คำตอบที่ 1
       http://www.toyotaracingschool.com/


ถ้าเป็น TOYOTA ก็ที่นี่ครับ มี 2 หลักสูตรคือ

1. ทั่วไป
2. พัฒนาตัวเองขึ้นเป็นนักแข่ง วันเมคเรซ

ไม่ยากเกินไปที่จะเรียนรู้
แต่ยากที่จะเปลี่ยนความคิดคนให้ไปเรียน เพราะหลายคนสักแต่คิดว่าตัวเองขับรถเป็นแล้ว จะไปเรียนทำไมจริงไม๊
แต่ขอบอกว่าคนสนใจไปเรียนเยอะมาก ต้องดาวน์โหลดใบสมัครเรียนเอานะครับ


บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก โดยความสนับสนุนจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จัดตั้ง “ศูนย์สอนขับรถและพัฒนาศักยภาพผู้ขับรถยนต์กรมการขนส่งทางบก” บนพื้นที่ 7 ไร่ ณ
วิภาวดีรังสิต ประกอบด้วยอาคารอบรมและสนามฝึกหัดขับ เพื่อเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่การเรียนการสอนตลอดจนฝึกอบรมการขับขี่ปลอดภัย ให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้เริ่มฝึกหัดขับรถยนต์เพื่อขอรับใบอนุญาตการขับรถ ผู้ที่ต้องการเพิ่มทักษะการขับขี่ที่ถูกต้องเพิ่มเติม ตลอดจนผู้ขับขี่รถสาธารณะได้เรียนรู้ภาคทฤษฎีและการฝึกหัดขับรถอย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำรูปแบบและหลักสูตรการเรียนการสอนขั้นพื้นฐาน และหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพทักษะในการขับขี่ปลอดภัยที่เรียกว่า “Toyota Driver Communication” จาก ศูนย์การศึกษาความ ปลอดภัยโตโยต้า หรือ MOBILITAS และหลักสูตรการสอนจาก โรงเรียนสอนขับรถชุบุ ประเทศญี่ปุ่น มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสภาพการจราจรในประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ยังได้มอบชุดฝึกหัดขับเบื้องต้้น จำนวน 16 ชุด และรถยนต์ฝึกหัดขับจำนวน 5 คัน เพื่อใช้ในการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อยากไปเรียนรู้ จะสมัครได้ที่ไหนครับ จาก : Nonthaburi(Nonthaburi) 10/7/2559 11:18:34 [1.46.225.216]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       http://www.tunespeed.com/article/motorsport-knowledge/singha-racing-school.html

http://www.singharacingschool.com/

ถ้าถามถึงการฝึกสอนการขับขี่รถยนต์ ในประเทศไทย ก็คงต้องยกให้ Singha Racing
School เป็นอันดับแรกครับ ด้วยการก่อตั้งโดย บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ในปี 2547 ภายใต้การดูแล
ของ คุณ สันติ ภิรมย์ภักดี และ คุณปิติ ภิรมย์ภักดี
โดยได้เปิดโรงเรียนสอนขับรถ ตั้งแต่การขับขี่ปลอดภัย ให้กับผู้ใช้รถทั่วไป (Safety Drive)
High Performance สำหรับระดับ Rising Star และหลักสูตร Advance Level สำหรับนักแข่งมืออาชีพ
Singha Racing School มีเป้าหมายที่จะผลิตนักแข่งรถเข้าสู่การแข่งขันระดับมืออาชีพทั้ง

ในและต่างประเทศ พร้อมถึงผลักดันให้หลักสูตร การแข่งรถเป็นวิชาเลือกในระดับมหาวิทยาลัย
สนับสนุนกิจกรรมของวงการมอเตอร์สปอร์ตในทุกโอกาส เพื่อให้วงการแข่งรถมีมาตรฐานสูงขึ้นทัดเทียมกับนานาชาติ
หลักสูตรสำหรับผู้เข้ารับการอบรม

1. Safety Drive

- กฎจราจรทั่วไป

- ทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัย

- การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าบนท้องถนน

2. Rising Star

- กฎ – กติกา – มารยาทพื้นฐานในการแข่งขัน

- การเตรียมตัวเบื้องต้นในการแข่งขันและควบคุมรถ

- การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในสนามแข่งจริง

- การพัฒนาศักยภาพเพื่อเป็นนักแข่งมืออาชีพ

3. Advance Level

- เทคนิคขั้นสูงในการขับรถแข่ง

- กฎ – กติกา – มารยาทในการแข่งขัน

- การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในสนามแข่งจริง

- เบรก และ ยางของรถแข่งในการแข่งขันจริง

อาจาร์ยผู้ฝึกสอน

- กรัณฐ์ ศุภพงศ์

- แจ็ค เล็มวาร์ด

- พัฒวิช พยัคฆโส

อาจาร์ยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค

- กิตติภูมิ จาวจักรศิริ

- ดอน เชี่ยวชาญวลิชกิช (ดอน โมเม็ค)

- อรรถวิญ์ อังศวานนท์

สถานที่ฝึกสอน

พีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต (พัทยา)

แก่งกระจาน เซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี

ท่านใดสนใจติดต่อ ได้ที่ 081-918-3256

www.singharacingschool.com

ขอบคุณข้อมูล จาก คุณ จั้ม กรันฐ์ ศุภพงศ์ และ Singha Racing school

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
      
ถ้าเป็นมอไซด์ก็ที่นี่เลย YAMAHA RIDING ACADEMY
ผมเองก็ฝึกอบรมจากที่นี่เช่นกัน ในหลักสูตรพื้นฐาน ตั้งใจว่าถ้ามีลูกก็จะไม่มีทางสอนลูกอย่างเด็ดขาด จะให้มาฝึกอบรมที่นี่เลยเพราะเขามีหลักสูตรสำหรับเด็ก อายุ 8-10 ปีด้วย

http://www.yra-thailand.com/Course.aspx?Id=3


วัตถุประสงค์
1. เพื่อฝึกสอนให้แก่ผู้ที่ไม่เคยขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงการควบคุมรถจักรยานยนต์เบื้องต้นได้อย่างปลอดภัย
2. เพื่อฝึกสอนให้ผู้ขับขี่เกิดความมั่นใจตั้งแต่เริ่มต้นการขับขี่ครั้งแรก
3. เพื่อฝึกสอนให้เกิดทักษะการขับขี่รถจักรยานยนต์ขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่การควบคุมรถขณะไม่เคลื่อนที่ ถึงการขับขี่ทรงตัวบนทางได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

ถ้าเป็นหลักสูตรที่สูงขึ้น
-. สำหรับมืออาชีพ คือผู้ใช้มอไซด์เป็นอาชีพ
-. สำหรับบิ๊กไบค์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       เป็น HONDA สำหรับอบรมนักแข่งก็ที่นี่เลย
http://www.smdmotortrat.com/ACTIVITY-NEWS/%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-Honda-Racing-School-2012-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1.html

ถ้าหลักสูตรทั่วไปก็
เป็นกิจกรรม สอนทักษะ การขับขี่จักยานยนต์ แบบ เซอร์กิจนะครับ
กำหนดการ และ รายละเอียดต่างๆ เข้าไปดูได้ที่
http://www.aphonda.co.th/racingthai/racing_school.asp
แนะนำให้โทรสอบถาม วันที่ จัดอีกครั้ง เพราะอาจเลื่อนได้

http://www.aphonda.co.th/racingthai/
แล้วก็มีอบรมขับขี่ปลอดภัยรู้สึกว่าจะอยู่แถวรามคำแหงมั้ง ผมเคยผ่านไปหนนึง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       CAR ON LINE โดยทีมงานคุณธเนศร์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยาร่วมกับ FORD จัดกิจกรรมขับขี่ปลอดภัยเพื่อคุณ วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2555
ทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดใด

คุณขับรถได้ แต่ไม่มั่นใจว่าขับรถเป็นหรือไม่

นั่งขับรถในท่าที่ถูกต้องหรือไม่ซึ่งมีผลกับการควบคุมรถของคุณ

การจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง

การควบคุมรถเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง

ข้อแตกต่างในการใช้เบรกระหว่างรถที่มี ABS กับรถที่ไม่มี ABS

คำตอบเหล่านี้เรามีให้คุณ ในการอบรมการขับขี่ปลอดภัยในครั้งนี้ ที่จะทำให้คุณ
ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย
โดยจะมีการอบรมภาคทฤษฏีก่อน หลังจากนั้นก็จะลงขับจริงในสนาม โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยชี้แนะให้

ทั้ง นี้ หัวใจสำคัญของการฝึกอบรม จะเน้นให้ผู้เข้าร่วมอบรมใส่ใจกับสภาพการจราจรบนถนน เทคนิคการขับขี่อย่างปลอดภัย รวมทั้งวิธีการขับที่จะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ หลายคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่าเทคนิคในการขับขี่อย่างปลอดภัยนั้น มีหัวใจสำคัญเหมือนกับการขับขี่อย่างประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวด ล้อม อาทิ การขับรถด้วยความเร็วคงที่ในรอบเครื่องที่เหมาะสม นอกจากจะปลอดภัยแล้วยังช่วยให้รถประหยัดน้ำมันได้มากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย

การขับขี่แบบประหยัดน้ำมันนั้นมีหลายเทคนิค อาทิ ศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วสูง และการดูแลรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ ขณะที่ทักษะในการขับขี่อย่างปลอดภัยเน้นเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยที่ถูก ต้อง การมีสมาธิในการขับขี่และการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของสภาพการจราจรรอบตัว การไม่ทำกิจกรรมอื่นๆ ขณะขับรถ และการเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าในระยะที่ปลอดภัย
http://www.caronline.net/ArticleDetail.aspx?ArticleID=1035>

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       คนที่ไม่เคยฝึกขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ลองไปเรียนดูน่ะครับ ถือคติ.......โง่วันนี้ ดีกว่าจะยอมโง่ไปตลอดชีวิต
เนื่องจากไม่มีใครสอนทักษะการขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ใให้เลย ทุกอย่างมันต้องฝึกและเรียนรู้จากอาจารย์ทั้งนั้น จะอาศัยปสก. น่ะไม่ได้หรอก


ไม่งั้นเด็กแว้นข้างถนนก็สามารถเป็นนักแข่งระดับโลกไปแล้วซิครับ มันต้องเรียนโดยผ่านอาจารย์ที่มีความรู้ทั้งนั้น ไม่งั้นคนเราจะจบปริญญาตรีมาได้ยังไง

http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/Question.asp?ID=2580>

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ขับปกติ รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากพอที่จะหลบออกหรือเบรคกระทันหันได้ทัน เปิดไฟขอทางทุกครั้ง ไม่ปาดหน้ารถคันอื่น อย่าใจร้อนนัก มีน้ำใจบนท้องถนน ที่พูดมาพอเจอแท๊กซี่ไม่ดีปาดที อารมณ์อยากขับดีๆหายหมดจด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ก่อนและหลังเรียนเป็นอย่างไรบ้าง? “

เปรียบเทียบเหมือนคนที่ไม่รู้หนังสือกับคนที่อ่านออกเขียนได้ มันต่างกันมากครับ หากเราพยายามจะเรียนรู้ด้วยตัวเองแต่ไม่รู้ว่ามันอ่านยังไง แต่ถ้ามีคนมาสอนจะทำให้ราพัฒนาตัวเองได้เร็วกว่า เพราะมันไม่ใช่การลองถูกลองผิด เนื่องจากเรายังไม่รู้เลยว่า อะไรคือถูกและอะไรคือผิด ซึ่งมีหลายคนที่พลาดไป กว่าจะเรียนรู้ได้บางทีอาจต้องใช้ชีวิตเข้าแลกด้วยซ้ำ”
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9550000102249


อีกตัวอย่างนึงของคนดังอย่างแด๊ก บิ๊กแอส นักร้องรุ่นใหญ่ ขี่มอไซด์มาตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่สุดท้ายก็พบความจริงที่ว่าคนเรามันต้องเรียนการขับรถอย่างถูกต้องครับไม่ใช่ไปลองผิดลองถูกวิธีการขับรถกันบนถนน เอาถนนเป็นประสบการณ์ชีวิต

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       พอดีไปเจอลิ้งค์ มาเกี่ยวกับการขับขี่รถมอไซด์ในการแข่งขัน ที่จริงมันพอเอามาปรับใช้กับรถยนต์ได้
เพราะ รถ 2.7 4x4 ของเราที่ใช้กันอยู่นั้นมีประสิทธิภาพและความแรงพอสมควร รวมถึงในเส้นทางออฟโรด พละกำลังมาเหลือเฟือ ถ้าไม่ควบคุมให้ดีอาจเกิดอุบัติเหตุได้


การขับขี่รถขึ้นทางสูงชัน ให้ลองสังเกตุคนที่ขับไปไม่ถึง เนินด้านบนเพราะอาจเสียจังหวะผิดไป หรือแรงหมดซะก่อน
แต่สิ่งที่นักขับทั่วไปทุกคนทำและไม่เกิดอุบัติเหตุเลย คือ

-ขับตามไลน์คนอื่น จะไม่พยายามเปิดไลน์ใหม่เพื่อเสี่ยงกับตนเอง ว่าจะไปได้หรือไม่ได้ เวลาเราขับรถในเส้นทางที่ยาก ๆ เป็นสิ่งที่หลายคนโดนพร่ำบอกมาเสมอ หลายคนคงเคยได้ยิน
- ถ้าคนที่ขับไปไม่ถึง เขาจะไม่พยายามฝืนการบังคับบของรถ เพราะเป็นเนินทราย ถ้าทุกคนฝืนเพื่อจะไปต่อหรือหยุดกับที่นั้นคือล้มหรือเกิดอุบัติเหตุ
- สิ่งที่นักขับต้องทำคือ พยายามประคองรถถ้ารู้ว่าไปไม่ถึง เขาจะพยายามประคองรถไว้ หลังจากนั้นจะกลับมาตั้งต้นใหม่ ทำให้ปลอดภัยมาก นักขับหลายคนแต่ไม่มีอุบัติเหตุเลย นั่นเป็นสิ่งที่นักขับรถยนต์หรือมอไซด์ต้องเรียนรู้เวลาเราขับรถห้ามฝืน เพราะนั่นไม่ใช่การกระทำที่ดี อจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและมีความเสียหายมาก แต่การประคองรถต้องตั้งสติพอสมควรและสิ่งเหล่านี้ต้องมีการฝึกฝนจากสนาม


ในบริษัท YAMAHA TOYOTA การออกแบบรถแข่งในสนามแข่งขันรวมถึงรถที่มีประสิทธิภาพสูงเขาจะออกแบบให้เป็นรถที่มีการควบคุมยากซึ่งเป็นปัญหากับนักขับในระดับนึง แต่ถ้ามีการผสมผสานคนขับที่จิตใจคนขับให้มุ่งมั่นไปกับรถ เพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกัน จะทำให้ควบคุมรถได้ดีเมื่อควบคุมรถได้ดีรถจะแสดงประสิทธิภาพได้สูงสุดพุ่งทยานไปเร็วกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะ 2 ค่ายนี้รถออกแบบให้สามารถทำได้ ด้วยการเชนเกียร์เพิ่มหรือลด ขณะเข้ากำลังจะฉีกตัวออกจากโค้ง แต่ขณะที่ค่ายอื่นทำไม่ได้ ในการลดเกียร์เพื่อฉีกตัวออกจากโค้ง ต้องลดเกียร์ให้เสร็จสิ้นก่อนหรือขณะเข้าโค้งเท่านั้น

https://www.facebook.com/photo.php?v=509030909133365&set=vb.372055249497599&type=2&theater>

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       คนที่ขับรถยนต์มานานหลายสิบปีไม่ได้แปลว่าเขาขับเก่ง หรือขับได้ดี เพราะสิ่งเหล่านี้มันต้องถูกสอนออกมาก่อนทั้งนั้น

ผมเองเริ่มขับรถยนต์มาตั้งแต่อายุ 14 ปี หัดขับด้วยตัวเอง ไม่มีใครมาสอนให้ แต่ด้วยความอยาก
ส่วนการขับขี่มอเตอร์ไซด์ ก็หัดด้วยตัวเอง ตั้งแต่อายุก่อน 10 ปี

รถเป็นสิ่งที่เราเคยขับมาทั้งชีวิต หลังจากเราเรียนรู้อบรมแล้วจึงรู้ว่ามันไม่ใช่เลย ต้องล้างสมองสิ่งที่เคยจำมาในอดีตให้หมดสิ้น แล้วมาเริ่มกันใหม่
ใครมีลูกมีหลาน มีแฟน อย่าไปสอนขับรถให้เขาเชียวนะ เพราะคนฝึกขับรถจะจำสิ่งแรก ๆ ที่เราสอนไปตลอด มันทำให้ลืมยาก แล้วไอ้ที่เราสอนไปน่ะ ส่วนใหญ่จะผิด ให้เขาไปเรียนในสถาบันการสอนฝึกอบรมการขับขี่รถตั้งแต่แรก ดีกว่าครับ

----------------------------------------------------------------------------------------------

คุณบอม อัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ ลูกชายอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจกูรูยานยนต์ชื่อดัง ผมนั่งฟังเขาจัดรายการวิทยุ เขาเล่าให้ฟังตอนนึงว่า เขาเองก็ขับรถเป็นมาตั้งแต่อายุน้อย ต่างประเทศก็ขับมาแล้ว แต่เขาจะมาช่วยงานของพ่อเขาด้วยการเป็นผู้สื่อข่าวยานยนต์
เขาก็คิดเช่นกันว่าทำไมเขาต้องไปเรียนขับรถยนต์อีก ไปเรียนทำไม สุดท้ายจำใจต้องไปเรียนก่อนมาทำงาน
เขาไปเรียนกับ คุณ ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ อดีตนักแข่งโตโยต้าประเทศไทย ที่สนามแก่งกระจาน คุณณัฐวุฒิ ให้คุณบอมขับให้ดูก่อนด้วยหลังจากนั้นคุณ ณัฐวุฒิ ก็วิจารณ์ให้ฟัง โดนสับเละไม่มีชิ้นดี ตั้งแต่ท่วงท่านั่ง ก็นั่งผิด วิธีการจับพวงมาลัยก็ผิด การเปลี่ยนเกียร์ ลดเกียร์ในโค้งก็ผิด การจับจังหวะเบรคก็ผิด คุณบอมถามไปว่าแล้วมีอะไรที่ดีบ้าง คุณณัฐวุฒิบอกมีดีอย่างเดียว คือใจแน่วแน่ที่จะขับเท่านั้นเอง นอกนั้นไม่มีอะไรเลย ตั้งแต่นั้นมาคุณบอมเขาก็เลยยอมมาเรียนกับ คุณ ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ แล้วเค้าก็บอกกับคนอื่น เหมือนกับที่ผมบอกอยุ่นี่แหละ ว่าคุณยอมมาเรียนกับสถาบันฝึกอบรมการขับขี่รถดีกว่า อย่าคิดไปหัดเอง หรือให้คนรอบข้างมาสอนเอาวิธีผิดไปใช้บนท้องถนน มันไม่ปลอดภัยกับตัวเองและผู้อื่น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ผมเรียนกับ อ.สมพงษ์ ใจซื่อ / อ.สมปอง คงนิ่ม และทีมงานครับ หลักสูตร DEFENSIVE DRIVING COURSE
การขับรถเชิงปองกันอุบัติเหตุ (DEFENSIVE DRIVING) ในปจจุบันอุบัติเหตุทางรถยนตนับเปนปญหาที่นาหวาดวิตก สําหรับคนใชรถใชถนนเปน
อยางยิ่ง เพราะเปนสาเหตุสําคัญที่ทําใหมีผูบาดเจ็บและเสียชีวิตเปนจํานวนมาก ทั้งนี้การเกิดอุบัติเหตุเกิดจากผูขับรถสวนใหญ ยังมีระดับความเขาใจในการขับรถที่แตกตางกัน และยังไมไดมาตรฐานเพียงพอ วิธีหนึ่งที่จะช่วยปองกันและลดอุบัติเหตุบนทองถนนไดคือ ผูขับรถจะตองมีระดับความเขาใจและการขับขี่ที่มีมาตรฐานดีพอ มีความพรอมทั้งในดานจิตสํานึกและทักษะ เนื้อหาการอบรม
1. เทคนิคการขับรถในเชิงปองกันอุบัติเหตุ อบรมเกี่ยวกับปรัชญาการขับรถในเชิงปองกันอุบัติเหตุ มูลเหตุที่ทําใหผูขับรถเสียสมาธิ วิธีการเตรียม
รถกอนออกเดินทาง รวมทั้งขอระมัดระวังในการขับรถสถานการณตาง ๆ เชน ขับรถในเวลากลางคืน ขับรถ
ในขณะฝนตก ฯลฯ โดยอาจารยสมพงษ ใจซื่อ ผูจัดการศูนยขับรถอยางปลอดภัย บริษัทเชลลแหงประเทศไทย อบรมและฝึกสอนให้กับพนักงานขับรถบรรทุกน้ำมัน / รถเทลเลอร์ / รถบรรทุกหนักต่างๆ / รถยนต์พนักงานที่ขับรถให้ผู้บริหารให้กับบริษัทฯชั้นนำทั่วไป หลักสูตรหนีการตามไล่ล่าจากผู้ร้าย / หลักสูตรสำหรับผู้บริหารที่ต้องการขับรถเอง และ ตลอดจนพนักงานขายของบริษัทฯทั่วไป คณะอาจารย์ผานการอบรมจากสถาบันการขับรถชั้นสูง จากประเทศอังกฤษ และออสเตรเลีย
2. การตรวจและบํารุงรักษารถยนตที่ควรร ูอบรมเกี่ยวกับการตรวจรถยนตอยางงาย โดยใชประสาทสัมผัสทั้งหา การตรวจและบํารุงรักษารถ
ประจําวัน โดยอาจารยสมปอง คงนิ่ม วิทยากรที่มีประสบการณดานการซอมรถยนต ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เปนวิทยากรใหกับรายการ “คลีนิคชาง” จากกรมพัฒนาฝมือแรงงาน กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
3. สาธิตการขับรถอยางถูกวิธีและการแนะนํา อบรมเกี่ยวกับการปฏิบัติเมื่อนั่งหลังพวงมาลัย การออกรถ การปรับที่นั่ง การปรับกระจก การคาดเข็ดขัดนิรภัย การสตารทเครื่องยนต ตรวจสอบสัญญาณบนหนาปด การเขาเกียร การจับและหมุนพวงมาลัย การใชเบรกมือ-เบรกเทา การใชแตร การขับรถตามรถคันหนา การเลี้ยวรถ การพักเทาซาย การกลับรถ การถอยหลังเขาจอด การสังเกตุการณและคาดการณลวงหนา สมาธิในการขับรถ การแซงรถ การจอดรถ และขอทราบอื่น ๆ
4. การตรวจสอบสมรรถภาพในการขับข ี่อบรมเกี่ยวกับความบกพรองในสมรรถภาพการขับขี่ เปนเรื่องที่นักขับควรจะตองรูเพื่อปรับตัวเองในขณะขับรถ เชน การตรวจสายตา บรรยายโดยอาจารยเสรี เฉลิมวัฒน เปนวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากศูนยการขับรถอยางปลอดภัย บริษัทเชลลแหงประเทศไทย ผานการอบรมจากสถาบันการขับรถชั้นสูงจากประเทศอังกฤษ
หลักสูตร: การขับรถเชิงปองกันอุบัติเหตุ (Defensive Driving Course) ระยะเวลา: 2 วัน(ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ)
วัตถุประสงคของเปาหมาย: เพิ่มทักษะและความชํานาญเพื่อการขับรถเชิงปองกันอุบัติเหตุ ดวยปรัชญาการขับรถที่ปองกันมิใหไปชนกับผูอื่น ปองกันมิใหผูอื่นขับมาชน และไมเปนเหตุ ใหผูอื่นชนกัน โดยมีเปาหมายรวมอยูที่การปองกันอุบัติเหตุ รวมทั้งแนะนําเทคนิคในการแกไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหนาในสถานการณตาง ๆ

 แก้ไขเมื่อ : 10/3/2557 20:34:30

แสดงความคิดเห็นย่อย