WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


D4D 2.5 4WD พัง
Laithong
จาก Hunter TOC 223
203.107.159.56
อังคารที่ , 20/1/2547
เวลา : 15:27

อ่านแล้ว = 4784 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เมื่อวันที่ 18/1/2004 เดินทางไปแปดริ้ว(วิ่งได้ปกติ)ขากลับวิ่งได้ 60 กิโลเมตร/ชม.ใช้มา 3 ปี 110000 กิโลเข้าศูนย์เขาบอกว่ารางคอมมอนเรวเสีย พี่ๆเพื่อนๆเคยเจอเหตุการนี้ไหมครับโชคดีที่คลานกลับได้


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 1
       แล้วทางศูนย์บอกสาเหตุไหมครับ

จาก คุยเซ่อ 4X4 203.156.75.221 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 15:54   


คำตอบที่ 2
       แล้วอย่างนี้จะทำยังไงครับ มันเสียด้วยตัวระบบของมันเองหรือครับพี่

potchara จาก BB 203.149.16.201 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 15:58   


คำตอบที่ 3
       รบกวนคุณHunter TOC223 ถ้ามีอะไรUpdateกรุณาโพส
บอกกันด้วยนะครับ เสียวเหลือเกิน

จาก นายมด/170 203.156.88.74 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 16:18   


คำตอบที่ 4
       ทางศูนย์ไม่ยอมบอกสาเหตุเขาบอกว่าเพิ่งเจอคันนี้คันแรกและค่าอะไหล่ตัวนี้เขาบอกว่าไม่น่าเกิน12000รวมค่าแรง

จาก TOC 223 203.107.207.252 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 21:02   


คำตอบที่ 5
       รางคอมมอนเรว....นี่คืออะไรอ่ะครับ...
รางเกียร์เปล่า...ทำไมมันเสียเร็วอย่างงี่อ่ะ...
ถ้ามีอะไรUpdateกรุณาโพส บอกกันด้วยนะครับ...
อยากรู้เหมือนกัน... ...ขอให้รถหายป่วยไวๆนะครับ....

slippers87 จาก E ( ตัวใหญ่ ) TOC 024 203.113.37.12 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 21:27   


คำตอบที่ 6
       รางคอมมอลเรลนี่เป็นรางหัวฉีดที่เป็นท่อร่วมแบบที่เขาโฆษณารึเปล่า..ชักงง..ทำไมเสียง่ายจัง ขอให้หายเร็วๆนะครับ

addkeans จาก addkeans 203.209.113.207 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 21:51   


คำตอบที่ 7
       ข้อมูลน่าสนใจครับ ไม่ทราบว่ามันหมดอายุหรืออย่างไรนะเจ้าตัวนี้

ike จาก โซดา 169.210.4.81 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 22:09   


คำตอบที่ 8
       เป็นไปได้ไหมครับสาเหตุอาจจะมาจากน้ำมันที่ใช้ เพราะเครื่องคอมมอนเรลนี่ ถ้าใช้น้ำมันคุณภาพไม่ดี อาจจะทำให้ระบบเสียหายเร็วกว่ากำหนด รถผมวิ่งมา 2 ปี 40000 ตอนเช็คครั้งล่าสุดเจอปัญหาควันดำ เจ้าหน้าที่ญึ่ปุ่นจากโตโยต้ามาเช็คเอง ต้องล้างหัวฉีดให้ และแนะนำให้เติมน้ำมันที่มีคุณภาพดีๆ 2 ยี่ห้อ คือยี่ห้อที่เป็นสัตว์ทะเล กับยี่ห้อที่ราคาหุ้นกำลัง hot โชคดียังอยู่ในระยะประกัน ไม่เสียเงิน นี่อาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งไปเคลมโช๊คหลังมา 1 ตัว เพราะน้ำมันรั่ว

จาก คุยเซ่อ 4X4 203.156.28.240 อังคาร, 20/1/2547 เวลา : 22:50   


คำตอบที่ 9
       เรื่องรางหัวฉีดคอมมอลเรว..ผมได้เจอได้ฟังมาจากเพื่อนๆ2ท่านแล้วครับว่ามันเคยมีป/ห..แล้วเข้าไปเคลม..แต่ช่วงนั้นอยู่ในประกัน..ืทาง.0ก็เคลมให้แล้วแจ้งว่าเนื่องจากอาจไปเติมน้ำมันที่ไม่ได้คุณภาพ.. ^08ยังไงจะเติมน้ำมัน...โดยเฉพาะ..ในต่างจังหวัด..ก็เลือกหาปั้มที่ใหญ่ดูดีหน่อยแล้วกัน.....กลายเป็นว่าความไฮเทค..บางครั้งกลับไม่เป็นผลดีต่อเจ้าของรถไปซ่ะอีก

rider man จาก rider man 203.121.131.36 พุธ, 21/1/2547 เวลา : 03:08   


คำตอบที่ 10
       รางคอมอนเรวเป็นรางของหัวฉีดตัวใหม่ที่กำลังโฆษณาว่าดีหนักหนา เรื่องของนำมันที่ใช้ตั้งแต่ออกรถมาไม่เคยใช้ยี่ห้ออื่นเลย(รูปสัตว์ทะเล)เพราะเห็นว่าเป็นเครื่องรุ่นใหม่เลยยอมจ่ายแพง คืบหน้าจะรายงานให้ทราบครับ

Laithong จาก Hunter TOC 223 203.107.211.53 พุธ, 21/1/2547 เวลา : 07:19   


คำตอบที่ 11
       เคยเข้าศูนย์หลายๆที่เค้าก็บอกกันว่าให้ระวังรางคอมมอนเรลตัวนี้ ส่วนรางตัวนี้ที่มีปัญหามากน่าจะเป็นในรุ่นปี2001 น่ะครับส่วนปี2002ขึ้นไปได้มีการแก้ปัญหาต่างๆไปมากแล้ว ยังไงท่านที่ใช้ D4D คอยดูแลเครื่องยนต์กันดีๆน่ะครับเพราะเท่าที่เจอมา D4D เป็นเครื่องที่ค่อนข้างบอบบางต้องคอยดูอย่างใกล้ชิด น้ำมันก็สำคัญครับต้องระวัง เพราะเคยเติมน้ำมันคุณภาพต่ำรถวิ่งไม่ออกเหมือนกัน ก็ใช้ให้หมดถังแล้วเติมน้ำมันใหม่(เชลล์ เพียวล่า)ก็หายครับ
ถ้ามีข้อมูลส่วนใดผิดพลาดต้องขออภัยด้วยครับ
สุดท้ายเกี่ยวกับระบบเทอร์โบเช็คดูด้วยน่ะครับ ผมเพิ่งเปลี่ยนท่อยางเทอร์โบมา สาเหตุคืมมันหมดอายุ แล้วท่อมันก็บวม มีน้ำมันซึมออกมา

babimink จาก กระจก129 203.156.8.148 พุธ, 21/1/2547 เวลา : 08:39   


คำตอบที่ 12
       รถผมใช้มา 2 ปี 1 เดือน 111,000 กม.ใช้เพียวร่าตลอดขณะนี้มีอาการออกตัวอืดมากๆ ถ้าออกเกียร์สองมีอาการกระตุกเหมือนเครื่องจะดับลองเปลี่ยนกรองดีเซลแล้วไม่หาย วันนี้จะนำเข้าศูนย์ระยอง ปรากฏว่าหยุดยาวเปิดงานจันทร์หน้า ประวัติเคยเครมก้ามปูครัช(อาการจอดเดินเบาเครื่องดังกิ๊กๆๆๆๆแตะครัชหน่อยเงียบ) เครมเทอร์โบ(อาการมีเสียงดังวีดๆๆๆ ถอดมาปะเก็นรั่วแต่เบิกของมาแล้วเลยเปลี่ยนทังตัว) อาการตื้อๆๆใครพอทราบช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้า

จาก 2.5S เหมือนกัน 193.131.2.157 พุธ, 21/1/2547 เวลา : 10:12   


คำตอบที่ 13
       นี่แหละครับ ความไฮเทค ที่นำมาใช้กับประเทศเราที่ยังมีการแอบผสมน้ำมันขายกัน(โลเทค)อยู่ก็ต้องระวังกันหน่อยนะครับ ปั๊มตัวนี้เคยได้ข่าวว่าเป็นแสนนะครับ

trairong จาก TRAIRONG IZU004 202.129.11.1 พุธ, 21/1/2547 เวลา : 12:53   


คำตอบที่ 14
       Diesel Common Rail ( ลองอ่านดูครับ )
แรง ประหยัด มลพิษน้อย เป็น 3 เงื่อนไขทางธุรกิจรถยนต์ ที่การพัฒนาทางวิศวกรรมต้องทำให้ได้ ไม่ง่าย แต่ต้องทำ การเพิ่มซีซี หรือความจุกระบอกสูบ สามารถเพิ่มความแรงได้ แต่ยากที่จะได้ความประหยัด และมลพิษต่ำ

สังเกตได้ว่า ระยะหลังมานี้ ทั้งกำลัง และแรงบิดของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องเพิ่มซีซีหรือเพิ่มแต่ไม่มาก และ 2-3 ปีก่อนมาถึงปัจจุบัน เครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆ ก็ไม่ได้แรงขึ้นแบบก้าวกระโดดเหมือนในยุคก่อน บางรุ่นแทบไม่เพิ่มขึ้นเลยก็มี เพราะถูกมาตรฐานไอเสียระดับใหม่ ๆ กดดันอยู่ ตามพื้นฐานทางวิศวกรรมพบว่า ถ้าอยากได้ไอเสียที่สะอาด แรงม้าแรงบิดก็มักจะหดหาย

สารพัดเทคโนโลยีจึงถูกทยอยนำมาใส่ในเครื่องยนต์ดีเซล หลายอย่างเป็นผลพลอยได้จากการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซิน ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน

พื้นฐานของเครื่องยนต์ แต่เดิมเป็นแบบ 2 วาล์ว/สูบ แคมชาฟต์เดี่ยว เสื้อสูบ และฝาสูบเป็นเหล็กหล่อ ก็พัฒนามาเป็น 4 วาล์ว/สูบ ถ้า 4 สูบก็ 16 วาล์ว ทวินแคมชาฟต์ ฝาสูบอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา และระบายความร้อนดี

เมื่อมีพื้นฐานที่ดีแล้วก็ยังไม่พอ วาล์วไอดี 2 ตัว/ 1 สูบ ยังประจุอากาศได้ไม่เต็มเหนี่ยว ก็พ่วงเทอร์โบเข้าไปช่วยอัดอากาศ ด้านความแข็งแรง และการสึกหรอไม่ต้องห่วง เพราะเทคโนโลยีการผลิตวัสดุในปัจจุบันก้าวไปไกลมากแล้ว รองรับการเค้นกำลังด้วยเทอร์โบได้สบาย

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงก็นับเป็นส่วนสำคัญ เพราะหากพัฒนาทุกอย่างให้ดีขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไม่แม่นยำก็ยากที่จะทำให้แรง ประหยัด และมลพิษต่ำได้ เพราะระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ดีเซล เปรียบเสมือนเป็นทั้งระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบจุดระเบิดในเครื่องยนต์เบนซิน ถ้าขาดความละเอียดแม่นยำก็ยากที่จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดีตามต้องการ





d4d 2002 จาก D4D 2002 192.55.18.36 พุธ, 21/1/2547 เวลา : 17:36   


คำตอบที่ 15
       ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ดีเซลในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา มีการพัฒนาช้ามาก และมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดย่อย ๆ เท่านั้น ตัวปั๊ม และหัวฉีดเป็นแบบกลไก จ่ายน้ำมันตามการกดคันเร่ง ไม่ได้แปรผันตามปริมาณของอากาศที่ถูกประจุเข้าสู่กระบอกสูบ ฝอยน้ำมันไม่ละเอียดมาก ปั๊มแรงดันสูงก็จริง แต่ก็ยังไม่สูงมาก และการฉีดน้ำมันด้วยปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับอากาศแบบพอดีเป๊ะ ย่อมทำให้เครื่องยนต์มีกำลังไม่มากเต็มที่ กินน้ำมัน และมีมลพิษสูง

ต่อมาก็มีการพัฒนาเป็นตัวปั๊มที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่แรงดันก็ยังไม่สูงมาก และหัวฉีดก็ยังเป็นแบบกลไก ความแม่นยำในการควบคุมปริมาณ และจังหวะการจ่ายน้ำมันดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบอย่างเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีด

เป้าหมายในการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลจึงพุ่งไปที่หัวฉีดไฟฟ้าควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ คล้ายกับที่เครื่องยนต์เบนซินใช้กันอยู่ทั่วไป แต่แตกต่างกันที่รายละเอียด

ความสำเร็จเกิดขึ้น และเริ่มนำมาใช้จริงเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง โดยประกาศชื่อเรียกระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ว่า Common Rail ส่งน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงเข้าไปรอในราง ฉีดผ่านหัวฉีดไฟฟ้า คือ มีรางน้ำมันแรงดันสูงมาก ๆ ต่อรออยู่หลังหัวฉีดไฟฟ้า ที่แหย่จากฝาสูบลงไปโผล่ในห้องเผาไหม้ การจ่ายน้ำมันของหัวฉีดจะคอยยกหัวเข็มซึ่งทำงานด้วยไฟฟ้า ถูกสั่งงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ประมวลผลมาจากการรับข้อมูลจากเซนเซอร์ต่าง ๆ นับสิบตัว

ในด้านการตลาด อาจจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างออกไป เช่น CDI, D4D ฯลฯ แต่โดยพื้นฐานแล้วก็คือระบบ Common Rail แต่ก็ไม่ได้มีความสำเร็จเฉพาะระบบนี้เท่านั้น บางบริษัทรถยนต์ก็ใช้ระบบอื่น เช่น Pump Injector แต่ก็ไม่แพร่หลายเท่ากับ Common Rail

ดังนั้น อย่าเพิ่งสรุปความโดดเด่นว่าต้อง Common Rail เท่านั้นถึงจะแจ๋ว เพราะยังมีรายละเอียดในการทำงานของแต่ละยี่ห้ออีกว่าจะดีแค่ไหน ไม่ใช่พอทราบว่าเครื่องยนต์บล็อกไหนมี Common Rail แล้วจะต้องแจ๋วเหมือนอย่างที่คิดกันว่า มีเทอร์โบแล้วจะต้องแรง ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป อย่างเครื่องยนต์เบนซินที่ล้วนเป็นหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ของแต่ละยี่ห้อ ก็มีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกัน ทั้งที่พื้นฐานเหมือน ๆ กัน

Common Rail เป็นเพียงหนึ่งในระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบของเครื่องยนต์ดีเซลช่วงปี 2000 และต่อเนื่องไป ที่ช่วยทำให้เครื่องยนต์แรง ประหยัด และมลพิษต่ำ แต่ไม่ใช่ระบบเดียวหรือวิธีเดียวที่ทำได้ ยังมีระบบอื่น ๆ อีก และอนาคตก็อาจมีการพัฒนาระบบใหม่ ๆ ที่ดีกว่าระบบนี้ก็เป็นได้


พื้นฐานการทำงานของ Common Rail
สร้างแรงดันน้ำมันสูงมาก ด้วยปั๊มกลไก – น้ำมันโซลาแรงดันสูง ที่ถูกนำไปใช้กับหัวฉีดของเครื่องยนต์ดีเซลตั้งแต่อดีต ล้วนมาจากปั๊มที่ใช้แรงดันจากเครื่องยนต์ เพราะการฉีดเข้าสู่ห้องเผาไหม้ในจังหวะที่ลูกสูบเลื่อนขึ้นเกือบสุดหรือสุดแล้ว ต้องฉีดน้ำมันเข้าไปให้เป็นละอองที่ละเอียดมาก ๆ เพื่อสู้กับแรงดันในห้องเผาไหม้ที่มีอยู่

ถ้าใช้ปั๊มไฟฟ้าคงยากที่จะสร้างแรงดันได้สูงมาก ๆ และทนทาน เพราะแรงดันในระบบน้ำมันของเครื่องยนต์ดีเซล สูงกว่าเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีด ที่ใช้แรงดันแค่ 2-3 บาร์อยู่หลายเท่า
ปั๊มของระบบ Common Rail ก็ใช้แรงจากเครื่องยนต์เป็นต้นกำลัง โดยมักจะต่อเข้ากับข้อเหวี่ยงด้วยเฟืองหรือโซ่ ความสำเร็จในการพัฒนาส่วนหนึ่งอยู่ที่การทำให้ปั๊มสามารถสร้างแรงดันน้ำมันโซลาได้สูงมาก ๆ ระดับ 1,300 กว่าบาร์ หรือกว่า 15,000-20,000 ปอนด์/ตารางนิ้ว ซึ่งก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นมาก เพราะแต่ก่อนที่ไม่ได้ผลิตปั๊มแรงดันสูงออกมา อาจเป็นเพราะยังไม่สามารถพัฒนาหัวฉีดที่รับแรงดันสูงได้ไหวนั่นเอง

หัวฉีดควบคุมการเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า – จากเดิมที่เป็นหัวฉีดแบบกลไก ทำการฉีดน้ำมันตามแรงดันของปั๊มที่ส่งมา พัฒนามาเป็นหัวฉีดควบคุมการเปิด-ปิดด้วยกระแสไฟฟ้า คล้ายกับเครื่องยนต์เบนซิน ประเด็นสำคัญอยู่ที่

1. การมีน้ำมันแรงดันสูงอยู่ในรางหัวฉีด หัวฉีดจึงต้องปิดให้ได้สนิทจริง
2. ต้องทนความร้อนและแรงดัน เพราะเสียบเข้าไปโผล่ในห้องเผาไหม้
3. ต้องมีรูฉีดน้ำมันหลายรู และขนาดเล็กมาก เพื่อให้ฉีดน้ำมันได้เป็นฝอยมากที่สุด
4. ต้องเปิดแล้วปิดได้ฉับไว สู้กับแรงดันน้ำมันอันมหาศาลได้ ไม่ใช่เปิดง่าย แต่ปิดยาก






d4d 2002 จาก D4D 2002 192.55.18.36 พุธ, 21/1/2547 เวลา : 17:41   


คำตอบที่ 16
       โดยรวมแล้ว คนส่วนใหญ่จะงงว่า หัวฉีด Common Rail นี้ทำไมต้นแรงดันระดับ 15,000 กว่าปอนด์/ตารางนิ้วได้ไหว ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าทึ่งว่าทำไมจึงทำได้ ตัวหัวฉีดนี้เองที่เป็นความมหัศจรรย์ของระบบ Common Rail ที่ทำงานภายใต้แรงดันสูงสุด ๆ ได้ดี เปิดและปิดได้ตามสั่ง ทนความร้อน และฉีดเป็นฝอย Common Rail เกิดขึ้นได้เพราะความสำเร็จในการพัฒนาหัวฉีดไฟฟ้า ภายใต้เงื่อนไขข้างต้น เพราะส่วนอื่น ๆ ของระบบนี้ ก็เหมือน ๆ กับระบบหัวฉีดของเครื่องยนต์เบนซิน

ส่วนอื่น ๆ ไม่น่าตื่นเต้น – อธิบายโดยคร่าว ๆ สำหรับการทำงานโดยรวม คือ มีการรับข้อมูลจากส่วนต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการประมวลผล ว่าควรจะจ่ายน้ำมันปริมาณเท่าไรในขณะนั้น เช่น มาตรวัดปริมาณอากาศ (แอร์โฟลว์มอเตอร์) อุณหภูมิน้ำ อุณหภูมิอากาศ องศาข้อเหวี่ยง ตำแหน่งคันเร่ง ฯลฯ แล้วส่งข้อมูลไปยังกล่องอีซียู เพื่อประมวลผล และสั่งงานให้หัวฉีดเปิด-ปิดตามเหมาะสม
การมีสัญญาณหรือข้อมูลมาก ๆ แล้วนำมาประมวลผลด้วยกล่องอีซียู ย่อมทำให้มีโอกาสที่จะสั่งให้หัวฉีดจ่ายน้ำมันได้พอดีกับอากาศที่ถูกประจุเข้าสู่กระบอกสูบ เพื่อให้เครื่องยนต์แรง ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงคุ้มค่า และมีมลพิษต่ำ


ความกังวลด้านความทนทานและการซ่อมแซม – อะไรที่ไฮเทคมักมีราคาแพง นอกจากจะผลิตจำนวนมาก ซึ่ง Common Rail ในปัจจุบันนี้มีต้นทุนสูง แต่ก็จะลดลงเรื่อย ๆ ตามจำนวนการผลิตแบบเดียวกับเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีด

ด้านความทนทาน พอประเมินได้ว่า ไม่น่าจะน้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซินหัวฉีด เพราะได้นำประสบการณ์มาประยุกต์ใช้ ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ เมื่อต้องซ่อม แน่นอนว่าไม่ง่ายและมีค่าใช้จ่ายแพงกว่าระบบกลไกเก่า ๆ ต้องเข้าศูนย์บริการเป็นหลัก และตัวหัวฉีดหรือปั๊มก็คงต้องใช้วิธีเปลี่ยนมากกว่าซ่อม แต่ก็นานมากกว่าจะเสีย ไม่ต้องคิดว่าจะซ่อมเองได้ เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาแพงยังไม่เห็นกลัวว่าจะเสีย และไม่เห็นมีใครอยากซ่อมเอง

ปัญหาการลุยน้ำและกลัวเครื่องยนต์เสียหาย บริษัทรถยนต์ทราบดีกับปัญหานี้ คงป้องกันตัวเซนเซอร์ต่าง ๆ และกล่องอีซียูไว้ดีพอควร แต่การลุยน้ำลึกมาก ๆ คงไม่ไหว และถึงจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบปั๊มกลไกรุ่นเก่า ๆ ถ้าลุยน้ำลึกแล้วเครื่องยนต์ดูดน้ำเข้าไป ก็พังหนักเหมือนกัน

ระบบ Common Rail นับเป็นพัฒนาการใหม่ที่ควรทำความเข้าใจ เพราะน่าจะเป็นระบบที่ถูกนำมาใช้แพร่หลายขึ้นเรื่อย ๆ และคงพึ่งการพัฒนาไปที่ตัวหัวฉีดที่รับแรงดันได้สูง เปิด-ปิดได้ฉับไวมาก ๆ รูเล็กฉีดน้ำมันได้ละเอียด เพื่อให้สามารถฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงได้หลาย ๆ ครั้งในแต่ละจังหวะ จากปัจจุบันมี 1-2 จังหวะต่อการฉีด 1 จังหวะ และตัวปั๊มก็คงจะถูกออกแบบให้ผลิตแรงดันได้มากกว่านี้







d4d 2002 จาก D4D 2002 192.55.18.36 พุธ, 21/1/2547 เวลา : 17:42   


คำตอบที่ 17
       แล้วมันเสียได้อย่างไร เป็นเพราะน้ำมันใช่หรือไม่ครับ เพื่อนๆจะได้ระวังในการเติมน้ำมัน หรือเกิดจากสาเหตุอื่นใดที่มีโอกาสเป็นไปได้ บ้าง เพื่อนๆที่ทราบสาเหตุก็น่าจะนำมาลงไว้ จะได้ป้องกันเอาไว้ครับ

trairong จาก TRAIRONG 202.129.11.1 พฤหัสบดี, 22/1/2547 เวลา : 14:49   


คำตอบที่ 18
       D4D 2002 ที่ให้ความรู้ หัวฉีด Common Rail ขยันพิมพ์จัง...

จาก อี๊ TOC-136 203.113.81.68 พฤหัสบดี, 22/1/2547 เวลา : 16:11   


คำตอบที่ 19
       อ่านกระทู้นี้แล้ว ก็อยากจะตะโกนออกมาดังๆว่า…”KZ จ๋า..ข้ารักเอ็งที่ซู๊ด!!!”

จาก หมีน้อยร้อยหก 169.210.30.55 พฤหัสบดี, 22/1/2547 เวลา : 17:27   


คำตอบที่ 20
       เห็นด้วยครับพี่ หมี

จาก แย้ 203.107.144.176 พฤหัสบดี, 22/1/2547 เวลา : 17:31   


คำตอบที่ 21
       ขอบคุณคุณd4d2002 ผมอ่านเจอในสยามกีฬาเหมือนกันแต่รูปมันไม่ชัดอย่างที่คุณลง..

addkeans จาก addkeans 203.148.252.234 ศุกร์, 23/1/2547 เวลา : 22:36   


คำตอบที่ 22
       ไปรับรถมาเรียบร้อยครับจ่ยไป 11760 เปลี่ยนรางคอมมอนเรล (ดูรูปตามคำตอบที่ 14 ครับเหมือนกันทุกประการ)ทางศูนย์แนะนำให้ใช้น้ำมันที่มีคุณภาพ (มีบางยี่ห้อไม่ดี)ตอนนี้ใช้ปรกติทุกอย่าง

Laithong จาก Hunter TOC 223 203.107.203.189 อาทิตย์, 25/1/2547 เวลา : 07:54   


คำตอบที่ 23
       คุณ Hunter TOC 223 ครับ
ทางศูนย์เขาบอกมั๊ยครับว่าเสียเพราะอะไร ( รั่ว อุดตัน ฯลฯ )
คือว่าอยากรู้นะครับ แล้วอาการก่อนเป็นแบบละเอียดครับ ( แล้วขากลับวิ่งได้ 60 กิโลเมตร/ชม.เกินได้มั๊ยครับ รถมีอาการเช่นไร ) จะได้เป็นวิทยาทานครับ

d4d 2002 จาก D4D 2002 อาทิตย์, 25/1/2547 เวลา : 10:01   


คำตอบที่ 24
       ขอบคุณคุณD4D 2002 มากครับสำหรับข้อมูลต่างๆที่นำมาลงเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิกทุกท่าน..สำหรับคุณHunter TOC 223 พอจะบอกเกี่ยวกับน้ำมันที่มีคุณภาพ(ยี่ห้อ)ได้มั๊ยครับ...

จาก เบาหวิว /TOC-263 203.170.236.195 อาทิตย์, 25/1/2547 เวลา : 10:13   


คำตอบที่ 25
       ตอบคุณ D4D 2002 ครับ รายละเอียดทางศูนย์ก็ไม่บอกครับเพียงแต่บอกว่าเกิดจากการใช้น้ำมันไม่ดี อาการที่เกิดครั้งแรกคือไฟที่หน้าปัดโชว์(รูปเครื่องยนต์)ขณะที่รถสตารทติดแล้ว(ปกติแล้วไฟนี้ต้องดับเมื่อสตารทติดแล้ว)เพราะฉะนั้นถ้าสตารทติดแล้วไฟไม่ดับขอให้นำรถเข้าศูนย์ด่วนที่สุด วิ่งได้แค่ 60 สุดแล้วทำอย่างไรก็ไม่ไปครับ
ข้อควรระวังบางศูนย์ไม่มีเครื่องมือสำหรับเชคตัวนี้ครับ(เจอมาแล้ว)

Laithong จาก Hunter TOC 223 อาทิตย์, 25/1/2547 เวลา : 21:13   


คำตอบที่ 26
       ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบ คุณHunter TOC 223

d4d 2002 จาก D4D 2002 202.44.32.9 จันทร์, 26/1/2547 เวลา : 08:57   


คำตอบที่ 27
       ดังนั้นผู้ที่ใช้เครื่องยนต์ที่เป็น D-4D ความจะหาปั้มประจำเติม หรือถ้าไม่มีปั้มประจำจะต้องขอใบเสร็จรับเงินทุกครั้งหลังจากเติมน้ำมัน เพราะหากเกิดกรณีน้ำมันปลอมปนหรือมีสิ่งปลอมปนขึ้นมา จะได้มีหลักฐานฟ้องร้องทางปั้มน้ำมันได้ ซึ่งทางศูนย์บริการสามารถปฏิเสธการเคลมชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหายได้ เพราะเกิดจากตัวลูกค้า(เติมน้ำมันไม่มีคุณภาพ)ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะปั้มแรงดังสูงราคาแพงมากถ้าใหม่ทั้งลูกราคาประมาณ 80,000 บาท ถ้ากรณีใช้ชุดซ่อมก็มีค่าใช้จ่ายประมาณ 12,000 บาท อีกอย่างที่พึงปฏิบัติความสังเกตุดูหน้าปัดสำหรับคำเตือนพิวเตอร์น้ำมัน ถ้าโชว์ให้รีบเปลี่ยนใหม่ทันที

จาก Mr. D-4D 203.144.233.100 จันทร์, 26/1/2547 เวลา : 10:52   


คำตอบที่ 28
       นำมันยี้ห้ออะไรที่ว่าไม่ดีนะ บอกหน่อยใด้ใหมครับ

จาก yong 203.155.199.22 จันทร์, 26/1/2547 เวลา : 13:47   


คำตอบที่ 29
       ยี่ห้อ(ป...)คงไม่เท่าไหร่ครับผมว่าอยู่ที่ปั๊มมากกว่าครับเพราะเท่าที่ทราบจะออกมาจากคลังน้ำมันที่เดียวกันพอมาถึงปั๊มไม่รู้ผสมหรือไม่


Laithong จาก Hunter TOC 223 203.107.160.196 อังคาร, 27/1/2547 เวลา : 08:26   


คำตอบที่ 30
       ที่นี่ Bio Diesel เติมฟรี ไม่รับประกัน ผมสงสัยว่าตามปั๊มเล็กๆ อาจจะเอาไปผสมด้วยหรือป่าวหว่า......???

จาก ทอมมี่ - Prerunner 203.155.224.102 อังคาร, 27/1/2547 เวลา : 09:49   

กระทู้ข้อมูลเก่า สำหรับอ่านได้อย่างเดียว

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  



      




Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอาทิตย์,28 เมษายน 2567 (Online 4350 คน)