ...เอาไปทำเลย อันนี้พี่หนับหนุน แต่ทำมาแล้วอย่างหวังเรื่องประหยัด ...เพราะทำมาแล้ว เครื่องจะได้กำลังเพิ่มขึ้น ไม่ได้ประหยัดเพิ่มขึ้น เพราะหน้าตัดลูกสูบโตขึ้น ปริมาตรในการอัดฉีดน้ำมันมากขึ้น ส่งน้ำมันเข้าห้องเผามากขึ้น ...แน่นอน แรงขึ้น เพราะเครื่องได้น้ำมันมากขึ้น ...ดังนั้นใครบอกว่า ขยายลูกปั๊มแล้ว ประหยัดขึ้น ก็ อืมมมมม ...ก็แล้วแต่ว่าเราจะทำไงกะช่าง ก็แล้วกัน !! น่าจะหายคาใจกับประเด็นทำปั๊มเนอะ.....

..ต่อมา (..วิ่งหนีเด่ะ จะอยู่ให้มันต่อยเอาเรอะ ก๊ากกกก กั่กๆๆๆ)
เรื่อง อัตรราทดเกียร์ และอัตราทดเฟืองท้าย .....เรื่องนี้ไม่มีอะไรเข้าใจยากเลย ไม่ได้แตกต่างจาก ทดเสตอร์มอไซค์ หรือ เกียร์รถเสือหมอบหรอก....

หากคิดง่ายๆ เอาที่เกียร์ ก่อน ...มาดูอัตราทดเกียร์ของ 5L ที่ใช้ชุดเกียร์ R 151F กัน

1st Gear 4.313 : 1
2nd Gear 2.303 : 1
3rd Gear 1.436 : 1
4th Gear 1.000 : 1
5th Gear 0.838 : 1

ดังนั้น หากเราอยู่ที่เกียร์ 1 เลย เราวิ่ง ที่รอบเครื่อง 1500 รอบ รอบเพลา หลังจากผ่านเกียร์ 1 จะอยู่ที่ 1500/4.313 = 347.78 รอบ โดยยังไม่คิด ถึงอัตราทดเฟืองท้าย ....เอาตรงนี้เก็บไว้ในใจก่อน

หากอัตราทดเฟืองท้ายเดิมๆ ของ 5L เลยจะอยู่ที่ 9/41 หรือ 4.55 ...เราก็เอา อัตราทดนี้แหล่ะ เข้าไปคูณหลังจากที่ได้รอบผ่านเพลาเลย คือ .. 347.48 x (1/4.55) = 76.43 รอบ นั่นคือรอบที่ลงล้อ ....

หากได้เรื่องอย่างนี้ เก็บไว้ในใจก่อน ....
แล้วมันเกี่ยวกับแรงบิดยังไง ....มาดูกัน

หากว่าด้วยเรื่องแรงบิด คิดง่ายๆ ... หาก เฟืองกำลัง เล็ก หมุน เฟืองตามใหญ่ รอบจะช้า แต่แรงบิดจะสูง และ ในทางกลับกัน หาก เฟืองกำลัง ใหญ่ ไปหมุน เฟืองตามเล็ก รอบจะสูง แต่แรงบิดจะต่ำ ...คราวนี้พอได้กลิ่นเลาๆ ไหมว่า จะเป็นยังไงต่อ
หากว่าแรงบิดเครื่อง 5L เลย อยู่ที่ 19.5 Km-m ...เรามาคำนวนแรงบิดผ่านเพลากัน...

หากใช้เกียร์ 1 และเฟืองท้ายตามที่เขียนมา ....เราจะได้แรงบิดลงที่ล้อหลังเท่ากับ 19.5 x (4.313) x 4.55 = 382.67 Kg-m ...และลองไล่เรียงกันไปตาม ลูกเกียร์ จะได้ผลเป็น

19.5 x (2.303) x 4.55 = 204.33 Kg-m
19.5 x (1.436) x 4.55 = 127.41 Kg-m
19.5 x (1.000) x 4.55 = 88.72 Kg-m
19.5 x (0.838) x 4.55 = 74.35 Kg-m

แล้ว แต่ละรอบลงล้อ ...ก็คูณเอาเองเน้อ ไม่ได้มีเวลา ทำลง Excel ให้ ...ไม่งั้นจะเห็นง่ายกว่านี้ ...ดังนั้น เราจะเห็นว่า อัตราทดสูง รถจะได้แรงบิดมาก แต่รอบล้อต่ำ ดังนั้น รถเลยวิ่งได้ไม่เร็ว หากอัตราทดต่ำ รถจะได้แรงบิดน้อยลง แต่รอบล้อสูงขึ้น รถก็วิ่งได้เร็วขึ้น และทั้งหลายทั้งปวง ก็จะแปรผันตรงกับความเร็วรอบเครื่อง ...ก็ง่ายๆ อย่างนี้นั่นเอง! ...หากเรามีความคิดจะเรียงเกียร์ใหม่ หากทำได้ดี เข้ากับนิสัยการขับขี่ ..อ่านดีๆ นะ ..ผมบอกว่า เรียงเกียร์เข้ากับนิสัยการขับขี่ของเรา ...เราก็จะรู้สึกว่า รถวิ่งได้กระชับขึ้น เร่งได้ต่อเนื่องมากขึ้น ...แต่อาจจะต้องเปลืองมือขยับเกียร์มากว่าเดิม หรือเหยียบครัชเปลี่ยนเกียร์บ่อยขึ้น ...ก็ว่ากันไป

ดังนั้น หากเรียงเกียร์ใหม่มา ...ผมการันตีไม่ได้นะ ว่า รถเราจะวิ่งได้ดีขึ้น !! .... แน่นนอน เราทำอะไรลงไป มันก็ต้องอยู่ในเงื่อนไข "การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม" (....โห มาเป็น Full Metal Achemist - แขนกลคนแปรธาตุ เลยอ่ะ)
ส่วนการเปลี่ยน ปลายเฟืองเกียร์ 5 ของ D4D มันใช้อัตราทดเกียร์ 5 ที่ 0.753 ....แน่นอน รอบปลาย 5L (เดิม 0.838) หลังจากเปลี่ยนมันต้องไหลขึ้นแน่ เพราะอัตราทดมันลดลงนี่นา .... ที่ไม่เอาของ Vigo มาเพราะมันแทบไม่เห็นผล เพราะ Vigo ใช้อยู่ที่ 0.81 ต่างจากของ 5L นิดเดียว ...ถึงเปลี่ยนลงไป ก็คงแทบไม่รู้สึก รอบเครื่องก็คงลดได้ราวๆ 50-100 รอบละมัง ....ดังนั้น จะทดลงของ Vigo ทำไม....??

แต่หากเปลี่ยนปลายเกียร์ 5 มาจริงๆ ก็ต้องทำใจว่า ต้องใช้รอบปลายของเกียร์ 4 สูงขึ้น เพื่อช้อนส่งเข้ารอบให้ได้ กับ เกียร์ 5 ที่ทดเล็กลง ....เห็นไหม มันต้องยอมแลกด้วยเงื่อนไขเท่าเทียมอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอแหล่ะ.... ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับว่า หากเรียงเกียร์ใหม่ เปลี่ยนปลายเฟืองมา มันเข้ากับลักษณะการขับขี่เราหรือเปล่า ...หากเข้าก็อร่อยแน่ ...หากไม่เข้า ก็เซ็งจิต ได้เหมือนกัน

เอ้า ...เขียนมาก็นานเต็มทีเหมือนๆ กัน ชักเมื่อยมือ ...พิจารณาเอาเองเน้อ น้องม้าเขียว... ว่าอะไรดีไม่ดี อะไรน่าทำไม่น่าทำ....

ครบประเด็นที่น้อง ถามมารึเปล่า ....ไม่รู้ เพราะดองไว้หลายวัน กลับมาอ่านอีกที ก็อ่านรีบๆ ...หากไม่ครบหรือสงสัยเพิ่มยังไง ก็ว่ามาแล้วกันนะครับ

พี่ปืน KZ Wanzer

ยอดเยี่ยมกระเทียมดองไปเลยครับ พี่ปืน
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 6/8/2554 15:53:19 [118.173.252.134]

อย่าลืมประเด็นเรื่องเครื่องห้าแอลกับเทอโบนะครับพี่ ที่พี่เคยชี้ให้เห็นพัฒนาการของตระกูลLน่ะครับ
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 6/8/2554 15:56:02 [118.173.252.134]

ถ้าไปเจอไทเกอร์หรือสปอร์ตไรเดอร์คันไหนแปะรุ่นว่า 3.0 EFI TURBO ล่ะก็ เครื่องตัวนั้นไม่ใช่5Lแล้วนะครับ เป็น KZ. ไปแล้ว
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 6/8/2554 16:02:10 [118.173.252.134]

... ครับ เพราะตามเต้นท์ หรือ หน้าซื้อขายตลาดรถ ..แทบจะไม่มีใครลงขายว่าเป็นเครื่อง KZ
จาก : kz wanzer(kz wanzer) 8/8/2554 10:51:01 [125.27.106.75]

ครับพี่ปืน อันนี้ผมก็เข้าใจมานาน นึกว่ารุ่น EFI TURBO ยังเป็น 5L อยู่ แต่ได้รับการยืนยันจากน้าโอแมนฯ
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 9/8/2554 9:22:39 [203.144.184.129]

ว่าจริงๆแล้วมันเป็น KZ (130 หรือ 145 ก็ไม่แน่ใจครับ) ไปแล้วครับ
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 9/8/2554 9:23:24 [203.144.184.129]

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก KZ Wanzer 125.27.76.126 เสาร์, 6/8/2554 เวลา : 14:06 IP : 125.27.76.126

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 17326

คำตอบที่ 9

และ e-mail อีกฉบับที่ ม้าเขียว เคยคุยถึงเรื่อง 5L และ Turbo ..กับพัฒนาการของเครื่อง Series L ..จาก คต.ย่อยที่ 8 ของน้องม้าเขียว ที่ถามถึงครับ...

อ้อ ....ใครเข้ามาอ่าน คต. ที่ผม coppy จาก e-mail มา แนะนำให้อ่านจาก e-mai ฉบับล่างก่อน แล้ว ไล่ฉบับถัดไปขึ้นข้างบนนะครับ ...จะได้ไม่งงว่า อยู่ๆ ถามอะไรกัน.....

------------------------

โอ้ ครับ พี่ปืน

เมื่อคืนได้คุยกับทางพี่โอแมนแล้วเหมือนกันครับ พี่แกก็ร่ายข้อด้อยเรื่องความทนทานเนี่ยแหละครับพี่ปืน ถ้าเอาไปผูกโบแล้ว...นอกจากอายุจะสั้นลง มันจะทำให้สูญเสียประสิทธิภาพที่แท้จริงของเครื่องตระกูลแอลตอนขึ้นเขาขึ้นทางชันไปเสียอีกด้วย

ผมเลยเปลี่ยนความคิดใหม่ว่า "ไม่แขวนเทอโบก็ได้ฟระ แต่....แอบอยากชนะแรงอืดอยู่ดี" เลยคิดอย่างนี้ว่า สำหรับเครื่อง 5L ใน SPRD ของผมนี้ ผมจะไปทำลูกปั๊ม 11 มิลฯก็พอครับ แล้วให้ช่างปรับตั้งการดูดน้ำมันกลับในจังหวะที่ถอนคันเร่ง(เพื่อแก้ไขปัญหากินน้ำมันเพราะน้ำมันท่วมครับ) แต่ก่อนอื่นกะว่าจะไปทดเกียร์ 5 ใหม่เสียก่อนตามคำแนะนำของพี่เขา

และ บอกตรงๆว่าไม่คิดจะลงเทอร์โบนอกสเปกโรงงานแล้วด้วย เอาว่าถ้าได้เครื่องเคแซดมาเปลี่ยน หรือ ได้ SPRD KZ คันใหม่มา ค่อยเอาไปโมเป็น ปั๊มทำมะดา (เอา 12มิล + คันเร่งสายไปเล้ยยยย) ครับ 555555.....

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับพี่ปืน

2011/2/22 Theerawat B. <Theerawat@swdengineering.com>

อืมมมมมม..... น่าสนใจ !!!

เพราะอย่างน้อยๆ ...หมดน้อยกว่าลง KZ แหมๆ

แต่ที่น่าห่วง ก็เป็น ฝาของ 5L เดิมๆ น่ะ มันค่อนข้างจะบางเอาเรื่องอยู่ ..โดนส่วนใหญ่ 5L มราลงโบฯ มา มักจะเจออาการตัวร้อนประจำ เพราะหม้อน้ำ อ่างน้ำมันเครื่องเดิมๆ มันเล็ก และเครื่องล่าง ไม่ว่า ก้าน แหวน ลูกปืนลูกสูบ มันเล็กไปด้วย แถมยังเจอผนังเสื้อสูบที่บางกว่าปรกติ ...เพราะทาง Toyota เอง พยายามทำเครื่อง 3.0 ลิตร โดยเอาเครื่อง 3L มาขยาย Block !! จาก 2779 CC (ใน 3L) มาเป็น 2986 CC (ใน 5L) ..ผนังเสื้อสูบเครื่อง เลยบางไปนิด นั่นก็เป็น 1 ประเด็นที่ทำให้เครื่อง 5L ร้อนกว่าปรกติ

และเป้าหมายของ Toyota ที่ออกเครื่อง Series 3L และ 5L มาเพื่อที่ต้องการสร้างแรงบิดให้ดได้ดีโดยที่ไม่ต้องพึ่ง Turbo อย่างในเครื่อง 2L .... 2L ออก Series เครื่องมามากมาย ตั้งแต่ 2L, 2L-II, 2L-T, 2L-TII, 2L-TE, 2L-THE ซึ่ง หลังจาก Block 2L-II (ที่ใช้แผ่น Shim ตั้งวาล์ว เป็นตัวอย่างให้เครื่อง 3L และ 5L) ...เป็นต้นมา Toyota เพิ่มกำลังด้วย Turbo ทั้งสิ้น !!

ส่วน 3L เป็นตัวลองยาที่จะขยาย Block เพื่อไม่ต้องการใช้ Turbo เพระเมื่อก่อนเทคโนโลยี Turbo ทำงานที่รอบค่อนข้างสูง.. เลยไม่เหมาะกับงานลุย ที่ต้องการแรงบิดดีๆ ที่รอบต่ำ ..เครื่อง 3L เลยเกิดมาพร้อมกับการเพิ่มความจุ เพื่อเพิ่มกำลังงาน และแรงบิดแทน แทนที่จะแขวน Turbo

...และแนวคิดเดียวกันนี้ เลยส่งผลมาถึง 5L ที่ขยาย Block จาก 3L ด้วยครับ...

จากที่ว่ามา เครื่อง Block 5L เลยไม่ได้เป็น Block ที่ทาง Toyota ไม่คิดที่จะวาง Turbo เลย เพราะเครื่องมันเดินทางมาจนสุด Series แล้วครับ... นั่นหมายความว่ายังไง??

นั่นหมายความว่า...

วิศวกรของ Toyota ไม่คิดที่จะเพิ่มกำลังงานของ เครื่อง 5L ด้วยการแขวน Turbo แล้วครับ... เพราะรู้ว่าทำไป แม้ได้กำลังงานเพิ่มขึ้น ก็จะลดความทนทานลง จนมีโอกาสที่จะทำให้เครื่องเสียหายได้โดยที่มีอายุงานสั้นมากๆ ...เพราะไม่ได้คิดให้พื้นฐานเครื่อง Block 3L จนถึง 5L มาเพื่อการเพิ่มกำลังด้วย Turbo เลย... ด้วยเหตุผลนี้ ทาง Toyota เลยเปลี่ยน Base Block มาเป็น Series 'K' แทน Series 'L' ที่คงจะเพิ่มกำลังได้ยากเสียแล้ว...

ดังนั้น พอเครื่อง Series 'K' มาจะเป็นการเกิดใหม่ พร้อม Turbo ที่เอามาฉุดด้วย Turbo CT12B ลูกย่อม ที่มีการทำงานที่รอบต่ำ และ ลากรอบ turbine เข้า Surge Line ได้ง่ายๆ ....ดูอย่าง Base Block KZ ได้ ที่ขยาย Block ได้หลายกำลังงานเหลือเกินเป็นหลักฐาน....

แต่ลง Turbo 5L หากได้ ชุด Kit ดีๆ ก็น่าลงครับน้องม้าเขียว ...อย่างลืม เพิ่มขนาดหม้อน้ำ และแขวน oil cooler เข้าไปด้วยนะ เพราะอ่างน้ำมันเครื่อง 5L มันกะจิ๊ดเดียว.... และที่สำคัญ อย่าบูสท์โหดๆ ล่ะ ประเดี๋ยวเครื่องมันกลับบ้านเก่าเร็วกว่ากำหนด....

-------Original Message-------

From: Khamjohn Juthathipayakul
Date: 2/21/2011 5:33:42 PM
To: Theerawat B.
Subject: Re: ทักกันวันจันทร์...

ทักกันเสียงดังดีครับ อิๆๆ
ว่าแต่พี่ปืนคิดยังไงครับ ถ้าผมจะเอาเครื่องห้าแอลไปลงโบ + เปลี่ยนปั๊มเป็น 12 มิลฯ (ค่าเสียหายเกือบครึ่งแสนครับ)

2011/2/21 Theerawat B. <Theerawat@swdengineering.com>

อยากกดไลค์ให้สักพันครั้งครับพี่ปืน ขอบคุณครับ
จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 8/8/2554 9:29:16 [203.144.184.129]

แค่คิดถึงกันอยู่ .....คำว่า Like ก็ไม่ต้องการ ...อิ อิ ขอบคุณครับม้าเขียว
จาก : kz wanzer(kz wanzer) 10/8/2554 10:26:14 [125.27.74.151]

แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก KZ Wanzer 101.51.136.107 จันทร์, 8/8/2554 เวลา : 09:01 IP : 101.51.136.107

แก้ไขคำตอบ

ลบคำตอบ 17412

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1