คำตอบที่ 1
       ทั้ง 2 ตัวเรื่องการใช้งานคุณจะใช้งานแบบไหนก็ได้ จะเอามาวิ่งใช้งานส่วนตัวหรือวิ่งบรรทุกหนักเกิน 1 ตันก็ทำได้ทั้ง 2 ตัวไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
จะเลือกแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น เพียงแต่ว่าในบ้านเราประเทศไทยราคาน้ำมันดีเซลมันถูกกว่าเบนซินมาก ตอนนี้วันที่ 14 มิถุนายน 2555 ราคาดีเซลลิตรล่ะ 30 บาท เบนซิน 91 ลิตรล่ะ 40.75 บาท ราคาน้ำมันต่างกันถึงลิตรล่ะ 10-11 บาท
ทั้ง 2 ตัวเอามาใช้งานแน่นอนว่า ถ้าเป็นบ้านเราจะเลือกรุ่น 2.5 ดีเซลคอมมอนเรล เพราะจะได้ความประหยัดกว่า เนื่องจาก2.5 ดีเซลหัวฉีดรุ่นใหม่ของ TOYOTA กินน้ำมันตก 14-15 กิโลเมตร / ลิตร หรือประมาณ 2.20 บาท / กิโลเมตร จึงเป็นที่มาของดีเซลดีอย่างนั้นอย่างนี้ บ้านเราจึงเลือกดีเซลครับ


แต่ว่าถ้าเป็นรถที่ขายต่างประเทศจะเลือกไปทางปิคอัพเบนซินเพราะราคาน้ำมันถูก ราคาดีเซลจะแพงทั้งตัวรถและราคาน้ำมันที่ต้องจ่ายไปรวมถึงการซ่อมแซม ยกเว้นโซนยุโรปจึงจะนิยมเลือกเป็นรุ่นดีเซลตอนนี้ยุโรปเครื่องดีเซลมาแรงมาก แต่เป็นรถเก๋งดีเซลขนาดเล็กซีซีไม่เกิน 2000 ซีซี ซะส่วนใหญ่ เน้นประหยัด ไม่เอาเครื่องยนต์ใหญ่ ถ้าเป็นปิคอัพโซนยุโรปมีจำนวนน้อยราคาแพง เคยดูราคาปิคอัพ Hilux Vigo 3.0 ที่ขายในอังกฤษ ราคาตกประมาณ 1.4 ล้านบาทไทย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
      
ส่วนเรื่องเกียร์จริง ๆ แล้วที่ผมเชียร์ให้เล่นเกียร์ AT เพราะว่าปีปัจจุบันคือ ปี 2012 คุณจะเลือกใช้เกียร์ธรรมดา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ 20 -30 ปีที่แล้วในยุคปี 1990 ก็ไม่เดือดร้อนใครแน่นอนครับ
เพียงแต่ว่าถ้าเป็นเกียร์ AT ใน Hilux Vigo 2.7 4wd Fortuner 2.7 4wd มันพัฒนามาจาก 20-30 ปีก่อนหน้านั้นขึ้นมามากแล้ว ด้วยคุณลักษณะเกียร์ที่มีความทนทานสำหรับรถปิคอัพงานหนักโดยเฉพาะ เกียร์ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ มีหน่วยความจำประมาณ 700 รูปแบบของข้อมูลเพื่อจดจำพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อมาประมวลผลการเปลี่ยนเกียร์ เพื่อความประหยัดปลอดภัยของการขับขี่ อีกทั้งยังใช้งานได้ง่าย ควบคุมง่ายและเกียร์มีความฉลาดมากกว่าตัวคนขับอย่างเรา ๆ ในการควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ในทุกจังหวะการขึ้นลง อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนนเกียร์ได้เร็วกว่าเกียร์ธรรมดาถึง 8 วินาที ( แต่ใน Hilux ที่ผมใช้อยู่เคยเทียบกันจะเร็วกว่าเกียร์ธรรมดา 3-5 วินาที แต่ก็มากพอสำหรับการใช้งานจริงที่เหนือกว่าเกียร์ธรรมดาค่อนข้างชัดเจน ) รถแข่งแรลลี่โลกก็ใช้เกียร์ที่สั่งการด้วยคอมพิวเตอร์เอามาช่วยนักแข่งเปลี่ยนเกียร์เช่นกัน เพราะมันฉลาดกว่าคนเราแล้วครับ โลกมันก็เปลี่ยนตามยุคสมัย
คุณจะยังใช้โทรศัพท์ Nokia 3310 ทีเขาว่าทนมากในรุ่นนั้นก็ไม่มีใครว่า หรือจะเปลี่ยนเป็น IPAD ตามยุคสมัยก็ได้เช่นกัน อยู่ที่คุณจะเลือกครับ เพราะไม่ว่าคุณจะเลือกเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ AT โตโยต้าได้กำไรเท่ากัน เขาไม่มานั่งชี้แจงคุณหรอกว่าอะไรดีกว่ากัน ผมเคยบอกเสมอ TOYOTA เขาขายรถน่ะครับ ไม่ใช่บริษัทผลิต Know how เพื่อขายเทคโนโลยี เขาคงไม่มานั่งชี้นำคุณหรอกว่าต้องเลือกอันนั้น หรือเลือกแบบนี้ เพราะกำไรเขามีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นในต่างประเทศเกียร์ AT ต้องจ่ายเงินเพิ่มหลักแสนบาทแพงกว่าบ้านเรามาก ที่บ้านเราจ่ายเพิ่มแค่ 3-4 หมื่นบาท ของที่ราคาแพงกว่าจะให้แย่กว่าของถูกในโลกนี้ไม่มีหรอกครับ ไม่งั้นบริษัททำเกียร์ออโต เจ๊งแน่นอน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
      
มันเหมือนกับตอนที่ผมออกมาเขียนแนะนำตอนเปิดเวปใหม่ ๆ เรื่องของเครื่องยนต์เบนซิน 2.7
ว่าให้เอาไปบรรทุกงานหนัก 2-3 ตันได้ เอาไปติดแก๊สได้ เครื่องยนต์เอาไปใช้งานหนักได้ ค่าซ่อมถูก
คนจากเวปอื่น ๆ เห็นคัดค้านทุกราย หรือคนรุ่นเก่าที่เคยใช้ดีเซล 10-20 ปีที่แล้วก็จะบอกว่าปิคอัพเบนซินมันไม่ทนหรอก ติดแก๊สเครื่องก็พัง เกียร์ออโตอย่าเอาไปบรรทุก พังแน่นอน


ตอนนี้ TOYOTA ยังมาโฆษณา Vigo 2.7 เบนซินตามที่ผมบอกเลย ขนาดเอามาติดแก๊ส CNG จากโรงงานเองด้วยซ้ำ
ทั้งที่เมื่อกอ่น คุณวุฒิกร ฉันทะวิริยานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท TOYOTA MOTOR THAILAND ออกมาบอกกับนักข่าวรถออกแบบมาเพื่อใช้น้ำมันเท่านั้น ไม่สนับสนุนให้ไปติดแก๊ส และปิคอัพในประเทศไทยต้องเป็นเครื่องดีเซลเท่านั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
      
ทำไมบริษัทรถยนต์เขายังผลิตเกียร์ธรรมดากันอยู่ เหตุผลง่าย ๆ
ก็มีลูกค้าซื้อไงครับ ตราบใดยังมีคนซื้อผลิตแล้วมีกำไรเขาทำทั้งนั้นแหละ เพราะเขาเป็นบริษัทขายรถ
ถ้าคุณไม่ซื้อกันเขาก็ต้องผลิตเกียร์แบบอื่น ๆ มาแทน คุณดูอย่างรถ Camry ก็ได้ ทำไมไม่ทำเกียร์ธรรมดาออกมาล่ะ พราะว่าไม่มีลูกค้าคนไหนเขาซื้อรถระดับนี้เพื่อจะขับเกียร์ธรรมดาน่ะเขาจึงไม่ทำ
เกียร์ at Camry ลูกล่ะ 180,000 บาท และยังไม่เคยมีใครเกียร์พังซักราย เพื่อนผมขายรถ Camry ขณะนั้นรถวิ่งไปที่ 480,000 กิโลเมตร เกียร์ก็ยังไม่พัง ไปออกรถใหม่ก็ซื้อเป็น Vigo Champ 3.0 4x4 เกียร์ AT



คุณบอมบ์ลูกชายอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจที่ตอบปัญหาทาง FM 89.5 ก็สนับสนุนให้เป็นเกียร์ AT สำหรับปิคอัพ คือถ้าคุณไม่มีพฤติกรรมการขับรถแบบดิบดิบ คือเข้าเกียร์ 1 ลากความเร็วไป 60 km/h แล้วเปลี่ยนเกียร์ไป 2 แล้วลากรอบความเร็วไปที่ 120 km/h แล้วเปลี่ยนไปเป็นเกียร์ 3 ถ้าไม่ใช่คนมีอารมณ์การขับรถแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปเลือกเกียร์ธรรมดามาใช้งานอีกต่อไป มันหมดสมัยแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ราคาค่าใช้จ่ายในการซ่อมเกียร์ ระหว่างธรรมดากับ AT ของ Hilux Vigo

เกียร์ธรรมดาทนแต่ต้อง ยกเกียร์ลงมาซ่อมเปลี่ยนคลัทซ์ตามระยะเวลา ขึ้นกับว่าการใช้งาน โดยมากอยู่ที่ 1 แสนกว่าโลขึ้นไป
ราคาค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10,000 บวกลบ ทำทุกรายการในศูนย์ ข้างนอก 5,000 กว่าบาทขึ้นไป ของแท้เหมือนกันแต่ทำอาจไม่ทุกรายการ น้ำมันเกียร์เปลี่ยนทุก 40,000 กิโลเมตรเหมือนกัน ราคา 450 บาท 3 ลิตร ซื้อข้างนอกแท้ TOYOTA
มีรายงานปัญหาเรื่องการดังการสั่นของเกียร์ธรรมดาอยู่บ้าง สำหรับ Market claim แก้ไม่หายหรอก บางคันเป็นบางคันไม่เป็น แต่รถเก่ามักจะเป็น ส่วนการใช้งานมักเจอปัญหาขึ้นเนินไม่มีกำลัง เพราะเครื่องไม่มีกำลังส่ง เนื่องจากการตัดต่อเปลี่ยนเกียร์มาไม่ต่อเนื่อง เพราะมันคือธรรมมชาติของลักษณะเกียร์ธรรมดา มันต้องมีที่ส่งและต้องมีการสับเกียร์ให้ถูกจังหวะ ทำให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์แสดงออกมาไม่เต็มที่ แรงบิดเยอะจริงแต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแรงบิดที่มหาศาลได้ จุดอ่อนที่เห็นอีกคือใน Triton 2.5 VG Turbo 178 แรงม้าเคยมีคนถามมาทางรายการ FM 89.5 ของนักเลงรถกะบะเวลาขับไปขึ้นดอยที่สูงชันมาก ๆ เจอปัญหาคลัทซ์ไหม้ เพราะแรงบิดมันเยอะแต่รถเป็นเกียร์ธรรมดา สุดท้ายขึ้นดอยไม่ไหว ถึงขึ้นไหวก็เปลืองคลัทซ์มาก แต่รถส่วนใหญ่ขับขึ้นเขาไหวทั้งนั้นเพียงแต่คนต้องมีทักษะบ้าง





เกียร์ AT Hilux Vigo เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ T-IV ตามระยะทาง 40,000 โล ราคา 900 บาท 4 ลิตร ซื้อข้างนอกแท้ TOYOTA เหมือนกัน อายุงานทนทานยาวนานแทบไม่ต้องเปิดมาซ่อมตลอดอายุการใช้งาน เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เพียงอย่างเดียว ข้อดีของเกียร์เป็นอย่างที่บอกข้างต้นไปแล้วควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อจดจำพฤติกรรมการขับขี่ ทำให้ขับง่าย ควบคุมง่าย สึกหรอต่ำ สามารถขึ้นเขาได้สบายกำลังมาต่อเนื่อง
เลยไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องไปเลือกเกียร์ธรรมดามาขับด้วยเหตุผลใด หรือมีความจำเป็นอย่างใดที่ต้องกลับไปใช้เกียร์ธรรมดาอีก
รถยนต์ประจำบริษัทผมทุกคัน ใช้ Vigo เกียร์ออโตทุกคัน
ถ้าเป็น 4 ประตูจะเป็นรุ่น 3.0
ถ้าเป็นรุ่นแคป จะเป็น 2.7 vvti ไม่ติดแก๊ส ยกเว้นรถยนต์รุ่นเก่าจริง ที่ยังไม่ปลดระวางจึงเป็นเกียร์ธรรมดา
และรถทุกคันที่ใช้เกียร์ออโตไม่มีการซ่อมเกียร์แต่อย่างใด





ผมไม่เคยสนับสนุนให้ซื้อ 2.7 เกียร์ธรรมดามาใช้ตั้งแต่เปิดเวปมาแรก ๆ อยู่แล้ว ตอนนั้นมีคนเรียกร้องกันอยู่บ้างในการใช้งานเกียร์ธรรมดา ลูกค้าอยากได้ทางเลือกที่เพิ่มขึ้น ในต่างประเทศมีการส่งออกเกียร์ธรรมดา แต่ตอนแรก TOYOTA THAILAND ทำออกมาเป็น 2.7 เกียร์ออโตเพียงอย่างเดียว ส่วนผมมองการใช้งานไม่ได้เกี่ยวว่าจะเป็นแบบใด เพราะทั้งเชิงพาณิชย์และเชิงส่วนตัวมผมยังให้เลือกเป็นเกียร AT อยู่ดี แม้กระทั่งมุมมองของการใช้งานหนักหน่วงแบบออฟโรดก็ยังให้เป็นเกียร์ AT รถคุณ R400 ถือเป็นที่รู้จักกันดีในวงการออฟโรดเที่ยวหนักมากในการเข้าไปปิเต็งก็เลือกใช้รถ TOYOTA เกียร์ AT หรือแม้กระทั่งกลุ่มออฟโรดกลุ่มนึงระดับระดับตำนานที่ขับวนรอบทุ่งใหญ่นเรศวรได้ก็กลายเป็นเกียร์ออโตกันเกือบจะหมดอยู่แล้ว
ในรถบรรทุกใหญ่ของยุโรปก็กลายเป็นเกียร์ออโตไปเยอะ เนื่องจากเทคโนโลยีและความทนทานนั้นสูงกว่า โดยอายุของเกียร์ออโตในรถบรรทุกหัวลากถูกเคลมการใช้งานไว้ที่ 2 ล้านกิโลเมตร เป็นเกียร์ของ ZF เยอรมัน ถ้าถึงอายุการใช้งานก็ยกลงมาซ่อมแล้ววิ่งใช้งานต่อไป ใช้กันยันรถพัง แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย
รถญาติภรรยาผมก็ใช้ Mitsu ปิคอัพสตราด้าเกียร์ออโตรุ่นแรกใช้งานบรรทุกหนักมาก บรรทุกเพื่อวิ่งส่งของด้วยความเร็วต่ำรถติด ๆ ในเขตปริมณฑล เกียร์ถูกใช้งานหนักพอสมควร ออกจากบ้านตั้งแต่บ่ายกว่า กลับเข้าบ้านประมาณ 4 ทุ่มกว่า ทุกวัน เครื่องยนตNและเกียร์ทำงานหนักหน่วงตลอดเวลา แต่เกียร์ก็ยังสมบูรณ์ไม่ต้องยกลงมาซ่อมแต่อย่างใด แต่สุดท้ายทนค่าน้ำมันเครื่องดีเซลไม่ไหวก็เลยเปลี่ยนเครื่อง J ติดแก๊สไปแล้ว เกียร์ยังใช้งานได้ปกติไม่มีการพังแต่อย่างใด
แต่ในยุโรปรถยนต์นั่งขนาดเล็กสำหรับคนทั่วไปยังเป็นเกียร์ธรรมดาเนื่องจากราคาเกียร์ออโตแพง คนยุโรปใช้รถคุ้มคือ 8-10 ปี ทิ้งเลยไม่ค่อยซ่อม จึงไม่ซื้อรถราคาแพงโดยไม่จำเป็นและเลือกดีเซลเพื่อทิ้งเลย หลังจากเริ่มซ่อมใหญ่

 แก้ไขเมื่อ : 14/6/2555 20:28:41

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/Question.asp?ID=2705

มีอีกอย่าง เกี่ยวกับการใช้งานและฟิลลิ่งล้วน ๆ

คนส่วนใหญ่เคยขับแต่ปิคอัพดีเซล เกียร์ธรรมดา มาตลอด หรือไม่ก็เคยขับรถเก๋งเกียร์ออโตมาก่อน การใช้งานเมื่อมาใช้รถปิคอัพเบนซิน 2.7 ที่เป็นเกียร์ออโตแล้วมักจะติดใจเรื่องพละกำลังและความเร็วในช่วงใช้งานจริง มันตอบสนองได้ดีเยี่ยม เครื่องเงียบ และฟิลลิ่งการเป็นเกียร์ออโต ชวนให้ขับสนุกเร้าใจมากกว่าที่จะไปขับรถ ปิคอัพเกียร์ธรรมดาเครื่องดีเซลแบบเดิม ๆ อีก

เห็นได้ว่าหลายคนมีรถ 2.7 ใช้แล้ว 1 คัน และมักจะซื้อรถ 2.7 เพิ่มเติมอีก 1 คัน และ ในการซื้อเพิ่มเติมมักจะซื้อเป็นเกียร์ออโตและมักต่อท้ายด้วยการซื้อ 2.7 4wd เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานขึ้นไปอีก โดยที่หลายคนยอมที่จะซื้อเป็นมือ 2 ตัวอย่างของคุณ Taka_vvti คต.24 ก็ตัวอย่างนึง ตัวอย่างของผมก็ตัวอย่างนึงตอนนั้นต้องการซื้อรถ Hilux 2.7 ถึงจะมีเงินซื้อรถใหม่แต่ก็ต้องซื้อมือ 2 จาก Toyota Sure รุ่น Hilux 2.7 4wd AT มาใช้งาน เพราะรถป้ายแดงรุ่นที่เป็น 2.7 4wd เกียร์ AT มันไม่มีผลิตออกมาขายในประเทศแล้ว หลายคนนอกจากผมและคุณ Taka ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น มีรถ 2.7 ในครอบครองมากกว่า 1 คัน และหลายคนก้ยอมรับที่จะซื้อมือ 2 แม้จะมีเงินออกรถป้ายแดงก็ไม่ซื้อ เกียร์ธรรมดา

คุณเคยเห็นใครใช้รถรุ่นไหนแล้วซื้อติด ๆ กันตามมาแบบนี้อีกไหม คันที่ 1 2 3 ต้องเป็น 2.7 4WD AT เท่านั้น และบรรดาคนที่ผมกล่าวถึงอยู่นี้ ไม่เคยกลับไปมองปิคอัพดีเซลอีกเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ปัญหาคือ ณ เวลานี้มันไม่มีกระบะเครื่องเบนซินที่เป็นเกียร์ AT นะสิครับ
จะให้ซื้อมือสองคงไม่ไหวอะ บวกลบแล้ว พอๆกะรถใหม่เลยไหนจะค่าซ่อมจุกจิกที่จะตามมาอีก


ตอบ.............. ตรงนี้เป็นปัญหาสำหรับหลายคนจริง ๆ ลอง + - คิดกันเองก็แล้วกันว่าแบบไหนคุ้มค่าที่สุดสำหรับแต่ล่ะคน เพราะแต่ละคนมีจุดคุ้มของตัวเองไม่เหมือนกัน
บางคนยอมรับเล่นมือ 2 ได้ ก็มีเยอะมากเหมือนกัน
บางคนขอป้ายแดงอย่างเดียว ก็มีไม่น้อย

เวลานี้ 2.7 จะเจอปัญหานี้อยู่ให้ต้องขบคิดกัน
แต่ถ้าเป็นผม ผมยอมซื้อมือ 2 ครับ ได้รถที่ต้องการ แม้เป็นรถมือ 2 แต่ดีกว่าได้รถที่ไม่ต้องการ เนื่องจากขับแล้วไม่มีความสุข ไม่อยากขับไปไหนแม้จะเป็นรถป้ายแดงก็ตาม

มีอีกเรื่องนึงให้นึกถึงไว้ ก่อนจะซื้อรถ เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ABS ต้องมีก่อน เพราะมันได้ใช้ทุกครั้ง มีประโยชน์มาก รถ 160 แรงม้าไม่ใช่รถ 90 แรงม้าแบบสมัยก่อนโน้น จำเป็นต้องมีพื้นฐานระบบเบรคที่ดีเพียงพอก่อน ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่เราต้องเลือก ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน เพราะ ABS เอาไปติดเพิ่มทีหลังไม่ได้
by Auto

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       รถปิคอัพ Mitsu Triton สำหรับงานหนักเป็นพิเศษโดยเฉพาะ ที่ทางบริษัท Mitsu ทำออกมาระยะนึงก็มีสเปกของรถเป็น เกียร์ AT และเป็นรุ่น 4wd


แต่น่าเสียดายที่ขาดการโฆษณาประชาสัมพันธ์และคนส่วนใหญ่ยังยึดติด เข้าใจว่าเกียร์ธรรมดาน่า..........จะทนทานกว่าเกียร์ออโต
รวมถึงบางคนน่าจะคิดว่าตัวเองไม่ต้องเอา 4wd ก็ได้ กลัวค่าซ่อมเพิ่มขึ้นล่ะมั้ง
รถรุ่นนี้ก็ถูกยกเลิกการขายในประเทศไทยออกไปอีก รุ่นนึง
http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/Question.asp?ID=2310

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       รถ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ 2.7 เลยในรุ่น 4wd 4x4 เกียร์ AT
ตอนที่ TOYOTA THAILAND ทำออกมาวางขายครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย จะเป็นรุ่น G ขึ้นไปและ ABS ถุงลม SRS กับเกียร์ออโตคืออุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับรถ Hilux 2.7 ทุกรุ่น โดยวางเซกเม้นไว้คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะซื้อปิคอัพมาใช้งาน เป็นกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างจากลูกค้าปิคอัพรุ่นเดิม ๆ การตลาดจะต่างออกไป รวมถึงผู้ใช้ในกิจกรรมท่องเที่ยว วันหยุดและใช้ในครอบครัว

แต่ทำไปทำมาช่วงวิกฤติน้ำมันแพง ประกอบกับรถ 2.7 ติดแก๊สได้ มีความประหยัดกว่ารถที่ใช้ มันจึงทำให้เกิดกลุ่มลูกค้ารุ่นเก่าคือพวกที่ใช้ปิคอัพดีเซลเดิม ๆ อยู่แล้ว รวมถึงผู้ประกอบการ เถ้าแก่ห้างร้านต่าง ๆ อยากได้รถ 2.7 บ้าง ( เพิ่งตื่นจากโลกแห่งดีเซล ) กลุ่มลูกค้าเหล่านี้แน่นอนว่ามาพร้อมกับแนวคิดเดิม ๆ ในการเป็นรถตลาดคือ รถไม่อยากได้อ๊พชั่นมากนัก ไม่อยากได้ ABS ไม่อยากได้เกียร์ออโต อยากได้แค่เกียร์ธรรมดาก็พอ เพราะคิดว่าเกียร์ออโต ไม่เหมาะกับปิคอัพ ไม่อยากได้อ๊อพชั่นไปถึงรุ่น G เมื่อตลาดมันเกิดกำลังซื้อของคนกลุ่มนี้เข้ามามากขึ้น
TOYOTA THAILAND จึงได้มีการผลิตรุ่นกลุ่มนี้ออกมา เป็นรถเพื่อการพาณิชย์ แต่สิ่งที่ทำให้คนอื่น ๆ คาดไม่ถึงก็คือ TOYOTA ได้หยุดผลิต Hilux 2.7 รุ่นเดิม ๆ ทั้งหมด 3 รุ่นที่มี ออกไปเลย ทำให้เสียลูกค้าในกลุ่มนี้เกือบหมด แต่ก็ได้กลุ่มลูกค้าของรถเพื่อการพาณิชย์เข้ามาแทน
ซึ่งก็เท่านั้นเอง เหตุที่รถ Vigo 2.7 มันออกมาเป็นรูปร่างเช่นนี้ ราคาแบบนี้ ทุกอย่างมีเหตุผลเข้ามาเกี่ยวทั้งนั้น


แต่รถที่สร้างชื่อเสียงให้กับ 2.7 จนกระทั่งวันนี้เลยคือ รถ Hilux 2.7 AT รุ่น G และเป็นรุ่น 4x4 4wd ถ้าเป็น Fortuner 2.7 4x4 fulltime ไม่ใช่รถรุ่นหลัง ๆ ที่จะด้อยกว่าทั้งหมดและราคาแพงกว่า



จำที่ผมบอกไว้การจะซื้อรถ 2.7 ให้ดูสมการที่ผมบอกไว้ดังนี้
1. ต้องเป็นเกียร์ออโต
2.ต้องมี ABS

ในการเลือก ปิคอัพรุ่นปัจจุบัน ส่วนใครต้องการอะไร จะมีอ๊อพชั่นอื่น ๆ ค่อยว่ากันทีหลัง แต่สมการพื้นฐานในการซื้อรถปิคอัพในปัจจุบัน แม้จะเป็นปิคอัพรุ่นอื่น ๆ ก็ควรต้องดูแบบนี้เหมือนกัน ต้อง เป็นเกียร์ออโตและมี ABS 2 สิ่งนี้เสียก่อนแล้วอย่างอื่นค่อยมาว่ากัน




รถ Ford New ranger ที่มีการขายเป็นมือ 2 ในตลาดตอนนี้ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเกียร์ธรรมดาทั้งสิ้น เพราะมันไม่เหมาะกับผู้ใช้อีกต่อไป แต่คนที่เขาได้เกียร์ออโตยังไม่มีใครขายซักราย รถก็จองนานกว่าจะได้

ถ้าคนส่วนใหญ่ซื้อเกียร์ M/T รถมือสองก็ต้องมีเกียร์ M/T มากกว่าเป็นธรรมดา จาก : Aod SRT(Aod SRT) 15/6/2555 9:08:38 [202.12.73.193] เคยดูจากเหตุผลคนที่ขาย ชอบตอนซื้อแต่ซื้อมาแล้วไม่เหมาะกับที่บ้าน จาก : Auto.(Auto.) 15/6/2555 11:19:02 [202.80.239.130] เพราะรถ Ford ค่อนข้างใหญ่ พอมาใช้ในครอบครัวแล้วไม่เหมาะกับเกียร์ธรรมดา จาก : Auto.(Auto.) 15/6/2555 11:21:46 [202.80.239.130] อีกเหตุผลนึงมาจากการตั้งอตราทดเกียร์ที่เร็วประชิดมากในการเปลี่ยนเกียร์ ถึง 6 เกียร์ จาก : Auto.(Auto.) 15/6/2555 11:23:48 [202.80.239.130] ข้อดีเกียร์แบบนี้ขับสนุกเป็นคราว ๆ แต่เอามาใช้งานจริงทุกวันไม่สนุกขายออกไปเอาเกียร์ออโต ดีกว่า จาก : Auto.(Auto.) 15/6/2555 11:25:13 [202.80.239.130]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
      
เดี๋ยว จขกท. ที่ถามมาจะงง ไม่กล้าเลือกเกียร์ธรรมดามาใช้อีก เพราะตัวเลือกที่ถามมามีแต่เกียร์ธรรมดาทั้งนั้น
คือถ้ามันจำเป็นต้องเลืกอกเพราะไม่มีตัวเลือกก็เลือกไปเถอะ เพราะรถมันต้องใช้



แต่ถ้ามาถามผมผมก็ตอบตามสไตล์แบบนี้ คือตอบอาจไม่ค่อยถูกใจใครกันนัก แต่ตอบเอาแบบความรู้กันจริง ๆ ไปเลย แต่มันก็เปลี่ยนแปลงวงการรถยนต์พอสมควรทีเดียว มีบางคนเคยเชื่อผมตอนที่ผมบอกว่า รถปิคอัพเบนซิน เกียร์ออโต เอามาติดแก๊ส ทนทานน่าใช้กว่าดีเซล 2.5 เกียร์ธรรมดา คือเค้าเห็นผมตอบคำถามแบบนี้ คือมันเหมือนคนขวางโลกหรือไม่ก็ เป็นคนเดียว ที่ตอบไม่เหมือนใคร คนคนนี้เป็นใครหว่าทำไมตอบคำถามแบบนี้ ทั้งที่ 4-5 ปีก่อนนี้ ไม่มีใครกล้าตอบแบบนี้ซักคนเดียว คนใช้ปิคอัพเบนซินเลยเป็นกลุ่มเฉพาะ
เขาเห็นผมตอบคำถามแบบนี้ เลยเสี่ยงซื้อรถดูซักครั้งเอามาลองดูว่าผมพูดจริงหรือไม่ เขาไม่ได้เชื่อที่ผมพูดน่ะแต่อยากรู้ว่าจริงหรือไม่ สำหรับคนที่ตอบคำถามไม่เหมือนคนอื่น ๆ แบบนี้ เขาซื้อปิคอัพ 2.7 2wd AT แต่ที่จริงตัวเขาน่าจะเป็นเจ้าของกิจการบริษัทเล็ก ๆ ซักแห่งนึง เพราะมีรถหลายคันใช้งานภายในบริษัทอยู่แล้ว เคยคุยกันประมาณ 3-4 ครั้งหลังจากซื้อรถไปแล้ว เวลาประมาณ ไม่เกิน 4 ปี รถปิคอัพ 2.7 คันนี้ วิ่งใช้งานไป 180,000 กิโลเมตร ลูกน้องในบริษัทใคร ๆ ก็พยายามขึ้นมาขับแต่รถคันนี้ ไม่ขับปิคอัพดีเซลคันอื่น ถ้าเลือกได้จะเอา 2.7 AT ออกไปขับใช้งาน ( เชื้อเพลิงเบิกบริษัทได้ทุกแบบอยู่แล้ว ) จึงทำให้ระยะทางการวิ่งค่อนข้างมาก ผลลัพธ์มันก็ตามที่ผมบอกรถ 2.7 คันนี้ที่เขาซื้อมา เขาพอใจในรถคันนี้อย่างมากและลูกน้องทุกคนเคยปรามาสว่าซื้อมาทำไมว่ะ ปิคอัพเบนซินเกียร์ออโต เปลี่ยนความคิดกันหมดเลย ตัวเขาเองก็เอาออกไปใช้งานหลายครั้งแย่งกับลูกน้อง จนสุดท้ายไปออกรถ 2.7 4wd AT มาใช้งานส่วนตัวเองอีก 1 คัน




รถฟอร์ดมีเกียร์ที่อัตราทดเข้ามาเร็ว ผลลัพธ์คือขับสนุกขึ้น อารมณ์มันก็สนุกตามรีดกำลังออกมาได้ดีแต่ถ้าต้องขับแบบนี้บ่อย ๆ คนขับกลายเป็นว่าต้องเปลี่ยนเกียร์ให้บ่อยขึ้นด้วย พอไม่เปลี่ยนเกียร์ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะซื้อเกียร์ธรรมดามาทำไม หลังจากขับไปเยอะๆ จะเห็นว่าเกียร์ AT เปลี่ยนเร็วกว่าเราขับเกียร์ธรรมดาซะอีก สุดท้ายมันจึงลงเอยที่ว่าเอาเกียร์ออโตดีกว่าเพราะการเปลี่ยนเกียร์แม่นยำกว่าและเปลี่ยนเกียร์ ขึ้นลง 6 จังหวะเร็วกว่าเกียร์ธรรมดา และมีการประมวลผลเร็วกว่าสมองคนเรา คนขับเลยคิดว่าให้เกียร์อัตโนมัติมันประมวลผลเอาเองสบายกว่า ปลอดภัยกว่า รีดกำลังได้เร็วกว่า ของแบบนี้มันเป็นธรรรมดาของยุคสมัยเพราะการพัฒนาของเกียร์อัตโนมัติ ที่ ทนทานมากขึ้น ราคาถูกลง ความน่าใช้จึงไปอยู่ที่เกียร์ อัตโนมัติ มากกว่าเกียร์ธรรมดา ซึ่งไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องกลับไปเลือกใช้เกียร์ธรรมดาอีก




แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่รวมเกียร์ ออโต CVT เข้ามาในระบบ เนื่องจากเกียร์ CVT ไม่ทนทานเท่าเกียร์ธรรมดา
บริษัทรถยนต์เอามาใส่กับรถยนต์บางรุ่นโดยเฉพาะรถยนต์ Ecocar เพื่อลดต้นทุนเนื่องจากเกียร์ CVT มีขนาดเล็กน้ำหนักเบา โครงสร้างน้อยไม่ซับซ้อน ราคาถูกกว่าเกียร์ออโตทั่วไป ถึง 50%

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
      
VIGO 2.7 ถ้าเอามาใช้งานติดแก๊ส LPG ตอนนี้ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร จะประมาณ ไม่เกิน 2 บาท จะอยู่ราว ๆ นั้นคิดราคา LPG ที่ 12.80 / ลิตร คือยังไงมันก็ถูกกว่าใช้ดีเซลวันยังค่ำ และถึงแม้แก๊สจะขยับขึ้นราคาแต่ราคาน้ำมันจะถูกขยับหนีออกไปอีก เพราะกลไกโครงสร้างราคาพลังงานบ้านเราที่ซับซ้อนคนทั่วไปไม่เข้าใจ ซักที การเลือกซื้อรถ จขกท. เลือกได้ทั้ง 2 แบบเพราะมันไม่ต่างกันมาก ค่าใช้จ่ายใกล้กันฟิลลิ่งขับก็ไม่ถือว่าต่างกันมาก เพราะรถใกล้เคียงกัน จะเลือกอะไรก็ได้ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เบนซินจะขับสนุกกว่านิดหน่อย เครื่องแรงกว่านิดนึงรถเปล่าด้วยกัน

แต่ถ้าเลือกเป็น 2.7 AT ได้จะเห็นความต่างขึ้นมาชัดเจนในหลายด้าน ขับด้วยความประหยัดพอพอกัน ไม่มีใครซื้อดีเซลไปขับหรอกครับ ทุกคันเลือกมาขับปิคอัพเบนซินทั้งนั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ขอบคุณมากครับคุณ Auto ที่อธิบายให้เห็นภาพและเปรียบเทียบได้ จริงๆผมก็ชอบ Auto เเหละครับ
เคยเอา Altis 1.6 มาใช้ปีกว่าเครื่องเงียบไม่ต้องเมื่อยกับครัช

2.7 vvt ติดแก๊สแล้วออกตัววิ่งปลู๊ดเหมือน Altis ไหมครับ หรือคล้ายกับ ดีเซล ตอนออกตัวนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       Altis CNG ที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้วิ่งปรู๊ดนะครับ กำลังพอสมตัวแต่ไม่ได้คล่องแคล่วกระฉับกระเฉงว่องไว ส่วน Altis 1.8 ไม่เคยลองขับเลยไม่ทราบได้อีกอย่าง Altis รุ่นใหม่พวกนี้เป็นเกียร์ CVT ผมไม่กล้าซื้อมาใช้หรอก กระทืบคันเร่ง เล่นเกียร์มาก ๆ กลัวพัง
ถ้าเทียบกันแล้ว 2.7 ถ้าเป็นธรรมดาตัวเตี้ย กำลังได้ออกมาเร็วพอสมควร รุ่น 2wd ผมดูว่ามันออกจะแรง ๆ ไปด้วยซ้ำ
แต่ถ้าเทียบกัน Altis จะไปได้เร็วกว่า Vigo 2.7 ที่คันเร่งไฟฟ้าจะหน่วงมากกว่า

ดีเซลตอนออกตัวไม่ได้วิ่งเร็วนะ ทั้ง 2.5 และ 3.0 ตอนติดไฟแดงด้วยกันไม่เคยมีครั้งไหนที่ 2.7 AT จะออกตัวแพ้ซักที เพราะความได้เปรียบของเกียร์ออโต ที่ไวกว่า รถดีเซล MT เปลี่ยนเกียร์จนครบ 3 เกียร์เมื่อไหร่ รถ 2.7 ทิ้งออกไปจนเกือบเท่าช่วงตัวแล้ว
หลังจากนั้นเกิน 100- 120 km/h แรงบิดเริ่มหดหายจะสู้เครื่อง 3.0 ดีเซลคอมมอนเรลไม่ได้แล้ว 3.0 ที่รอบสูงกำลังก็ยังมาต่อเนื่อง ไปได้ไวกว่า
แต่ถ้าเป็น 2.5 ดีเซลที่ไม่มี VG turbo ก็สู้ 2.7 ไม่ได้หรอก ช่วงความเร็วสูงและมีการเบรคเกิดขึ้นเห็นได้ชัดเลยว่าเครื่อง 2.5 กำลังหดหายไปพอสมควร กว่าจะเค้นกำลังกลับออกมาอีก จะสู้รถ 2.7 ไม่ได้เลย เพราะรถดีเซลแบบนี้แรงบิดมาเพียงรอบต่ำหลังจากนั้นพอรอบสูงไม่มีกำลังต่อแล้วเพราะเขาเน้นประหยัดเชื้อเพลิง



ผมอธิบายไม่หมด ถ้าเป็น 2.7 เกียร์ธรรมดาผมไม่เคยขับเปรียบเทียบแบบนี้ซักทีว่ากำลังได้มาขนาดไหน ให้คนที่ใช้ 2.7 เกียร์ธรรมดามาเป็นผู้ตอบดีกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       โดยส่วนตัวผมนะครับ
ผมเลือก 2.7G smart cab A/T ซึ่งก็มีมือสองปี 2009-2010 ที่ถือว่ายังไม่เก่าครับ รอจังหวะดีๆ
เหตุผลของผมจะมองการใช้งานมาก่อนซ่อมบำรุง คือ
1. ถ้าใช้ส่วนตัวไม่ได้ให้พนักงานขับรถ ควรเลือกที่หรูหรา ดูดีกว่า ภายในสวยกว่าตัว J เป็นไหนๆ เหมือนรถเก๋ง ทั้งเบาะ คอนโซรล ประตูข้าง ฯลฯ ใครนั่งก็ติดใจครับ เพราะรุ่นนี้รุ่น ท็อป
2. มี Airbag คู่ ถึงไม่อยากจะใช้ แต่ปฏิเสธที่จะไม่มีไม่ได้สำหรับคนที่ใช้รถเยอะๆ และฝากที่ชีวิตไว้กับรถ
3. มีระบบเบรค ABS ตรงนี้ใช้อยู่แล้วโดยเฉพาะภาวะฉุกเฉิน พี่ชายตอนแรกก็จะเอาป้ายแดงตัว J มาใช้เอง แต่ผมหามือสองตัว G ให้ เคยเบรคแบบเหยียบสุดตอนโดนรถสิบล้อตัดหน้า ในขณะฝนตกหนัก รถไม่ชนเพราะ ABS นี่แหละ ถ้าตัว J คงไถลชนไปแล้ว
4. ทั้งเรือนไมล์ ก็เหมือนจูน มีตัววัดอัตราสิ้นเปลือง กระจกพับไฟฟ้า และออฟชั่นอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งถ้าตัว J ไปเปลี่ยนเองให้เหมือนตัว G โดนหลายหมื่น
5. ใช้ตัว G อยู่ เคยเดินไปดูรถในศูนย์ถามหา 2.7 จากความเห็นส่วนตัวรับไม่ได้หลายๆอย่างเมื่อเทียบกับตัวเก่า คือถ้าเอามาใช้ส่วนตัวขอมือสองหรูๆดีกว่า(ทางบ้านไปดูด้วยไม่เคยซื้อมือสอง ยังอนุมัติให้ซื้อ ไม่เอาแล้วป้ายแดง) ยกเว้นซื้อให้พนักงานขับและไม่ได้ใช้เอง ออกป้ายแดงตัว J ได้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       จำที่ผมบอกไว้การจะซื้อรถปิคอัพซักคันในเวลานี้ ให้ดูสมการที่ผมบอกไว้ดังนี้
1. ต้องเป็นเกียร์ออโต
2.ต้องมี ABS

แล้วค่อยมาเลือกอ๊อพชั่นตามความต้องการ ถ้าไม่มี 2 อย่างนี้ โดยส่วนตัวผมถือว่าเลิกสนใจรุ่นนั้นเลยเพราะตอนนี้มันเอามาใช้งานจริงในชีวิตประจำวันไม่เหมาะสมแล้ว
แต่ผมเห็นตรงกันข้ามกับคุณ Taka- vvti ตรงเรื่องซื้อให้ลูกน้องครับ เอาตัว J
เรื่องนี้ ตา tOP ที่ทำรถเช่าที่เชียงใหม่เล่าให้ฟังว่า รถที่เขาซื้อจะรุ่น J E ก็ได้แต่รถต้องมี ABS หมดทุกรุ่น เพื่อให้ลูกค้าใช้ เพราะสถิติการเกิดอุบัติเหตุของรถเหล่านี้ถ้ามี abs จะน้อยกว่าชัดเจน
เห็นได้ชัดว่าจะซื้อรถตัวไหน J E G V แต่รถต้องมีพื้นฐานเบรค ABS ก๋อนจึงน่าเลือก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ผมซื้อ 2.7เกียร์ M/T ด้วยเหตุผลเดียวคือ...."ก็มันไม่มีเกียร์ A/Tให้เลือกง่ะดิ....."







ไมางั้นเอาA/Tแล้วแน่ๆ

ใช่แล้ว อิๆๆๆ จาก : Aod SRT(Aod SRT) 18/6/2555 16:30:33 [202.12.73.205] เป็นปัญหาใหญ่สำหรับทุกคนจริง ๆ จาก : Auto.(Auto.) 18/6/2555 16:46:46 [202.80.239.130]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       ก่อนหน้านี้ 2.7cab A/T รุ่น G แต่ 2.7 4doors เป็นรุ่น E ทั้งๆที่ 4 ประตูควรเป็น G
ดังนั้น รุ่นต่อมา 2.7 4doors ควร up เป็น G A/T เพื่อให้เป็นรถนั่งดีกว่าตัว 2.7cab
แต่กลับปรับ 2.7cab ลงมาเป็น ตัว J (หนักกว่าเดิมอีก)
เป็นการบริโภคสินค้าที่ไม่มีตัวเลือกเลย กรรมเจรงๆๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ก่อนหน้านี้ 2.7cab A/T รุ่น G แต่ 2.7 4doors เป็นรุ่น E ทั้งๆที่ 4 ประตูควรเป็น G
ดังนั้น รุ่นต่อมา 2.7 4doors ควร up เป็น G A/T เพื่อให้เป็นรถนั่งดีกว่าตัว 2.7cab
แต่กลับปรับ 2.7cab ลงมาเป็น ตัว J (หนักกว่าเดิมอีก)
เป็นการบริโภคสินค้าที่ไม่มีตัวเลือกเลย กรรมเจรงๆๆ
.......................................................................................................
ถ้าพวกเรายังซื้อรุ่น2.7 j นี้อยู่ โตต้าก็ทำขายไปเลื่อยๆ
ต้องหยุดซื้อเลยครับ...เอาซัก 3 เดือน 6 เดือน ช่วยๆกัน

ไม่มีทางหยุดซื้อได้หรอกครับ เพราะกลุ่มที่เขาหันมาเล่น ณ ตอนนี้คือกลุ่มที่ต้องการลดรายจ่าย เอาไว้วิ่งส่งของครับ ส่วนพวกเรา ๆ เป็นกลุ่มที่เน้นใช้งานเป็นหลักครับ จาก : นายกัน(noom4w) 27/6/2555 13:34:12 [203.154.225.41]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ก็ผมละครับที่จำใจต้องซื้อ 2.7 4door ตัว E
เพราะเจ้าของรถเค้าบอกว่า ต้องเป็นรถใหม่ ต้องเป็น 4 ประตู และต้องเป็นเครื่องเบนซิน
มันก็เลยต้องซื้อตัวนี้ ทั้งที่อยากได้ขับ 4 ใจจะขาด

แสดงความคิดเห็นย่อย