จาก KB 203.150.217.113
ศุกร์ที่ , 22/10/2547
เวลา : 20:32
อ่านแล้ว = 743 ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
น้ำใจบนท้องถนน "พี่รู้มั๊ย ลุงแกตายแล้ว เพราะพี่นั่นแหละ" !!!!
จะบีบแตรไล่ทำไมนักหนาวะ กับอีแค่ผมจอดทับเส้นกากบาท
เหลือง จริงๆ แล้วผมไม่ได้ตั้งใจหรอก แต่ไม่นึกว่ารถข้างหน้า
จะขยับไปได้แค่นั้น คุณก็รีบ ผมก็รีบ ใครๆ ก็รีบกันทั้งนั้น
>>เอ้า
เอาเข้าไป บีบเข้าไป แ_่งมันยังบีบแตรอีกนับสิบครั้ง ผมหัน
>> ไปมอง ช่างเถอะ! มันก็แค่ไอ้แท็กซี่คันหนึ่ง ท่าทางคนขับคง
>> จะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
>>ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ตอนหลังก็ดูจะโวย
>> วายโหวกเหวกไม่แพ้กัน จะรีบไปไหนนักหนาวะ
>>
>> แต่โดนเข้าไปหลายครั้งก็อายเหมือนกันแฮะ เสียงแตรที่ดัง
>> สนั่นทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว
>> แล้วจะให้ทำไงล่ะ ผมมองซ้ายมองขวา รถติดออกอย่างนี้จะ
>> ถอยหลังก็ไม่ได้ รถคันหลังก็จ่อมาซะติด จะขยับไปข้างหน้า
>> ก็อย่าหวัง ช่างมันเถอะ ทนอายเอาหน่อย
>>
>> พอเถอะวะ จะบีบไปทำไม ออกจากซอยได้ก็ต้องมาติดไฟ
>> แดงด้วยกันอยู่ดี ทั้งคนขับและผู้โดยสารชี้โบ๊ชี้เบ๊มาที่ผม จะ
>> ว่าอะไรผมก็ไม่เข้าใจหรอก ตาของผมกับตาของคนขับแท็กซี่
>> ประสานกันเข้าอย่างจัง ทำไงดีล่ะ เห็นทีงานนี้ต้องกวนตีนกัน
>> แล้ว ผมยกนิ้วกลางให้พร้อมกับเหยียบคันเร่งกระชากรถออก
>> จากสี่แยก ขยับไปได้นิดเดียว แท็กซี่คันนั้นก็ปราดแทรกรถ
>> คันที่ตามหลังผมทันที เอาวะ งานนี้เป็นไงเป็นกัน ผมคิด แท็กซี่
>> คันนั้นยังบีบแตรและเปิดไฟสูงต่ำไล่ผมมาตลอด มันแน่xxx
>> งานนี้ ถนนช่วงนี้ถึงแม้การจราจรจะค่อนข้างคับคั่ง แต่จริงๆ ก็
>> ไม่เหลือวิสัยหากผมจะหลีกทางให้มันแซงขึ้นไปข้างหน้า แต่ถ้า
>> ลองเล่นกันถึงขั้นนี้แล้ว
>>ก็เห็นที่จะต้องตามกวนตีนกันไปให้ถึงที่สุด
>>
>> ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีว่าผมขับรถเร็วขนาดไหน รู้แต่ว่าผมทำ
>> ทุกวิถีทางที่ไม่ให้มันแซงหน้าไปได้ ถ้าเผลอปล่อยให้แซงหน้า
>> ได้เมื่อไหร่ ผมจะเร่งแซงกลับไปดักหน้าไว้ทุกครั้ง
>>ต้องให้บทเรียน
>> ไอ้คนพวกนี้บ้าง
>>ผมเบื่อเต็มทนกับพวกแท็กซี่ที่จอดรับส่งผู้โดยสาร
>> ไม่เลือกที่ คิดอยากจะจอดตรงไหนก็จอด ที่รถรามันติดกันยาว
>> เหยียดอยู่ทุกวันนี้ ก็ไอ้พวกนี้แหละเป็นส่วนหนึ่ง
>>ต้องเล่นแม่งซะบ้าง
>> จะได้เข็ด
>>
>> แท็กซี่คันนั้นยังใช้ความเร็วอยู่เหมือนเดิม แซงซ้ายแซงขวาปาด
>> หน้าปาดหลังเค้าไปทั่ว
>>ผมหลับตานึกถึงผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในนั้น
>> ป่านนี้คงหายใจไม่ทั่วท้องแน่ๆ ทำไมถึงได้รีบขนาดนี้วะ
>>ผมเหยียบ
>> คันเร่งจนมิดแซงรถคันโน้นคันนี้แล้วก็ไปปาดหน้ามันอีกครั้ง
>>แล้วก็
>> ชลอความเร็วกันท่าไม่ให้มันแซงผม ก็ได้ผล
>>มันทั้งบีบแตรทั้งเปิด
>> ไฟไล่ใส่ผม ช่างแ_่งบีบแตรไล่กรูนัก กรูจะกันท่าแ_่งไป
>> ตลอดอย่างนี้แหละ
>>
>> อีกแค่สองแยกก็จะถึงที่หมายของผมแล้ว วันนี้ผมลางานครึ่งวัน
>> เพื่อมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งนี้ จริงๆ
>>แล้วผมก็ไม่ได้รีบ
>> ร้อนอะไรหรอก เวลาของผมยังมีเหลือเฟือ กวนตีนกันอีกซักพัก
>> เวลาก็ยังเหลือแหล่ ไอ้การตรวจร่างกายสมัยนี้ก็ไม่ได้เสียเวลา
>> อะไรนักหนา เถลไถลไปโน่นไปนี่ก็ยังกลับไปทำงานช่วงบ่ายได้ทัน
>>
>> รถติดไฟแดงอีกแล้ว ท่าทางจะติดยาวเสียด้วย แท็กซี่ที่ตามหลัง
>> ผมมาติดๆ ปราดเข้าเลนซ้าย ก่อนจะแซงหน้าผมไป คนขับหันมา
>> มองผมแล้วก็ส่ายหน้าเหมือนกับรำคาญผมเต็มประดา ผมหักพวง
>> มาลัยตาม จากนั้นรถก็ค่อยๆ เขยิบทีละนิดไปตามจังหวะสัญญาน
>> ไฟ มันพยายามแทรกรถคันอื่นๆ เพื่อที่จะไปอยู่แถวหน้าสุด ผม
>> ปราดรถเข้าช่องว่างตามไป จังหวะนั้นเลนขวาว่าง ผมเหยียบคันเร่ง
>> ปาดเข้าขวาแล้วปาดเข้าซ้ายตัดหน้ารถแท็กซี่ไปนิดเดียว
>>เสียงเบรก
>> ของมันดังสนั่น แต่นาทีนี้ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
>>งานนี้มันต้องทำ
>> ให้รู้สึกกันบ้าง เหลืออีกนิดเดียวผมก็จะถึงที่หมายแล้ว
>>หลังจากนั้น
>> เอ็งจะไปไหนก็ไปเหอะ
>>
>> หลุดจากไฟแดง รถของเราทั้งสองคันก็ปราดออกจากสี่แยกพร้อมๆ
>> กัน ยังไงซะผมก็ไม่ยอมให้มันขึ้นหน้าหรอก
>>เสียงแตรของแท็กซี่ดัง
>> ไล่หลังมาไม่ขาดระยะ ถึงซะที คราวนี้แ_่งจะไปไหนก็ไปเถอะ ผม
>> เลี้ยวซ้ายเข้าโรงพยาบาล รับบัตรจอดรถจากยามแล้วแล่นเข้าสู่ลาน
>> จอด มันยังตามมาติดๆ ยังไม่เลิกเหรอวะ ผมคิด เอาก็เอา ที่ล็อค
>> เกียร์ก็วางอยู่บนเบาะหลัง ผิดนักก็คงได้ฟาดกันมั่งหรอก
>>ผมขับรถ
>> เข้าที่จอด เปิดและปิดประตูรถอย่างแรงเหมือนไม่กลัวว่ามันจะพัง
>> แท็กซี่ที่ตามมาก็จอดพร้อมๆ กันกับผม
>>ประตูแท็กซี่ทั้งสี่ด้านเปิด
>> ผลัวะออกมาทั้งๆ ที่รถยังจอดไม่สนิทด้วยซ้ำ
>>
>> ในทันใดนั้น ผมได้แต่ยืนตะลึง
>>แขนซึ่งถือที่ล็อกเกียร์เตรียมจะประ
>> จันบานตกลงมาข้างตัวเหมือนจะหมดแรง ไม่น่าเชื่อ
>>ทุกสิ่งทุกอย่าง
>> ในรถคันนั้นเต็มไปด้วยเลือด ทั้งบนเบาะ ที่บานประตูด้านใน
>>ไม่เว้น
>> กระทั่งบนเสื้อของคนขับแท็กซี่
>>ผู้ชายสูงอายุแต่งตัวมอมแมมคนนึง
>> ถูกอุ้มอย่างทุลักทุเลลงมาจากรถ
>>เลือดเปรอะอยู่ทั้งบนลำตัวและใบ
>> หน้าของเขาและบนเนื้อตัวของหญิงสาวทั้งสองคนที่คอยประคองอยู่
>> เธอทั้งคู่ร้องไห้เสียงดัง
>>โชเฟอร์แท็กซี่ที่ผมคาดว่าคงจะเปิดประตูเข้า
>> มาลุยกับผมรีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองชายสูงอายุ ผมยืนมองจนบุรุษ
>>
>>พยาบาลวิ่งเข้ามาและนำชายคนนั้นขึ้นรถเข็นพร้อมทั้งปั๊มหัวใจกัน
>> พัลวัน ตลอดเวลานั้น ผู้หญิงทั้งสองคนเกาะราวรถเข็นไม่ยอมห่าง
>>
>> ผมได้แต่ยืนงงทำอะไรไม่ถูก คนแก่คนนั้นเขาจะโดนอะไรมาก็เถอะ
>> ถูกยิง ตกตึก หรือรถชน แกคงจะมีโอกาสรอดแน่ ถ้ามาถึงโรงพยาบาล
>> ได้เร็วกว่านี้ นี่ถ้าผมไม่แกล้งเขา ลุงแกอาจจะรอด
>>เขาอาจจะมาถึงที่นี่
>> ซักสิบนาทีก่อนหน้านี้ นั่นก็ยังดี ลุงอาจจะรอด ผมคิด
>>ลุงคงจะรอด
>> ทำไม - - - ไม่เปิดกระจกมาบอกกรูซักคำวะ ผมแช่งชักหักกระดูกคน
>> ขับแท็กซี่ ในขณะนั้นผมไม่ได้คิดถึงความเลวของตัวเองซักนิด
>>นาทีนั้น
>> ผมสับสนอยากอ้วก ไม่มีแรงจะพยุงตัวเองไว้ได้
>>ผมเปิดประตูกลับเข้า
>> ไปในรถ แว่บนั้นผมเห็นคนขับแท็กซี่เดินเข้ามาหา ช่างแ_่งอยาก
>> จะทำอะไรกรูก็ทำ กรูไม่มีกะจิตกะใจจะสู้แ_่งอีกแล้ว ท่ามกลางความ
>> ชุลมุนวุ่นวาย ผมได้ยินเสียงคนขับแท็กซี่ดังแว่วเข้ามา
>>มันทำให้ผมรู้สึก
>> เย็นเยือกไปถึงขั้วหัวใจว่า
>>
>> "พี่รู้มั๊ย ลุงแกตายแล้ว เพราะพี่นั่นแหละ" !!!!
>>
>> นั่นเป็นเสียงสุดท้าย
>>ก่อนที่ผมจะซบหน้าลงกับพวงมาลัยและร้องไห้
ผมเอามาจาก Mthai http://www.mthai.com/webboard/10/34442.html
โดย : ใบชากะยาสูบ
อีเมล์ : preechakorn@gmail.com
วันที่ : 2004-10-22 11:02:46
ขออนุญาตมา ณ ที่นี้ นะครับ
อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันมั่งครับ
|