จาก น้องใหม่ Tiger 202.183.197.135
ศุกร์ที่ , 22/10/2547
เวลา : 11:25
อ่านแล้ว = 1027 ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
ฉัตรชัย สายบัว
ประสบการณ์จริง เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2547 เวลาประมาณ 21:30 น. ณ.ร้านอาหารแป๊ะฮก (รังสิตคลอง 2)
เวลาประมาณ 21:30 น. ได้รับแจ้งจากทางร้านอาหารว่า เจ้าของรถยนต์ TOYOTA Tiger D4D
ทะเบียน ปฉ 3363 กรุงเทพฯ ให้ไปที่รถของท่าน ในใจคิด รถโดนชน ระหว่างที่เดินไปก็ได้รับทราบจาก
เจ้าของร้านว่า "รถถูกงัด และได้แจ้งตำรวจแล้ว" ในขณะนั้นคิดว่าของในรถคงหายไปหมดแล้ว
(TVบังแดด, CD ALPINE
.) พอถึงรถสิ่งแรกที่พบ ประตูด้านขวาถูกงัดบริเวณมือจับเสียหาย
ประตูเปิดได้ทั้ง 2 ด้าน รีบสำรวจภายในพบมีการรื้อของกระจัดกระจาย แต่ของทุกอย่างอยู่ครบ
จึงสรุปในใจได้ทันทีว่า มันเป็นโจรขโมยรถ ไม่ใช่พวกขี้ยางัดแงะ / จากนั้นเริ่มตรวจสอบรถต่อ. ทดลองRemote
กันขโมยใช้การไม่ได้ กุญแจไขได้แต่ START ไม่ได้ ; เปิดไฟฉุกเฉินไม่ได้ (ฟิวส์ขาด) เปิดไฟเลี้ยวไม่ได้
(ฟิวส์ขาด) มีสุภาพบุรุษ(มีกลิ่นแอลกอฮอลเล็กน้อย)ประสงค์ดีเข้ามาช่วยเช็ค ฟิวส์ขาดไปครึ่งโหล ,
ตำรวจมาดูสอบสวนเบื้องต้นก็บอกให้ไปแจ้งความที่โรงพักในตลาดรังสิต(แต่ไม่ได้ไป), สรุปสุดท้าย น้าชูนำขบวน,
ภูษิตชักลากพร้อมไฟหมุนบนหลังคา, เสรีปิดท้ายขบวน เอารถไปเก็บที่ บ้านป๋าคลองห้า
จากคำบอกเล่าของเด็กโบกรถประจำร้าน ; ในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุประมาณ 5 ~ 10 นาที ได้เดินสำรวจ
รอบ ๆ ลานจอดรถ และเมื่อเดินกับมา พบรถยนต์นั่ง CEFIRO สีบรอนช์ (เงิน, ทอง)ทะเบียน ศง 2156 กรุงเทพฯ
(ซึ่งคาดว่าใช้ทะเบียนปลอม) จอดอยู่ด้านข้างติดเครื่องเปิดประตู พักหนึ่งเห็นผิดสังเกตุคือ ไม่ยอมลง จึงใช้ไฟ
ส่องดูที่รถทั้ง 2 คัน พบคนมากกว่า 1 คน (จำหน้าได้ 1 คน) คนทั้งหมดรีบขึ้นรถ - ปิดประตูและขับออกไป
อย่างเร็ว (ไปทางคลองหลวง) ได้จดทะเบียนรถและเข้าไปดูรถปิคอัพ และปิดประตูไว้ , ไปแจ้งเจ้าของร้าน
จากการประมวลเหตุการณ์ทั้งหมด พอจะสรุปได้ วิธีการและการโจรกรรม ได้ประมาณ 5 ขั้นตอน
โดย 2 ขั้นตอนแรก ประสบผลสำเร็จ ; อีก 3 ขั้นตอนยังไม่ได้ทำ ซึ่งถ้ามีเวลาอีก 5 ~ 10 นาที อาจจะสำเร็จ
ขั้นตอนโจรกรรม
1. ตัดสัญญาณกันขโมย 2. เปิดประตูรถ (ระบบกันขโมยทำงานแต่ไม่โชว์)
3. จัดการกับ LOCK GEAR 4. จัดการกับ LOCK คอพวงมาลัย
5. ต่อตรง START เครื่อง แล้วก็ขับจากไป
1. ตัดสัญญาณกันขโมยทำอย่างไร ? ตามความเข้าใจก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องยากมาก แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์
ขึ้นจึงรู้ว่ามันง่าย โดยปกติสัญญาณกันขโมย 99% จะต่อสัญญาณไปที่ไฟเลี้ยว/ไฟฉุกเฉิน (มีบางร้านที่ต่อไปที่ไฟหรี่)
คือ ถ้ามีการสั่งการของชุดกันขโมย เสียงจะดัง และไฟเลี้ยวจะติด
จากรูปวงจรไฟจาก Batt จะผ่านไปที่ Fuse15A เข้าชุดกันขโมย เมื่อมีการสั่งการไฟจะผ่าน
ชุดกันขโมยไปยังเสียงไซเรณ ; ไปยังไฟเลี้ยวทั้งหมด แต่ ถ้าอุปกรณ์ที่ต่อจากชุดกันขโมยเกิดลัดวงจร (Short)
จะทำให้ Fuse15A ขาด , ทั้งเสียงและไฟจะหยุดทำงานไปด้วย , ในครั้งนี้โจรใช้วิธีแกะไฟเลี้ยวด้านขวา
(แกะง่ายไม่ต้องใช้เครื่องมือ) แล้วปอกสายไฟพันกันให้ลัดวงจร ก่อนที่จะไปงัดประตูรถ
2. เปิดประตูรถ โจรจะงัดแบบทะนุถนอม โดยงัดทั้งแผง, ค่อยถอดสปริงล๊อคตัวกุญแจ, ตัวกุญแจจะหลุดออก
โดยง่าย และกดก้านที่ติดกับตัวกุญแจเพื่อเปิดล๊อคประตู (เหมือนใช้กุญแจขัน) เมื่อเปิดประตูออก สัญญาณกัน
ขโมยจะสั่งงาน แต่โจรได้ช๊อตระบบไว้แล้ว ฟิวส์ก็จะขาด ระบบเสียงและไฟกระพริบเตือนภัยก็หมดความหมาย
ขั้นตอนที่ 3-4-5 ไม่รู้ว่ามันทำอย่างไร !!!
*****ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ร่วมหลายท่านที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ*****
*****ซึ่งต้องถือว่าเป็นผู้มีพระคุณ และต้องขอบพระคุณเป็นอย่างสูงทุกๆ ท่านครับ*****
- น้าชู (คุณชูศักดิ์) ผู้นำขบวน ให้ที่พักรถ เลี้ยงดู บริการจัดหาอะไหล่
- ป๋าภู (คุณภูษิต) ผู้ชักลาก ขับรถให้นั่ง และส่งกลับบ้าน
- พี่ชายฯ (คุณเสรี) ผู้ปิดท้ายขบวน / ระวังหลัง
- ป้ามู (คุณพัชราวัลย์) ให้เชือกลากจูง
- พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่ช่วยกัน ลาก เข็น เม๊า และให้กำลังใจ
- เจ้าของร้านแป๊ะฮก ช่วยเดินไปตามให้มาดูรถ และแจ้งตำรวจ
- น้อง มนตรี พันยะวงศ์ ช่วยไล่โจรไป ก่อนที่มันจะทำครบ 5 ขั้นตอน
หมายเหตุ................มีภาพแต่ไม่รู้เอามาใส่ได้ไง
|