WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


อยากสอบถามเรื่องน้ำมันเครื่องของ ปตท ครับ
nuepoo
จาก nuepoo
IP:58.10.68.206

พฤหัสบดีที่ , 25/2/2553
เวลา : 15:30

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       น้ำมันเครื่อง - PTT Semi Synthetic NGV,LPG 10W-40 ตัวนี้ใช้ดีหรือเปล่าครับ มีใครเคยใช้บ้างช่วยแนะนำหน่อยครับ ขอบคูณล่วงหน้านะคร้าบ


 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 1
       ใช้มา 4 ปีแล้วครับ ตอนนี้ก็ยังใช้งานอยู่

วาวล์ยันไปครั้งหนึ่ง ดีหรือเปล่าตัดสินใจเองละกันครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

solunaal50 จาก Soluna-AL50 124.120.75.118 ศุกร์, 26/2/2553 เวลา : 08:18  IP : 124.120.75.118   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 18570

คำตอบที่ 2
       เรื่องแจ้งเตือน ทุกท่านเกี่ยวกับการใช้น้ำมันเครื่อง สำหรับทุกท่านที่นิยมใช้น้ำมันเครื่องภายนอก
ข้อควรระวังคือ

SPEC น้ำมันเครื่องของเครื่อง 2TR-FE ให้ใช้เกรดตั้งแต่ SL 20W-50 เป็นต้นไปหรือมากกว่านี้ก็ได้ถ้าไม่กลัวเปลืองเงิน ถ้าต่ำกว่านี้ไม่ได้เพราะว่าอายุน้ำมันเครื่องจะสั้นกว่าในช่วงปลาย ๆ ของการใช้งาน
เพราะฉะนั้นขอให้ดูเกรดน้ำมันเครื่องเป็นหลัก ผมเห็นหลายประป๋องที่วางขายกันตามร้านเกรดไม่ถึงนะครับ บางตัว เกรดแค่ SG -20W-50 ไม่ควรใช้ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 26/2/2553 เวลา : 09:51  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 18571

คำตอบที่ 3
       คุณ Auto รถผม Vigo 2700 ติด LPG ใช้น้ำมันเกรดไหนดีครับ
ถามเพิ่มเติมหน่อยครับ รถตู้ คอมมอลเรล 2500 ไฟเครื่องโชว์ตลอด ไปเช็คศูนย์ช่างบอกต้องซ่อมประมาณ 20000฿ โค๊ดที่โชว์คือ P2229 Barometric Pressure circuit high input คุณ Auto พอจะทราบวิธีแก้ไขบ้างไหมครับ หรือท่านใดมีคำแนะนำรบกวนด้วยนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tinang จาก TiNang 112.142.80.43 ศุกร์, 12/3/2553 เวลา : 20:57  IP : 112.142.80.43   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 18850

คำตอบที่ 4
       2.7 ให้ใช้น้ำมันเครื่องตั้งแต่เกรด SL 20W-50 ขึ้นไป หรือเกรดที่สูงกว่านี้
พอดีไม่ได้ถ่ายรูปเรื่องวิธีใช้น้ำมันเครื่องมาให้
น้ำมันที่ใช้สามารถใช้ตัวนี้ก็ได้คือเกรด SM 10W-40 หรือ SM-10W-30 ซึ่งจะดีมากขึ้นไปอีก

โดยมากแล้ว ต้องไม่ต่ำกว่าเกรด SL ส่วนจะใช้สูงกว่าก็ไม่เป็นไร
ส่วนค่าความหนืด ถ้าใช้ 20W-50 ความหนืดจะดูมากไปนิด ๆ อาจจะทำให้ติดยากขึ้นแต่ไม่มีผลเท่าใดนัก
ถ้าอยากลดเกรดความหนืดลงมาเหลือ 10w-40 ก็สามารถทำได้เลย
หรือจะเอา 10W -30 ก็ทำได้เช่นกัน แต่ควรเป็นช่วงที่เราใช้งานในสภาพอากาศเย็น ๆ เสมอ ๆ

เกรดน้ำมันเครื่องถ้าเราใช้ใสมาก ๆ คือตัวเลขน้อย ๆ การวิ่งจะไหลลื่นอัตราเร่งจะดีขึ้นบ้างนิดหน่อย เพราะลื่นมาก




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 12/3/2553 เวลา : 21:05  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 18851

คำตอบที่ 5
       ส่วน 2.5 ดีเซล นั้นผมไม่ทราบจริง ๆ เรื่องซ่อม
อาจหาอะไหล่ข้างนอกเปลี่ยนก็ได้ราคาจะได้ถูกลงหน่อย
อีกอย่างอะไหล่ 2.5 ดีเซล น่าจะหาข้างนอกกันไม่ยากนัก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 ศุกร์, 12/3/2553 เวลา : 21:07  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 18852

คำตอบที่ 6
       ตอบรวมเร็วทันใจ ขอบคุณครับคุณ Auto



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tinang จาก TiNang 112.142.80.43 ศุกร์, 12/3/2553 เวลา : 21:11  IP : 112.142.80.43   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 18854

คำตอบที่ 7
       ผมอยากรู้ว่า ตัวเลขรหัส น้ำมันเครื่องแบ่งยังไงครับ
พอดีกำลังตัดสินใจซื้อ 2 รุ่น

PTT Di-Synthetic Protect : SAE 0W-40 Super Synthetic.
กับ PTT Fully Synthetic Racing Syhthetic : SAE 5W-50.

พอดีเห็นมีของแถมเยอะดีครับ ดีกว่าซื้อน้ำมันของศูนย์แพงมากมาย ไม่มีของแถม
ไม่รู้เอารุ่นไหนดีครับ ที่ถนอมมากที่สุดเพราะราคาเท่ากันครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

prokonal จาก prok 203.117.141.19 เสาร์, 27/3/2553 เวลา : 14:56  IP : 203.117.141.19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19248

คำตอบที่ 8
       SAE 0W-40 Super Synthetic.
กับ PTT Fully Synthetic Racing Syhthetic : SAE 5W-50.

เกรดตัวหน้าเหมือนกันหรือไม่ SM ถ้าเหมือนกัน
SAE 0W-40 Super Synthetic จะใสมากอัตราเร่งจะดีไหลลื่นมากกว่าว่ากันตามทฤษฎีจะถนอมเครื่องตอนสตาร์ทได้มากว่า
แต่ความจริง ตอนใช้งานจริง ถ้าถนอมเครื่อง 2 ตัวนี้พอ ๆ กัน ไม่ได้ต่างกันนักอายุการเปลี่ยนเราก็เปลี่ยนตามอายุพอๆ กันอยู่แล้วไม่เห็นผลหรอก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 เสาร์, 27/3/2553 เวลา : 15:12  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19249

คำตอบที่ 9
       รบกวนพี่ Auto อีกนิดครับเป็นความรู้
เลขหลัง 40 กับ 50 มันคืออะไรครับ
แล้วเจ้า 2 ตัวนี้ สามารถใช้งานได้กี่ km กันครับ เห็นในเวปบอก 15000 km ครับ
หรือ พี่ auto จะมีน้ำมันเครื่องที่ดีกว่าแนะนำครับนอกจาก 2 ตัวนี้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

prokonal จาก prok 203.117.141.19 เสาร์, 27/3/2553 เวลา : 16:12  IP : 203.117.141.19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19250

คำตอบที่ 10
       เข้ามาช่วยตอบละกันครับ
ตัวหลังคือ ค่าความหนืดน้ำมันที่อุณหภูมิ 100 องศา C ครับ

โดย ค่าตัวเลขยิ่งมากยิ่งมีความหนืดมาก ตัวเลขน้อยยิ่งมีความหนืดน้อยตามลำดับ

อย่างเช่นใน น้ำมันเครื่อง 40 ค่าความหนืดก็จะน้อยกว่า 50 เป็นต้นครับ

ส่วนอายุของน้ำมันเครื่อง SAE 0W-40 Super Synthetic. นั้น ปตท. เคลมไว้ให้ทำงานได้ถึง 15000 กม. แต่อายุกรองน้ำมันเครื่องนั้นอาจมีอายุการทำงานไม่ถึงตามน้ำมันเครื่อง บริษัทรถต่างๆ จึงแนะนำให้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 1 หมื่น กม. ครับ

 แก้ไขเมื่อ : 28/3/2553 0:46:43



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 58.9.41.236 เสาร์, 27/3/2553 เวลา : 20:33  IP : 58.9.41.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19254

คำตอบที่ 11
       น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ๆ อายุการใช้งานอยู่ที่ 20,000 -25,000 กิโลเมตรครับ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรก็ตามแต่ BMW ไทยแลนด์ก็กำหนดอายุการใช้งานของรถเข้ารับบริการก้ราว ๆ นี้เหมือนกัน
บางจากเคยออกน้ำมันที่สามารถใช้ได้ถึง 50,000 กิโลเมตรมาแล้วแต่ชาวบ้านทั่วไปไม่เชื่อหาว่าเว่อรืก็เลยล้มตลาดตัวนี้ไป

ไม่ต้องไปกังวลน้ำมันเครื่อง เกรดตั้งแต่ SJ เป็นต้นมาสามารถใช้ได้ 10,000 กิโลเมตร



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 29/3/2553 เวลา : 10:02  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19259

คำตอบที่ 12
       ขอบคุณคับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

prokonal จาก prok 203.117.141.19 จันทร์, 29/3/2553 เวลา : 11:32  IP : 203.117.141.19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19262

คำตอบที่ 13
       เรื่องของน้ำมันเครื่อง พอดีไปนั่งหาความรู้มา ซึ่งได้มาจากในเว็บ pantip ของคุณช่างกลหนุ่ม ให้ความรู้ดีครับ เลย Copy บางส่วนที่คิดว่าเป็นประโยชน์มาให้อ่านกันครับ

เบอร์ของน้ำมันเครื่อง Multigrade ประกอบด้วยตัวเลข 2 ตัว
เช่น 0W-50
-เลขตัวหน้า = 0W
-เลขตัวหลัง = 50

เลขตัวหน้า และเลขตัวหลัง มีความหมายดังนี้
ข้อ 1) เป็นเรื่องของคุณสมบัติน้ำมันที่ Low-temperature ทดสอบหาว่า
อุณหภูมิต่ำที่สุดเท่าไร ?? ที่น้ำมันเครื่องยังมีความข้นใสพอที่จะไหลไปเลี้ยงเครื่องยนต์
โดย pump ให้ไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ได้
เรียกว่า *Low-temperature cranking and pumping viscosity*

ข้อ 2 ) เกี่ยวข้องกับเลขตัวหน้าที่ลงท้ายด้วย W
ต้องการจะสื่อ คือข้อนี้เป็นการทดสอบ High Temperature ทดสอบค่า kinematic viscosity
ของน้ำมันที่อุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ @ 100C



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 58.9.42.214 จันทร์, 29/3/2553 เวลา : 13:24  IP : 58.9.42.214   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19264

คำตอบที่ 14
       ทำไมเลขตัวหน้าต่ำๆ คุณภาพ base-oil จึงดีกว่า ???

พูดง่ายๆ ยิ่ง multigrade ช่วงกว้าง ราคาก็ยิ่งแพง
เช่น 0w-50 หรือ 0w-60 (ทำไมตัวนี้ถึงแพงเว่อร์อย่างนั้น ครับ ??)
มันแพง เพราะ... คุณภาพของ base oil ที่เอามาผลิตครับ

อธิบายอย่างนี้
ตามประวัติฯ หลักการผลิตน้ำมัน multi-grade สมัยแรกเป็นอย่างนี้
เช่น 20w-50
ก็เอาน้ำมันเกรด 20w ใสๆ มาใส่ VII (viscosity index improver) เติมเข้าไป
ทำให้
ค่า VI- index ของน้ำมันสูงขึ้นกว่าเดิม
สูงจนทนได้เทียบเท่าเบอร์ 50

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า
1) --multi-grade ช่วงกว้างหรือแคบ มันขึ้นอยู่กับ VI ของ base-oil
ถ้า base-Oil ที่เอามาผลิดมีค่า VI สูง
ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ VII เข้าไปมาก
2) อยากได้ multigrade ช่วงแคบก็ใส่ VI น้อย

แต่ทีนี้ การใส่ VI มันไม่ง่ายอย่างนี้
นึกจะเอาน้ำมันใสมากๆมาใส่ VI เข้าไปมากๆ
มันจะเกิดปัญหากับเครื่องยนต์

อ้างอิงตามประวัติศาสตร์ (อีกแล้วอิอิ)
ประมาณปลายยุค 70 ที่น้ำมันยี่ห้อหนึ่ง(เคยบอกแล้ว ตอนนี้นึกชื่อไม่ออก) ได้ทำ 10w-50 ออกมาเป็นยี่ห้อแรก
แต่บริษัทรถในเยอรมันทุกยี่ห้อ(หรือเกือบทุกยี่ห้อ) ออกหนังสือเตือนห้ามใช้ multi-grade ช่วงกว้างนี้
เพราะผลการทดลองมีปัญหากับเครื่องยนต์ รายละเอียดลองค้นหนังสือรถ Auto Motor Sport ของเยอรมันได้

คราวนี้ก็จะมีคำถามต่อเนื่องว่า
แล้วทำไมปัจจุบันนี้ multigrade ช่วงกว้าง กว้างกว่า 10w-50
ถึงมีคุณภาพดีกว่าเล่าครับ ??

VII มันช่วยให้ viscosity index ดีขึ้นได้อย่างไร ?

กลไกการทำงานมันเป็นอย่างนี้
VII เป็นสารโพลีเมอร์ เป็นเส้นยาว คล้ายเส้นด้ายเล็ก
ในอุณหภูมิปกติ คือ ตอนเครื่องเย็น VII จะขดตัวเป็น"ก้อนเล็กๆ"
เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เส้นด้ายจากก้อนเล็กๆก็จะ "คลี่กระจายตัวเอง"
ออกเป็น "เส้นด้ายยาวๆ"

เส้นด้ายยาวๆ นี่เปรียบเหมือน "เส้นเหล็ก" ที่เราเสริมความแข็งแรงของคอนกรีต

VII เมื่อร้อนขึ้นก็ทำหน้าที่เสริมความแข็งแรงของฟิล์มน้ำมันเครื่อง
คอยยึดเหนี่ยวไว้ให้ฟิล์มน้ำมันเครื่องมีความแข็งแรง .... ก็ค่า shear นั่นแหละ ทำให้น้ำมันเครื่องที่ใสๆ ทนแรงได้ดีกว่าเดิม

ปัจจุบัน VII มีหลายชนิด
ที่ผมจำได้ก็ Polymethacrylate

พอรู้หลักการนี้ บริษัทน้ำมันแห่งหนึ่ง ก็ทลึ่ง ทำ multigrade ช่วงกว้างมาก(ในสมัยนั้น) ออกขาย แต่เกิดปัญหาในการใช้งาน
ปัญหาที่เกิดสมัยนั้น เป็นปัญหาของตัว VII เอง




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 58.9.42.214 จันทร์, 29/3/2553 เวลา : 13:27  IP : 58.9.42.214   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19265

คำตอบที่ 15
       Base-Oil จะดีหรือไม่ดี ดูจากอะไร
ดูที่ VI และค่า impurity ว่ามี un-saturated CH-group มากหรือไม่

1) VI คือ คุณสมบัติการเปลี่ยนแปลงความข้นใส เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
VI ยิ่งมาก ยิ่งมีคุณภาพดี

2) ความไม่บริสุทธิ impurity ถ้ามีกลุ่ม un-saturated CH มาก น้ำมันก็จะ unstable คือพร้อมจะจับตัวเสื่อมคุณภาพ ได้ง่าย
คือ อายุใช้งานก็สั้นลง ===> น้ำมันเครื่องโบราณยุคแรกๆ เช่น API SA SB มีอายุการเปลี่ยนถ่ายสั้นมาก
จะเห็นได้ว่า
อายุการใช้งานน้ำมันเครื่อง ==> ขึ้นกับความบริสุทธิ์ของ base-oil

บริษัทน้ำมันจึงพยายามกำจัด un-saturated ตัวสำคัญคือกลุ่ม
Aromatic ออกทิ้ง

ค่อยๆปรับปรุงจน impurity ลดลงเรื่อยๆ น้ำมันเครื่องในปัจจุบัน
จึงมีอายุเปลี่ยนถ่ายที่ยาวนานกว่าเดิมมาก 1หมื่นกืโล ถือว่า เด็กๆ
เพราะ
ตั้งแต่ยุค API SF (ถ้าจำไม่ผิด) API ก็แนะนำใช้ได้เป็นหมื่นโล แล้วครับ

Base-Oil ผลิตจากน้ำมันดิบ ซึ่งมีกลุ่ม CH ต่างๆ หลายกลุ่ม
ซึ่งโรงงานจะต้องแยกกลุ่ม CH ที่ไม่ดีออกทิ้งให้เหลือ impurity ต่ำสุด จึงจะได้ base-oil ที่มีคุณภาพ

ผมจะยกตัวอย่าง ดีสุด กับ เลวสุด เพียง 2 ตัว
1) CH-group ที่ดีที่สุด คือกลุ่ม Paraffin
กลุ่มนี้เป็นกลุ่ม Saturated คือ โครงสร้างเคมีครบสมบูรณ์
สูตรโครงสร้างคือ Cn H2n+2
ที่กลุ่ม paraffin มันดีเลิศ เพราะกลุ่นนี้มีค่า VI สูงที่สุดในกลุ่ม CH ทั้งหมด

2) กลุ่มที่เลวสุด คือ Aromatic เป็นกลุ่มที่ un-saturated คือแขนของ C ยังจับตัวไม่ครบ มันจึง unstable พร้อมที่จะจับตัวให้คุณสมบัติเปลี่ยนแปลง ===> น้ำมันเครื่องก็เสื่อมคุณภาพได้ง่าย
อายุการใช้งานก็ลด

โดยหลักการ
น้ำมันเครื่อง Synthetic คือ pure-paraffin
น้ำมัน Synthetic จึงมีค่า VI สูง *โดยกำเนิด*

Synthetic หรือ การสังเคราะห์
สังเคราะห์ยังไง ??

กลุ่ม CH ที่ไม่สมบูรณ์คือ unsaturated ตัวหนึ่งคือ Olefin
สูตรโครงสร้างคือ Cn H2n ...... (สังเกตเทียบกับ paraffin ยังขาด H อยู่ 2 ตัว)

เมื่อเอา Olefin มาเติม H เข้าไป 2 ตัว
จะได้ Cn H2n + 2 ====> ก็จะกลายเป็น pure Paraffin
โดยไม่มี impurity หรือสิ่งแปลกปลอมเลย

ดังนั้นน้ำมัน Synthetic มันถึงดีโดยกำเนิด คือ ดีตั้งแต่เกิด
เพราะ
1) เป็น pure paraffin (นักบัญชีอย่าเถียงว่า additive และตัวช่วยมันทำให้ไม่ pure เถียงอย่างนี้ จะไม่จบ อิอิ)

2) impurity พวก CH-เลวๆ ที่มันทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมคุณภาพ อายุสั้น ==> ไม่มีเลย
ดังนั้น

Synthetic จึงยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายได้มากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องธรรมดา

ตอนหลังกระบวนการผลิตน้ำมัน Base Oil พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
จนทำ impurity ได้ดี ใกล้เคียงกับ Synthetic และได้รับการยินยอมให้ใช้ label เป็น "Synthetic" ได้

ทำให้ราคาน้ำมัน Synthetic "ชนิดนี้" ถูกกว่า Synthetic แท้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 58.9.42.214 จันทร์, 29/3/2553 เวลา : 13:29  IP : 58.9.42.214   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19266

คำตอบที่ 16
       ถ้าใครจะบอกว่า Synthetic มันดี แต่มันดีเกินไปสำหรับรถของท่าน
ท่านคงจะลืมไปแล้วว่า ทุกวินาทีที่เครื่องยนต์รถท่านทำงาน
น้ำมันเครื่องมีบทบาทป้องกันความสึกหรอของรถท่าน
มันไม่ได้เลือกที่รัก มักที่ชังว่า รถของท่านไม่ได้เป็นรถแข่ง หรือรถแพง น้ำมันเครื่องมันจะ"แทรกกลาง" ระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ไม่ให้ชิ้นส่วนเสียดสีกัน

จำได้ไหมครับ ผมเคยโม้เรื่องการ run-in คือการ "บดแหวน"
เขาต้องการให้แหวนเสียดสี จนผิวสัมผัส "สึกหรอ" จนเรียบเข้าที่กับกระบอกสูบ
เหมือนการ "บดวาว"
เพื่อให้หน้าสัมผัสของแหวนทำหน้าที่ seal แรงอัดได้ดี ... หลักการ run-in ที่สำคัญมีแค่นี้

โรงงานเครื่องยนต์ทุกแห่งตระหนักดีถึงคุณภาพ Synthetic ว่ามันป้องกันการสึกหรอได้ดีเยี่ยมยอด
โรงงานทุกแห่งจึง *ห้าม* ใช้น้ำมันเครื่อง Synthetic ระหว่าง Run-In ครับ

ท่านทั้งหลายมีเงินซื้อรถเป็นล้านนี่ครับ
ทีน้ำมันเครื่องดีๆ ทำไมถึงขี้เหนียวกันเหลือเกิน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 58.9.42.214 จันทร์, 29/3/2553 เวลา : 13:29  IP : 58.9.42.214   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19267

คำตอบที่ 17
       ขอบคุณ คุณ fOnGSteR ครับ
ที่นำบทความดีๆมาบรรยาย

จุกหลายดอกนะครับเนี้ย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

prokonal จาก prok 203.117.141.19 พุธ, 31/3/2553 เวลา : 10:07  IP : 203.117.141.19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19272

คำตอบที่ 18
       จาก prok
จริงๆ ต้องบอกว่า คุณช่างกลหนุ่ม แห่งเว็บ Pantip เขียนไว้ได้ดีมากครับ อ่านแล้วน่าสนใจ เพราะใช้ ทฤษฎีและประสบการณ์ จากตัวเค้ามาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นความรู้กับผู้อ่านทุกๆ ท่าน ผมจึงเห็นว่าน่าเอามาลงให้เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านได้อ่านกัน

แล้วยิ่งในประโยคที่ว่า " ถ้าใครจะบอกว่า Synthetic มันดี แต่มันดีเกินไปสำหรับรถของท่าน ท่านคงจะลืมไปแล้วว่า ทุกวินาทีที่เครื่องยนต์รถท่านทำงาน น้ำมันเครื่องมีบทบาทป้องกันความสึกหรอของรถท่าน
มันไม่ได้เลือกที่รัก มักที่ชังว่า รถของท่านไม่ได้เป็นรถแข่ง หรือรถแพง น้ำมันเครื่องมันจะแทรกกลาง ระหว่างชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว ไม่ให้ชิ้นส่วนเสียดสีกัน "

โดนใจผมมากเลยครับ




 แก้ไขเมื่อ : 31/3/2553 12:07:14



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 61.90.124.45 พุธ, 31/3/2553 เวลา : 12:04  IP : 61.90.124.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19273

คำตอบที่ 19
       ผมเองก็ยังสามารถบอกได้ว่าน้ำมันเครื่องเกรดของศูนย์ที่เราใช้กันทุกวันนี้ดีเหมาะสมแล้วครับ ไม่ดีเกินไปไม่แย่เกินไปคือทุกท่านสามารถใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้ออะไรก็ได้
เพียงแต่ขอให้ถูกต้องตามเสปก จะเป็นสังเคราะห์แท้หรือไม่แท้ได้ทั้งนั้น
อายุการใช้งานของเครื่องยนต์ถ้าใช้ตามปกติดูแลรักษาถูกวิธี อายุเครื่องยนต์ไม่เก่าเกินไป
เครื่องยนต์เบนซินสำหรับ 2.7 vvti มีอายุถึง 5 แสนกิโลเมตรแน่นอน

เสปกในคู่มือของเครื่องยนต์ตัวนี้กำหนดให้เคลมเครื่องยนต์ไว้ ก็ต่อเมื่อกินน้ำมันเครื่องสูงสุด 1000 กิโลเมตร / ลิตรนับว่ามากเอาการกว่าจะเปิดเครื่องออกมาซ่อม ทั้งที่จริงไม่มีใครบ้าเติมน้ำมันเครื่องมากขนาดนี้เป็นแน่
ส่วนใหญ่ ผมไม่เห็นใครใช้งานเครื่องยนต์จนเครื่องหลวม แล้วมาโอเวอร์ฮอลมากนัก
แต่เจอบ่อย คือ เครื่องพังเพราะฮีท ขาดการดูแลรักษา ซีล ประเก็นต่าง ๆ หมดสภาพซึ่งต้องเปิดเครื่องมาซ่อมอยู่ดี ถึงเวลานั้นก็ต้องซ่อมตามสภาพ น้ำมันเครื่องที่ว่าดี ๆ ก็เอาไม่อยู่
ตอนซื้อรถมือ 2 เวลาซื้อพอเจอเจ้าของรถที่ใช้งานมา 3 ปี 1 แสนกิโลเมตร ก็ติว่าวิ่งมากไป
ทั้งที่เจ้าของใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ก็ยังไม่ค่อยกล้าซื้อ
ผมบอกว่าวิ่งอีก 5 แสนกิโลเมตรเครื่องก็ยังไม่หลวม ก็ไม่เชื่อ
เพราะรถที่เห็น ๆกัน หาคนวิ่งไมล์แท้ ๆ ยังงงั้นยาก เพราะไม่ค่อยได้วิ่งหรือขายรถออกไปก่อนทั้งนั้น
รถที่เห้นวิ่งกันจนพังคือแท๊กซี่ ที่วิ่งกันเป็นล้านกิโลเมตรทุกคัน เราจึงจะเจอว่าพวกนี้เปิดเครื่องมาซ่อม
แต่รถชาวบ้านดูแล อย่างดี (แต่ดีแบบไหนไม่รู้ ) พังก่อนจะวิ่งถึง 5 แสนกิโลเมตรด้วยซ้ำ


เครื่องยนต์ให้ใช้น้ำมันเครื่องตามเสปก หรือสามารถใช้สูงกว่าเสปกที่กำหนดก็ได้ แต่ห้ามใช้เกรดต่ำกว่า
น้ำมันเกียร์ออโต ใช้ได้ตามสเปกเท่านั้น เกรดสูงกว่าหรือต่ำกว่าไม่ได้ทั้งสิ้น









 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 31/3/2553 เวลา : 19:44  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19283

คำตอบที่ 20
       ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวนิดนึงนะครับ
เรื่องน้ำมันเครื่อง จากประสบการณ์ส่วนตัวผมเห็นว่าควรใช้ตาม Spec ที่บริษัทกำหนด หรือสูงกว่า เนื่องจากเคยเจอในรถกระบะ Isuzu มังกรทอง และ Isuzu Dmax เครื่อง DI ยังไม่เป็น Commonrail ซึ่งไอ้เครื่องตัวนี้ Isuzu โฆษณานักหนาว่า 1 ล้าน กม. สบายยยยยยย

ทั้ง 2 คันนั้นคุณพ่อผม ดูแลเอง โดยใช้น้ำมันเครื่อง(Base Oil ธรรมดา)เพนซอย SAE 40 เกรด SD ซึ่งมันต่ำกว่า Spec ที่กำหนดไว้ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 5000 กม. เปลี่ยนไส้กรองที่ 1 หมื่น กม. เครื่องไม่เคยมีปัญหาเรื่องฮีทเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเปลี่ยนปั๊มน้ำที่ประมาณ 1 แสน กม. ซึ่งก็เปลี่ยนไป คันละ 2 ครั้งแล้ว

แต่ทั้ง 2 คัน กลับมีอาการกินน้ำมันเครื่องที่ ณ.เลขไมล์ 2 แสน กม. ทั้งคู่.... ลองจับอัตรากินน้ำมันเครื่องแล้วอยู่ที่ประมาณ 4000กม./ลิตร และไม่มีรอยรั่วของน้ำมันเครื่อง

ซึ่งจากอาการที่เกิดขึ้นผมมองไม่เห็นเลยว่า การกินน้ำมันเครื่องจะเกิดขึ้นได้อย่างไร หากไม่ใช่อาการเครื่องหลวม อันเนื่องมาจากการใช้น้ำมันเกรดต่ำจนเกินไป ซึ่งผมเตือนคุณพ่อแล้ว แต่ไม่เป็นผล(แต่ก็สายเกินแก้เพราะมันกินน้ำมันเครื่องไปแล้ว) ลองใช้น้ำมันเครื่อง Caltex 15w-40 API และ Mobil1 15w-40 เปลี่ยนเข้าไปแทน อาการกินน้ำมันเครื่องก็ไม่หาย (ว่าจะลองหายี่ห้อไหนที่มีเบอร์ 50 มาลองใช้ดูอีกที)

แต่หากเทียบกับรถอีก 2 คัน
1.Toyota Tiger D4D ใช้น้ำมัน Semi Syn ของศุนย์ตลอด จนตอนนี้เลขไมล์ 18x,xxx กม. เปลี่ยนปั๊มน้ำไปเมื่อ 150,000 กม. ไม่มีอาการ กินน้ำมันเครื่องและควันดำแต่อย่างใด (รึมันต้องรอให้ 2 แสน กม.ก่อน อิอิ)

2.Toyota Soluna Vios ใช้น้ำมันเครื่อง PTT Performa Super Syn ตลอด จนตอนนี้เลขไมล์ 17x,xxx กม. เปลี่ยนปั๊มน้ำไปเมื่อ 160,000 กม. เนื่องจากมีหยดน้ำรั่ว(แต่ไม่ฮีท) และใช้แก๊ส LPG ตั้งแต่ 34,000 กม. ยังไม่มีอาการใดบ่งบอกว่ามีอาการเครื่องหลวม ทั้งควันขาว และกินน้ำมันเครื่อง

ผมจึงเห็นควรว่า เราควรใช้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ ตามกำลังทรัพย์ของเรา เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ได้ยาวนานที่สุด อย่างน้อยก็ Semi Synthetic ล่ะครับ เนื่องจากราคาไม่ได้ห่างจากจากน้ำมันเกรดธรรมดามากเลย แต่เท่าที่ผมเคยอ่านงานวิจัยของรุ่นพี่สมัยตอนเรียน วิศวะเครื่องกล ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แล้วเห็นได้ชัดครับว่า ค่าการสึกหรอของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา สูงกว่าน้ำมันเครื่อง กึ่งสังเคราะห์มากครับ

ส่วนน้ำมันเครื่อง Synthetic นั้น ผมคงไม่เอ่ยถึง เพราะของดีย่อมราคาสูงตาม เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว

เรื่องน้ำมันเครื่องของศุนย์ผมเห็นด้วยกับท่านประธานครับว่าใช้ของศูนย์ดี แต่ราคามันสูงกว่าของ ยี่ห้ออื่นข้างนอกครับ ผมจึงซื้อแล้วนำไปให้ศุนย์เปลี่ยนให้(และได้ของแถมด้วยอันนี้แหล่ม อิอิ)

ส่วนน้ำมันเกียร์อัตโนมัติตามความเห็นท่านประธานครับ ผิด Spec พังหลายคนแล้วครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 61.90.124.45 พฤหัสบดี, 1/4/2553 เวลา : 00:14  IP : 61.90.124.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19284

คำตอบที่ 21
       ราคาน้ำมันเครื่อง ปตท. ตอนนี้เร้าใจมากสังเคราะห์แท้ ๆ ราคา 1500 บาท + คูปองน้ำมันฟรี 500 บาท
เรียกว่าถล่มตลาดราคาน้ำมันเครื่องได้ดีทีเดียว ปตท. เป็นบริษัทใหญ่ มีรายได้หลายทางจึงมาทำตลาดราคานี้ได้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 5/4/2553 เวลา : 17:52  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19314

คำตอบที่ 22
       พอดีพี่ที่ทำงานซื้อ PTT 0w-40 มาใส่ civic ตาโต ปี 97 vtec ใช้ LPG
พบว่า start เครื่องติดง่ายกว่าเดิม เครื่องเดินเรียบรู้สึกว่าอัตราเร่งดี
แต่มีปัญหา ตอนที่จอดรถแล้วยังเข้าเกียร์ D ไว้ ซักราวๆ 1 นาที เครื่องจะมีอาการสะอึกกึ๊กนึง ทุกๆ 1 นาที(ใช้ LPG)
และจะเป็นทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์นี้ครับ
พอพี่เค้าหันมาใช้น้ำมันวิ่งกลับไม่พบอาการ เครื่องสะอึกเลย

ปัญหาเครื่องสะอึกจากการใช้แก๊ส ขณะจอดรถเกิดจากอะไรครับ แล้วสมควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไหมครับ กลัวเครื่องพัง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

prokonal จาก prok 203.117.141.19 พฤหัสบดี, 22/4/2553 เวลา : 16:56  IP : 203.117.141.19   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19502

คำตอบที่ 23
       จาก prok
อาการแบบนี้ไม่น่าเกิดจากน้ำมันเครื่องนะครับ น่าจะมาจากสาเหตุอื่นๆ มากกว่า จากที่อ่านดูแล้ว น่าจะตรวจเช็คที่ระบบแก๊สนะครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 61.90.77.135 เสาร์, 24/4/2553 เวลา : 10:04  IP : 61.90.77.135   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 19516

คำตอบที่ 24
       ผมก็ใช้ ptt performa ngv 10w-40 ครับ สตาร์ทติดง่ายดี แล้วช่วยประหยัดเชื้อเพลิงด้วย
เปลี่ยนที่ปั้ม ptt ngv ประจำ ง่ายๆดี สะดวก ชัวร์ว่าได้ของแท้ด้วย สบายใจครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

superlemon จาก superlemon 61.90.16.200 อังคาร, 11/5/2553 เวลา : 17:47  IP : 61.90.16.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 20021

คำตอบที่ 25
       ถามของ Caltex หน่อยค่ะ ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย มัีนไม่ดีเหรอค๊ะ เพิ่งเข้าศูนย์ 10,000 กิโลมา เอาน้ำมันเครื่องไปเองเป็น Caltex Havoline Energy Fully Synthetic SAE 5W-30 API SM เพราะมีัคนแนะนำมา ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือป่าวว่ารู้สึกว่าขับลื่นขึ้น รบกวนท่านผู้รู้ติชมด้วยค่ะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kookaii จาก Kook 192.165.214.193 พุธ, 12/5/2553 เวลา : 16:17  IP : 192.165.214.193   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 20029

คำตอบที่ 26
       เหตุที่พูดถึงปตท. กันมาก เพราะว่า ยุคนึง ปตท. ได้แหกตาชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง อาศัยช่องว่างทางการตลาดออกน้ำมันเครื่อง สำหรับรถ NGV LPG มาก็เลยโด่งดังคับฟ้าเมืองไทยสำหรับคนที่เริ่มติดแก๊ส อีกทั้งน้ำมันเครื่อง ปตท. ราคาก็ไม่แพง ถ้าเทียบกันระหว่างยี่ห้อดัง ๆ เกรดเดียวกับ ปตท. ถูกกว่า โปรโมชั่นเยอะกว่า น่าสนใจกว่าอีกทั้งยี่ห้อดังน้ำมันเครื่องปลอมกันบ่อย



CALTEX เป็นน้ำมันเครื่องที่ TOYOTA ว่าจ้างผลิตนั่นแหละครับแล้วมาปั๊มตรา TOYOTA แต่ราคาถูกกว่าของศูนย์
ลื่นขึ้นเพราะเป็น Fully Synthetic SAE 5W-30 ความหนืดน้อยลงกว่าตัวเดิมที่เติมมาจากโรงงาน
ว่าแต่คุณ kook ซื้อมาเท่าไหร่ครับ

 แก้ไขเมื่อ : 12/5/2553 17:43:21



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 12/5/2553 เวลา : 17:42  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 20033

คำตอบที่ 27
       Caltex มีน่าใช้เป็นเครื่องดีเซลครับ ยิ่งตัวใหม่ที่ โฆษณา IsoSyn 5w-30 อันนี้น่าลองครับ ราคาไม่แพง แต่เป็น Semi นะครับ

ส่วน Havoline ตัวที่คุณ kook ซื้อมาถือว่าดีมากแล้วครับ เพราะเป็นตัว Synthetic แท้ของ Caltex ครับ แล้วยิ่งเบอร์ 5w-30 ด้วยแล้ว สำหรับรถใหม่ๆ จะยิ่งทำให้รู้สึกว่าลื่นมากครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 58.9.38.240 พุธ, 12/5/2553 เวลา : 18:59  IP : 58.9.38.240   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 20036

คำตอบที่ 28
       ขอโทษค่ะที่ตอบช้า ไปต่างจังหวัดมาค่ะ กุ๊กหาหลายที่เลยค่ะ ไปถามทั้งมี่ปั๊มเองและที่โลตัส สรุปว่าที่โลตัสถูกกว่า แต่ว่าจำราคาแยกไม่ได้นะค๊ะ ซื้อ 4L หนึ่งกระป๋อง 1L สองกระป๋อง รวมแล้ว 3,076 บาทค่ะ แต่ที่จำได้คร่าวๆ กระป๋องเล็ก ราคาประมาณ 5xx บาทค่ะ กระเป๋าแฟบไปเลย แล้วก็เอาไปเปลี่ยนที่ศูนย์ รวมส่วนลด จ่ายเพิ่มอีกร้อยกว่าบาทเอง ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ต้องบอกว่า ตัดสินใจถูกแล้วที่ทำอย่างนี้ เพราะที่ศูนย์เค้าเช็คเบรค ถอดมาทำความสะอาดให้ด้วย แล้วน่าจะมีเช็คอย่างอื่นอีก ถือว่าคุ้มค่ะกับร้อยกว่าบาท และได้น้ำมันเครื่องที่ดีด้วย ส่วนน้ำมันเครื่อง เค้าใส่ไปซะหมดเลยค่ะ เหลือไว้สำรองสิบหยดได้มั้งค๊ะ

สรุปว่าอันนี้ดีแล้วใช่มั๊ยค๊ะ จะได้เก็บเงินไว้คราวหน้าอีก กว่าจะถึงรอบใหม่ กระปุกคงเต็มพอดี



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Kookaii จาก Kook 192.165.214.193 อาทิตย์, 16/5/2553 เวลา : 11:42  IP : 192.165.214.193   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 20096

คำตอบที่ 29
       ทำที่ศุนย์ดีแล้วครับ เพราะรถยังอยู่ในระยะประกัน ควรเข้าเช็คที่ศูนย์ครับ ไม่เช่นนั้น หากรถมีปัญหา เค้าจะไม่รับประกันให้ครับ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 0-50,000 กม. แรก (5 ครั้งแรก ทุกๆ หมื่น กม.) จะไม่เสียค่าเช็คระยะครับ เสียแต่ค่าอะไหล่ และของสิ้นเปลืองต่างๆ ที่เราเปลี่ยนครับ

แนะนำเพิ่มอีกอย่างนึงครับ พวกน้ำมันเครื่องหากจะหาราคาถูก ควรหาร้านขายน้ำมันเครื่อง(ข้างทาง) รึตามร้านขายอะไหล่ยนต์ ที่เชื่อถือได้ครับ จะได้ของแท้ ของแถม แล้วที่สำคัญ ราคาถูกมาก จนเรารู้สึกว่ามันเป็นน้ำมันปลอมเชียวครับ หากมีเรื่องข้องใจ สอบถามได้ครับ ยินดีช่วยเหลือครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

fongster จาก fOnGSteR 58.9.45.90 อาทิตย์, 16/5/2553 เวลา : 21:37  IP : 58.9.45.90   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 20099

คำตอบที่ 30
       จริงครับน้ำมันเครื่องแปลกอยู่อย่างตรงที่ร้านขายน้ำมันเครื่องร้านอะไหล่ใหญ่ ๆ ทำไมราคาเขาจึงถูกกว่ามาก
ปั๊ม ปตท. เชล เอสโซ่ เองเวลาขายน้ำมันเครื่อง + ค่าแรงในการเปลี่ยนยังถือว่าแพงมากในหลายปั๊ม
ถ้าเทียบกับงานศูนย์ที่ออกมา เพราะมันเป็นงานถ่ายน้ำมันเครื่องอย่างเดียว

ของคุณ kook ซื้อได้ราคา 3076 บาท
เมื่อวานผมไปดูมาที่โลตัส กระป๋อง 4 ลิตรของ caltex fully sysn 1998 บาท
กระป๋อง 1 ลิตร ขาย 536 บาท
รวม 6 ลิตรก็ประมาณ 3000 แหละครับ


ค่าแรงเช็คระยะถ้าใช้ตามกำหนดจะเริ่มเสียตั้งแต่ 60,000 โลเป็นต้นไปต้องจ่ายเอง
ทีนี้แหละที่คนส่วนใหญ่ บอกว่าแพงเพราะจ่ายค่าแรงประมาณ 900 1200 1400 บาท ต่อครั้ง
ซึ่งราคานี้ลูกค้าหลายคนรับไม่ค่อยได้ เนื่องจากบางศูนย์ ไม่ตรวจอะไรเลยแหกตาลูกค้า
หลายคนจึงคิดว่าแพงไม่ประทับใจศูนย์บริการ ไม่อยากใช้บริการอีก



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 17/5/2553 เวลา : 07:41  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 20102

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,25 เมษายน 2567 (Online 5610 คน)