WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


แนะนำโช๊คอัพ หน่อยครับ

จาก tumcpac
203.151.8.41
พฤหัสบดีที่ , 18/11/2547
เวลา : 16:23

อ่านแล้ว = 8863 ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ไทเกอร์ Prerunner 5L ยางมิชลิน สเป็กเดิมโรงงาน
ใช้มา จา 5 ปีแล้วครับ ปีใหม่คงได้เวลาเปลี่ยนโช๊ค(หาเรื่องขอตังเมีย)

ช่วยแนะนำหน่อยครับ ผมใช้ถนนดำอย่างเดียว ไม่มีบรรทุก ขับไม่เร็ว 80 - 90
ปล. ขอขอบคุณทุกท่านที่แนะนำเรื่อง ทำปั้ม เมื่อคราวที่แล้วครับ รถขับดีขึ้นเยอะจริง ๆ


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       ตอบ คห.ที่ 5 เจ้าของกระทู้ครับ ถ้าถามผม ผมจะเลือกที่มีรับประกันยาวๆ ไว้ก่อน ต่อมาก็ดูที่ตัวสินค้าต้องมีชื่อสักนิดเป็นที่รู้จักเพราะนั่นหมายถึงคุณภาพ การการันตีถึงชื่อเสียงของทางโรงงานผู้ผลิต ที่สำคัญเจ้าของแบรนด์ต้องมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองยิ่งสำคัญมากครับ ไม่ใช่จ้างเขาผลิต ผมแนะนำตัวนี้แล้วกันครับ ตัวแรกยี่ห้อ edelbrock รุ่นน้ำมันราคาไม่เกินหมื่นสองห้า ตัวที่สอง procomp es8000 ตัวที่สามก็ ome ครับ ราคาใกล้เคียงกันกับตัวแรก

rangsit จาก pingping 203.150.217.117 จันทร์, 22/11/2547 เวลา : 00:20   


คำตอบที่ 2
       1. Rancho 5000 ก็ดี ราคาสมเหตุสมผล กับคุณภาพ
แต่หากวิ่งยาวๆเกิน 3 ช.ม. จะรู้สึกว่ารถไม่เกาะครับ
2. ส่วนProcomp อย่าใช้เลยอ่อนไป ขับในเมืองช้าๆ อาจดี นุ่ม แต่หากวิ่งเร็วๆ แย่กว่า Rancho อีก คือได้แต่นุ่มแต่อ่อนไป รับน้ำหนักมากๆ ไม่ดีขับแล้วจะสั่น
3. ส่วนพวก Old man หากวิ่งทางไกลจะดี เกาะถนน แต่ในเมืองจะไม่นุ่มเนื่องจากโช็คมันแข็ง เหมาะกับพวกขับเร็ว เจอหลุมไม่เบรค ครับ
4. Gabriel Red Carbon ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ
แต่จะแข็งกว่า Rencho
*** ไม่ควรใช้ซ็อคอัพ แบบปรับได้ ครับเพราะไม่ค่อยจะทน ( อะไรที่ปรับไปปรับมา จะพังเร็วครับไม่ทน ) พวกที่ไม่ปรับ 4 - 5 ปี ยังเหมือนเดิมอยู่เลย พวกปรับได้ ปี กว่าก็เริ่มรั่วแล้ว

จาก B 61.90.14.191 พฤหัสบดี, 18/11/2547 เวลา : 20:07   


คำตอบที่ 3
       ต้องขอโทษคุณบีนะครับ ที่ต้องช่วยเข้ามาตอบ เพราะไม่รู้ว่าคุณบีไปเอาข้อมูลมากจากไหนครับ? เอาอย่างนี้แล้วกันผมตอบกลางๆเหมือนที่คุณบีตอบนะครับ แล้วให้เพื่อนๆค่อยตัดสินใจเอานะครับ เพราะผมก็ใส่โช๊คมาทุกยี่ห้อแล้วครับ และก็รถเกือบทุกรุ่นแล้วด้วย ลองดูความเห็นของผมบ้างนะครับ แล้วค่อยตัดสินใจอีกที่ก็ได้ครับ ข้อแรก ตัวแรนโช่รุ่น 5000 ที่คุณว่าวิ่งยาวๆแล้วรู้สึกว่ารถไม่เกาะ มันเกิดขึ้นได้กับทุกยี่ห้อครับ เขาเรียกว่าอาการเฟดของน้ำมันครับไม่เฉพาะแต่แรนโช่ครับ ยิ่งเจ้า ome ก็เจอมาเยอะครับ และสามารถเจอได้กับรถที่วิ่งยาวๆเพราะน้ำมันจะเกิดความร้อนสะสมมาก ถึงตอนนี้กระบอกใครใหญ่กว่าและคุณภาพน้ำมันดีกว่าย่อมได้เปรียบครับ
ข้อสอง เรื่องโปรคอมพ์ที่ว่านิ่มไปรุ่นไหนครับ?ผมจะได้แจ้งทางไดร์ฟวิ่งให้เอาไปเป็นข้อมูลสักหน่อยครับ และที่บอกว่าสั่น ผมไม่เคยเจอครับ เพราะใส่โช๊คมาหลายตัวแล้วไม่เคยเจอเลยครับ
ข้อสาม เจ้าโอลด์แมน มันนุ่มมากนะครับไม่แข็งหรอกครับ จริงแล้วเหมาะกับพวกออฟโรดที่เน้นการใช้งานในป่าเป็นหลักครับ เพราะวิ่งทางไกลเจออากาศร้อนๆก็จะยิ่งยวบยาบครับ และเรื่องที่ว่าเหมาะกับพวกขับเร็วเจอหลุมไม่เบรคนั่นน่ะแสดงว่าเป็นพวกขับรถไม่เป็นครับ เขาเรียกขับแบบไม่บันยะบันยังครับ เจอพวกนี้รถถังก็พังครับ จริงๆ
ข้อสี่ กาเบรียลเร็ดคาร์บอน ราคาเหมาะสมกับคุณภาพก็จริงนะครับ แต่ที่คุณว่าเหมาะสมด้านไหนครับ ผมว่าซื้อกาเบรียลตัวนี้ เปลี่ยนไปซื้อโช๊คจากคุณหยองไม่ดีกว่าเหรอครับ รับประกันสองปีไม่จำกัดระยะทางครับ เคยเจอไหมครับ กาเบรียลแกนหลุดออกมาจากตัวน่ะครับ ผมเจอมากับตัวเองเลยครับ ห่วยสิ้นดี แล้วที่ว่าแข็งกว่าแรนโช่ก็ต้องบอกด้วยครับว่าแข็งกว่าแรนโช่รุ่นไหน?ครับ เพราะมันปรับได้นะครับ ถึงสามระดับ ผมว่าถ้าปรับเบอร์อ่อนสุดยังนิ่มกว่าแรนโช่ตัว 5000 อีกนะครับ
สุดท้ายที่บอกว่าไม่ควรใช้โช๊คแบบปรับได้เพราะจะเสียเร็ว กว่าแบบไม่ปรับมันก็จริงครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าอายุจะสั้นกว่านะครับ เพราะผมใช้แรนโช่ปรับได้ห้าระดับใส่รถบรรทุกยางที่ร้าน ใช้มาตั้ง 10 ปีไม่เห็นมันรั่วตรงไหนเลยครับ? บรรทุกที่เป็นตันๆนะครับขอบอก
สุดท้ายก็อยากบอกเพื่อนๆและคุณบีด้วยครับว่าอยากให้หาข้อมูลสักนิด ไม่ใช่ว่าฟังมาจากคนอื่นที่ไม่มีประสบการณ์ช่วงล่าง มันฟังไม่ได้นะครับ ต้องถามพวกวิศวกรผู้ผลิตจะดีกว่าไหมครับ หรือพวก engineer ผมว่าจะสมเหตุสมผลมากกว่านะครับ ไม่อย่างนั้นพูดไปเดี๋ยวในเว็บจะเข้าใจผิดกันหมดนะคร๊าบคุณบี อย่าโกรธนะครับ ของอย่างนี้ต้องฟังหูไว้หูครับ

rangsit จาก pingping 203.150.217.119 พฤหัสบดี, 18/11/2547 เวลา : 22:14   


คำตอบที่ 4
       Tonbo ทำสำหรับโตโยต้าแล้วครับ เพื่อนเพิ่งไปใส่มา บอกว่าแจ่ม แต่ผมยังไม่เคยลองเอง มีโอกาสลองรถเพื่อนเมื่อไรจะเข้ามาบอกครับ

จาก virgo 61.90.15.191 ศุกร์, 19/11/2547 เวลา : 08:32   


คำตอบที่ 5
       ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ คุณบีและคุณ pingping
ถามคุณ pingping ต่อ สถานการณ์แบบผมควรใช้
ยี่ห้อและรุ่นอะไรครับ โดยยังไม่เปลี่ยนแหนบ(อนุมัติงบมาได้ หมื่นต้น ๆเอง)

จาก tumcpac 203.151.8.41 ศุกร์, 19/11/2547 เวลา : 09:05   


คำตอบที่ 6
       อืม ดีมากๆครับ ตากอล์ฟ

แต่ช็อคอัพหนืดๆ มันช่วยให้รถเข้าโค้งแล้วไม่เอียงได้แค่เสี้ยวเวลาหนึ่งเท่านั้นนะ ถ้าโค้งยาวๆก็ช่วยไม่ได้ ตัวที่ทำให้รถไม่เอียงคือระบบรองรับ



SR5-33 จาก SR5-33 203.150.217.112 ศุกร์, 19/11/2547 เวลา : 10:32   


คำตอบที่ 7
       น้า Pingping ให้ความเห็นได้ดี เยี่ยมครับ

มีข้อมูลตัวหนึ่ง อ่านจาก pantip.com แล้ว เห็นว่าดี คัดลอกเอามาให้ เผื่อบางคนยังไม่ได้อ่าน

คัดลอกมาจาก http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V3110980/V3110980.html

ความเข้าใจผิดของผู้คน เรื่องโ้ช้คอัพ
วันก่อน ผมไปนั่งฟังกลุ่มคนแต่งรถกลุ่มหนึ่งนั่งคุยกันเรื่องโช้คอัพ เค้าเข้าใจผิดกันหมดเลยอะ เลยคิดว่า จะมาอธิบายไว้ในนี้ เพื่อให้ผู้สนใจ ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องนะครับ (ผมไม่ใช่ Expert มาจากไหนน่ะนะครับ เพียงแต่เคยเข้ารับการอบรมที่โรงงานผลิตโช้คในเยอรมนีซึ่งเป็น OEM ให้กับ Benz, BMW, Volvo, VAG, ETC.

ผมจะเริ่มอธิบายล่ะนะครับ
โช้คอัพ มาจากคำว่า Shock Absorber เป็นตัวช่วยหน่วงเวลาไม่ใ้้ห้สปริงมีการเคลื่อนตัวเร็วเกินไป ช่วงล่างของรถยนต์ไม่ได้ใช้โช้คอัพรองรับน้ำหนักนะครับ เซียน(หรือไม่)แต่งรถกลุ่มนั้นเข้าใจกันว่าโช้คมีไว้รองรับน้ำหนักรถ ซึ่งเข้าใจผิดมหันต์เลยครับ จริงๆแล้ว ตัวรับน้ำหนักและแรงกระเทกทั้งปวงคือสปริงครับ แต่ถ้ารถคุณมีแต่สปริง พอเจอถนนขรุขระ รถคุณก็จะเด้งขึ้นเด้งลงตามค่า K ของสปริงกันจนมึนไปเลย, Shock Ab จึงถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อหน่วงไม่ใช้สปริงมีการเคลื่อนตัวได้มากนัก

เวลาเลือกโช้ึคอัพมาใส่รถ คุณต้องได้อย่างเสียอย่างเสมอ ถ้ารถคุณอยากได้โช้คนิ่ม มันจะหน่วงสปริงได้น้อย นั่งแล้วนิ่มขึ้น แต่เวลาเข้าโค้ง รถเอียงข้างเลยครับ แรงจากศูนย์กลางมาเพียบเลย แต่ถ้าคุณเลือโช้คหนึบ ความนิ่มจะหายไป สปริงจะเคลื่อนที่ได้น้อยมาก แต่เวลาเข้าโค้ง หรือขับซิกแซก รุถคุณนิ่งอย่างแรงครับ ไม่มีเอียง

โช้คอัพเดิมทีคือการใช้น้ำมันในการหน่วงโดยน้ำมันนี้ จะมีอยู่ในกระบอกโช้คนะครับ แท่งแกนโช้คถูกสอดลงไปในกระบอกนี้ มีก้อนวาล์วอยู่ตรงปลาย กั้นทำให้เกิดห้องสองห้องขึ้นในกระบอกโช้ค มีห้องบน และห้องล่าง ทั้งสองห้องมีน้ำมันอยู่ครับ

เวลาจังหวะโช้คยืดตัวขึ้น น้ำมันจากห้องบนจะต้องถูกดันให้หนีลงมาห้องล่าง แต่วาล์วที่กั้นห้องนั้น มีรูและซอกเล็กมากให้น้ำมันผ่านได้จำกัดมาก ทำให้น้ำมันผ่านได้ช้าลง ผลก็คือเกิดการหน่วงไม่ให้ก้านสูบเลื่อนขึ้นเร็วเกินไป
ในจังหวะโช้ึึคกดตัวลงก็เช่นกันครับ น้ำมันจากห้องล่างจะพยายามหนีขึ้นห้องบนเพราะโดนดัน (ลองวาดรูปตาม น่าจะเข้าใจง่ายขึ้น) วาล์วก็เป็นตัวหน่วงอีกเช่นกัน
การไหลผ่านร่องวาล์วเล็กๆในกระบอกสูบ หนืดไม่หนืด ขึ้นอยู่กับขนาดวาล์วและการออกแบบช่องทางเดินน้ำมันในวาล์วครับ

ส่วนโช้คแก้ส คือการพัฒนาเอาโช้คเดิม มากั้นห้องไว้ข้างล่างสุดหนึ่งห้องเป็นห้องโล่งๆแล้วอัดแก้สลงไป มีจุดประสงค์หลักคือทำให้มีแรงดันเพิ่มขึ้น ฟองอากาศที่จะเกิดในน้ำมันซึ่งเป็นปัญหาเดิมจะลดลง (เวลาโช้คทำงานปกติที่ถนนธรรมดา โช้คมีการขยับขึ้นลงมากกว่า 10 ครั้งต่อวินาที มีความร้อนเกิดจากการขยับนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำมันเกิดฟองอากาศครับ) โช้ึคแก้สจึงมีความแข็งมากกว่า
ประเด็นสำคัญ สิ่งที่เรียกว่าโช้คน้ำมันกึ่งแก้สนั้น เป็นความเข้าใจผิดครับ

โช้คแก้ส ก็ยังใช้น้ำมันในการไหลผ่านวาล์วเหมือนเดิม แก้สไม่เกี่ยวเลย อยู่ห้องข้างล่างอย่างเดียว

ดังนั้น ขอให้เข้าใจกันใหม่ด้วยนะครับ ว่าโช้คนั้นมีแค่เป็นน้ำมันล้วน กับแบบเอาแก้สมาอัดช่วยดันห้องล่าง แค่นั้น โช้คแก้สเปล่าๆ ไม่มีแน่นอนครับ (ถ้ามีแต่แก้สเปล่าๆ เค้าเรียกแก้สสปริง ซึ่งมีไว้แทนสปริงตรงฝาท้ายพวกรถแวกอนนะครับ คนละเรื่องกับการหน่วงในระบบช่วงล่าง แต่คนไทยเรียกเหมาหมดว่าโช้คอะ)

ข้อสังเกตุสำคัญว่า โช้ึคคุณเป็นน้ำมันหรือมีแก้สด้วย ให้ลองวางตั้งกะพื้นนะครับ เอามือกดก้านสูบลงไปจนสุด แล้วปล่อย ถ้าเป็นโช้คน้ำมัน มันจะจมอยู่งั้นแหละ แต่ถ้าเป็นโช้คที่มีแก้สอยู่ด้วย มันจะค่อยๆยืดขึ้นมาเองช้าๆจนสุด ที่เป็นอย่างนี้ เพราะมีห้องแก้สอยู่ล่างสุดช่วยดันให้น้ำมันในห้องล่างดันลูกสูบขึ้นไปในตำแหน่งปกติ

ึความหนืดของโช้ึึคอัพ จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับการออกแบบวาล์วที่ลูกสูบเท่านั้น ดังนั้น อย่างเช่น Volvo 940 or 960 ติดรถมาจากสวีเดน ก็เป็นโช้คน้ำมันครับ แล้วก็หนึบโคตรๆด้วย

ถ้าคุณเปลี่ยนโช้คไปเป็นแก้ส ก็มั่นใจได้อย่าง ว่ามันแข็งขึ้นแหงๆครับ ถ้าวาล์วถูกออกแบบมาเหมือนกัน

ปัญหาของโช้คอัพ มีเรื่องสำคัญๆอยู่เรื่องเดียว คือน้ำมันรั่วออกมาทางด้านบน ทำให้โช้คอัพสูญเสียน้ำมันไปเรื่อยๆ ซึ่งก็จะทำให้มันสูญเ้สียความสามารถในการหน่วงไป ทำให้รถคุณวิ่งเหมือนเด้งอยู่บนสปริง ถ้าเป็นไม่มาก เช็คยางดูก็ได้ครับ ถ้าสึกเป็นบั้งๆในแนวขวาง รถคุณมีปัญหากะโช้คอัพแ้ล้วล่ะ

สาเหตุสำคัญที่น้ำมันจะรั่วได้ ก็มาจากซีลยางที่อยู่ด้านบนของกระบอกโช้คนะครับ ซีลยางนี้ มีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว ตามระยะของผู้ผลิตโช้ค คุณควรเปลี่ยนโช้คอัพเมื่อรถวิ่งไปได้ 100000 กิโล หรือห้าปี โดยไม่ต้องรอให้รั่ว เพราะซีลมันเสื่อมแล้ว ถ้ารถคุณไม่ค่อยได้ใช้เลย ซีลยางคุณจะยิ่งแย่กว่าปกติ เพราะทุกครั้งที่โช้คขึ้นลง ก้านแกนโช้คจะนำเอาน้ำมันออกมาเล็กน้อยด้วยช่วยหล่อลื่นซีลครับ ถ้าคุณไม่ใช้รถเลย จอดไว้เป็นอาทิตย์เฉยๆ ซีลจะแข็งเป๊ก และฉีกง่ายมากๆ โช้ครั่วก็จะตามมาแน่นอนครับ

อ้อ เวลาติดตั้งโช้ค อย่าลืมเตือนช่างไม่ให้ใช้คีมในการจับแกนโช้คตอนขันน้อตนะครับ เพราะมันจะทำให้แกนโช้คเป็นรอย ซึ่งเมื่อคุณเอารถไปข้บ รอยนี้มันจะไปเสียดสีให้ซีลยางมันขาด ซึ่งก็จะนำมาซึ่งการรั่วอีกน่ะแหละ ดังนั้นเวลาเจอโช้ครั่วเร็ว บางทีก็อย่าโทษแต่ผู้ผลิตโช้คล่ะครับ มันมีปัจจัยเพียบเลย

ตอนขันน้อตก็เหมือนกัน ถ้าคุณขันแน่นเกินไปก่อนเอาลงจากฮอยส์ ลงมาปุ๊ป โช็คงอปั๊ปเลยครับ เพราะตอนอยู่บนฮอยส์ ช่วงล่างคุณทั้งยวงมันห้อยครับ มันไม่ได้อยู่ในตำแหน่งปกติ

วิธีที่ถูกคือต้องขันแต่พออยู่ อย่าแน่น พอเอารถลงแล้ว ค่อยขันแน่นครับ เพราะเมื่อโช้คท่านงอ เวลาเอาไปวิ่ง มันก็ไปขูดซีลยางอีกน่ะแหละ (แหม ไอ้ซีลยางนี่ช่างเจ้าปัญหาซะจริงเลยนะ)

อธิบายมาซะยาว ขอสรุปแล้วนะครับ
เวลาคุณเปลี่ยนโช้ค คุณเปลี่ยนโช้ค
๑.คุณควรเปลี่ยนทั้งสองข้างพร้อมกัน

๒.คุณควรเปลี่ยนให้ได้รุ่นที่ผู้ผลิตโช้คทำมาเพื่อรถรุ่นนั้นๆ ไม่ควรดัดแปลง เพราะคุณไม่มีทางรู้ parameter อื่นๆเลย ร้านที่รับทำ หรือแก้โช้คนั้น ทำให้โช้คคุณอายุสั้นแน่นอนครับ เพราะโรงงานที่เยอรมันลงทุนกันเป็นหมื่นๆล้าน R&D กันเกือบตายกว่าจะ Design ออกมาให้เบนซ์ให้บีเอ็มแต่ละรุ่น คุณว่าร้านข้างทางของคุณเอาโช้คมาผ่า อัดน้ำมันเข้าไปใหม่ มันก็ใช้ได้แล้วเหรอครับ)

๓. หมั่นก้มดูโช้คบ่อยๆครับ ว่ามีคราบน้ำมันรั่วหรือไม่

๔. เวลาให้ช่างนอกเปลี่ยน ทำตามคำแนะนำทีผมให้ไว้้ด้านบนนะครับ จะได้ไม่เจอปัญหาโช้ครั่วเร็ว

ู๕. โช้คอัพ ที่เยอรมัน ถือเป็นชินส่วนสำคัญเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยเทียบเท่ากับระบบเบรคเลยทีเดียว คุณควรใส่ใจกับมันให้มาก อย่าเห็นแกของถูก หรือเงินเพียงเล็กน้อยครับ

คนไทยเรา ยังมีอุปนิสัยไม่สนใจโช้คอัพ ไม่รั่ว ไม่มีวันเปลี่ยน จริงๆแล้ว คุณควรเปลี่ยนมันเมื่อวิ่งไปได้ 100,000 กิโล หรือห้าปีครับ เพราะซีลยางมันออกแบบมาให้มีอายุแค่นั้น

ถามว่า โช้คไม่ดี ไม่เห็นเป็นไร ไม่เปลี่ยนไม่ได้เหรอ ขับมาสิบปีแล้ว ไม่เห็นเคยเปลี่ยนสักครั้ง

ตอบเลยนะครับ ว่าถ้าคุณวิ่งปกติดี มันก็แล้วไปครับ แต่ถ้าคุณไปเจอสถานการณ์คับขัน เบรคกะทันหัน เมื่อถึงเวลานั้น คุณจะเข้าใจว่า โช้คนั้นสำคัญกับการทรงตัวของรถขนาดไหน คุณจะแลกเงินไม่กี่พันบาท กับความปลอดภัยของชีวิตหรือครับ

เปลี่ยนทัศนคติกันใหม่นะครับ ที่เยอรมัน เค้าบอกว่า "Shock Absorber condition cannot be compromised." ครับ

อ้อ มักมีคนถามผม เรื่องโช้คปรับได้ ปรับไม่ได้ ว่าเป็นอย่างไรนะครับ

ผมเคยยกมือถามที่เยอรมันแล้วครับ เค้าบอกว่า จริงๆแล้ว มันแทบจะไม่ได้ช่วยปรับอะไรได้มากสักเท่าไหร่ ถ้าคุณไม่ใช่คนบ้ารถมากจริงๆ คุณจะไม่เห็นความแตกต่างมากนักครับ จุดสำคัญคือ ใ้ช้ให้ตรงรุ่น ตรงสเป็ก เป็นใช้ได้ครับ


**** ใครมีอะไรเสริม บทความนี้ไหม

ตากอล์ฟ จาก ตากอล์ฟ ศุกร์, 19/11/2547 เวลา : 09:41   


คำตอบที่ 8
       ได้ความรู้เพียบเลยครับ น้ากอล์ฟ

ธาวัน จาก กอล์ฟฯtoc298 เสาร์, 20/11/2547 เวลา : 01:20   


คำตอบที่ 9
       ดีเยี่ยมครับขอชมคุณตากอล์ฟจริงๆ ได้ความรู้เพียบครับ หวังว่าเพื่อนๆที่ไม่รู้คงกระจ่างสักที่นะครับ

rangsit จาก pingping 61.19.201.177 เสาร์, 20/11/2547 เวลา : 12:40   


คำตอบที่ 10
       คุณPINGPING ตอบถูกต้องแล้วครับ

จาก หยอง 61.90.108.59 ศุกร์, 19/11/2547 เวลา : 08:09   


คำตอบที่ 11
       ได้ข้อมูลเรื่องช๊อคอัพมาก ขอบคุณครับตากอล์ฟ มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์นำมาเผยแพร่อีกน่ะครับ

TOC277 จาก Ongnoi 203.146.98.83 เสาร์, 20/11/2547 เวลา : 11:27   

กระทู้ข้อมูลเก่า สำหรับอ่านได้อย่างเดียว

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



      




Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,30 เมษายน 2567 (Online 5559 คน)