WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ขอคำแนะนำในการเริ่มต้นดูแล 2.7 มือสองหน่อยน่ะครับ
nongaddy
จาก นองบ้านเนิน
IP:122.152.143.128

อังคารที่ , 23/8/2554
เวลา : 15:28

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ผมเพิ่งได้ 2.7VVTi ปี 2005 สีดำมาใช้งาน เลขไมล์อยู่ที่ 105000 โล
ติดแก๊ส LPG หัวฉีด ไว้ใต้ท้อง ไม่ค่อยได้ใช้เกียร์ 4*4 เวลาที่เบรคจะมีอาการพวงมาลัยสั่น
อยากทราบว่าในขั้นต้นจะต้องตรวจเช็คจุดไหนที่สำคัญๆ และมีจุดไหนที่ต้องเปลี่ยนบ้างครับ
ต้องขอรบกวนด้วยน่ะครับ ผมไม่เคยใช้รถ 4*4 คำถามอาจจะดูแย่ๆ หน่อย



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       แยกเป็น 2 ลักษณะ

1.ซื้อมาจากเต๊นท์
ถ้าเป็นซื้อมาจากเต๊นท์ทั่วไป เช็คประวัติย้อนหลังยาก โอกาสกลับเลขไมล์สูง การดูแลคือต้องเริ่มใหม่แบบไม่ต้องสนใจเลขไมล์

2.ซื้อต่อคนรู้จักหรือแหล่งรถที่เชื่อถือได้
แต่ถ้าเป็นการซื้อโดยที่รู้ที่มาประวัติชัดเจนเลขไมล์แท้ ไม่ได้เปลี่ยนมา อันนี้สามารถดูแลตามระยะปกติได้เลยไม่ต้องเริ่มใหม่ ทุ่นค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 อังคาร, 23/8/2554 เวลา : 17:26  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27352

คำตอบที่ 2
       เอาข้อ 2 ก่อนแล้วกันสมมติรถวิ่งมา 100,000 กิโลเมตรจริง
ก็ให้เข้าศูนย์ดูแลตามระยะปกติได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนอะไรนอกเหนือ
ส่วนเบรคให้เช็คดูก่อนว่าสั่นอาจเป็นที่จานเบรคใช้งานมาหนัก มีการคดตัวหรือเป็นรอย เจียรจานเบรคน่าจะหาย
ผ้าเบรคอาจใกล้หมด รถตั้งหลายปีแล้วผ้าเบรคไม่เคยเปลี่ยนเลย อาจต้องตรวจดูผ้าเบรคพร้อมกับการเคลื่อนตัวของลูกสสูบเบรคอาจมีอาการติดขัด ต้องถอดมาล้างเปลี่ยนยางโอริงที่เบรคทั้ง 4 ล้อ


ส่วนระบบ 4x4 ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ถ้าไม่ใช้ก็คาเอาไว้อย่างนั้นแหละไม่เดือดร้อนอะไรกับชีวิต ถึงขนาดตื่นเต้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ
บางคนหรือในคู่มือบอกว่าต้องโยกเกียร์ 4x4 บ้างเดือนล่ะครั้ง ผมนี่แหละกล้าบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำคือจะทำก็ได้ไม่ทำก้ได้
ไม่ต้องตื่นเต้นจนนอนไม่หลับกระสับกระะส่าย คือไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร มีไว้เท่ห์ ๆ อย่างนั้นก็ได้ไม่พังหรอก เพื่อนของแฟนผมเป็นพยาบาลซื้อ TOYOTA Sporider มาใช้ตั้งแต่ป้ายแดง นาน ๆ เรียกว่า นานนนนนนนนนนน มาก ๆ ๆ ๆ ๆ กว่าจะเข้าเกียร์ 4x4 ซักครั้งนึงรถก็ไม่พังเกียร์ก้ไม่พัง อย่าไปเชื่อใครที่บอกว่ารถ 4wd ซื้อเอามาใช้แล้วต้องกลัวการซ่อมบำรุง กลัวพัง กลัวไม่ได้ใช้นานแล้วจะพัง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 อังคาร, 23/8/2554 เวลา : 17:26  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27353

คำตอบที่ 3
       อาการคล้ายตอนผมได้รถมาใหม่ ๆ เลยครับ ลองตรวจสอบผ้าเบรคและจานเบรคว่าคดหรือไม่ครับ แต่ผมว่าเปลี่ยนเฉพาะผ้าเบรคก็หายแล้วครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

noom4w จาก noom4w 203.154.225.41 อังคาร, 23/8/2554 เวลา : 17:28  IP : 203.154.225.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27354

คำตอบที่ 4
       ส่วนที่ต้องทำเพิ่มเติมที่แนะนำก็มี

1. ไปล้างแอร์ซะก่อน ด้วยการล้างแบบฉีดน้ำยาเข้าไป ค่าล้าง 500 บาท แล้วก็ไปใส่กรองแอร์ ราคา 200 บาท เพราะรถปี 2005 ไม่มีกรองแอร์ ร้านทำก็เม้งคาร์ออดิโอ แถวรามอินทรา ทำแค่นั้นเพียงพอไม่ต้องทำอย่างอื่น

2. ไปใส่กรองป้องกันเศษสกปรกเข้าปั๊มอากาศ อันนี้ก็ต้องรีบไปทำ
http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/question.asp?page=3&ID=1485



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 อังคาร, 23/8/2554 เวลา : 17:31  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27355

คำตอบที่ 5
       ส่วนระบบ 4x4 ในกรณีที่เราได้รถมาแล้วอยากใช้ อยากลองใช้ดูบ้างว่า รถเรามีอะไรที่เหนือกว่ารถ 2wd ทั่วไป

ก็ลองไปหาที่ว่าง ๆ คือสนามหญ้าทั่วไป สนามดินทั่วไปแบบเรียบ ๆ ก็เพียงพอ
ไปลองโยกเกียร์ตัวนี้เล่นฝึกฝนเองด้วยความชำนาญก็สามารถทำได้ 4H ก็เข้าได้โดยไม่ต้องหยุดรถ
4L ก็ต้องหยุดรถแล้วเข้าเกียร์ ขับเคลื่อนมาที่ N จากนั้นจึงสามารถเข้า 4L ได้
เวลาฝนตกหรือไปขับรถเล่นบนภูเขาก็ลองใช้ 4H เพื่อการปีนป่ายเกาะถนนก็ลองทำได้ เพียงแต่ต้องเริ่มด้วยความระมัดระวังก่อน จากนั้นมันจะเรียนรู้ค่อย ๆ ชำนาญไปเอง เพราะ 2.7 4wd เกียร์ A/T มันเป็นรถที่ขับขี่ง่ายควบคุมง่าย เราจะคุ้นเคยกับมันง่ายกว่ารถเกียร์ธรรมดา และกำลังของมันไม่มากเกินไปหรือไม่น้อยเกินไปเหลือเฟือกับการใช้งาน

ถ้าอยากเก่งกว่านี้ไปหาที่ฝึกหรือโรงเรียนฝึกก็ได้ จะทำให้เรารู้อะไรอีกเยอะและ การได้มาของรถ TOYOTA 2.7 vvti 4WD คุณจะไม่มีคำว่าผิดหวังเลย แต่เชื่อเถอะคุณได้มาแล้วจะพบกับความสุขเวลาขับรถประเภทนี้ 4wd
เพราะผมเห็นหลายคนแล้วซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ แต่วันนึงเขาก็อาจได้ใช้ แล้วเวลาเปลี่ยนรถใหม่ก็มักต้องมองไปที่รถ 4x4 อีก เพราะฟิลลิ่งรถต่างกัน ความสุขในการขับขี่มีมากกว่าเพราะ 4wd จะมีลูกเล่นในการขับขี่รถมากกว่า
http://spirit4x4.autoinfo.co.th/





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 อังคาร, 23/8/2554 เวลา : 17:38  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27356

คำตอบที่ 6
       ลองเข้าไปเช็คที่ 0 ก่อนครับจะได้รู้ประวัติรถครับ นำสำเนาคู่มือทะเบียนรถไปด้วยครับของผมน้องจูนตอนซื้อมาเลขไมล์80200 รถปี 05เหมือนกันพอเช็คออกมาโดนลบไมล์ 60000 และรู้ว่ารถเปลี่ยนอะใรไปบ้าง ของผมเปลี่ยนไดชาร์ท เปลี่ยนยางปัดน้ำฝน เปลี่ยนผ้าเบรกและที่รู้อีกอย่างคือเจ้าของเดิมเข้า 0 ตามระยะตลอดอุ่นใจไปอีกนิดครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tar3425 จาก tar3425 203.155.220.236 อังคาร, 23/8/2554 เวลา : 18:15  IP : 203.155.220.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27357

คำตอบที่ 7
       ตอนนี้ใช้ครบ160000กิโลแล้วว่าจะเข้าไปเช็คอีกวันสองวันนี่แหละครับไม่รู้ว่าจะโดนอะใรบ้างรบกวนท่านผู้รู้แนะนำด้วยครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tar3425 จาก tar3425 203.155.220.236 อังคาร, 23/8/2554 เวลา : 19:04  IP : 203.155.220.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27358

คำตอบที่ 8
       จาก tar3425

ระยะ160,000km. เรียกว่า ระยะ "จัดหนัก" ครับ

น้ำมันเครื่อง
ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
น้ำยาหล่อเย็น
ฝาหม้อน้ำ
ปั้มน้ำ
น้ำมันเกียร์
น้ำมันเฟืองท้าย
น้ำมันชุดขับเคลื่อนล้อหน้า
น้ำมันเกียร์ทรานเฟอร์
หัวเทียน
น้ำมันเบรค
กรองอากาศ

ล้างแอร์ไม่ถอดตู้+เปลี่ยนกรองแอร์ (ทำร้านข้างนอก)

เปลี่ยนกรองแก๊ส

รายการตรวจเช็ค เปลี่ยนก็ได้ ไม่เปลี่ยนก็ได้
เช็คซีลฝาครอบวาล์ว-ปลั๊กหัวเทียน ถ้ามีคราบน้ำมันก็เปลี่ยนไปเลย
เช็คท่อน้ำข้างเครื่อง อยู่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง ใต้ท่อไอดี (เรียกไม่ถูกแหะๆ ลองค้นดูกระทู้เก่าๆนะครับ)
เช็คสายพานหน้าเครื่อง
เช็คหน้าคลัทช์คอมแอร์
เช็คเบรค4ล้อ
เช็คน้ำยาฟรีปั้มพัดลมหน้าเครื่อง ถ้าพัดลมไม่หนืดแล้ว เติมเพิ่มขวดเล็กๆขวดเดียวพอนะครับ

===========================

นึกออกแค่นี้ครับ ที่เหลือรอท่านอื่นมาเสริม ^_^"


 แก้ไขเมื่อ : 23/8/2554 21:03:58



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

^Top^ จาก ^Top^ 101.109.0.179 อังคาร, 23/8/2554 เวลา : 21:02  IP : 101.109.0.179   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27363

คำตอบที่ 9
       พูดถึงร้านเม้ง ที่ล้างแอร์ เลยนึกขึ้นได้ครับ

ผมก็ไปล้างมา มีส่องกล้องก่อนล้าง บริการใช้ได้ ล้างแอร์ 500 บาท และเพิ่มล้างแผงหน้าแอร์โดยใช้น้ำยา 100 บาท ถ้าใช้น้ำล้างแผงหน้าฟรีครับ
ส่วนอบโอโซนก็ฟรี ถ้าต้องการอบ

รถผมไปล้างตอน 80,000 ครับ แต่เคยล้างมาแล้วตอน 40,000 ที่ศูนย์เสียไป 1,800 เฮ้อออ...

ตอนส่องกล้องปรากฏว่าแอร์สะอาดดี ไม่มีคราบ แต่ก็ล้างตามระยะครับ

พอล้างเสร็จ เลยให้ลองเช็คน้ำยาแอร์ ปรากฏว่า น้ำยาแอร์หายไป เหลือประมาณ 2/3 ของระดับที่ช่างบอกว่าควรจะมี เลยให้เติม เสียอีก 200
เลยให้เช็คว่าเพราะอะไรน้ำยาถึงหายไป

ประเด็นอยู่ตรงนี้ครับ ช่างแอร์บอกว่า น้ำยาใบพัดเครื่องยนต์หมด ทำให้น้ำยาแอร์ลดลง ช่างบอกว่าโดยปกติ ใบพัดเครื่องยนต์ถ้าเราติดเครื่องอยู่ จะไม่สามารถจับให้หยุดได้ เพราะสามารถตัดเอานิ้วขาดได้เลยล่ะ แต่ตอนนั้นช่างจับให้หยุดได้ ช่างบอกต้องเติมนำยาใบพัดหรือน้ำมันใบพัดอะไรทำนองนี้ครับ เอาหลอดมาให้ดูประมาณกาวร้อน หลอดใสๆ บอกว่าถ้าเติมใช้ไปได้อีก 5 ปี

แต่รถผมเพิ่งออกได้ ปีครึ่ง ไหงน้ำยาใบพัดหมด ถ้าเป็นอย่างที่ช่างบอกจริง เครมศูนย์ได้ไหมครับ ยังไม่ถึงแสนโล รถติดแก๊ส ประกันหมดไหม???

อยากได้ความรู้เรื่องใบพัดหน้าเครื่องรถยนต์ครับ รบกวนผู้รู้ด้วยครับ (ถ้าคุณออโต้ไม่พูดถึงร้านนี้ คงลืมไปแล้ว)อิอิ แต่ร้านนี้ดูแลดีครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Taka_vvti จาก TaKa_vvti 110.168.37.45 พุธ, 24/8/2554 เวลา : 00:16  IP : 110.168.37.45   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27365

คำตอบที่ 10
       มันหมดจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ น่ะสิครับ
ร้านนี้ไปทำเฉพาะล้างแอร์อย่างเดียว ด้วยเครื่องโดยไม่ถอดตู้ ตรงจุดนี้ผมว่าเขาโดดเด่นเรื่องราคาและคุณภาพการบริการ

ส่วนถ้าจะทำอย่างอื่น ๆ ลองไปหาที่วิเคราะห์อาการหรือทำกันใหม่ดีกว่า



แสดงว่าในใบพัดก็มีนำ้มันใช่ไหมครับ ถ้านำ้มันขาดจะเกิดผลอย่างไรครับ
จาก : Taka_vvti(Taka_vvti) 24/8/2554 18:36:07 [27.55.110.38]
พัดลมจะไม่ค่อยหมุน เพราะไม่มีแรง ทำให้ลมออกมาน้อย
จาก : Auto.(Auto.) 24/8/2554 19:27:42 [202.80.239.130]
ใบพัดจะมีน้ำยาฟรีปั๊มอยู่ ลองสังเกตุตรงบริเวณโคนตรงเรือนเหล็ก
จาก : Auto.(Auto.) 24/8/2554 19:32:06 [202.80.239.130]
ขอบคุณครับ แล้วจะลองเช็คดูครับ
จาก : Taka_vvti(Taka_vvti) 25/8/2554 11:44:35 [124.121.33.95]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 24/8/2554 เวลา : 07:53  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27369

คำตอบที่ 11
       ขอบคุณทุกๆ ท่าน ที่ให้คำแนะนำสมาชิกใหม่คร้าบผม
ผมคนระยอง ถ้ามีโอกาสคงจะได้เห็นหน้าเห็นตาพบปะสังสรรค์กันบ้างน่ะคร้าบ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

nongaddy จาก นองบ้านเนิน 122.152.143.128 พุธ, 24/8/2554 เวลา : 09:15  IP : 122.152.143.128   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27372

คำตอบที่ 12
       แนะนำร้านโซนบางบัวทองด้วยครับสำหรับล้างแอร์



ไม่ทราบเลย
จาก : Auto.(Auto.) 24/8/2554 19:36:22 [202.80.239.130]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

ranger140 จาก แรงเยอร์ 183.88.46.225 พุธ, 24/8/2554 เวลา : 09:54  IP : 183.88.46.225   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27373

คำตอบที่ 13
       งานเข้าเลยครับถ้าโดนจัดหนักแบบนี้..........แต่ยังงัยก็ต้องโดนใช่ใหมครับ..



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tar3425 จาก tar3425 203.155.220.236 พุธ, 24/8/2554 เวลา : 17:53  IP : 203.155.220.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27382

คำตอบที่ 14
       จาก tar3425

พวกอะไหล่และของเหลวทั้งหมดให้ซื้อของ TOYOTA แท้ไปเลยครับ เพราะราคาถูก กว่าไปหาของอื่น ๆ ตรงรุ่นและยังไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้งานอีกด้วย วิธีก็คือให้ซื้ออะไหล่ TOYOTA จากข้างนอกครับราคาจะถูกกว่า ท้องตลาดมาก
ถ้าหาซื้อไม่ได้แจ้งมาครับเดี๋ยว PM ที่ซื้อของไปให้

อะไหล่พวกนี้ให้ซื้อในศูนย์ หรือจะเอารถไปเช็คระยะที่ศูนย์ก็ได้

ค่าเช็คระยะ 160,000 กิโลเมตร = 1,xxx บาท
ค่าแรงเปลี่ยนกรองเบนซิน = 252 บาท
ค่ากรองน้ำมันเครื่อง 220 บาท ลด 10% เหลือ = 198 บาท
ค่าแหวนรองน็อตน้ำมันเครื่อง 18 บาท ลด 10% เหลือ = 16.20 บาท
ค่าน้ำมันเบรค 115 x2 = 230บาท ลด 10% เหลือ = 207 บาท
ค่าประเก็นรองน็อตถ่ายน้ำมัน 46 บาท ลด 10% เหลือ = 41.4 บาท
กรองเบนซิน 700 บาท ลด 10% เหลือ = 630 บาท
ค่าประเก็นรองน็อตถ่ายน้ำมัน ATM 68 บาท ลด 10% เหลือ = 61.2 บาท
ค่าประเก็นรองน็อตถ่ายน้ำมัน 69x 2 บาท ลด 10% เหลือ = 124.2 บาท
ค่าประเก็นรองน็อตถ่ายน้ำมัน เฟืองหน้า 82 บาท ลด 10% เหลือ = 73.8 บาท
ค่าหัวเทียน 60x4 บาท ลด 10% เหลือ = 216 บาท
ค่าฝาหม้อน้ำ ไม่เกิน 450 บาท
ท่อยาง Pipe 1 assy ไม่เกิน 600-800บาท


อะไหล่ชุดนี้ซื้อข้างนอก เอาของแท้ TOYOTA จะคุ้มที่สุด

1.ค่าน้ำมัน LSD 405x3 บาท = 1,215 บาท
------------รายการนี้ซื้อข้างนอก 180 x 3 = 540 บาท

2.น้ำมัน เฟืองหน้าทรานเฟอร์ส 75w -90 ราคา 375x3 บาท = 1,125 บาท
------------รายการนี้ซื้อข้างนอก 150 x 3 = 450 บาท

3. น้ำมันเกียร์ อัตโนมัติ T-IV 1310 บาท
------------------รายการนี้ซื้อข้างนอก 900 บาท

4. น้ำมันเครื่อง 5w-30 สังเคราห์แท้ TOYOTA 1850 x 2 = 3,700 บาท
------------------รายการนี้ซื้อข้างนอก 900 x2 = 1,800 บาท

5.น้ำยาหม้อน้ำ Coolant LLC
------------------รายการนี้ซื้อข้างนอก 450 บาท

6. ปั๊มน้ำ
------------------รายการนี้ซื้อข้างนอก ไม่เกิน 2,000 บาท




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 24/8/2554 เวลา : 19:10  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27383

คำตอบที่ 15
       รายการที่ซื้อข้างนอก เป็นของแท้ TOYOTA ทุกชุดแต่ราคาอะไหล่ถูกลงไปมาก ทำให้ประหยัดไปได้หลายพันบาทเลยนะครับ
ส่วนจะเช็คที่ศูนย์หรือไม่ก็ลองตัดสินใจเอา
ถ้ามีอู่ซ่อมที่สะดวกที่จะทำให้โดยไม่ต้องพึ่งพาศูนย์บริการในการทำรายละเอียดยาวเป็นหางว่าวเช่นนี้ได้ ก็ลองไปทำดูครับ จะหักค่าเช็คระยะตรงนี้ไปได้ประมาณ 1,800 บาท ส่วนค่าแรงในการเปลี่ยนปั๊มน้ำในศูนย์ก็จะหักออกไปอีกประมาณ 1000 -1500 บาท

รวม ๆ แล้วจ่ายในระยะนี้ไม่น่าจบเกิน 10,000 บาทครับ ถือว่าประหยัดไปได้เยอะ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 24/8/2554 เวลา : 19:14  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27384

คำตอบที่ 16
       ปั๊มน้ำ
ยังไงก็ต้องเปลี่ยนนะครับแต่ให้เปลี่ยนพร้อมกับถ่ายน้ำยา Coolant จะได้ไม่ต้องเสีย 2 ช่วง
ตัวปั๊มน้ำผมถามมาหลายคนแล้ว บางคนพังก่อนที่จะไปถึงระยะ 160,000 กิโลเมตรซะอีก
แต่ที่ผมให้เปลี่ยนที่ระยะนี้ 1.6 แสนโลเพราะว่าเราต้องถ่ายน้ำ Coolant ที่ระยะนี้อยู่แล้ว เลยให้ทนเปลี่ยนที่ระยะนี้ไปดีกว่า บางคนไปก่อนก็ถือว่าโชคร้ายไปหน่อย ถ้าไม่เปลี่ยนถือว่าเสี่ยงเกินไปครับอีกหน่อยก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดี ตัดใจเปลี่ยนเอาความสบายใจ

ท่อยาง Pipe 1 assy
ตอนที่ช่าง J ชี้ให้ดูผมก็มองดูเหมือนกัน แต่มองยากมากโดยเฉพาะกลางวัน เคยเอาไฟฉายมาส่องดูเองตอนกลางคืนแล้วมองยากมาก ตรวจแทบไม่ได้เลย ระยะแบบนี้ควรเปลี่ยนทิ้งไปดีกว่า เพราะเหตุผลข้างต้นคือตรวจเช็คยากมาก เพราะท่ออยู่ใต้ท่อร่วมไอดีและลอดไปด้านหลังเครื่องอีก ท่อตรงนี้รับความร้อนสูงที่สุดมักจะปริแตกจากด้านในเวลาที่คนขับใช้กำลังเครื่องเยอะ ๆ จึงจะส่ออาการออกมาให้เห็นเร็ว ราคาท่อยางไม่แพงหลักร้อยบาท แต่รื้อมาเปลี่ยนนี่เหนื่อยสาหัสทีเดียว ถึงบอกว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนไงล่ะ


2 รายการนี้ไปหาอู่นอกทำก็ได้ ราคาจะถูกกว่าศูนย์ แต่อะไหล่ให้ซื้อของแท้จากข้างนอก ยกเว้นท่อ Pipe 1 สั่งศูนย์ดีกว่าเพราะราคาไม่แพงอยู่แล้ว




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 24/8/2554 เวลา : 19:24  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27385

คำตอบที่ 17
       ขอบคุณมากจริงๆครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

tar3425 จาก tar3425 203.155.220.236 พฤหัสบดี, 25/8/2554 เวลา : 10:19  IP : 203.155.220.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 27388

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,11 พฤษภาคม 2567 (Online 2713 คน)