WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ร่วมด้วยช่วยกันดีไหมเรื่อง ช็อค เพื่อเป็นแนวทางให้กับมือใหม่ครับ

จาก Gunnnn
203.113.45.197
อาทิตย์ที่ , 28/12/2546
เวลา : 15:43

อ่านแล้ว = 4621 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ผมเพิ่งติดตามเว้ปนี้ได้ไม่นานนะครับ พยายาม search เก่าๆๆ ดูจะได้ไม่ตั้งกะทู้ที่รบกวนสมาชิคท่านอื่นๆๆมากไป เลยอยากจะให้พี่ๆๆ ช่วยแนะนำเกี่ยวกับช็อค ทีครับ อาวละเอียดๆๆ หน่อย ( มือใหม่ท่านอื่นๆๆ จะได้กะจ่างครับ ) คือ อยากให้บอกรายละเอียดว่าช็อคแต่หละยี่ห้อ แต่หละรุ่นเป็นแก๊สหรือน้ำมัน แข็ง หรือ นิ่มอย่างไร ปรับระดับได้ไหม ถ้าได้ปรับได้กี่ระดับ แล้วก้อลักษณะเฉพาะตัวของช็อคตัวนั้น อาวยี่ห้อที่เป็นที่นิยมก้อพอนะครับ เช่น RS9000 เป็นช็อคน้ำมัน ปรับได้ 5 ระดับ ไม่ค่อยแข็ง ไม่นิ่มมาก เป็นกลางๆๆ เมื่อเทียบกับ OME กับ Procome ใช้ทนไม่ค่อยรั่วง่าย เป็นต้น พี่ๆๆ ว่าดีไหมครับ

เห็นที่นิยมแล้วใช้กันมากๆๆ ก้อ OME ( เห็นบอกว่ามีหลายรุ่น ) ,RS9000 ,RS5000 RS9000X , West Coast , Pro comp MX6 , Pro comp MX3 , ES9000 ,Procomp ES3000 แล้วใครมีช็อคอื่นๆๆ จะแนะนำก้อโฟสๆๆ กันมาได้นะครับ อันนี้แค่เสนอแนะนะครับ แล้วแต่พี่ๆๆ สมาชิคจะเห็นควรครับ เพราะรู้สึกว่าถ้ามือใหม่ท่านอื่นๆๆ มาหาความรู้เกี่ยวกับช็อคจะได้สะดวกขึ้นครับ แต่ถึงมีข้อมูลแล้ว แต่ทางดีที่สุดคือลองขับเองครับ เพราะความชอบของแต่หละคนไม่เหมือนกัน ความรู้สึกแต่หละคนต่างกันครับ


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       โช็คอ้พ....เป็น...ระบบซับแรงสั่นสะเทือน+การเกาะถนน
ของแบบนี้แล้วแต่ชอบเลยครับ...
ผมเองใช้โช็คมาไม่กี่ชุดเลยไม่กล้าแนะนำ....
แต่อ่านเจอในหนังสือคู่มือ ออฟโรดเล่ม 1 เลยเอามาลงให้
สรุปง่ายๆนะครับพิมพ์ไม่เก่ง....ใจความมีอยู่ว่า...

แนะนำได้เป็นแนวทาง
โดยต้องพิจารณาลักษณะการใช้งานเป็นหลัก...
ทางเรียบถนนธรรมดา.......โช็คอ่อนจะนุ่มนวลกว่าโช็คแข็ง
ทางลูกรังเป็นหลุมบ่อ....โช็คแข็งจะทำให้ล้อตกถึงพื้นได้เร็วกว่า เร่งทำความเร็วได้ดี
ทาง Offroad......ทางโคลนและหินให้ใช้โช็คอ่อน จะทำให้การให้ตัวดีกว่าโช็คแข็ง
ทางเรียบคดโต้งขึ้นเขา....โช็คแข็งจะช่วยในการทรงตัวของรถได้ดี
ทางคล้ายทางลูกรังแต่มีหินลอย....ให้ใช้โช็คอ่อนโช็คแข็งอาจแตกได้ง่ายกว่า

slippers87 จาก E ( ตัวใหญ่ ) TOC 024 203.113.36.6 อาทิตย์, 28/12/2546 เวลา : 16:25   


คำตอบที่ 2
       มันดีแน่นอนครับคุณ Gunnnn แรกๆผมก็มีปัญหาเรื่อง โช๊คนี้แหละครับ เพราะเลือกไม่ถูกจริงๆ ก็ลองมา 2-3 ยี่ห้อครับ ก็มาจบลงที่ คู่หน้า Procomp ES 9000 คู่หลัง ES 3000
เจ้า ES9000 เป็นโช๊คแก๊สครับ เหมาะกับรถที่มีการใส่กันชนหน้าและวินซ์
เจ้า ES3000 เป็นน้ำมันครับ เหมาะกับรถประเภท 4 ประตู ที่คนขับสงสารคนนั่งครับ ส่วนถ้าเป็นรุ่น CAB ใช้รุ่น ES 9000 ก็ได้ เพราะไม่มีคนนั่งหลัง

แต่ถ้าจะแนะนำให้ทุกคนใส่รุ่นเดียวกันก็เป็นไปได้ยากครับ เพราะเรื่องนี้มันเป็นเรื่องความรู้สึกของผู้ขับ ซึ่งมักจะไม่ค่อยเหมือนกัน และอีกอย่างก็เรื่องแหนบและทอร์ชั่นบาร์ สองสิ่งมีความสัมพันธ์กับเจ้าโช๊คนี่ครับ ต้องมาลงรายละเอียดกันอีกว่า เปลี่ยนแหนบเปลื่ยนทอร์ชั่นบาร์ด้วยปล่าว เรื่องมันยาวจริงๆครับ ก็ยังคงแนะนำกันเป็นคันๆไปหรือไม่ก็มาลองนั่งรถเพื่อนๆดู องค์ประกอบอีกอันก็เรื่องน้ำหนักรถ เพราะโช๊คนี้อาจจะเหมาะกับรถที่ไม่ได้ไปเพิ่มน้ำหนัก ใส่กันชนใส่วินซ์ แต่ถ้าใส่กับรถเดิมๆอาจจะไม่เหมาะกันก็ได้
เอาเป็นแนวกันแค่นี้นะ เดี๋ยวเพื่อนๆที่ใช้รุ่นอื่นๆคงมาร่วมแจมด้วยครับ

pkanketr จาก ตัวต่อ TOC-009 148.177.241.7 อาทิตย์, 28/12/2546 เวลา : 16:26   


คำตอบที่ 3
       ผมแนะนำโช๊ค XGS ของ TJM สำหรับท่านที่มีกันชนเหล็ก + winch (รวมกันประมาณ 50 กิโลขึ้น) เป็นโช๊คค่อนไปทาง FIRM เหมาะสำหรับขาลุย, กระบอกจะใหญ่กว่าเขา, เป็นโช๊คน้ำมันผสมแก๊ส

e20rml จาก RML-TOC254 203.149.38.26 อาทิตย์, 28/12/2546 เวลา : 20:44   


คำตอบที่ 4
       ผมว่าเรื่องโชค+ความรู้สึกของแต่ล่ะท่านคงอาจมีข้อแตกต่างกันออกไป...ที่เคยใช้มาก็มีตั้งแต่ถูกๆจนถึงของที่นิยมกัน..ถามแต่ล่ะท่านก็บอกไม่ค่อยเหมือนกันว่าอะไรดีกว่ากันในแต่ล่ะบุคคล..ส่วนใหญ่ใช้ยี่ห้อไหนก็ต้องเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนน่ะครับ..ว่าดี..

rider man จาก rider man/012 203.144.143.250 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 02:38   


คำตอบที่ 5
       ความรู้เรื่อง โช๊ค ครับ ไปเห็นมาเลยเอามาฝาก

โช้พอัพแก๊ส-น้ำมัน

โช้กอัพ หนึ่งในอุปกรณ์ที่สร้างความเข้าใจผิดในวงกว้าง เช่น โช้กอัพแก๊สต้องแข็งกว่าน้ำมันเสมอ หรือโช้กอัพแก๊สทำงานด้วยแก๊สล้วน ๆ หรือมีโช้กอัพแก๊สผสมน้ำมัน

ชิ้นส่วนหลักของโช้กอัพ ประกอบด้วยกระบอกบรรจุของเหลว แกนโลหะที่มีลูกสูบติดอยู่ตรงปลาย เรียกกว่า MAIN PISTON และวาล์ว ซึ่งอยู่บนลูกสูบ สร้างความหนืดด้วยของเหลวที่ไหลผ่านวาล์ว แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ โช้กอัพน้ำมัน และโช้กอัพแก๊ส

จากชื่อเรียกว่าน้ำมันหรือแก๊สนั่นเอง ที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า โช้กอัพทั้ง 2 แบบ สร้างความหนืดด้วยของเหลวต่างชนิดกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว ทั้งโช้กอัพน้ำมันและโช้กอัพแก๊ส ก็ทำงานด้วยของเหลวชนิดเดียวกัน คือ “น้ำมัน”

โช้กอัพน้ำมันล้วน กระบอก 2 ชั้น
เวลาที่โช้กอัพยุบหรือยืด ต้องมีแต่น้ำมันเท่านั้นที่ไหลผ่านวาล์ว จะมีอากาศไหลผ่านไม่ได้ ถ้ามีก็คือ พัง

ถ้าโช้กอัพน้ำมันล้วนทำกระบอกชั้นเดียว ภายในบรรจุน้ำมันไว้เต็ม (เพราะต้องไม่มีอากาศปนอยู่) เมื่อโช้กอัพยืดตัวสุด ด้านล่างของลูกสูบมีน้ำมันอยู่เต็ม โช้กอัพจะไม่สามารถยุบตัวได้ เนื่องจากแกนลงมาแทนที่น้ำมันไม่ได้ และกระบอกโช้กอัพก็ขยายตัวไม่ได้

ถ้าจะแก้ปัญหาโดยใส่น้ำมันไม่เต็มกระบอก เพื่อให้มีอากาศอยู่ภายในบ้าง แกนจะได้ยุบตัวได้ (อากาศพอจะยุบตัวได้) เมื่อโช้กอัพอยู่ในจังหวะยืดตัวสุด ลูกสูบและวาล์วก็จะเจอกับอากาศ

ดังนั้น โช้กอัพน้ำมันล้วนจึงต้องทำกระบอก 2 ชั้น โดยมีอากาศอยู่ที่กระบอกชั้นนอก เมื่อลูกสูบเลื่อนลงมาก็จะดันน้ำมันให้ไหลผ่าน FOOT VALVE ซึ่งอยู่ด้านล่างของกระบอกชั้นใน เข้าไปที่กระบอกชั้นนอก ไล่อากาศขึ้นไปอยู่ด้านบนของกระบอกชั้นนอก เมื่อลูกสูบเลื่อนขึ้นก็จะดูดน้ำมันที่กระบอกชั้นนอกกลับเข้ามาที่กระบอกชั้นใน
< br>ความหนืดของโช้กอัพแบบน้ำมันล้วนทั้งในจังหวะยุบหรือยืด ขึ้นอยู่กับวาล์วบนลูกสูบ และบน FOOT VALVE (ถ้ามี)

โช้กอัพแก๊ส ทำงานด้วยน้ำมัน
เมื่อได้ยินว่าเป็นโช้กอัพแก๊ส หลายคนเข้าใจว่าภายในกระบอกโลหะนั้นบรรจุแก๊สไว้เต็ม ใช้แก๊สในการสร้างความหนืด และคิดว่าแก๊สดีกว่าน้ำมัน เมื่อนำมาทำเป็นโช้กอัพจึงต้องดีกว่า และมีความหนืดมากกว่าโช้กอัพน้ำมันเสมอไป ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด

ที่ถูกต้อง คือ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นโช้กอัพแก๊ส แต่ก็สร้างความหนืดด้วยน้ำมันเป็นหลัก ส่วนจะหนืดมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบวาล์ว ไม่ใช่ว่าโช้กอัพแก๊สต้องหนืดกว่าโช้กอัพน้ำมันเสมอไป

ที่เรียกว่าโช้กอัพแก๊ ส เพราะมีการเพิ่มห้องแก๊สเล็ก ๆ อยู่ภายในกระบอก เป็นแก๊สที่มีแรงดันพอประมาณ ไม่ถึงกับสูงมาก วัตถุประสงค์จริง คือ ต้องการให้เป็นกระบอกชั้นเดียว ระบายความร้อนได้ดี และตัวลูกสูบมีขนาดใหญ่ โดยมี FLOATING PISTON กันระหว่างห้องแก๊สและน้ำมัน แก๊สมีคุณสมบัติคล้ายอากาศ คือ สามารถยุบตัวได้เล็กน้อย ดังนั้น เมื่อโช้กอัพยุบตัว ลูกสูบเลื่อนลง จึงบีบห้องแก๊สให้เล็กลง หมายความว่าต้องน้ำมันขยายใหญ่ขึ้น และเมื่อโช้กอัพยืดตัว ก็จะดูดน้ำมันกลับ ห้องแก๊สที่ถูกบีบก็จะยืดตัวกลับ

ทั้ง 2 แบบ มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย
โช้กอัพน้ำมันล้วน
ข้อดี – ผลิตง่าย เพราะในขั้นตอนการประกอบมีแค่น้ำมัน ไม่ต้องอัดแก๊ส ซึ่งยุ่งยากกว่า มีจุดรั่วน้อยกว่า เพราะไม่มี FLOATING PISTON ถ้าจะทำแบบปรับความหนืดได้ก็ไม่ยาก เพราะมีจุให้ปรับทั้งที่ลูกสูบ และ FOOT VALVE

ข้อเสีย – ระบายความร้อนไม่ค่อยดี เพราะเป็นกระบอก 2 ชั้น แต่ถ้าขับทางเรียบและเลือกใช้น้ำมันที่ทนความร้อนได้สูง ๆ ก็จะดีขึ้น และถ้าถูกจำกัดขนาดของกระบอก ลูกสูบภาในจะมีขนาดเล็ก เพราะเป็นกระบอก 2 ชั้น ทำให้ถูกจำกัดการออกแบบ

โช้กอัพแก๊ส
ข้อดี – ระบายความร้อนได้ดี รองรับการใช้งานหนัก

ข้อเสีย – ผลิตยาก เพราะต้องมีขั้นตอนการอัดแก๊ส รั่วง่าย ไม่ใช่รั่วออกมาภายนอก แต่เป็นการรั่วมาปนกันของน้ำมันและแก๊ส ผ่านทางซีลของ FLOATING PISTON

การออกแบบให้เป็นแบบปรับความหนืดได้ ทำได้ยากกว่า เพราะปรับได้เฉพาะวาล์วบนลูกสูบเท่านั้น ยิ่งถ้าต้องการให้แยกปรับได้ทั้งจังหวะยืดและยุบ ความสูงและต่ำ เรียกว่า 4 WAY ADJUSTABLE ก็จะยิ่งซับซ้อน สามารถทำได้ แต่ราคาแพงมาก

การที่เป็นกระบอกชั้นเดียว ถ้ากระบอกมีรอยตรงที่ลูกสูบวิ่งผ่าน ประสิทธิภาพก็จะไม่ดีเหมือนเดิม ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง โดยเฉพาะโช้กอัพแก๊สมือสองในเชียงกง ซึ่งมักขนส่งแบบไม่ค่อยระมัดระวัง

โช้กอัพรถแข่ง กระบอกชั้นเดียว
สำหรับรถแข่งที่ขับกันดุเดือดโดยเฉพาะแรลลี โช้กอัพทำงานหนักสุด ๆ จึงมักเน้นการระบายความร้อนด้วยการทำโช้กอัพเป็นกระบอกชั้นเดียว แต่อาจเป็นแบบน้ำมันล้วนก็ได้ โดยแยกห้องเล็ก ๆ หรือที่เรียกว่า SUB-TANK ติดตั้งไว้ในส่วนที่รับลมได้ดี ส่งน้ำมันระหว่างกระบอกหลักกับ SUB-TANK ผ่านทางท่อยางหรือสายสเตนเลสถัก

pkanketr จาก ตัวต่อ TOC-009 พฤหัสบดี, 1/1/2547 เวลา : 11:05   


คำตอบที่ 6
      

LoweAlpine จาก LoweAlpine /TOC096 203.170.129.160 พฤหัสบดี, 1/1/2547 เวลา : 12:50   


คำตอบที่ 7
       ผมก็เห็นด้วยกับคุณ Riderman นะครับ แม้กระทั่งตัวผมเอง ขณะที่เราใช้ยี่ห้อนั้นอยู่ก็อาจจะว่าดีอยู่แล้ว
อย่างที่บอกแหละครับ "ไม่ลองไม่รู้"
ถ้าในเรื่องของข็อมูลรายละเอียดทั่วไป ท่านใดมีก็มาช่วยลงกันหน่อยแล้วกัน อย่างน้อยก็เป็นความรู้แก่เพื่อนครับ
อ้อ...ผมลืมบอกไปนะว่า เจ้า Procomp ES จะเป็นระบบ กะบอกคู่ คือกระบอกสองชั้น ส่วนในรุ่น MX-6 จะเป็น MONO TUBE คือกระบอกเดียว
รบกวนคุณ Lowe Alpine มาห้ข้อมูลหน่อยเด้อ

pkanketr จาก ตัวต่อ TOC-009 203.154.152.254 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 06:59   


คำตอบที่ 8
       เหมือนอย่างที่พี่ตัวต่อว่ามานั่นแหละครับ การเซ็ทระบบช่วงล่างในรถแต่ละคัน แต่ละรุ่น เจ้าของคนละคน นี่เป็นเรื่องที่ยากนะครับ สิ่งที่สำคัญคือวัตถุประสงค์ในการใช้งานมาก่อนนะครับ (อันนี้จากประสบการณืในการเล่นรถเล็กนะครับ)
ถ้าเป็นกรณีใช้รถบนหลังถนนและต้องการความนุ่ทนวล เรามักใช้โช๊คอัพเป็นระบบน้ำมัน เพราะ โช๊คอัพน้ำมันจะคืนตัวหลังจากยุบสุดแล้วช้าๆ รถจึงได้ความนิ่มนวลมาครับ เรียกว่าเนประเภท Comfort
ส่วนเจ้าโช๊คอัพที่ใช้ระบบแก๊ส จะมีอัตราการคืนตัวค่อนข้างรวดเร็ว เพื่อให้รถกลับมาอยู่ในตำแหน่งปกติได้เร็ว ทำให้อาจรู้สึกว่ามีอาการกระด้างเกิดขึ้นในระบบ แต่จะได้เรื่องการทรงตัวที่ดีเป็นสิ่งตอบสนองกลับมา
ที่นี้การจัดโช๊คอัพแต่ละตัวมาใส่รถเราต้องดูลงไปอีกนะครับว่า โช๊ครุ่นนั้นๆ ออกแบบมาเพื่อใช้กับรถยนต์ที่มีระบบรองรับเป็นแบบใด เป็นสปริง แหนบ หรือทอร์ชั่นบาร์ เพราะอัตราการคืนตัวของแต่ละประเภทไม่เท่ากัน คือถ้าเป็นโชคอัพที่ออกแบบมาเพื่อให้กับระบบรองรับน้ำหนักที่เป็นสปริง อันการความหนือของโชคอัพจะสูง เพราะอัตราการคลายตัวของสปริงเร็วกว่าแหนบ และทอร์ชั่นบาร์ ....... ถ้าเอาโชคอัพที่ไว้สำหรับใส่รถสปริง มาใช้กับระบบแหนบ การทำงานจะไม่สัทพันธ์กันนะครับ ...... อันนี้ต้องดูนิดนึงนะครับ
เมื่อเลือกลักษณะการใช้งานได้แล้ว เลือกลักษณะโช๊คอัพให้สัมพันธ์กับระบบรองรับน้ำหนักในส่วนอื่นแล้ว คงต้องมาดูที่ว่ารถของเรามีโหลดน้ำหนักในส่วนไหนผิดไปจากมาตรฐานโรงงานหรือไม่ เพื่อเป็นการกำหนดค่าความหนืดของโชคอัพ อีกครั้ง รวมทั้งต้องทำการปรับปรุงระบบรองรับน้ำหนักส่วนอื่นๆ ตามไปด้วย เช่นแหนบ ทอร์ชั่นบาร์ สปริง เป็นต้น เพื่อให้รองรับกัน อันนี้รวมตลอดถึงความยาวของโช๊คอัพด้วยนะครับให้เพียงพอในระยะยืดและยุบสุดของนะบบรองรับน้ำหนัก
สุดท้ายก้อคงเป็นเรื่องที่หลังจากเปลี่ยนเสร็จแล้ว ทดสอบการใช้งานแหละครับ เพื่อปรับรถให้ตรงใจเราอีกครั้งหนึ่ง ตรงนี้นี่เองโช๊คอัพในระบบที่สามารถปรับความหนืดได้จะได้เปรียบครับ คือสามารถปรับให้ Soft หรือ Firm ตามสะดวกครับ ส่วนอื่นก้อสามารถปรับได้เล็กน้อยอย่างการขันทอร์ชั่นบาร์ หรือเสริมแหนบ ประมาณนั้น
สุดท้ายในความเห็นผมเองนะครับ ก่อนที่จะเสียสตางค์เป็นค่าปรับปรุงช่วงล่าง ต้องถามตัวเองให้หนักๆ เลยนะครับว่า จะตกแต่งรถอย่างไร เดิมๆ ยก 2 นิ้ว ยก 4 นิ้ว เพื่อจะได้เสียเงินค่าโช๊คอัพในคราวเดียว และที่สำคัญถ้าได้มีการทดสอบก่อน โดยการทดลองขับทดลองนั่งรถของท่านอื่นที่มีอุปกรณ์แวดล้อมใกล้เคียงกับรถของเรา เพื่อเป็นการจับอาการของรถ จะเป็นการดีครับ
ส่วนตัวผมเอง ใช้โช๊คอัพ Procomp MX6 ซึ่งเป็นระบบ Mono Tube สามารถปรับความหนืดได้ 6 ระดับ ทำงานด้วยก๊าซภายใต้แรงอัดในกระบอกโชคที่ 300 psi ค์กับทอร์ชั่นบาร์กับแหบน ARB ตัว heavy duty (แหนบเบอร์ 181 ) โดยส่วนตัวผมเองเท่าที่สสดลองและทดสอบในทาง 4x4 ผมว่าใช้ได้ดีเลยครับ แต่บนทางดำสำหรับคนที่เรียกหาความนิ่มนวลอาจจะไม่เหมาะกับชุดนี้นะครับ เพราะค่อนข้างไปทางหนึบ แต่ทรงตัวดี ไม่มีวอกแวก อะลืมบอกไปผมมีโหลดด้านหน้าเป็นกันชน+วินซ์+ไซด์เรียว และกันชนท้ายครับ

LoweAlpine จาก LoweAlpine /TOC096 203.170.142.83 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 11:45   


คำตอบที่ 9
       คงไปเจาะจงและแนะนำกันตรงๆลำบากครับองค์ประกอบเยอะ.....การใช้รถของเจ้าของรถด้วย....ว่าขับแบบไหน...เที่ยวแบบไหน....แต่งรถอย่างไร....งบประมาณจบที่ตรงไหน(อันนี้สำคัญมากๆๆ)....เพราะใอ้ที่เราเอยากได้เราชอบแต่ทุนไม่พอ.....หรือทุนพอแต่ชอบแบบนั้นแบบนี้....คงไปแน่ะนำกันที่เดียวไม่ได้แน่ครับค่อยดูค่อยศึกษาข้อมูลไปเรื่อยๆดีกว่าครับ..ไปลงที่เดียวแล้วเกิดไม่ชอบแบบนั้นขึ้นมาก้อจะต้องมาขายของเลหลังกันอีกเสียดายแย่เลย

aoddy จาก อ็อดนกเงือก001 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 12:22   


คำตอบที่ 10
       เรื่องเลือกช็อคอัพให้กับรถตัวเอง...ยังตอบยากเลยครับ
ผมก็มีความเห็นเหมือนพี่ๆข้างบนนั่นแหละ
เพียงแต่ขออนุญาตเสริมหน่อยนึง....
คือ....เลือกก่อนว่าควรเป็นแก๊ส หรือ น้ำมัน
แล้วก็...เลือกแบบปรับได้ไว้ก่อนเป็นดีครับ

แหลม จาก ไม่แหลม 203.152.41.4 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 12:31   


คำตอบที่ 11
       โอ้ว....... ทราบครับว่าแต่หละคนปรับแต่งรถกันคนหละแบบ แต่ใจที่ตั้งกะทู้นี้ขึ้นมาก้อเพื่อเวลามีคนเข้ามาใหม่จะมาหาข้อมูลเกี่ยวกับช็อคอัพจะได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องการไรมาก แค่อยากทราบว่ารุ่นนี้เป็นแก๊สหรือน้ำมัน แล้วปรับระดับได้ไหม เท่าที่เคยใช้มาค่อนข้างนิ่มหรือแข็งอย่างไร ทนทานไหม รั่วง่ายรึป่าว แกนกะบอกช็อคเท่าเดิม รึใหญ่กว่าเดิม อะไรประมาณนี้อะครับ เพราะเจอมากับตัวเองที่งมอยู่ตั้งนานยังไม่ทราบเลยว่าช็อคตัวไหนเป็นแบบไหนบ้าง จะได้เป็นทางลือกในการตัดสินใจที่แคบลงอะครับ เช่น ผมขับ Pre-Runner เดิมๆ ยางเดิม ไม่คิดยกสูงไปกว่านี้ ขับ On-Road 100 % แต่ตอนนี้รู้สึกรถเด้งไป เลยอยากหาช็อคอัพใหม่ เน้นความนุ่มนวล เลยมองไปที่ช็อคน้ำมัน ซึ่งคิดว่าจะหาขนาดที่ขนาดแกนใหญ่กว่าเดิม พอรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ตัวเลือกของช็อคเมื่อได้มาอ่านกะทู้นี้จะได้แคบลงไงครับ

จาก Gunnnn 203.113.45.198 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 15:26   


คำตอบที่ 12
       โช้คแก๊สดูอย่างง่ายๆ ลักษณะการทำงานมันจะดันออกตลอดเวลา

noi 316 จาก หน่อย TOC - 008 203.149.16.200 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 15:33   


คำตอบที่ 13
       เพิ่มเติมอีกหน่อยนะครับ โช็คที่ปรับระดับความแข็งได้จะมีลูกบิดสำหรับหมุนปรับแต่งความแข็งติดอยู่กับตัวโช็ค

noi 316 จาก หน่อย TOC - 008 203.149.16.200 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 15:37   


คำตอบที่ 14
       จริงอย่างที่หลายท่านกล่าวมาไม่มีอะไรตายตัว แล้วแต่ฟิลลิ่งใครฟิลลิ่งมัน ถ้าจะให้ดีก็ขอลองขับของเพื่อนๆก่อนว่าชอบแบบไหนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

addkeans จาก addkeans 210.203.175.244 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 15:48   


คำตอบที่ 15
       ความเห็นส่วนตัวจริงๆ นะครับ ผมใช้สตราด้า 4 ประตู ใช้ rancho9000X ทั้งหน้าและหลังปรับระดับได้ 9 ระดับ ด้านหน้าผมใส่กันชนเหล็กทรงเออาร์บี ของเปี๊ยก ติดวินช์ แม้ว่าด้านหน้าผมจะปรับโชคให้แข็ง (เบอร์ 7 ใกลัเคียงเบอร์ 4 ของรันโช่อาร์เอสตัวเก่า ไม่กล้าปรับเบอร์ 9 แข็งสุด กลัวเจ๊ง ) ความรู้สึกก็ว่ามันยังนิ่มไปอยู่ดีครับ คือลงสะพานแล้วมีอาการหน้ายวบเล็กน้อย เล็กน้อยจริงๆครับบางคนอาจไม่รู้สึก ไม่เสียการทรงตัว (คืออยากหนึบกว่านี้ ไม่รู้จักพอ ฮิๆๆ) แต่ด้านหลังปรับไว้เบอร์ 5 ก็โอเคครับ ช่วยในเรื่องการกระเด้งกระดอนได้ ก็ถ้าเป็นผมจากประสบการณ์ที่ใช้รันโช่ (โช้คน้ำมัน )อยู่ตอนนี้ ถ้าคิดจะติดวินช์ กับกันชน ผมว่าหาที่เป็นโช๊คแก็สดีกว่าครับ จะได้หนึบกว่านี้ ถ้าไม่ติดกันชนกับวินช์อาจจะดีก็ได้ครับ
เล่าประสบการณ์เป็นทางเลือกแล้วกันนะครับ บางคนอาจจะรู้สึกไม่เหมือนผมก็ได้

จาก บองโก้ 203.130.145.55 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 16:10   


คำตอบที่ 16
       ผมได้ทดลองเปลี่ยนชฅ็อคเป็นน้ำมันแล้วเสริมช็อคเดิมให้เป็นกึ่งกันเสกึ่งซับแรงกระแทก (งงหรือป่าวคับ) คือว่า เปลี่ยนช็อคน้ำมันแบบปรับระดับได้ แทนที่ของเดิม เพื่อการใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น แต่จะมีปัฃญหาเมื่อใช้ความเร็ว จะโคลงมากหน่อย เนื่องจาก ช่วงล่างให้ตัวมากเกินไป จึงนำช็อคแก๊สเดิม มาเชื่อมตรงจุดเชื่อมระหว่างแหนบกับเพลา (ตรงสาแหรก) โดยทำก้อนเหล็กมีขายึดหูช็อคขึ้นมา แล้วทำคานเหล็กรับด้านบน โดยเชื่อมจากคัสซี แล้วยึดช็อคแก๊สอันเดิมเข้าไป ทดลองแล้วโดยปรับระดับช็อคน้ำมันให้อ่อนสุด เมื่อวิ่งบนถนนดำ เข้าโค้งได้ดีขึ้นมาก และเมื่อต้องการลุย ก็เพียงปรับช็อคน้ำมันให้แข็งขึ้น ก็โอเคแล้วคับ.........//
หรือถ้าช่วฃล่างให้ตัวไม่สุด ก็ให้ทำจุดยึดหูบนของช็อคแก๊สแบบปรับสูง-ต่ำได้ เมื่อปรับให้สูง จะหนึบให้ตัวน้อย และกลับกันเมื่อปรับให้ต่ำลงจะทำให้ช่วงล่างให้ตัวมากขึ้นคับผม.......//

จาก ทอมมี่ - Prerunner 210.203.175.244 จันทร์, 29/12/2546 เวลา : 16:11   


คำตอบที่ 17
       ...ลองไล่ระดับบุคคลิคของแต่ละตัวจากความรู้สึกของผมเท่าที่เคยใช้มา

1. Rancho RS9000 นุ่มนิ่ม ปรับได้ ข้อเสียต้องระวังของปลอม
2. OME นุ่มหนึบ ต้องระวังว่าจะเจอเจ็คพอร์ตรั่วได้
3. XGS (TJM) นุ่มหนึบขึ้นมาอีกหน่อย แต่ไม่ค่อยมีของขาย
4. Procomp EX9000 แข็งหนึบ จนออกไปทางกระด้าง

อันนี้เฉพาะแบบแก๊ซนะครับ...

โดยส่วนตัวผมชอบ XGS ครับไม่แข็งจนเกินไป ไม่นุ่มเกินไป แม้เปลี่ยนเป็นกันชนเหล็ก ติดวินส์ก็ยังรับได้ แต่หลังจากเปลี่ยนทอร์ชั่นของ ARB ไปมันเริ่มพยักหน้าก็เอา ES9000 มาใส่ก็ดีขึ้น

Black Tiger จาก น้องแบล็ค 211.19.45.217 อังคาร, 6/1/2547 เวลา : 10:44   


คำตอบที่ 18
       อยากทราบว่าถ้าเราเปลี่ยน โช๊คอัพใหม่แล้ว ความสูงของรถจะสูงขึ้นหรือป่าวครับ

โลมาทอง จาก โลมาทอง-TOC-226 203.155.236.176 พุธ, 7/1/2547 เวลา : 10:41   


คำตอบที่ 19
       ไม่เปลี่ยนครับ ความสูงของรถได้มาจากความสูงของยาง แต่จะใส่้ยางใหญ่มากกว่าซุ้มล้อ มีวิธีทำ ได้2อย่าง คือ 1 . ยกช่วงล่างขึ้นที่เรานิยมเรียกกันยก 2 หรือ4นิ้วเป็นต้น 2.ยกบอดี้คือยกตัวถังขึ้น วิธีนี้ต้องหมั่นตรวจสอบน๊อตยึอบอดี้บ่อยๆ

noi 316 จาก หน่อย TOC - 008 203.149.16.205 พุธ, 7/1/2547 เวลา : 11:26   

กระทู้ข้อมูลเก่า สำหรับอ่านได้อย่างเดียว

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



      




Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันจันทร์,3 มิถุนายน 2567 (Online 1950 คน)