WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


การใช้งานรถ TOYOTA 2.7 vvti อย่างปลอดภัย กระทู้นี้ว่าด้วยเรื่องของความปลอดภัยที่อาจมองข้าม
Auto.
จาก Auto
IP:202.80.239.130

พุธที่ , 3/8/2554
เวลา : 21:21

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เรื่องโช๊คค้ำฝากระโปรงหน้าและฝากระโปรงหลัง


พอดีผม PM คุยกับท่านนึงที่ได้ซื้อโช๊คค้ำฝากระโปรงหลัง ของรุ่นฟอร์จูเนอร์มาเปลี่ยนแทนของเดิม ที่หมดอายุเปิดไม่ขึ้น โดยเขาได้ซื้อของเทียมจากภายนอกในบรรดาหน้าเวปซื้อขายของ หลังจากซื้อมาได้ไม่นานเขาเปิดฝากระโปรงหลังเพื่อยกของ โดยมีลูกชายอายุ 7 ขวบ อยู่หลังรถเพื่อช่วยยกของด้วย ปรากฎว่าโช๊คฝากระโปรงหลังหักลงมาฟาดลูกชายได้รับบาดเจ็บต้องนอน รพ.เลยทีเดียว โชคดีที่อาการปลอดภัยแล้ว
ตัวโช๊คนั้นเคลมไม่ได้ทางผู้ขายไม่ได้รับเคลมด้วยการให้เหตุผลว่า ลูกชายเขาอาจไปโหนฝากระโปรงทำให้โช๊คหักลงมา แต่ท่านเจ้าของรถให้เหตุผลว่าลูกชายเขาตัวยังไม่สูงพอที่จะไปโหนฝากระโปรงด้วยซ้ำ
จริง ๆ แล้ว มาตรฐานการออกแบบโช๊คของบริษัทผู้ผลิต ให้เราสังเกตุอย่างนึงเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ตัวโช๊คถ้าเป็นของมาตรฐานสำหรับ OEM PART เรื่องหักแทบจะไม่ทางเกิดขึ้นเลยค่าแทบเป็น 0 % แต่เรื่องรั่วเกิดขึ้นได้หรือหมดสภาพเกิดขึ้นได้ แต่จะไม่หักหรือร่วงหล่นลงมาเด็ดขาด อาการคือจะเปิดไม่ขึ้น หมดแรงแล้วค่อยค่อย ๆ ยุบตัวลงมา เพราะฉะนั้นเรื่องหักหรือดีดตัวหรือตีวูบลงมานั้นเป็นเพราะโช๊คนั้นไม่ได้มาตรฐานตามค่าโรงงานกำหนด (ตามสเปกโรงงานจะไม่เกิดเอฟเฟกต์แบบนี้)

ใครที่มักไปซื้อโช๊คจากร้านภายนอกเอาของเทียมมามาใช้ก็จงระมัดระวังความปลอดภัยกันไว้บ้างเดี๋ยวได้ไม่คุ้มเสีย หรือคนที่ชอบติดโช๊คค้ำฝากระโปรงหน้าเอาไว้เท่ห์ ๆ เหมือนรถยุโรปก็ระวังให้จงหนักเดี๋ยวเกิดมันหักร่วงลงมาฟาดเอาคอหักตายไม่รู้ด้วยนะ ของพวกนี้ติดน่ะติดได้มันเป็นโช๊คไฮดรอลิคแต่ว่าควรเลือกซื้อของแท้โรงงานหรือเทียบโรงงานที่มีมาตรฐานสูงมากเข้ามาใช้อย่าเห็นแก่ของถูกหรือเป็นของแต่งภายนอกตามเวป ควรพิจารณาให้ดี เพราะของแท้จะมีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น คือมีการซึมหรือทำให้ชีลค่อยค่อยหมดแรงแต่จะไม่มีการดีดตัวหรือปล่อยให้ให้ร่วงลงมาฟาดแบบทันทันใด
โช๊คค้ำฝากระโปรงหลังฟอร์จูเนอร์ที่ผมคุยกับท่านนี้ได้เปลี่ยนไปซื้อเอาของเทียบโรงงานไปซื้อที่ วรจักร ยี่ห้อเดียวกับ TOYOTA ที่ใช้เป็นอะไหล่ ราคา 2660 บาท เท่านั้น ถูกกว่าซื้อของแท้ห้างคู่ล่ะ 6500 บาท และยังซื้อได้ถูกกว่าไปซื้อของเทียบภายนอกที่ขายกันตามเวปอีก มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงกว่าด้วยเพราะเป็นของแท้หรือเทียบห้าง








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 1
       ว่าด้วยเรื่องใบปัดน้ำฝน

ใบปัดน้ำฝนของ Hilux Vigo Fortuner มีปัญหาที่มักเจอคือการกระโดดเวลาปัด ปล่อยไว้นานมักจะปัดไม่เรียบ เปลี่ยนของแท้แล้วบางทีอาการนี้ก็กลับมาเป็นใหม่อีกในเวลารวดเร็ว ของแท้ TOYOTA รุ่น Vigo ราคายางปัดน้ำฝนของแท้ ซ้ายขวาราคา 200 กว่าบาทเท่านั้นไม่แพง
แต่ถ้าเวลาถึงคราวเปลี่ยนควรเลือกเปลี่ยนทั้งใบปัดของตัว Camry โฉมปัจจุบันนี่แหละเอามาเปลี่ยน เพราะสามารถใส่ได้ด้วยกันพอดี ความยาวของใบปัดน้ำฝนด้านซ้ายขวามีขนาดยาวขึ้นจากเดิมทำให้ปัดได้เกลี้ยงสะอาด มุมใบปัดกวาดได้หมดจด การกระโดดน้อยกว่าเดิม คุณภาพตามราคาของเกรดรถที่เพิ่มสูงขึ้นไปนั่นแหละครับเพราะ Camry เป็นรถเกรดสูงสุดของ TOYOTA แล้ว
ราคาใบปัดน้ำฝนทั้งใบพร้อมยาง ด้านขวาขนาดความยาว 600 mm 24 นิ้ว ราคา 970 บาท
ใบปัดด้านซ้าย ความยาว 500 mm. 20 นิ้ว ราคา 695 บาท
ราคานี้รวม 1,665 บาท ไปซื้อของเองที่วรจักร ของแท้ลดราคา 20-25% เราจะซื้อตัวนี้ได้ในราคา 1,210-1,250 บาทเท่านั้น
แต่ถ้าเราไปซื้อจากเวปขายของในหน้าซื้อขายอันนี้จะแพงคือขายกันประมาณ 1,550 ขึ้นไป
จากนั้นเวลายางใบปัดตัวนี้เสื่อมสภาพจะกินเวลานานกว่า ของเดิมหรือของเทียมทั่วไปที่ไม่คงทน สามารถซื้อของแท้ตามศูนย์เปลี่ยนได้เลยเปลี่ยนเฉพาะยางปัดน้ำฝนราคาไม่แพงประมาณ 300-400 บาท ต่อ 1 คู่ซ้ายขวา






add picture from google
จาก : Auto.(Auto.) 4/8/2554 19:30:07 [202.80.239.130]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 3/8/2554 เวลา : 21:22  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 26989

คำตอบที่ 2
       เรื่องฟิล์ม


ปัญหาที่มองข้ามคือการเรื่องการเลือกติดฟิล์มการใช้ฟิล์ม ต้องดุการใช้งานของตัวเองว่ารถเราขับกลางคืนบ่อยไหม ถ้าเราใช้งานกลางคืนบ่อยมากการติดฟิล์มไม่ควรเลือกติดฟิล์มทึบเกินไปและไม่ควรเลือกใช้ฟิล์มปรอท เพราะฟิลม์ปรอทมีอัตราการสะท้อนแสงมากกลางคืนจะหลอกตาพอสมควรโดยเฉพาะเจอกับแสงไฟของถนนจะมีประกายสวยงามเหมือนคลื่นลายน้ำ แต่ไม่เหมาะกับทัศนวิสัยเวลาขับรถหรือตอนฝนตก ถ้าใครใช้รถกลางคืนบ่อย ๆ ไม่ควรเลือกฟิล์มปรอท ส่วนถ้าใครใช้ฟิล์มที่ทึบแสงมากเวลากลางคืนการถอยหลังรถควรลดกระจกลงทุกบานเพื่อช่วยในการมองเห็น ส่วนถ้าใครใช้รถกลางวันเป็นประจำสามารถใช้ฟิล์มที่ทึบแสงได้ไม่มีปัญหา



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 3/8/2554 เวลา : 21:23  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 26990

คำตอบที่ 3
       เรื่องที่นั่งสำหรับเด็ก

ในที่นี่จะพูดถึงตำแหน่งที่นั่งสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี โดยที่คนไทยเราขาดความเข้าใจหรือความละเอียดอ่อนในเรื่องนี้อย่างมาก ตำแหน่งที่นั่งที่ปลอดภัยสำหรับเด็กเล็กมากที่สุดและให้เด็กควรนั่งคือตำแหน่งด้านหลัง เด็กเล้กไม่ควรโดยสารไปกับรถแล้วไปนั่งบริเวณด้านหน้ารถหลังคอนโซลหน้าอย่างเด็ดขาด ข้อกำหนดของบริษัทรถยนต์ทุกบริษัทหรือแม้แต่ข้อบังคับของทางยุโรปมีเรื่องนี้รายงานไว้ชัดเจน เด็กเล็กไม่ควรนั่งที่นั่งโดยสารตอนหน้าเพราะถุงลมนิรภัยไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ถ้าเกิดมีกรณีการชนกันเกิดขึ้นเด็กเล็กจะได้รับอันตรายมากกว่าถ้านั่งอยู่ที่นั่งโดยสารตอนหน้าถึงแม้เราจะให้เด็กคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็ตาม แรงกระแทกหรือแรงปะทะด้านหน้าที่เกิดขึ้นจะสร้างอัตราการบาดเจ็บให้เกิดขึ้นได้มากกว่าผู้โดยสารตอนหลัง อีกกรณีนึงที่พบเห็นกันบ่อยสำหรับคนไทยคือผู้ปกครองมักอุ้มเด็กไว้กับตัวแล้วขับรถโดยให้เด็กนั่งเกาะพวงมาลัยไปด้วย แบบนี้อันตรายอย่างมากเพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นเด็กเล็กจะได้รับแรงปะทะอย่างรุนแรงจากถุงลมนิรภัย หรือกระแทกกับพวงมาลัยอย่างเต็มที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้ทันที ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองไม่ควรกระทำและไม่ควรมองข้ามละเลยความปลอดภัยและควรสอนลูกหลานให้ตระหนักถึงความปลอดภัย
อีกกรณีนึงที่พบเห็นกันบ่อยคือให้ผู้เป็นแม่อุ้มลูกไว้บนตักแล้วนั่งที่ผู้โดยสารตอนหน้า แบบนี้ก็ไม่ควรทำเช่นกันเพราะเมื่อเกิดการชนหรือเกิดการเบรคอย่างกะทันหันจะทำให้เด็กเล็กบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ทันที อีกเรื่องนึงที่อาจพบได้บ่อยในบ้านเราคือคนที่มักมีรถ MPV SUV ที่มีที่นั่งในห้องโดยสารกว้าง ๆ มักปล่อยให้เด็กปีนป่ายหรือวิ่งเล่นไปมาภายในรถแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเช่นกันเพราะเวลาเบรคอย่างรุนแรงหรือเกิดอุบัติเหตุกระทันหันเด็กหรือผู้โดยสารที่ไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัยจากรถจะเกิดแรงกระแทกส่งออกจากตัวที่นั่งทำให้ชนทะลุออกจากระจกหน้ารถทำให้เสียชีวิตได้ทันที ตรงนี้ผู้ปกครองควรสอนเด็กให้ตระหนักถึงความปลอดภัยมากกว่าที่จะปล่อยหรือตามใจเขาให้วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานภายในรถ เด็กฝรั่งยังทำได้แต่ทำไมคนเอเชียเราไม่ค่อยทำกัน
กรณีดังกล่าวถ้าเป็นในยุโรปสวนใหญ่ฝรั่งจะให้เด็กนั่งที่ผู้โดยสารตอนหลังแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น ถ้าเด็กเล็กมากอายุต่ำกว่า 12 ปีเขาจะ ต้องใช้ที่นั่งสำหรับเด็ก bucket seat ผมเคยเห็นภาพประทับใจอยู่ช่วงนึงตอนขับรถไปซีคอนสแควร์ตอนนั้นรถติดบนถนนเพราะเขากำลังสร้างรถไฟฟ้านั่งอยู่ในรถผมเห็นสามีภรรยาชาวต่างชาติน่าจะเป็นแสกนดินิเวียเพราะผมเห็นธงชาติสวีเดนอยู่ด้านหลังรถตรงกระจกหลังสุด ฝรั่งคู่นี้ใช้รถยนต์เชฟโรเลต ซาฟิร่า Zafira พ่อเป็นคนขับรถ แม่นั่งด้านหน้า ส่วนลูก 3 คนอายุไล่เลี่ยกัน อายุไม่ถึง 10 ปี เด็กทั้ง 3 คนนั่งอยู่เบาะที่ 2 และทุกคนใช้ที่นั่งสำหรับเด็กและรัดด้วยเข็มขัดนิรภัย



ทราบไหมว่าประตูด้านหลังมีระบบล็อคเพื่อป้องกันเด็กโดยเฉพาะ

รถ TOYOTA หรือรถอื่น ๆ อีกหลายยี่ห้อที่มีประตูด้านหลังจะมีล็อคนิรภัยที่ประตูทั้ง 2 ด้านเพื่อกันเด็กเปิด รถ TOYOTA ไม่ว่ารถรุ่นนั้นจะเป็นรุ่นที่มีราคาถูกสักแค่ไหนก็ตาม 20-30 ปีมาแล้วพวกเขาเริ่มใช้ล็อคนิรภัยนี้ติดตั้งเป็นอุกรณ์มาตรฐานสำหรับรถที่มีประตูด้านหลังทุกรุ่นทุกบาน ทราบไหมว่าเพราะอะไรและทำไมเขาจึงทำเฉพาะประตูด้านหลังไม่ทำด้านหน้าฝั่งคนขับ เพราะว่ารายงานวิจัยออกมาแล้วว่าที่นั่งด้านหลังคือที่นั่งที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็ก ซึ่งบริษัทรถยนต์ทุกบริษัทก็สนับสนุนการนำเด็กไปนั่งด้านหลังซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดแต่เด็กนั้นมีความซนอยู่ในตัวอยู่แล้ว ถ้าไม่อยู่นิ่งเผลอเอามือไปเปิดประตูหลังออกมาจะเกิดอันตราย จึงต้องมีอุปกรร์ตัวนี้ไว้กับรถทุกคันเพื่อป้องกันอันตรายตรงจุดนนี้โดยล็อคนิรภัยนั้นเมื่อเปิดใช้งานประตูรถจะไม่สามารถเปิดได้จากด้านในแม้จะปลดล็อคแล้วก็ตาม แต่ให้สามารถเปิดจากด้านนอกได้เพียงด้านเดียวเท่านั้น ส่วนฝั่งคนนั่งโดยสารตอนหน้าจะไม่มีการทำล็อคนิรภัยตัวนนี้ไว้ด้วยเหตุผลมันไม่ใช่ที่นั่งที่เหมาะสมสำหรับเด็ก และกลัวการนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือนำไปก่อให้เกิดอาชญากรรม บริษัทรถยนต์จึงไม่ทำล็อคนิรภัยไว้ที่ด้านหน้า
ทราบอย่างนี้แล้วอย่าลืมจัดหาที่นั่งสำหรับเด็กให้ถูกต้องและเหมาะสมด้วยนะครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 3/8/2554 เวลา : 21:25  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 26991

คำตอบที่ 4
       เรื่องเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัย เบรค ABS พนักพิงศรีษะ

เข็มขัดนิรภัย
คนจำนวนมากละเลยไม่ค่อยคาดเข็มขัดนิรภัย ถึงแม้ว่ารถปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะมีถุงลมนิรภัยมาให้ด้วยก็ตามแต่คนจำนวนมากยังละเลยไม่เข้าใจว่าระบบความปลอดภัยนี้จะต้องทำงานควบคู่กัน ถุงลมนิรภัยจึงจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพป้องกันความปลอดภัยให้ชีวิตเราได้ เพราะถ้าเราขับรถโดยไม่คาดเข็มขัดเทมื่อถุงลมนิรภัยกางออกแรงปะทะตรงนี้จะมากตัวเราก็จะโดนแรงปะทะกับถุงลมนิรภัยไปด้วย ถ้าเป็นผู้โดยสารที่ไม่คาดเข็มขัดมักเจอปัญหาตัวคนพุ่งออกไปกระแทกกระจกหน้าหรือกระเด็นออกนอกรถจนได้รับบาดเจ็บจนเสียชีวิต อย่างกรณีรถตู้ขสมกโดนเก๋งซีวิคชนจนคนกระเด็นตกทางด่วนลงมาเสียชีวิตสิ่งที่คนส่วนน้อยของนักวิชาการให้ความเห็นกันไว้ก็คือรถตู้โดยสารมีประตูที่ไม่แข็งแรงเพียงพอเวลาเกิดอุบัติเหตุทำให้ประตูทั้ง 2 ด้านซ้ายขวาเปิด คนโดยสารก็ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคาดเข็มขัด เคยมีการเสนอให้มีการรัดเข็มขัดทุกที่นั่งจำนวน 9-14 ที่นั่งบนรถตู้โดยสาร ขสมก. ทุกคัน แล้วให้มีเซนเซอร์ตรวจจับใครไม่คาดจะส่งเสียงร้องดังภายในรถ แต่น่าเสียดายที่แนวคิดนี้ไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควรเนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นความสำคัญของการคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง

ถุงลมนิรภัย
ในสหรัฐอเมริกามีกฎหมายเกี่ยวกับมาตรฐานของยานยนต์ที่กำหนดให้รถยนต์ทุกคันไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่าที่นำเข้าไปขายจะต้องมีถุงลมนิรภัยคู่หน้าจึงจะผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมของสหรัฐ ในซาอุดิอารเบียหรือออสเตรเลียถึงแม้จะไม่มีกฎหมายบังคับชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องถุงลมนิรภัยแต่ว่าเป็นเสมือนอุปกรณืมาตรฐานที่รถยนต์ทุกคันต้องมีจึงจะนำเข้าไปขายได้ แต่สิ่งเหล่านี้คนไทยกลับไม่ได้ให้ความสนใจโดยกังวลกับราคาต้นทุนของรถยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นหรือค่าซ่อมที่จะตามคนไทยส่วนใหญ่เสียเงินที่จะไปตบแต่งรถให้สวยงามมากขึ้นแรงขึ้นแต่มักไม่สนใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพียงเล็กน้อยเพื่อแลกกับความปลอดภัยของตนเอง

ABS
คล้ายกับกรณีของถุงลมนิรภัย ที่เป็นอุปกรณ์ที่คนไทยมักไม่ได้ให้ความสำคัญว่ารถจะต้องมี โดยหลายคนให้ความสนใจกับการเอารถไปตบแต่งเพื่อเพิ่มความแรงหรือความสวยงามแต่ไม่ได้สนใจที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อรถที่มีระบบเบรค ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน บริษัท Honda ออกรถซิติ้คาร์อย่าง jazz city ก็ยังให้ความสำคัญกับระบบเบรค ABS EBD เป็นมาตรฐานของรถทุกคัน ที่จะต้องมี

พนักพิงศรีษะ
การใช้งานของรถนั้นควรปรับพนักพิงศรีษะให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่ ไม่ควรปรับพนักพิงให้สูงเกินไปและไม่ควรถอดพนักพิงศรีษะออกขณะขับรถเพราะเมื่อเกิดการชนจากด้านหน้าหรือชนอย่างรุนแรงจากด้านหลัง ศรีษะบริเวณต้นคอลงไปจะถูกพับอย่างรวดเร็วเป็นเหตุให้เป็นอัมพาตได้ หรือกระดูกศรีษะเคลื่อนจนเกิดบาดเจ็บ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 3/8/2554 เวลา : 21:26  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 26992

คำตอบที่ 5
       ไฟตัดหมอกด้านหลัง

เป็นเรื่องแปลกแต่จริงสำหรับรถบ้านเราเกี่ยวกับการใช้ไฟตัดหมอกที่คนส่วนใหญ่ไม่ยอมเปิดไฟตัดหมอกยามจำเป็น แต่กลับเปิดไฟตัดหมอกยามไม่จำเป็นเพื่อแยงตาคนอื่น รถอย่าง Yaris Vios Camry มีไฟตัดหมอกด้านหลังทุกคันเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ว่ารถอีกหลายรุ่นที่ TOYOTA ออกมานั้นกลับไม่มีไฟตัดหมอกมาด้วย จึงสร้างความแคลงใจให้เป็นอย่างมากว่าแล้วมาตรฐานมันอยู่ตรงไหนกันแน่ ในขณะที่รถอย่าง Hilux Vigo Fortuner ที่ขายในเมืองไทยไม่มีไฟตัดหมอกด้านหลังแต่ว่ารถ Vigo ที่ส่งไปขายในยุโรปกลับกลายเป็นว่ามีไฟตัดหมอกหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เวลาขับรถกลางคืนไม่ควรเปิดไฟตัดหมอกด้านหลังเพราะแยงตารบกวนสายตาของการขับขี่ของรถที่ตามมาด้านหลัง แต่คนใช้รถส่วนมากกลับไปเปิดไฟตัดหมอกหลังโดยไม่จำเป็น ในขณะที่เราเจอสภาพอากาศเลวร้ายเช่นตอนฝนตกหนักมากทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี เนื่องจากสายฝนที่ลงมาอย่างหนักจะรบกวนการมองเห็นจากรถคันหน้า ทำให้กะระยะได้ยากขึ้นเนื่องจากไฟหรี่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ หรือขับรถไปในภูเขาหรือสายหมอก หรือขับรถเข้าไปในสภาพกลุ่มควันที่มีไฟไหม้อยู่ข้างทางจนไม่สามารถมองเห็นระยะไกลได้ควรเปิดไฟตัดหมอกด้านหลังเพื่อให้รถที่ตามหลังมาถอยห่างเพื่อเว้นระยะในการขับขี่แต่ละคันให้มากขึ้นเนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดี แต่คนส่วนใหญ่ปิดไฟตัดหมอกทิ้งเมื่อเจอหมอกหรือสายฝนที่ลงมาอย่างหนัก หรือขับรถเข้าไปในกลุ่มควันกลับตั้งสติกันไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี อย่างนี้เป็นต้น



ฝนไม่ตก หมอกไม่มี แต่คนส่วนใหญ่ยังเปิดไฟตัดหมอกหน้า รบกวนแยงตาผู้ใช้รถที่ขับสวนมา ขอแช่งให้ตาเป็นต้อ
จาก : mit27(mit27) 4/8/2554 8:58:53 [113.53.7.195]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 3/8/2554 เวลา : 21:26  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 26993

คำตอบที่ 6
       การขับรถขณะมีหมอกลงจัด ฝนตกหนัก ขับรถเข้าไปในกลุ่มควัน

ควรเปิดไฟตัดหมอกด้านหน้าและหลัง แต่ไม่ควรเปิดสูงด้านหน้าเนื่องจากลำแสงจะส่องออกไปกระทบสายฝนจะทำให้ทัศนวิสัยการมองลำบากยิ่งขึ้น ควรเปิดไฟต่ำก็เพียงพอ ในสภาพอากาศที่เลวร้ายเช่นนี้ถ้าขับรถหลงเข้าไปแล้วควรลดความเร็วลงเพราะเราไม่สามารถมองเห็นด้านหน้าได้ไกลแต่ข้อห้ามเด็ดขาดที่พึงระวังไว้คือห้ามหยุดรถเด็ดขาดเมื่อเราเจอสภาพเช่นนี้ พึงระลึกไว้ว่ารถคันที่ตามหลังมาเขาจะไม่สามารถกะระยะได้เลยว่ารถคันหน้าหยุดรถทางที่ดีต้องฝืนขับต่อไปอย่างช้า ๆ เมื่อเข้าไปแล้วจากนั้นให้หาสถานที่ที่หลบอย่างปลอดภัยด้วยการขับรถเข้าไปจอดในปั๊ม หรือต้องออกนอกเส้นทางของการเดินรถห้ามจอดรถบนไหล่ทางอย่างเด็ดขาดเพราะรถที่ตามหลังมาย่อมมองไม่เห็นเช่นกันทำให้ต้องหลบหลีกและการหลบหลีกอย่างกระชันชิดจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ถ้าต้องหยุดรถให้ปฏิบัติตามหัวข้อดังกล่าวคือ หาสถานที่ปลอดภัยที่ไม่ใช่ถนนหรือเส้นทางเดินรถปกติหยุดรถเท่านั้น สิ่งที่ควรปฏิบัติอีกอย่างนึงคือในขณะเจอสภาพอากาศเลวร้ายแบบนี้การขับรถไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินเพราะการเปิดไฟแบบนี้เหมือนเป็นการสะกดจิตอย่างนึงการกระพริบของไฟเหลืองทำให้รถที่ตามหลังมาต้องระวังแต่จะตัดสินใจได้ช้าลงในสภาพการณ์แบบนี้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 3/8/2554 เวลา : 21:27  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 26994

คำตอบที่ 7
       ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

aod5151 จาก aodaod 14.207.171.118 พุธ, 3/8/2554 เวลา : 21:42  IP : 14.207.171.118   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 26998

คำตอบที่ 8
       ลึกซึ้ง....คับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

uefa จาก uefa 101.109.169.21 พุธ, 3/8/2554 เวลา : 23:47  IP : 101.109.169.21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27002

คำตอบที่ 9
       ขอน้อมรับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tar3425 จาก tar3425 124.120.133.233 พฤหัสบดี, 4/8/2554 เวลา : 12:43  IP : 124.120.133.233   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27013

คำตอบที่ 10
       ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Prateeps. จาก prateeps. 27.130.144.183 พฤหัสบดี, 4/8/2554 เวลา : 13:28  IP : 27.130.144.183   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27017

คำตอบที่ 11
       การขับรถช่วงอากาศเย็น

สิ่งนึงที่พบได้บ่อยคือการเกิดฝ้าที่กระจกหน้าขณะขับรถยนต์ เพราะเมืองไทยมีอากาศชื้นสัมพัทธ์และภายในรถในประเทศไทยเราไม่มี HEATER ทำความร้อน เนื่องจากคนไทยคิดว่าไม่จำเป็นต้องมี แต่พอเมื่อเราเจออากาศภายนอกเย็นก็จะปิดกระจกแล้วเปิดแอร์เบา ๆ ตรงนี้แหละที่จะทำให้เกิดฝ้าขึ้นได้เนื่องจากอุณหภูมิภายในรถจะร้อนกว่าภายนอก เนื่องจากร่างกายคนเรามีความร้อนที่ขับออกมาตลอดเวลาแล้วแอร์ที่เปิดก็มีความเย็นน้อยกว่าทำให้ฝ้าเกิดด้านหน้ากระจกรถยนต์ วิธีแก้คือให้หาเสื้อกันหนาวแบบหนา ๆ เตรียมไว้ในรถก่อนเจออากาศแบบนี้แล้วเปิดแอร์ให้เย็นเท่าที่จะทำได้ จะสามารถป้องกันการเกิดฝ้าที่หน้ากระจกได้ ถ้าเป็นในรถ Fortuner 2.7 ในไทยจะมีปุ่ม ไล่ฝ้ามาให้ด้วยให้กดปุ่มนี้เมื่อเกิดฝ้าขึ้นจะไล่ฝ้าได้เป็นครั้งคราว ใน Vigo จะมีเฉพาะตัวส่งนอกไปยุโรปแต่ในเมืองไทยไม่มี option นี้

ข้อห้ามคือไม่ควรปล่อยให้ฝ้าขึ้นกระจกแบบนี้แล้วพยายามใช้ผ้าเช็ด เนื่องจากสถานการณ์หรืออากาศแบบนี้มักเป็นในช่วงกลางคืน อากาศเย็น มีหมอก หรือหลังฝนตก ซึ่งทัศนวิสัยตามทางย่ำแย่อยู่แล้วจะทำให้คนขับรถตัดสินใจช้าลงหรือไม่ทันสังเกตุสิ่งรอบตัวได้ทันท่วงที การใช้ผ้าเช็ดบ่อย ๆ ที่หน้ากระจกจะทำให้คนขับรถพะวงหน้าหลังไม่มีสมาธิกับการขับรถซึ่งมักเป็นต้นตอการเกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง จึงไม่ควรใช้วิธีนี้ถึงแม้จะมีคนนั่งข้างคอยเช็ดให้ก็ตาม






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พฤหัสบดี, 4/8/2554 เวลา : 13:29  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27018

คำตอบที่ 12
       อย่าปล่อยเด็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถโดยลำพัง


เป็นอีกเรื่องที่คนขับรถส่วนใหญ่มองข้ามพลั้งเผลอไม่ทันระวัง จะปล่อยเด็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถโดยที่ไม่มีใครอื่นดูแล อาจคิดว่าลงไปทำธุระแป๊ปเดียวหรือกลัวลูกจะร้อน หรืออื่น ๆ แต่ที่จริงแล้วขาดความระวังหรือความรอบคอบเด็กอยู่คนเดียวจะไม่สงบนิ่งเขาจะพยายามหาสิ่งใหม่ ๆ รอบตัวเสมอ ซึ่งบ่อยครั้งเด็กหรือสัตว์เลี้ยงจะเผลอไปโดนปุ่มเซ็นทรัลล๊อคโดยบังเอิญทำให้ไม่สามารถเปิดรถกลับได้อีก หรือเด็กไปขยับเกียร์หรือปลดเบรคมือ ทำให้รถเดินหน้าหรือถอยหลังเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่โดยไม่คาดคิดได้
หลายครั้งที่ผู้ปกครองเอาบุตรหลานไว้ในรถเพียงลำพังและเมื่อเขาปิดเซ็นทรัลล้อคที่ประตูแล้วจะไม่สามาถเปิดกลับออกมาได้ เหตุเพราะกระบวนการทางความคิดเด็กแค่อยากรู้อยากเห็นแต่ว่าเขาไม่สามารถแก้ปัญหากระบวนการซับซ้อนทางความคิดได้ ถ้าเจอสภาพที่คนทั่วไปมารุมล้อมขอให้เปิดล็อคก็จะกดดันแล้วจะร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก
ไม่เชื่อใครมีลูกหลานลองหาของเล่นประเภทรถ หรืออื่น ๆ มาให้เขารื้อเล่นดูก็ได้ว่าเด็กเกือบทุกคนอยากรู้อยากเห็นสามารถรื้อของได้กระจัดกระจาย แต่ว่าเด็กทุกคนไม่สามารถประกอบกลับได้เหมือนเดิมหรือดีกว่าเดิมได้
เรื่องการปล่อยเด็กหรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถโดยลำพัง ถือเป็นกฎข้อห้ามร้ายแรงอีกข้อนึงที่มองข้ามกันไป



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พฤหัสบดี, 4/8/2554 เวลา : 14:07  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27019

คำตอบที่ 13
       การตรวจสอบเบรค

ปัยญหานี้จะไม่เกิดขึ้นเลยกับคนที่เข้าเช็คระยะในศูนย์บริการทุก 10,000 กิโลเมตร คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าอะไรคือการตรวจสอบเบรค ปัญหานี้มักจะเกิดกับคนที่ไม่ได้เอารถเข้าเช็คในศูนย์แล้วเกือบ 100 ทั้ง 100 เจออาการคล้ายที่ว่านี้ คือไม่ได้ตรวจสอบกับระบบเบรค ทำใหป้ประสิทธิภาพเบรคลดลงโดยไม่รู้ตัวจากความเคยชินของเราเองในการเบรค
รายการตรวจสอบที่ต้องทำคือ
1. ปรับตั้งระยะห่างของเบรคมือ โดยมีระยะมาตรฐานอยู่ที่ 3-7 คลิ๊กความสูงไม่เกิน 30 องศาการใช้งานทำให้ผ้าเบรคสึกจึงต้องมีการปรับระยะคอนโทรลฝักเบรคด้านหลังเพื่อให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพจับจานเบรคได้ไวใกล้เคียงฟิลลิ่งเดิม แต่คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้นำรถเข้าศูนย์แล้วจะไม่ได้ทำ เป็นเหตุให้ระยะเบรคยาวขึ้นและสุดท้ายมีปัญหาไปชนกันด้านหน้า
2. เป่าทำความสะอาดเบรค เพราะผ้าเบรคจะมีฝุ่นผงของผ้าเบรคหลุดร่อนจำนวนมากเป็นเหตุให้ประสิทธิภาพเบรคลดลง
3. ไม่ได้ขัดปรับหน้าสัมผัสของผ้าเบรคตามระยะที่กำหนด การใช้งานผ้าเบรคเมื่อเราใช้ไปนาน ๆ หน้าสัมผัสของผ้าเบรคจะด้านขึ้นจากความร้อนและการเสียดสี
4. ไม่ได้หล่อลื่นชุดกลไกของการเบรค ระบบเบรคต้องสัมผัสอยู่กับความร้อน โคลน ฝุ่นน้ำสกปรกจนทำให้เกิดสนิม ทำให้กลไกการเคลื่อนตัวเข้าออกของเบรคช้าลงทำให้ประสิทธิภาพเบรคลดลงด้วย การเข้าศูนย์ทุกระยะจะต้องหล่อลื่นระบบเบรคด้วยทุกครั้งด้วยจารบี
5. ใช้ผ้าเบรคไม่เหมาะสม คุณลักษณะของผ้าเบรคแต่ล่ะรุ่นไม่เหมือนกันการเลือกใช้ก็ต่างกัน เบรคบางยี่ห้อเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วสูง เฟดเบรคจะทื่อตอนจานเบรคเย็นแต่ถ้าร้อนจัดจะจับได้ดี ถ้าคนใช้งานในเมืองบ่อย ๆ ใช้ผ้าเบรคแบบนี้ไม่ได้เพราะใช้ระยะเบรคเยอะกว่าเดิมอันตราย เบรคบางแบบตอนเย็นตัวจับได้ดีแต่ร้อนจัดจะทื่อจับไม่อยู่คนที่ชอบความเร็วสูงใช้ผ้าเบรคแบบนี้ไม่ได้เพราะเอารถไม่อยู่ผ้าบรคสึกหรอเร็วอย่างนี้เป็นต้น
การใช้เบรคขณะลงเขาแล้วผ้าเบรคไม่จับตัวกันหรือไหม้ จากการทดสอบของฝ่ายเทคนิค เขาจับเซนเซอร์ไว้ที่จานเบรคล้อหน้าสำหรับรถ Fortuner Vigo อุณหภูมิผ้าเบรคอยู่ที่ 1,000 องศาขึ้นไป แต่ผ้าเบรคทั่วไปที่ขายกันไม่ว่าแท้เทียมหรือว่าโคตรดีในตลาดรับอุณหภูมิสูงสุดได้ไม่เกิน 800 องศาก็หรูแล้วเพราะฉะนั้นจะไปว่าผ้าเบรคก็ไม่ได้การขับรถลงเขาต้องระวังการใช้เบรคให้มาก ถ้าเป็นผ้าเบรคแท้ TOYOTA จากโรงงานฟิลลิ่งจะกลาง ๆ ไม่เด่นด้านใดด้านนึง






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พฤหัสบดี, 4/8/2554 เวลา : 14:51  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27020

คำตอบที่ 14
       จารบีที่ใช้หล่อลื่นกลไกต่อโยงด้านล่างของเบรค ทั้งคาลิเปอร์หน้าและก้ามปูหลังมาตรฐานคือ Shell retinax WBH หรือเทียบเท่า Shell SSG2602






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พฤหัสบดี, 4/8/2554 เวลา : 14:54  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27021

คำตอบที่ 15
       ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ ผมก็เพิ่งไปถอย Fortuner2.7 มาไม่กี่วันเองครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

GUN_SEK จาก GUN_SEK 182.53.157.163 ศุกร์, 5/8/2554 เวลา : 23:41  IP : 182.53.157.163   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27046

คำตอบที่ 16
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

aood2009aood2009 จาก aood 110.168.49.207 อังคาร, 9/8/2554 เวลา : 09:56  IP : 110.168.49.207   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27094

คำตอบที่ 17
       ข้อมูลที่ใด้รับดีจริงๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tar3425 จาก tar3425 203.155.220.236 พุธ, 10/8/2554 เวลา : 23:12  IP : 203.155.220.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27143

คำตอบที่ 18
       เมื่อ 2-3 วันก่อนมีข่าว นสพ. เกี่ยวกับรถตู้โดยสาร ขสมก. 2.7 vvti วิ่งตกคูน้ำที่ถนนสายเอเชีย คนโดยสารกระเด็นออกมานอกรถเสียชีวิต เป็นที่น่าเสียดายมากเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ที่บ้านเรายังไม่ยอมออกกฎหมายบังคับรวมถึงคนโดยสารเองก็ไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวและไม่ปฏิบัติ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

ดังที่ผมบอกไปในกระทู้นะครับว่า เวลาเราโดยสารรถตู้ ไม่ว่าจะเป็นรถตู้รุ่นใดก็ตาม หรืออะไรก็แล้วแต่ ยี่ห้อใดก็ตาม หรูหราขนาดไหนก็ตาม ต้องรัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง เพราะด้วยลักษณะโครงสร้างของประตูของรถตู้ทั้ง 2 ฝั่งจะถูกเปิดออกเมื่อเจออุบัติเหตุหนัก ๆ ซึ่งคนโดยสารจะเสียชีวิตในกรณีดังกล่าวเพราะว่ากระเด็นออกนอกรถนี่แหละ

คงต้องย้ำเตือนกันอีกครั้ง ถึงการ โดยสารรถตู้ทุกครั้งไม่ว่ารุ่นใดก็ตาม คาดเข็มขัดนิรภัยทันทีทุกที่นั่งของการโดยสาร สำหรับการนั่งรถประเภทนี้ จะช่วยป้องกันอันตรายจากการกระเด็นออกนอกรถได้ เกือบ 100% และไม่ควรนั่งเบาะเสริมที่มีโครงสร้างเบาะไม่แข็งแรงอย่างเด็ดขาดเพราะเบาะเสริมมีจุดยึดไม่แข็งแรง จะทำให้เรากระเด็นออกมานอกรถถึงแม้จะรัดเข็มขัดแล้วก็ตาม เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 อังคาร, 23/8/2554 เวลา : 10:33  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27349

คำตอบที่ 19
       ขอบคุณครับสำหรับสิ่งดี่ๆ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ranger140 จาก แรงเยอร์ 183.88.46.225 พุธ, 24/8/2554 เวลา : 09:58  IP : 183.88.46.225   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27374



คำตอบที่ 20
       วันนี้ไปเปลี่ยนจานเบรคชุด320มาครับ
พอดีผ้าเบรคใกล้หมดเลยเปลี่ยนจานใหม่ด้วยเลย จากเดิมๆติดรถมาเป็น297มิล มาเป็น320มิลของตัว TRD smart
มันเริ่มมาจากเวลาเบรคแล้วรู้สึกว่าไม่มั่นใจมากเท่าที่ควร เลยไปลองเปลี่ยนเฟืองละเอียดที่เบรคหลังจากสำนักแห่งหนึ่งมาก่อน ความรู้สึกในการเบรคหยุดดีขึ้นมาก ที่สำคัญราคาไม่รุนแรงเลย( น่าจะไม่ถึงพันนะถ้าจำไม่ผิด )
แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่สามารถตอบความรู้สึกของผมได้เท่าที่ต้องการ จากการขับขึ้นเขาลงห้วยยังรู้สึกว่าไหลๆอยู่(ถ้าเป็นgear auto ผมไม่ค่อยเปลี่ยนเกียร์ช่วยเวลาเบรคเท่าไหร่ซึ่งมันไม่ดี)
ต่อมาได้คุยกับtop ซึ่งได้เปลียนจานเป็น 320มิลมาก่อนแล้ว ผลปรากฏว่าจากเมื่อก่อนที่topขับขึ้นดอยลงดอยตลอด จานเก่าเกิดปัญหาเรื่องความร้อนมาก แต่จาน320มิลไม่เกิดปัญหาเลย และระยะเบรคความนุ่มนวลในการหยุดรถดีขึ้นมาก สุดท้ายผมเอาก็เอาวะ....ลองดู






พี่เก่ง รถยกมาแล้ว 2 นิ้ว ไม่ได้ปรับ LSPV หลังช่วยหรือ
จาก : akeram(akeram) 26/8/2554 20:00:52 [124.122.164.222]
รถพี่เก่งปรับlspvหลังแล้ว ดีขึ้น แต่ยังดีไม่พอครับ รถผมก็เหมือนกัน สุดท้ายจบที่จานTRD Smart320mm. แน่นอนที่สุด ^_^
ผมเริ่มจากปรับlspvเบรคหลังก่อน ผลออกมาดีกว่าเดิมครับ
จาก : j cha(j cha) 27/8/2554 9:43:11 [125.24.223.233]
อ้าว...จาก:TOP หายไปไหนเนี่ย
จาก : j cha(j cha) 27/8/2554 9:44:52 [125.24.223.233]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

j cha จาก j cha 58.8.155.83 ศุกร์, 26/8/2554 เวลา : 15:49  IP : 58.8.155.83   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27408

คำตอบที่ 21
       เท่าที่รู้มาอย่างงูๆปลาๆ จานขนาด320มิลที่เปลี่ยนกันในบ้านเราจะมีอยู่2อย่าง
- อย่างแรกจะเป็นของ prado95 จะเป็นจานขนาด320มิลแบบบาง ตัวกระบอกในcaliperจะใหญ่กว่าตัวTRD smartอยู่ 2มิล ความที่เป็นจานแบบบางกูรูทางด้านเบรคเขาก็เลยบอกว่ามันดี เพราะความร้อนขึ้นและลงเร็วทำให้ตัวจานเบรคหรือrotor ไม่เกิดอาการคดง่าย แต่ต้องหาของมือ2มาใช้ ถ้าจะเบิกของใหม่จากTOYOTAเลยก็มีครับ แต่การที่จะเข้าไปหาpartนั้นลำบากมากขนาดคนในtoyotaเองยังไม่รู้partเลยเพราะเป็นอะไหร่นอกนำเข้า และเรื่องราคาคงเอาเรื่อง เพราะราคามือ2ข้างนอกก็หมื่นกว่าแล้ว
-แบบที่2 เป็นจาน320ของTRD smart เป็นจาน320แบบหนา ( จานแบบบางแบบหนาผมไม่ได้คิดขึ้นเองนะ เอาแบบว่าเท่าที่ฟังเค้ามาก็เอามาเล่ากันต่อละกัน ) การคายความร้อนจะสู้แบบบางไม่ได้ เพราะในvigoการเบรคนั้นถ้าเป็นเบรคแบบเดิมๆ เบรคหน้าจะทำงานหนักกว่าเบรคหลังมาก เบรคหลังจะทำงานเพิ่มก็ต่อเมื่อมีน้ำหนักบรรทุกหลังเพิ่ม จะทำให้วาร์วไปสั่งให้เบรคหลังจับเพิ่มมากขึ้น
การที่เบรคหน้าทำงานหนักกว่าเบรคหลังส่งผลไห้เกิดความร้อนสะสมในเบรคหน้ามากกมาย เวลาวิ่งมาเร็วๆแตะเบรคจานก็คด พวงมาลัยก็สั่นเอาจานไปเจียก็หายไปสักพักเดี๋ยวก็เป็นอีก ( ผมก็เป็น )


 แก้ไขเมื่อ : 26/8/2554 16:18:07





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

j cha จาก j cha 58.8.155.83 ศุกร์, 26/8/2554 เวลา : 16:15  IP : 58.8.155.83   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27409

คำตอบที่ 22
       หลังจากเปลี่ยนเสร็จทดลองขับรู้สึกว่าเวลาเบรคหยุดนิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน แต่ยังไม่ได้ลองเบรคแบบแรงๆเพราะผ้าเบรคและจานยังใหม่อยู่
ส่วนบางทฤษฎีว่าต้องเปลี่ยนเบรคหลังเป็น disk (disc) break นั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถแล้วกันในส่วนตัวแค่นี้ผมก็คงพอแล้วครับ
เอามาเล่าสู่กันฟังครับ ?20






ตอบ akeram ...ก่อนเปลี่ยน320TRD ผมไปลองขับรถของอีตาต่อที่เปลี่ยนrunstopมา
จาก : j cha(j cha) 29/8/2554 9:21:56 [125.25.221.174]
หน้าตาrunstopดูดีมีชาติตระกูล เวลาเบรคผมก็พอใจนะ แต่คันนั้นไปได้ไปปรับ lspv มา
จาก : j cha(j cha) 29/8/2554 9:24:35 [125.25.221.174]
เวลาเบรครู้สึกว่าหน้าจิกอยู่เลย แต่หลังแถออก สรุปว่าสำหรับrunstopผมก็ชอบนะ
จาก : j cha(j cha) 29/8/2554 9:32:56 [125.25.221.174]
แก้ไข...คันที่เปลี่ยนrunstop ไม่ได้ไปปรับ lspv มา
จาก : j cha(j cha) 29/8/2554 9:34:16 [125.25.221.174]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

j cha จาก j cha 58.8.155.83 ศุกร์, 26/8/2554 เวลา : 16:32  IP : 58.8.155.83   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27410

คำตอบที่ 23
       ขอสอบถาม เป็นความรู้ เกี่ยวกับระบบเบรค
ระหว่าง ชุดเบรค 320 มิล ของ TRD SMART ที่ พี่เก่ง ใส่มา เปรียบเทียบกับ ชุดเบรค RUN STOP 320 มิล
( ทั้งแบบจาน STANDARD แบบจานเจาะ-เซาะร่อง )
มีความแตกต่าง กันมากมั้ย ทั้งวัสดุ และ คุณภาพ



ฟันธง...320mm. ของ TRD SMART แน่นอนครับ
จาก : V27(northu) 28/8/2554 22:38:25 [58.8.193.31]
TRD Smart 320mm. ด้วยอีกคน ^_^"
จาก : ^Top^(^Top^) 28/8/2554 22:45:31 [101.109.14.200]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

akeram จาก akeram 124.122.89.5 อาทิตย์, 28/8/2554 เวลา : 22:31  IP : 124.122.89.5   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27427

คำตอบที่ 24
       ผลการเปลี่ยนจานเบรค 320มาได้เดือนกว่าๆ
Happyมากมาย ระยะเบรคดีขึ้นมาก (ใช้คำว่ามากๆ) อาการแข็งทื่อๆแล้วหยุดของจานเดิมหายไป
โทรคุยกับ top บ่อยๆว่าถ้ารู้ว่าดีอย่างนี้เปลี่ยนไปตั้งนานแล้ว



พี่ครับค่าเสียหายกี่บาทครับ แล้วหลังจากเปลี่ยนจาน320มม.ต้องตั้งlspvใหม่รึป่าวครับ แอบสนใจอยู่ครับ
จาก : @t_vvti(@t_vvti) 15/4/2557 7:20:11 [223.207.240.48]
ร้านที่ติดตั้งด้วยครับ ขอบคุณครับ
จาก : @t_vvti(@t_vvti) 15/4/2557 7:25:23 [223.207.240.48]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

j cha จาก j cha 223.207.88.124 พุธ, 5/10/2554 เวลา : 22:16  IP : 223.207.88.124   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28048

คำตอบที่ 25
       พี่ๆคับ ขอสอบถามหน่อยคับ ถ้าผมจะเอาดิสเบรคเดิมของวีโก้4*4 4D น๊อตล้อ6รู เดิมๆ ไปใส่รถวีโก้2.7ตอนเดียวส่งของ ซึ่งน๊อตล้อ5รู มันสามารถจะทำได้มั้ยคับ จากความรู้สึกผมว่าไม่น่าจะได้ แต่ไม่มีข้อมูลแท้จริง

ถ้าทำได้ ผมอยากจะเอาเก็บไว้เปนสแป รถส่งของ แล้วผมจะได้เปลี่ยนเปนดิส320 บ้าง

เพราะในบางครั้งเบรคกระทันหันรถมันชอบแถๆ จะไปตำชาวบ้านเค้าหลายทีละคับ ถ้าหักหัวรถออกไม่ทันมีหวังเรียกประกันชัวร์



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

rap_bank จาก rap_bank 183.89.108.68 พฤหัสบดี, 6/10/2554 เวลา : 23:38  IP : 183.89.108.68   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28061

คำตอบที่ 26
       จาก rap_bank

ตัวจานมันก็มีรูนะน้องbank (ดูจาก คห.ที่22) เพราะฉะนั้นมันจึงเอาไปใส่กับ5รูไม่ได้ ต้องแปลงอีกมากมาย
ส่วนจานก็มีหลายที่ให้เลือก ลองถามAUTOดู แต่เน้นว่าอย่าลืมไปปรับLSPVหลังด้วยนะไม่งั้นจะรู้สึกหน้าหยุดแต่หลังแถออก
มันมีหลายตำราหลายสำนักสำหรับเรื่องเบรค แต่stepนี้ ไม่บานปลายและเห็นผลที่น่าพอใจนะ
ปล. meetingคราวหน้าไปลองดูกันอีกก็ได้นะ



ขอบคุณคับ และก้ด้วยความยินดีคับพี่ รถผมเทียบไม่ติดรถพี่เลยซักนิด555
จาก : rap_bank(rap_bank) 8/10/2554 11:46:27 [183.89.108.68]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

j cha จาก j cha 223.207.88.124 ศุกร์, 7/10/2554 เวลา : 07:08  IP : 223.207.88.124   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28067

คำตอบที่ 27
       อยากเปลี่ยนมั่งจัง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tar3425 จาก tar3425 203.155.220.236 เสาร์, 8/10/2554 เวลา : 12:32  IP : 203.155.220.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28085

คำตอบที่ 28
       จะเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน camry ครับ
เพราะอันเดิมติดรถ เปลี่ยนใบยังงัยก็ไม่ดี
เห็นคุณ Auto เขียนบอกมีที่วรจักร ไม่เคยเข้าไปครับ
พอจะชี้เป้าหรือเบอร์ติดต่อไหมครับ
pm บอกทีครับ
หรือซื้อที่ไหนใกล้ๆ ถ้าแพงขึ้นนิดหน่อยพอรับไหว
แถวนนทบุรี เกษตร



เบิกศูนย์ toyota เลยครับ1xxx ถ้ามีส่วนลดก็ถูกลงมาหน่อย ( ราคารวมก้าน )
จาก : j cha(j cha) 10/10/2554 10:25:41 [125.24.222.140]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

taka_vvti จาก TaKa_vvti 124.121.113.139 อาทิตย์, 9/10/2554 เวลา : 23:47  IP : 124.121.113.139   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28101

คำตอบที่ 29
       โห.......1.xxx เลยของผมเริ่มแย่แล้วเหมือนกัน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tar3425 จาก tar3425 203.155.220.236 จันทร์, 10/10/2554 เวลา : 12:26  IP : 203.155.220.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 28108

คำตอบที่ 30
      
อุบัติเหตุทำเด็กไทยตายอันดับ2 อึ้งพ่อแม่เมินให้ลูกใช้ที่นั่งนิรภัย-จี้เข้มกฎหมายจราจร






Saturday, 12 April 2014 04:18




คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557

เด็กไทยตายจากอุบัติเหตุจราจรอันดับ 2 รองจากจมน้ำ เฉพาะช่วงสงกรานต์เหตุจากโดยสารรถยนต์ถึง 46% อึ้งพ่อแม่ไทยใช้ที่นั่งนิรภัยกับลูกไม่ถึง 1% กุมารแพทย์ชี้ช่วยเพิ่มอัตราความปลอดภัยเด็กทารถ 70% จี้ลดภาษีส่งเสริมการเข้าถึง-บังคับเข้มในกฎหมายจราจร

เมื่อวันที่ 10 เมษายน รศ.นพ. อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า เด็กไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรสูงเป็นอันดับ 2 รองจากการจมน้ำ โดยตัวเลขในปี 2554 พบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร 614 ราย คิดเป็น 21% ในจำนวนนี้เป็นอุบัติเหตุจากรถยนต์ 101 ราย หรือ 16.5% แต่หากเป็นช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลสงกรานต์จะมีอุบัติเหตุจราจรเกิดขึ้นกับเด็กทำให้เสียชีวิตประมาณ 9% ในจำนวนนี้เกิดจากอุบัติเหตุโดยสารรถยนต์ 46% ซึ่งพบว่าเด็กที่เสียชีวิตทั้ง 100% ไม่มีการใช้เข็มขัดนิรภัยหรือที่นั่งนิรภัย จึงต้องบังคับให้เด็กใช้ระบบยึดเหนี่ยวเพื่อยึดตัวเด็กไม่ให้กระเด็นออกนอกรถ โดยเฉพาะควรใช้ที่นั่งนิรภัย ทั้งนี้ จากการสำรวจบริเวณทางด่วนหรือปั๊มน้ำมัน พบว่าพ่อแม่คนไทยมีการใช้ที่นั่งนิรภัยเมื่อมีเด็กโดยสารรถยนต์ต่ำมากไม่ถึง 1% สาเหตุอาจเนื่องจากไม่ตระหนักถึงความสำคัญและราคาที่นั่งนิรภัยที่ค่อนข้างสูง

"กฎหมายจราจรกำหนดให้ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยในการโดยสารรถยนต์ แต่ในความเป็นจริงทารกหรือเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 9 ปี ไม่มีความเหมาะสมและปลอดภัยที่จะใช้เข็มขัดนิรภัย เพราะสายเข็มขัดแนวทแยงจะพาดคอเด็ก ขณะที่เข็มขัดแนวขวางจะพาดบริเวณท้องเด็ก ซึ่งจะมีอันตรายเพิ่มขึ้น ในการโดยสารรถยนต์ของเด็กต่ำกว่า 9 ปีจึงควรใช้ที่นั่งนิรภัย โดยหากใช้กับเด็กทารก จะลดอัตราตายถึง 70% อายุ 1-4 ปี 47% และอายุมากกว่า 5 ปี 45%" รศ.นพ.อดิศักดิ์กล่าว

รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า การใช้ที่นั่งนิรภัยเมื่อโดยสารรถยนต์ควรใช้ตั้งแต่เด็กทารก โดยเลือกให้เหมาะสมตามวัยและเปลี่ยนเมื่อถึงอายุที่ต้องเปลี่ยน และในการติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับทารกต้องให้เด็กนั่งหันหลังไปด้านท้ายรถเพื่อลดโอกาสกระดูกต้นคอหัก รวมถึงควรติดตั้งบริเวณที่นั่งด้านหลัง ส่วนรถกระบะ หากให้เด็กนั่งกระบะท้ายจะมีอัตราการเสียชีวิตถึง 8 เท่า การติดตั้งที่นั่งนิรภัยต้องติดตั้งบริเวณที่นั่งด้านหน้า แต่ต้องไม่มีถุงลมนิรภัยหรือมีด้านเดียวเฉพาะด้านคนขับ ไม่สามารถติดตั้งบริเวณแค็บ รถกระบะ อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการให้พ่อแม่ให้ความสำคัญกับการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ควรมีการเพิ่มเติมในมาตรา 123 พ.ร.บ.จราจรทางบก ให้มีการกำหนดให้ใช้ที่นั่งนิรภัยหากมีเด็กโดยสารด้วย ปัจจุบันระบุเพียงต้องคาดเข็มขัดนิรภัย นอกจากนี้ ควรดำเนินการด้านภาษีด้วยการลดภาษีนำเข้าที่นั่งนิรภัยที่ขณะนี้สูงถึง 30% เนื่องจากเหตุว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย หากลดภาษีลงได้จะช่วยให้ราคาที่นั่งนิรภัยถูกลง

http://its.in.th/index.php/the-news/54-stat/12574--2--

ผมเชื่อว่าอนาคตคงต้องมีการผลักดันกฎหมายการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กอย่างจริงจังในบ้านเรา อย่างแน่นอนเพราะหลายฝ่ายคงตระหนักถึงปัญหานี้อย่างดีแล้ว และเป็นตัวกำหนดทิศทางอนาคตของรถยนต์บางรุ่นในบ้านเราด้วย เพราะรถบางรุ่นในบ้านเราเช่นกะบะตอนเดียวหรือกะบะแคปที่ไม่สามารถติดตั้งเบาะนิรภัยสำหรับที่นั่งเด็กโดยเฉพาะได้ คงไม่มีใครกล้าเอาออกมาใช้งานทำเป็นรถครอบครัวเหมือนทุกวันนี้แน่นอน




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.120.119.200 จันทร์, 14/4/2557 เวลา : 16:50  IP : 124.120.119.200   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 37682

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันอังคาร,16 เมษายน 2567 (Online 3241 คน)