WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ตำนาน กระบะโตโยต้า ครับ ลองอ่านกันดู
มืด
จาก มืด TOC-101
203.113.33.10
เสาร์ที่ , 10/1/2547
เวลา : 20:51

อ่านแล้ว = 6731 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       1. กำเนิดเริ่มแรกของรถกระบะ TOYOTA ในประเทศไทย เริ่มเมื่อปี พศ.2511(คศ.1968) เปิดตัวครั้งแรกในชื่อของ “ TOYOPET” ด้วยรุ่น RN10 เป็นเครื่องเบ็นซินในรหัส 2R ซึ่งการใช้ชื่อดังกล่าวจะเป็นกันอยู่แค่ระยะเวลาเดียวโดยในปีต่อๆมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อ TOYOTA มาจนถึงปัจจุบัน
เครื่องยนต์ “ 2 R ” : เบ็นซิน 4 สูบเรียง โอเวอร์เฮดวาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ : 1,490 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 78 X 78 มม.
แรงม้าสูงสุด : 66 kw ที่ 5,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 124 nm






คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       ข้อมูลใช่อย่างที่คุณ rider man ว่า ผมบังเอิญไปอ่านเจอของหลาน จำไม่ได้ว่าฉบับที่เท่าไร ขอฉีกเขามา แล้วก็มาทำให้เพื่อนสมาชิกอ่านกัน ตัวผมเองไม่ค่อยมีความรู้ซักเท่าไร ครับ
คุณ LN10678 ถ้าใช่คุณก็เป็นหนึ่งในตำนาน เลยนะครับ ผมสแกนมาจากหนังสือทั้งหมดเลย คงไม่ซีเรียสนะครับ
คุณตากอล์ฟผมไม่ใช่แฟนพันธ์แท้อะไรหรอกครับ ทั้งรักทั้งเกลียดมากกว่า โธ่ เดือน 10-11 ผมวิ่งเข้าออกศูนย์ 11 ครั้ง เกือบ 13 วัน สาเหตุน้ำมันเครื่องรั่ว กะ มีจารบีซึมตรงยางหุ้มเพลาหน้า เล่นพักร้อนผมซะเกลี้ยงแถมหนีงานอีกต่างหาก เลยต้องไปดูตำนานเขาหน่อยว่าเป็นมาอย่างไร

จาก มืด TOC-101 203.121.187.225 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 20:51   


คำตอบที่ 2
       2. ต่อมาอีก 4ปี พศ.2515 (คศ.1972) รุ่นที่สองก็เกิดขึ้นด้วยตัวถังแบบใหม่หมด พร้อมได้เปลี่ยนการเรียกขานกันใหม่ เป็น TOYOTA “Hilux” แบ่งเป็นรุ่น ช่วงสั้น RN20 และ ช่วงยาว RN25 เครื่องยนต์เบ็นซิน ในรหัส 12R
เครื่องยนต์ “ 12 R ” : เบ็นซิน 4 สูบเรียง โอเวอร์เฮดวาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ : 1,587 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 80.5 X 78 มม.
แรงม้าสูงสุด : 66 kw ที่ 5,400 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 133 nm




มืด จาก มืด TOC-101 203.113.33.10 เสาร์, 10/1/2547 เวลา : 20:56   


คำตอบที่ 3
       3. พศ.2522 (คศ.1979) เป็นการเปลี่ยนรูปโฉมของตัวรถ เริ่มมีทรวดทรงที่เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ด้วยลักษณะของความโค้งมนทางด้านหน้ารถ และใช้ไฟหน้าในรูปแบบ ไฟกลม เรียกว่ารุ่น Hilux Super Star รหัส RN30 ซึ่งจะมีแบบช่วงยาว ให้เลือกหาในรุ่น RN40 เครื่องยนต์ยังเป็น 12R เหมือนเดิม ผู้ใช้ทั่วไปจะนิยมเรียกว่า “รุ่นม้ากระโดด"
4. พศ.2533 (คศ.1980) เป็นการเปิดศักราชการใช้ เครื่องยนต์ดีเซล ในรถกระบะ Toyota ครั้งแรก โดยติดตั้งบนบอดี้ Hilux Super Star เครื่องยนต์รหัส L 2,200 ซีซี วงการสมัยเรียกว่า “รุ่นกรุง ศรีวิไล” และเปลี่ยนโคมไฟหน้าแบบสี่เหลี่ยมมน นอกจากนั้นยังมีรุ่น 4 WD ซึ่งถือได้ว่าเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่ถูกส่งเข้ามาอย่างเป็นทางการรุ่นแรก โดยเป็นการสั่งเข้ามาใช้ของหน่วยงานราชการได้แก่ กรมป่าไม้, กรมแผนที่ทหาร
เครื่องยนต์ “ L” : ดีเซล 4 สูบเรียง OHV
ปริมาตรกระบอกสูบ : 2,188 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 90 X 86 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด : 21.5 : 1
แรงม้าสูงสุด : 55 kw ที่ 4,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 130 nm ที่ 2,400 รอบ/นาที
อธิบายรูป
1. รุ่นกรุง ศรีวิไล 2. รุ่น 4 WD
3. ดับเบิ้ลแค็ป 4x4




มืด จาก มืด TOC-101 203.113.33.10 เสาร์, 10/1/2547 เวลา : 21:00   


คำตอบที่ 4
       5. จากนั้น พศ.2527 (คศ.1984) ได้มีการเปลี่ยนตัวถังใช้ชื่อรุ่นว่า Hercules เครื่องยนต์ เบ็นซินรุ่น 1Y, ดีเซลเป็น 2L ที่ย้ายแค็มชาฟท์ ขึ้นมาอยู่ในลักษณะ OHC แล้วเพิ่มความจุขึ้นไปในระดับ 2,500 ซีซี โดยมีแรงม้าสูงสุดเท่าเดิมแต่มากันครบตั้งแต่ในรอบเครื่องที่ต่ำกว่า และได้แรงบิดที่มีขึ้นในรอบเครื่องที่น้อยกว่าเช่นกัน
เครื่องยนต์ “ 2L” : ดีเซล 4 สูบเรียง OHC
ปริมาตรกระบอกสูบ : 2,446 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 92 X 92 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด : 22.3 : 1
แรงม้าสูงสุด : 55 kw ที่ 4,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 156 nm ที่ 2,200 รอบ/นาที




มืด จาก มืดTOC-101 203.113.33.10 เสาร์, 10/1/2547 เวลา : 21:03   


คำตอบที่ 5
       6. ในช่วงเวลาของปี พศ.2530 (คศ.1987) ได้มีการขยับขยายจัดตั้งโรงงานประกอบและผลิตเครื่องยนต์โดยการร่วมทุนกับ บริษัท สยามซีเมนต์ จำกัด และผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ในประเทศไทยด้วยการก่อตั้ง บริษัท สยามโตโยต้าแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ขึ้นพร้อมกันนั้นก็ได้ทำการเปิดตัวรุ่น Hilux Hero ซึ่งจะยังคงใช้โครงสร้างหัวเก๋งทรงเดิมแต่เปลี่ยนส่วนประกอบอื่นๆ เช่น หน้ากระจัง ให้เป็นทรงใหม่พร้อมกับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซล มาเป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เป็น 2 L II ที่มีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นมาอีก 2kw แต่แรงบิด สูงสุดจะใช้รอบเครื่องสูงขึ้นไปอีกนิดเป็นที่ 2,400 รอบแล้วเปลี่ยนเครื่องเบ็นซินให้เป็นรหัส 2Y ที่มีความจุมากขึ้นเป็นระดับ 1,800 ซีซี. นอกจากนั้นก็ยังจะเริ่มมีรุ่นดับเบิ้ลแค็บ ออกมาให้สั่งทำผ่านทางผู้แทนจำหน่ายในฐานะ รถกระบะดัดแปลง โดยในช่วงท้ายๆ ของรุ่นยังได้นำรูปแบบ X-tra Cab ออกมาต่อสู้กับคู่แข่งเป็นครั้งแรก แต่ด้วยเหตุที่รูปแบบมาตรฐานที่มีใช้อยู่กับรุ่นที่ขายใน อเมริกา จะมีส่วนของแค็บที่ยืนออกไปทางด้านหลังแค่กระติ๊ดเดียวจึงมีการออกแบบดัดแปลงเฉพาะแค่รุ่นในประเทศไทยให้ใหญ่ และยาวขึ้นแถมยังมีส่วนของ หลังคา เป็นแบบ Hi-roof น้อยๆ อีกด้วย
เครื่องยนต์ “ 2L II ” : ดีเซล 4 สูบเรียง OHC
ปริมาตรกระบอกสูบ : 2,446 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 92 X 92 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด : 22.3 : 1
แรงม้าสูงสุด : 57 kw ที่ 5,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 157 nm ที่ 2,400 รอบ/นาที
อธิบายรูป
1. LN 60 2. หน้ากระจังแบบ 4 ช่อง เครื่อง 2 LII
3. LN 65 ดับเบิ้ลแค็ป 4x4 4. Hero แบบ X-tra Cab หลังคาแบบ Hi-roof
5. Hero ดับเบิ้ลแค็ป




มืด จาก มืดTOC-101 203.113.33.10 เสาร์, 10/1/2547 เวลา : 21:07   


คำตอบที่ 6
       7. ครั้นถึง พศ.2533 ก็เริ่มเข้าสู่ยุคของ “Mighty X” โดยจะยังคงนำเอา “เครื่องดีเซล” ในรหัส ”2 L II” มาใช้เป็นหลัก พร้อมกันนั้นก็เปลี่ยน เครื่องเบ็นซิน ให้โตขึ้นไปเป็นรหัส 3Y ที่มีความจุอยู่ในพิกัด 2,000 ซีซี.สำหรับรุ่น Mighty X ดังกล่าวนี้นับได้ว่าเป็นรุ่นที่มีช่วงเวลาในการวางจำหน่ายยืนยาวมากที่สุด โดยตลอดระยะเวลาที่เสนอตัวอยู่ในตลาดก็ยังจะได้รับการปรับโฉมใหม่ออกมาเป็นช่วงๆ หลายครั้งด้วยกัน ซึ่งจะเริ่มจากโฉมแรกที่เป็นแบบ ไฟเว้าลึก และใช้ไฟเลี้ยวตรงมุมหน้ารถเป็นแบบเอียงลงโดยที่ตรง ขอบวงบังโคลนล้อจะเป็นแบบเรียบๆ ไม่มีโป่ง ซึ่งก็ยังจะมีให้เลือกซื้อทั้ง เบ็นซิน-ดีเซล พร้อมกับมี รุ่น 4X4 ประกอบจากนอกที่เรารู้จักกันในนามของ “LN106” แบบหัวเก๋งตอนเดียว ซึ่งใช้ช่วงล่างแบบ หน้าแหนบ-หลังแหนบ และวางไว้ด้วยเครื่องดีเซลในรหัส 3 L เข้ามาให้เลือกสั่งกันได้อีกด้วย ถัดจากนั้นมาอีกสี่ปีซึ่งก็คือในปี คศ.1994 มีการปรับโฉมครั้งแรกด้วยการเปลี่ยนเฉพาะกระบะให้กลายไปเป็นแบบขอบเรียบไม่มีร่องสะเอว และมี โป่งล้อ ด้านหลังเป็นขอบบวม ออกมา เหมือนรุ่น 4x4 โดยที่ยังจะมีรายละเอียดทางด้านหน้าเป็นทรงเดิม แถมด้วยการนำรุ่น SR5 ในรูปแบบ X-Tra Cab หัวเก๋งตอนครึ่งและใช้ช่วงล่างแบบ หน้าทอร์ชั่น-หลังแหนบ พร้อมเครื่องตัวเก่งในรหัส 3L ที่ผลิตจาก ออสเตรเลียเข้ามาจำหน่ายโดยในส่วนของรุ่น เครื่องยนต์เบ็นซิน ก็จะถูกถอดออกจากสายพานการผลิตนับแต่ในช่วงนี้ แถมด้วยการเปิดตัว Taw ซึ่งเป็นโรงงานในเครือ เพื่อทำหน้าที่ในการประกอบ รถกระบะดัดแปลง อันได้แก่รุ่น ดับเบิ้ลแค็บ ออกมาอย่างเป็นทางการ และอีกแค่เพียงสองปีต่อมา หรือใน คศ.1996 ก็ปรับโฉมอีกครั้งด้วยรุ่น ไฟเต็ม ที่เปลี่ยนด้านหน้าให้เหมือนรุ่น 4x4 ที่มีไฟเลี้ยวทรงเฉียงขึ้นพร้อมด้วย โป่งล้อหน้า แล้วเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ให้ด้วยเกียร์อัตโนมัติ ที่ควบคู่มากับเครื่อง 2 L II โดยในช่วงปลายปีเดียวกันก็เพิ่มทางเลือกมาให้ด้วยรุ่น Mighty X-Plus เปลี่ยนแปลงพลังเป็นเครื่อง 3 L ในระดับ 2,800 ซีซี .
เครื่องยนต์ “ 3 L” : ดีเซล 4 สูบเรียง OHC
ปริมาตรกระบอกสูบ : 2,779 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 96 X 96 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด : 22.2 : 1
แรงม้าสูงสุด : 64 kw ที่ 3,800 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 178 nm ที่ 2,400 รอบ/นาที

มืด จาก มืดTOC-101 203.113.33.10 เสาร์, 10/1/2547 เวลา : 21:10   


คำตอบที่ 7
       อธิบายรูป
1.ไฟหน้าเว้า ชอบบังโคลนเรียบ 2. LN 160 ขับ 4 หน้าและหลังแหนบ 3. กระบะขอบเรียบ โป่งหลังบวม
4. ไฟเต็มพร้อมโป่งหน้า 5. ดับเบิ้ลแค็ป โดย TAW 6. SR5 (LN 111) นำเข้าจาก ออสเตรเลีย
7. Mighty X-plus วาง 3 L มีไฟเบรคบนหลังคา




มืด จาก มืด TOC-101 203.113.33.10 เสาร์, 10/1/2547 เวลา : 21:13   


คำตอบที่ 8
       8. ในช่วงปลายปี พศ.2541 หรือ คศ.1998 Toyota Hilux ก็ได้มีการเปลี่ยนโครงสร้างของตัวรถด้วยโฉมที่เรียกชื่อเพิ่มต่อจากเดิมว่า Tiger โดยการแนะนำตัวในครั้งแรกจะมีมากันแบบครบเครื่องทั้งแบบ 4x2 และ 4x4 พร้อมด้วยแหล่งพลังในรูปแบบ ดีเซลล้วนๆ สองเครื่องนั่นคือ 2L II ตัวดั้งเดิมและ 5L ตัวใหม่ในระดับ 3,000 ซีซี แต่ปรากฎว่าพลังที่ได้จากเครื่องใหม่ที่มีขนาดความจุเพิ่มขึ้นมาอีกมิใช่น้อยนั้นกลับไม่ค่อยเป็นที่น่าประทับใจนักทั้งในเรื่องของความแรงและความประหยัด ในอีกสองปีต่อมาคือ พศ.2543 (คศ.2000) ที่มีการบังคับใช้ข้อกำหนดในเรื่องของ ค่าไอเสีย มิให้พ่นมลภาวะออกมาในระดับที่เทียบได้กับ ยูโร II เพื่อเป็นการรองรับมาตรการคุมเข้มดังกล่าวจึงได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยการนำชุดควบคุมอิเล็คทรอนิคส์มาติดตั้งเข้าไประบบปั๊มหัวฉีดจนกลายมาเป็น 5L-E ที่ให้พลกำลังเพิ่มขึ้นมาอีกนิด พร้อมกันนั้นก็นำความแรงในพิกัด 3,000 ซีซี-เทอร์โบ ที่ได้มาจาก 1 KZ-TE เพิ่มเข้ามาในแถวและจัดให้เป็นรุ่นสุดยอด ซึ่งปรากฎว่าสถานการณ์โดยรวมก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ในปี พศ.2544 (คศ.2001) นี้จึงต้องนำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในระดับ Direc Injection-DOHC-16 Value-Turbo-Common rail ได้เข้ามาเสริมขบวนดังที่เป็นเครื่องยนต์ล่าสุดอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนั้นในเรื่องรูปทรงของตัวรถก็ยังได้นำรูปแบบ ดับเบิ้ลแค็บ ให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มที่ออกมาจากสายพานการผลิต ซึ่งถือได้ว่าเป็นผลิตผลจากโรงงานโดยตรงไม่ใช่ รถกระบะดัดแปลง กันอีกแล้ว….
เครื่องยนต์ “ 5 L” : ดีเซล 4 สูบเรียง OHC
ปริมาตรกระบอกสูบ : 2,986 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 99.5 X 96 มม.
แรงม้าสูงสุด : 66 kw ที่ 4,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 192 nm ที่ 2,400 รอบ/นาที
-------------------------------
เครื่องยนต์ “ 5 LE ” : ดีเซล 4 สูบเรียง OHC
ปริมาตรกระบอกสูบ : 2,986 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 99.5 X 96 มม.
แรงม้าสูงสุด : 71 kw ที่ 4,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 200 nm ที่ 2,600 รอบ/นาที
------------------------------
เครื่องยนต์ “ 1 KZ ” : ดีเซล 4 สูบเรียง OHC 8 วาล์ว เทอร์โบ
ปริมาตรกระบอกสูบ : 2,982 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 96 X 103 มม.
แรงม้าสูงสุด : 85 kw ที่ 3,600 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 315 nm ที่ 2,000 รอบ/นาที

มืด จาก มืด TOC-101 203.113.33.10 เสาร์, 10/1/2547 เวลา : 21:14   


คำตอบที่ 9
       อธิบายรูป
1. โฉมแรก Tiger 2. ขับ 4 ประกอบในประเทศรุ่นแรก
3. Tiger ดับเบิ้ลแค็ป 4. Tiger รุ่นล่าสุด

จบแล้วครับ ผิดพลาดอย่างไรเพื่อนสมาชิกแก้ไขข้อมูลให้ด้วย นะครับ แบบว่าไม่ยอมรับผิดอะครับ
ตำนานยาวนานจัง มิน่าถึงเล่นตัว อิอิ



มืด จาก มืด TOC-101 203.113.33.10 เสาร์, 10/1/2547 เวลา : 21:23   


คำตอบที่ 10
       เป็นแฟนพันธุ์แท้ Toyota แน่เลยคุณมืด

ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบบบบ...............



ตากอล์ฟ จาก ตากอล์ฟ ตามตะวัน 203.144.251.253 เสาร์, 10/1/2547 เวลา : 22:08   


คำตอบที่ 11
       แล้วยังทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

SanyaP จาก Kungd4d 202.47.247.130 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 00:12   


คำตอบที่ 12
       คำตอบที่ 6 , รูปที่ 6 ดูคุ้นๆมันเป็นรถของผมนี่นา......มาอยู่ในนี้ได้ไง....555

sumeth จาก Ln10678 203.170.154.133 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 09:05   


คำตอบที่ 13
       รบกวนถามคุณมืดว่า LN111 ที่ว่านำเข้าจากออสเตรเลีย นี่หมายความว่า ญี่ปุ่นผลิต แล้วส่งออสเตรเลีย แล้วจึงวกมาเข้าไทย หรือว่า ออสเตรเลียประกอบ + ผลิต ทั้งคัน แล้วไทยนำเข้า หรือว่าออสเตรเลียผลิต แค่เครื่องยนต์ ครับ คือว่าสงสัยมานานแล้วครับ ขอบคุณครับ

timsum จาก เอธ / ราดหน้า 161.200.255.161 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 09:25   


คำตอบที่ 14
       สุดยอดครับ

ike จาก โซดา 203.170.254.210 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 09:50   


คำตอบที่ 15
       ขอขอบคุณ..ข้อมูลดีจัง

hs0gxm จาก มังกรTOC178 203.149.47.126 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 10:00   


คำตอบที่ 16
       สุดยอดแฟนพันธ์แท้....ยอด...

addkeans จาก addkeans 203.148.252.234 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 10:07   


คำตอบที่ 17
       สงสัยเหมือนกันเคยสอบถามเพื่อนที่ ออสเตรเลียเขาว่าที่ออสเตรเลียมีไลน์การผลิตของรถเก๋งเท่านั้นส่วนพวกรถ ออฟโรคผลิตที่ญี่ปุ่นแต่ SPEC. ออสเตรเลียอย่างเช่น PRADO ก็เคยเข้าใจว่านำเข้าจากออสเตรเลีย, แต่CAMRY ลง PLATE เลยว่าทำที่ ออสเตรเลีย, ส่วนข้อมูลทั้งหมดของคุณมืด TOC-101 บอกคำเดียวว่า ยอดเยี่ยม

จาก RML-TOC254 203.149.38.125 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 10:11   


คำตอบที่ 18
       เอาตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้ไปเลยครับ คุณมืด TOC-101

พี่ Ln10678 สงสัยไปประกาศขายที่ไหนหรือป่าวครับ เขาเลยเอารูปมาลง แล้วก็ดีใจด้วยน่ะครับที่ได้ลูกสาว อีกหน่อยต้องไว้หนวด ไว้เครา เพิ่มเติมแล้วครับ

สวัสดีครับ เอธ / ราดหน้า เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลยน่ะครับ สบายดีหรือป่าวครับ ผมว่า LN111 น่าจะผลิตที่ญี่ปุ่นแต่ส่งไปใช้ยังออสเตรเลียโดยยึดถือเสป็คตามที่ออสเตรเลียต้องการมากกว่าน่ะครับ เพราะผมว่าที่ออสเตรเลียไม่น่าจะมีไลน์ประกอบในส่วนของรถกระบะของทางโตโยต้าน่ะครับ สงสัยต้องให้บรรดาแฟนพันธุ์แท้ LN 111 มาช่วยกันตอบอีกครั้งครับ

Karn  Phakakaew จาก Joting TOC-042 ( ช่วงอย่างรู้ อยากเห็น ) จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 10:23   


คำตอบที่ 19
       น้ามืด101เยี่ยมจริงๆ ..หรือสมาชิกท่านใดต้องการเก็บข้อมูลประวัติชุดนี้ไว้สามารถหาเก็บสะสมได้ใน..หนังสือนักเลงรถกระบะ..ฉบับที่146ประจำเดือนธันวาคมปี2544

rider man จาก rider man 203.144.143.250 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 10:27   


คำตอบที่ 20
      

SanyaP จาก Kungd4d TOC 268 202.47.247.130 จันทร์, 12/1/2547 เวลา : 23:05   


คำตอบที่ 21
       เยี่ยมมากครับพี่มืด ได้ความรู้อีกเยอะเลยครับ เห็นข้อมูลนี้แล้วก็ทำให้นึกถึงความหลังครั้งเมื่อตอนสมัยเรียนเทคนิคฯ เพื่อนขับไมตี้ X โหลดแป๊ก เครื่องเสียงดังๆมีสาวๆนั่งมาเต็มรถเลย เราก็หวังไว้ว่าถ้ามีโอกาสซื้อรถเราจะต้องซื้อรถ TOYOTA ให้ได้จะได้มีสาวๆเต็มรถมั่ง และแล้วฝันก็เป็นจริง ก็มีโอกาสซื้อไทเกอร์ 4 ประตู สาวๆเต็มรถเลยครับ ทั้ง ผบ.,ลูกสาว,หลานสาว,แม่ยาย,แม่ตัว,พี่สาว ไปไหนทีก็เต็มรถเลยครับ.......

ปล. ลูกสาววิ่งได้หรือยังครับพี่มืด จำได้ว่าลูกสาวพี่มืดอายุไร่เรี่ยกับยัยหนูของผม ยัยหนูของผมก็ตื่นมาก็หารองเท้าเลยครับ เอามาให้ใส่ให้แล้วให้พาออกไปเดินเล่นจนมาทำงานสายประจำเลยครับช่วงนี้

จาก TOC.806/บุญแช่ม 192.55.18.36 อังคาร, 13/1/2547 เวลา : 09:03   


คำตอบที่ 22
       ขอบคุณครับ

เวก้า ดำ จาก TOC 175 57.72.66.21 อังคาร, 13/1/2547 เวลา : 10:13   


คำตอบที่ 23
       หวัดดีคุณบุญแช่ม ขอบคุณที่ยังจำกันได้ ผมก็ติดตามสาระของคุณเป็นปะจำเหมือนกัน ยัยหนูผมอ้วนไปหน่อยยังเดินไม่ได้เลยครับ กำลังลดหุ่นอยู่ คงเร็วๆนี้ล่ะครับ

จาก มืด TOC-101 203.121.187.225 อังคาร, 13/1/2547 เวลา : 13:20   


คำตอบที่ 24
       ผมใช้ HERO รุ่นปี 2533 อยู่ กินน้ำมันเครื่องมาก 600 ก.ม.น้ำมันเครื่องหายไปเป็นลิตร ทำไงดี ระหว่าง ฟิตใหม่ กับเปลี่ยนเครื่อง อ้อ มีรอยน้ำมันเครื่องหยดเวลาจอด อ้อตรงท้ายเกียร์ที่ต่อกับเพลาขับ มีรอยน้ำมันซึม ทำไงดี

จาก ฮีโร่เก่า 210.203.175.244 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 13:09   


คำตอบที่ 25
       คุณฮีโร่เก่า , ผมว่านะเปลี่ยนเครื่องเป็นทางออกที่ดีครับ...

sumeth จาก Ln10678 169.210.49.98 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 13:57   


คำตอบที่ 26
      

ธนาคม จาก นู๋นุ่น 158.108.194.234 พุธ, 16/3/2548 เวลา : 13:01   


คำตอบที่ 27
       รุ่น Mighty X มีความจุของถังน้ำมันเท่าไรครับ ได้รถมา แต่ตัววัดระดับน้ำมัน มันโกง

จาก สาม 210.1.22.140 พุธ, 16/3/2548 เวลา : 12:53   


คำตอบที่ 28
       พศ.2533 (คศ.1980) เป็นการเปิดศักราชการใช้ เครื่องยนต์ดีเซล ในรถกระบะ Toyota ครั้งแรก โดยติดตั้งบนบอดี้ Hilux Super Star เครื่องยนต์รหัส L 2,200 ซีซี วงการสมัยเรียกว่า “รุ่นกรุง ศรีวิไล” และเปลี่ยนโคมไฟหน้าแบบสี่เหลี่ยมมน นอกจากนั้นยังมีรุ่น 4 WD ซึ่งถือได้ว่าเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่ถูกส่งเข้ามาอย่างเป็นทางการรุ่นแรก โดยเป็นการสั่งเข้ามาใช้ของหน่วยงานราชการได้แก่ กรมป่าไม้, กรมแผนที่ทหาร
เครื่องยนต์ “ L” : ดีเซล 4 สูบเรียง OHV
ปริมาตรกระบอกสูบ : 2,188 ซีซี
กระบอกสูบ X ช่วงชัก : 90 X 86 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด : 21.5 : 1
แรงม้าสูงสุด : 55 kw ที่ 4,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด : 130 nm ที่ 2,400 รอบ/นาที
อธิบายรูป
1. รุ่นกรุง ศรีวิไล 2. รุ่น 4 WD
3. ดับเบิ้ลแค็ป 4x4

ขอโทษนะครับ ผมเคยใช้รุ่นนี้เป็น 4WD เบนซิน โดยซื้อมาใช้ในหน่วยราชการ และผมใช้เอง รุ่นนี้เมื่อปี 2526 ผมมีส่วนรับรู้ และใช้งานถึง 3 คัน ดังนั้น พ.ศ. 2525 ในประเทศไทยมีให้เห็นและใช้กันแล้วครับ

จาก 106 158.108.82.244 จันทร์, 28/3/2548 เวลา : 16:33   


คำตอบที่ 29
       ขอบคุณครับที่ท้วงมา ผมน่าจะคีย์ผิดมากกว่า "พศ.2533 (คศ.1980)" แปลง คศ. เป็น พศ. 1980 บวก 543 เท่ากับ พศ. 2523 เป็นคำตอบที่ถูกต้อง ครับ
เนื้อหาส่วนใหญ่ผมคัดลอกอีกที ส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องรถซักเท่าไรหรอกครับ นี่ก็มี Vigo ออกมาแล้ว เพื่อนๆท่านใดพอมีเวลามีสเปคในมือ เชิญ update เก็บไว้เป็นข้อมูล ให้กับเพื่อนๆได้อ่านกันนะครับ

มืด จาก มืด TOC-101 61.90.180.4 อังคาร, 29/3/2548 เวลา : 14:36   

กระทู้ข้อมูลเก่า สำหรับอ่านได้อย่างเดียว

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



      




Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันจันทร์,29 เมษายน 2567 (Online 6327 คน)