คำตอบที่ 1
       1.2 ถ้าเป็น 2 แสนโล ค่าใช้จ่าย = ค่าแก๊ส 200,000 บาท + ค่าติดตั้ง 1 ~1.3 แสนบาท = รวมเป็น 3~3.3 แสนบาท
ถ้าจำนวนนี้คิดอัตราสิ้นเปลืองเทียบกับดีเซลคอมมอนเรล 2.5 เกียร์ธรรมดา 2 แสนโลเท่ากัน ดีเซลเสียเงินประมาณ 440,000 -500,000 บาท
ประหยัดกว่าดีเซลในช่วงนี้ไป 140,000 ~170,000 บาท


1.3 ถ้าเป็น 3 แสนโล ค่าใช้จ่าย = ค่าแก๊ส 300,000 บาท + ค่าติดตั้ง 1 ~1.3 แสนบาท = รวมเป็น 4~4.3 แสนบาท
ถ้าจำนวนนี้คิดอัตราสิ้นเปลืองเทียบกับดีเซลคอมมอนเรล 2.5 เกียร์ธรรมดา 3 แสนโลเท่ากัน ดีเซลเสียเงินประมาณ 660,000 -750,000 บาท
ประหยัดกว่าดีเซลในช่วงนี้ไป 260,000 ~340,000 บาท

จากการเปรียบอัตราดังกล่าวข้างต้นถ้าเราจำเป็นต้องใช้งานรถยนต์จำนวนมากและระยะเวลาการใช้งานที่มาก ส่วนต่างในการใช้งาน+ความประหยัดที่ได้จะถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ถ้าเทียบกับเวลาที่เราใช้ แต่ส่วนต่างน้อย ๆ เวลาและระยะทางการใช้รถที่น้อยอาจจะไม่คุ้มถ้าเราติด NGV เพราะอย่างน้อยควรมีระยะทางการวิ่ง 1 แสนกิโลเมตรขึ้นไปซึ่งจจะถือว่าคุ้มกว่าใช้ปิคอัพดีเซล



 แก้ไขเมื่อ : 23/4/2553 16:49:25

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       2. เลือกติด LPG ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอยู่ประมาณ 30,000 บาท ถ้าวิ่ง 1 แสนกิโลเมตร ค่าใช้จ่าย 130,000~150,000 บาท + ค่าติดตั้ง 30,000 บาท = 160,000-180,000 บาทถ้าจำนวนนี้คิดอัตราสิ้นเปลืองเทียบกับดีเซลคอมมอนเรล 2.5 เกียร์ธรรมดา 1 แสนโลเท่ากัน ดีเซลเสียเงินประมาณ 220,000 -250,000 บาท
ประหยัดกว่าดีเซลในช่วงนี้ไป 60,000 ~70,000 บาท

2.1 ถ้าเป็น 2 แสนโล ค่าใช้จ่าย = ค่าแก๊ส 260,000~300,000 บาท + ค่าติดตั้ง 30,000 บาท = รวมเป็น 290,000-300,000 แสนบาท
ถ้าจำนวนนี้คิดอัตราสิ้นเปลืองเทียบกับดีเซลคอมมอนเรล 2.5 เกียร์ธรรมดา 2 แสนโลเท่ากัน ดีเซลเสียเงินประมาณ 440,000 -500,000 บาทประหยัดกว่าดีเซลในช่วงนี้ไป 150,000 ~200,000 บาท

2.2ถ้าเป็น 3 แสนโล ค่าใช้จ่าย = ค่าแก๊ส 390,000~450,000บาท + ค่าติดตั้ง 30,000 บาท = รวมเป็น 4.2~4.8 แสนบาท ถ้าจำนวนนี้คิดอัตราสิ้นเปลืองเทียบกับดีเซลคอมมอนเรล 2.5 เกียร์ธรรมดา 3 แสนโลเท่ากัน ดีเซลเสียเงินประมาณ 660,000 -750,000 บาท
ประหยัดกว่าดีเซลในช่วงนี้ไป 240,000 ~270,000 บาท

จากการเปรียบอัตราดังกล่าวข้างต้นถ้าเราจำเป็นต้องใช้งานรถยนต์จำนวนไม่มากและระยะเวลาการใช้งานที่น้อย ส่วนต่างในการใช้งาน+ความประหยัดที่ได้จะพอ ๆ กันถ้าเราใช้แก๊ส LPG กับ NGV เพราะฉะนั้นถ้าสรุปง่าย ๆ คือค่าติดตั้ง NGV คือตัวแปรสำคัญกับระยะเวลาการคืนทุน
รถยนต์ถ้าใช้งานน้อยอายุการใช้งานน้อยไม่ควรติด NGV เพราะไม่ค่อยคุ้ม แต่ถ้าคิดวิ่งเยอะใช้งานระยะยาวคุ้มกว่าคือต้องติด NGV ครับ
สูตรนี้สำหรับคำณวนเปรียบเทียบกันระหว่าง LPG NGV
แต่ถ้าเทียบกันกับการใช้รถปิคอัพดีเซลหรือเบนซินแล้ว ยังไงก็ถือว่าประหยัดกว่ากันมาก

 แก้ไขเมื่อ : 23/4/2553 16:51:04

 แก้ไขเมื่อ : 24/4/2553 11:06:25

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       สำหรับผม ถ้าคิดแบบตามหลักสิ่งแวดล้อมทั่วไปแล้ว ถ้าเป็นรถส่วนตัวผมว่า
1 ใช้LPG น่าจะสะดวกกว่าในด้านหาปั้มเติมนะคับ
2 ถนอมเครือ่งยนต์มากกว่าในด้านความร้อนที่เกิดกับเครื่องยนต์ระยะยาวอาจจะประหยัดค่าซ่อมได้มากกว่า(หรือป่าว...)
3 ละถ้าคิดถึงน้ำหนักบรรทุกของรถแล้ว NGV ถังมีน้ำหนักสูงกว่า LPG ซึ่งถ้ารถน้ำหนักเยอะกว่า อัตราการกินเชื้อเพลิงก้จะสูงกว่า
4 ถ้าเป็นดีเซล 3.0 ผมว่าออกตัวดีกว่าเพราะมีเทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ แต่ข้อเสียคือค่าน้ำมันแพง ราคาขึ้นลงตามกระแสโลกเวอร์ แต่ถ้าเป็นเบนซิน 2.7 ติดแก๊ส เครื่องยนต์ก้ยังเงียบ อนาคตรถเก่า ตำรวจก็จับควันดำไม่ได้อีก จะมีก็แต่ว่า โดนจับข้อหา ความเร็วเกินกำหนดซะมากกว่า เพราะไม่ค่อยเกรงจัยราคาเชื้อเพลิงเท่าไหร่

ปล. รถผมใช้เอง อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่1.53-1.9 บ./กม. ไม่เคยต่ำกว่านี้เลยคับมีแต่เกินเวลาไปตจว. 555+


แต่ถ้าเป็นรถบริษัท ผมก็ยังเชียร์LPG อยู่ดีหละคับ
1. ถ้าสมุมติเป็นคนขับรถนะคับ แก๊สหมด คุณก็ใช้น้ำมันอยู่ดี แล้วอะรัยจะตามมา เปลืองสิคับ ถ้าติดตั้ง NGV หาปั้มไม่ได้ คนขับเค้าใช้น้ำมันก็สิ้นเปลืองอีกเท่าไหร่
2. เรื่องความร้อน กลับน้ำหนักถังที่เพิ่มขึ้นของNGV ละถ้าคนขับรถไม่มีวินัย คอนตรวจเช็คเครื่องบ่อยๆละก็ ผมว่าอาจจะทำให้เครือ่งพังได้ง่ายกว่านะคับ
3. ถ้าใช้บรรทุกระยะยาว ดีเซลโดนตำรวจเรียกเป็นประจำแน่เพราะเรื่องควันดำ
4. ถ้าเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 กับดีเซล 2.5 เบนซิลให้กำลังที่มากกว่า คนขับรถก้กระทืบกันมันเลยทีเดียว


สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวผมนะคับ

แต่จากประสบการณ์โดยตรงตอนนี้ที่ใช้รถส่งของ เบนซิน2.7 ตอนเดียวอยู่ตอนนี้แฮปปี้มาก

เมื่อเทียบกับคันเก่า ที่เปนดีเซล กินน้ำมัน3บ./กม. และนานๆทีก็ชอบป่วยทำให้เสียงานเสียการอยู๋เป็นระยะๆ
ควันดำก็โดนตำรวจไถอยู่เรื่อยๆ คนขับรถก็เซง ผมก็ขายคันเก่าเอาไปดาว ถอย 2.7 ตอนเดียวป้ายแดงมา จับติดLPG ทันที จากการคำนวณแล้ว รถเก่าขายได้160000บ. ดาวปะมาน130000 ติดแก๊สอีกเกือบๆ 40000บ. ละเอาเงินที่เหลือจากค่าน้ำมันมาผ่อนคับ ลืมบอกไปคือรถผมใช้ปะมานวันละเกือบๆ300กม. ถ้า300กม.*26วัน*2บ./กม. ก้จะตกปะมาณ15600บ. ส่วนกำลังของเครือ่งตัวนี้ก้วิ่งได้สบายๆเมื่อเทียบกับดีเซล 2.5 ตำรวจก็ไม่ยุ่งเรื่องควันดำ คนขับรถก็แฮปปี้ ได้รถใหม่ใช้ ปั้มเติมก็ไม่มีปัญหาอะไร เครื่องแรงกว่าเก่า มาบ่นประจำโดนจับความเร็ว โดนแซงขวา ทุกวันนี้ก้แฮปปี้ดีคับประหยัดเงินได้ระดับนึง แต่สิ่งที่แอบเซงก็คือ คนขับรถบอกออกตัวแซงรถปิกอัพดีเซลหมดเลย ละรถผมจะเป็นยังไงหละคับพี่น้องเหอะ ทุกวันนี้ก็รู้สึกแฮปปี้กับการมีรถคันนี้ ผมคิดว่าผ่อนซัก4ปีหมด ปีที่เหลือก็เป็นกำไรที่เราสามารถประหยัดได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ยังไง LPG ก็คุ้มกว่า ในเรื่องการใช้ส่วนตัว
เพราคงไม่ใครบ้า ใช้รถส่วนตัววิ่ง ห้า หก ร้อย โลต่อวัน จริงไหมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       เห็นด้วยอย่างยิงเลยครับ ผมใช้แนวคิดแบบนี้ในการตัดสินใจซื้อ 2.7 ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       เช่นกันครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       เมื่อก่อนพวกเราไปติด NGV กันมาราคา 54,000 -69,000 บาท คงคืนทุน + กำไรกันไปนานแล้วล่ะ
เพราะราคาต่างกันเป็นเท่าตัว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       เอาวิธีคิดง่าย ๆ ไปอีก ถ้ารถใช้งานเฉลี่ยปีล่ะ 30,000 กิโลเมตร เอามาใช้งาน 10 ปี = วิ่ง 3 แสนกิโลเมตร
แบบนี้น่าจะเลือกติด NGV ไปเลยเพราะคุ้มค่าประหยัดแน่นอนกว่า
ถ้าวิ่งเกิน 10 ปี ก็จะยิ่งมีส่วนต่างของกำไรมากขึ้น เพรารถบ้านเราใช้งานกันเกิน 10 ปีก็เยอะแยะไปไม่เห้นมีปัญหาอะไรกันนี่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ขอยืนยันตามท่านประธานฯ

รถวิ่งมาแล้วเกือบ 2 ปี ติด NGV ติด Tap
ระยะทางวิ่งกว่า 60,000 กิโล ตอนนี้คุ้มทุนค่าติด Gas ไปแล้วครับ 65,000 + 3,500
มีความสุขกับการใช้รถรุ่นนี้จริงๆ วิ่งไปกำไรไป น้ำมันขึ้นก็ยังยิ้มได้ มีความสุขดี

ขอขอบคุณท่านประธานฯ คุณ Auto กับสาระดีๆ ในบอร์ดนี้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       อยากรู้ว่าเท่าไหร่ลองหารง่าย ๆ
ก็จะได้ 30000 / 365 = 83 กิโลเมตร

ถ้ามีระยะทางการใช้งาน วันล่ะ 83 กม. / วันขึ้นไป ก็น่าเลือกติด NGV
ถ้าใช้งาน วันล่ะ 150 -200 กม. แต่ว่าใช้รถแค่ 6-7 ปีก็สามารถติด NGV ได้แล้ว

โดยปกติใช้รถระยะยาววิ่งเยอะติด NGV ก็คุ้มกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       นี่ยังไม่นับรวมถ้านำไปเทียบกับรถ ปิคอัพดีเซลรุ่นเก่า ๆ ที่กินน้ำมัน 8-12 โล/ ลิตรอีกน่ะ
ถ้าไปเทียบกับพวกนี้ส่วนต่างยิ่งมาก เพราะปิคอัพดีเซลรุ่นเก่ากินน้ำมันเยอะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       เงินที่ Save ได้ก็โดนเมียยืดไป เราก็ไม่ได้ไรแถมโดนเมียบ่นอีกว่าอันตรายน่ะ อิอิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ผมเป็นอีกคนที่ใช้ 2.7 lpgหัวฉีดตอนเดียวด้วยครับ ผมว่าทั้งหมดมันอยู่ที่ปัจจัยและสภาพแวดล้อมครับ ผมอยู่หาดใหญ่ก่อนซื้อก็เทียบข้อมูลในส่วนของ 2.5d4d, 2.7 lpg, 2.7ngv, 2.7 สามมิตร สรุประหว่างดีเซลกับแก๊ส ก็เลือกแก๊สเหตุผลคงเหมือนหลายๆท่าน...2 lpg กับ ngv ผมมองที่ปั๊มกับระยะทางการใช้งาน ส่วนใหญ่รถคันนี้จะวิ่งส่งของในเมือง 60%และต่างจังหวัดอีก40% ปั๊มแก๊สทั้ง Nและ L ที่หาดใหญ่สะดวกพอๆกัน แต่พอออกต่างจังหวัดซึ่งส่วนใหญ่จะวิ่งลง 3 จังหวัดชายแดนใต้ซึ่งไม่มีปั๊ม N เลย ถ้าจะให้พอก็ต้องเพิ่มถัง ถ้าเพิ่มถังก็เสียพื้นที่บรรทุก ผมก็เลยตัด N ออกซึ่งยังมีเรื่องค่าติดตั้ง N ที่แพงกว่ามาก...3 เทียบราคารถซื้อจากโชว์รูม กับสามมิตร หักลบส่วนต่างซื้อแล้วนำมาติดแก๊สเองยังถูกกว่าสามมิตรนิดหน่อย แต่ที่ได้มากกว่าคือประกัน+ของแถม+ส่วนลด+ระยะเวลารับรถที่เร็วกว่า...ทุกวันนี้เจ้าวีโก้คันนี้ก็ยังขยันขันแข็งวิ่งส่งสินค้าได้อย่างดี ...ตอนซื้อคิดว่าแบกน้ำหนักเต็มที่ก็ 1.5 ตัน ตอนนี้มีธุรกิจเสริมอีกตัวทำให้ต้องไปเสริมแหนบตอนนี้ก็วิ่งแบก 2.5 ตัน ก็ยังพอได้อยู่ครับ แต่นานๆครั้ง...ส่วนรถเก๋งอีกคันก็กินแก๊ส Ngv อยู่ที่ 0.8 บาท/กม. ช่วยลดภาระด้านพลังงานไปได้พอสมควร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ลืมไปอีกนิดนึงครับ เพราะรถต้องวิ่งลง 3 จังหวัดบ่อยๆ เรื่องยางอะไหล่ไม่สามารถจะเอาออกได้ครับ นี่ก็อีกเหตุผลนึงที่ต้องเลือก Lpg ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย