WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


@ ทดลองขับ Pajero Sport V6 3.0L : แรงสุดและกินสุดในตลาด SUV/PPV @
northu
จาก V27
IP:203.150.235.242

จันทร์ที่ , 27/8/2555
เวลา : 16:47

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ********** สรุป **********
ถ้าอยากได้ครบทั้งหรู และแรง แถมคิดเอาไปติดก๊าซด้วย ก็ต้องคันนี้แหละ!

ตาเอก Backseat Driver เพิ่งเล่าให้ผมฟังว่า ตัวเลขยอดขายรถยนต์ประเภท SUV / PPV ในบ้านเราตอนนี้
บ่งชี้ว่าแนวโน้มความต้องการ SUV/PPV ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แต่ตกแต่งในระดับที่ ต้องหรูหราไม่แพ้
รุ่นท็อป กำลังเพิ่มความนิยมขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งโดยเฉพาะ ถ้าเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน จะมีกลุ่มลูกค้ากลุ่มหนึ่ง ให้ความสนใจเป็นพิเศษ คนกลุ่มนี้
ตั้งใจแล้วว่า ซื้อรถปุ๊บ จะนำไปติดตั้งระบบก๊าซ ไม่ว่าจะเป็น LPG หรือ CNG โดยไม่สนใจว่า เข้าข่าย
เป็นการดัดแปลงเครื่องยนต์ และทำให้หมดอายุการรับประกันในส่วนของระบบส่งกำลังและเครื่องยนต์
ทั้งหมดได้

แต่พวกเขา ไม่แคร์ จะเพราะไม่รู้ ไม่สนใจ หรือเหตุผลใดก็ตาม ลูกค้าที่คาดว่าจะนำรถไปติดตั้งระบบก๊าซ
ทั้งหลายนั้น มีแนวโน้มว่าจะเป็นคนที่ใช้งานรถค่อนข้างหนัก ระยะทางในแต่ละวันเยอะอยู่ อัตราเร่งที่
ต้องกระฉับกระเฉง เป็นเรื่องที่ลูกค้ากลุ่มนี้ ยังคาดหวังแอบซ่อนไว้อยู่เบื้องลึก โดยใช้ความประหยัดน้ำมัน
ฉาบเคลือบความต้องการด้านอัตราเร่งของตนเองเอาไว้

ทางเลือกในตลาด เพื่อลูกค้ากลุ่มนี้ ที่ผ่านมา มีไม่มากนัก และไม่ใช่ทางเลือกที่โดนใจพวกเขาเท่าไหร่

แม้ว่า Toyota Fortuner เพิ่งจะมีรุ่นเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ 171 แรงม้า (PS) พร้อมเกียร์อัตโนมัติใหม่
5 จังหวะ เหมือนชาวบ้านเขาสักที รวมทั้งการมาถึงของ Chevrolet Trailblazer ก็ยิ่งทำให้ตลาดกลุ่มนี้
มีสีสันน่าติดตามมากยิ่งขึ้น เพราะ ลำพัง Isuzu MU-7 และ Ford Everest ไม่อาจจะท้าชิงกับคู่แข่งหลัก
ทั้ง Fortuner กับ Pajero Sport ได้อย่างที่ควรจะเป็น เพราะขาดความสดใหม่ และความน่าตื่นตาตื่นใจ
ที่จะดึงลูกค้าให้เดินเข้าโชว์รูม

แต่ในเมื่อ Fortuner 2.7 ลิตร เบนซิน ทำอัตราเร่งออกมาได้ ไม่ดีเลย อีกทั้ง Isuzu ก็ไม่คิดจะทำ MU-7
รุ่นเครื่องยนต์ เบนซิน ทั้งรุ่นปัจจุบัน และรุ่นใหม่ที่จะต้องมีกำหนดคลอดในช่วงปี 2013 - 2014 ก็จะ
ไม่มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือก ขณะที่ Ford Everest เอง แม้จะมีเครื่องยนต์เบนซิน แต่ก็ยังอยู่ใน
อาการ ลูกผีลูกคน ว่าจะติดตั้งมาให้ด้วยหรือไม่ ส่วน Trailblazer เอง ก็ยังไม่มีรุ่น 2.8 ลิตร LTZ1 2WD
ซึ่งเป็นรุ่นย่อยที่เชื่อว่าน่าจะตอบโจทย์หลายๆครอบครัว ซึ่งไม่ต้องการระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้ดีกว่า
พวกเขายังไม่ทำออกมาขาย รอกันอีกนานแค่ไหนก็ยังไม่รู้ ต่อให้เป็นคนของ GM ก็ไม่อาจล่วงรู้

ดังนั้น การเปิดตัว Pajero Sport รุ่น เบนซิน V6 3.0 ลิตร ในครั้งนี้ ต้องให้เครดิตกับ Mitsubishi Motors
Thailand ว่าปรับตัวต่อความต้องการของลูกค้าในตลาด ได้เร็วขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เพราะ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ติดรถ หรือสมรรถนะจากเครื่องยนต์ จะถูกใจบรรดาพ่อบ้านรุ่นใหญ่ ที่มอง
รถยนต์ตรวจการยกสูงคันใหญ่ ไว้ไปเที่ยวทางไกล แต่ไม่ได้ลุยเข้าไปในป่าในทุ่งมากนัก ขับบนถนน
ทางหลวงทางเรียบไปเรื่อยๆ เจอรถช้าวิ่งขวา ก็เหยียบครึ่งคันเร่ง แซงปรู๊ดทิ้งหายไปไม่เห็นฝุ่น

อย่างไรก็ตาม อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง คือสิ่งที่ทำให้ความน่าสนใจ หดหายไปทันที ถ้าคิดจะใช้รถคันนี้
ในแบบเดิมๆ ไม่ติดตั้งระบบเชื้อเพลิงทางเลือกใดๆ เพราะอัตราสิ้นเปลืองนั้น มันไม่ได้แตกต่างไปจาก
บรรดา SUV รุ่นใหญ่ๆ ตลอดช่วง 10 กว่าปี มานี้เลย และมันเป็นสิ่งหนึงที่ทำให้คุณงามความดีของรถ
ที่กำลังเปล่งแสงเจิศจรัส ต้องมัวหมองลงไปพอสมควร

ที่มา ::: http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=4261:%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A-Mitsubishi-Pajero-Sport-V6-3-0-%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3-219-PS-%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2&catid=75:midsize-suv&Itemid=94







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       คำถามก็คือ...แล้วคุณควรจะเลือกทางไหนดี?

เชื่อว่าหลายๆคนที่กำลังจับจ้อง Pajero Sport ไว้ แม้ว่าส่วนใหญ่จะมองรุ่น 2.5 Diesel VG Turbo เป็นหลัก
แต่ก็มีลูกค้าบางกลุ่ม ที่อยากได้เครื่องยนต์ เบนซิน เผื่อเอาไว้ว่าสักวันหนึ่ง จะนำไปติดตั้งระบบก๊าซ ทั้ง
แบบ LPG หรือ CNG ก็ตาม

ถึงจุดนี้ มันขึ้นอยู่กับคุณผู้อ่านแล้วละครับว่า อยากใช้รถในรูปแบบใด

ถ้ามั่นใจว่า จะใช้ระบบก๊าซ ยอมรับได้ในกรณีที่การรับประกันคุณภาพในส่วนระบบส่งกำลังและเครื่องยนต์
จะต้องหมดลงทันที ที่คุณไปติดตั้งระบบก๊าซ (ส่วนอื่นๆที่เหลือ จะยังมีการรับประกันอยู่ และน่าจะเคลม
เปลี่ยนชิ้นส่วนได้ เช่นพวก เบรก หรือช่วงล่างด้านหน้า) อีกทั้งมั่นใจว่า ไม่แคร์เรื่องการซ่อมบำรุง กับงาน
บริการหลังการขาย เพราะฉันก็เอาเข้าอู่นอกอยู่ดี ไม่ซ่อมกับศูนย์บริการแน่ๆ ขอแค่ว่า ประหยัดค่าเชื้อเพลิง
แต่ได้อัตราเร่งทันอกทันใจ ขับไปไหนมาไหนก็ไม่ต้องกังวลค่าน้ำมัน แต่อาจต้องหมั่นขยัน ไปเช็คปรับตั้ง
วาล์วไอดีกันทุก 40,000 กิโลเมตร อันเป็นคำแนะนำมาตรฐานสำหรับรถติดตั้งระบบก๊าซ

ที่สำคัญคือ ไม่กลัวเรื่องความเสี่ยงในการใช้ก๊าซ กับรถยนต์ ซึ่งในความจริงแล้ว ก็ยังน่ากลัวอยู่ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย
เจอ อู่ติดก๊าซที่ดีๆ ก็ดีไป เจออู่ห่วยๆ ก็ซวยกันไป ไฟไหม้ระเบิดโป้งป้างขึ้นมา อู่เขาก็ไม่ค่อยจะรับผิดชอบอะไร
เว้นแต่จะติดตั้งกับ บริษัทใหญ่ๆ ประสบการณ์ดีๆ อันนี้จะพออุ่นใจได้ เพราะบางราย มีประกันภัยแถมให้

คำตอบชัดเจนเลยครับ รุ่น V6 3.0 ลิตร ใหม่ ตอบโจทย์คุณได้ชัดเจนกว่า ในราคาแค่ 1,295,000 บาท เท่านั้น!

แต่...ถ้ายังกลัวเรื่องการติดตั้งก๊าซในรถยนต์ และยังอยากได้ความแรง รวมทั้งระยะทางแล่นที่ไกลกว่า จากการ
เติมน้ำมัน 1 ถังเต็มๆ เพียงแต่อาจต้องมานั่งเลือกสถานีบริการน้ำมัน ที่ดูใหม่ และมั่นใจได้ รวมทั้งอาจต้อง
เสียโอกสในการนำรถไปติดก๊าซ เนื่องจาก การติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์ Diesel นั้น แม้จะทำได้แต่แพงมาก
กว่ารถยนต์เบนซิน และผลลัพธ์ที่ได้ ไม่คุ้มเลยกับเงินที่ต้องจ่ายออกไป.....

2.5 Diesel VG Turbo คือคำตอบที่ดีกว่าชัดเจนครับ!






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

northu จาก V27 203.150.235.242 จันทร์, 27/8/2555 เวลา : 16:50  IP : 203.150.235.242   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32123

คำตอบที่ 2
       ลองไปอ่านตัวเต็มกันได้ที่มา ::: http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=4261









 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

northu จาก V27 203.150.235.242 จันทร์, 27/8/2555 เวลา : 16:51  IP : 203.150.235.242   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32124

คำตอบที่ 3
      


สรุป รีวิวนี้ตามรายละเอียดทางเทคนิค

1. รถ Pajero V6 3.0 มีอัตราเร่งดีที่สุดในกลุ่มรถ PPV ทั้งหมด

2. ความเร็วสูงสุด TOP Speed ได้ 190 km/h ซึ่งเท่ากันกับรถ PPV คู่แข่งในค่ายเดียวกันหรือค่ายอื่น สามารถแลกมาด้วยอัตราเร่งที่ดีกว่ากลุ่มดีเซลและเบนซิน PPV ทั้งหมด แต่ในช่วงปลายตั้งแต่ 184 km/h ความเร็วไต่ระดับในเกียร์ at 5 speed เริ่มอืดและไต่ระดับอย่างช้า ๆ

3. ความเร็วรอบเทียบกับเบนซินด้วยกัน 2.7 4x4 เกียร์ AT 4 speed 100 km/h ความเร็วรอบอยู่ที่ 2250 rpm
ถ้าเป็น Pajero Sport เกียร์ AT 5 speed อยู่ที่ 2100 rpm ซึ่งจะต่ำกว่า 2.7 AT อยู่เล็กน้อย
แต่ถ้าเป็น 2.7 เกียร์ธรรมดาอยู่ที่ 2500 -2800 rpm เพราะการทดรอบไม่สัมพันธ์เท่ากับเกียร์ออโต เกียร์ธรรมดาในรถ 2.7 จะเป็นรองเกียร์ออโต ตามที่ที่ได้มีการทดสอบกัน

4. อัตราการกินน้ำมัน เบนซินด้วยกัน 2.7 4x4 เกียร์ AT 4 speed จะอยู่ที่ 9.07 km/l
อัตราการกินน้ำมัน Pajero sport V6 3.0 อยุ่ที่ 9.75 km/l ซึ่งจะประหยัดกว่าการใช้ เครื่องเบนซิน 2.7 เล็กน้อยตามประสาเครื่องยนต์ใหญ่กว่ากินน้ำมันน้อยกว่าเพราะแบกน้ำหนักน้อยกว่า
ไม่ใช่เหมือนที่คนไทยเข้าใจผิดว่าเครื่องเล็กกว่าประหยัดกว่าพากันไปเลือกเครื่องเบนซิน 2.4 หรือไปเลือก Pajero 2.5VG Turbo เลยกินน้ำมันกันแบบน่าผิดหวังถ้าเป็นดีเซล 2.5 ไม่มี VG เทอร์โบการกินน้ำมันของทั้ง Fortuner Pajero จะได้อยู่ที่ 11-12 km/l (แต่จะแลกมาด้วยอัตราเร่งที่ห่างชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ )




สรุปก็คือรถรุ่นนี้ทำออกมาอัตราเร่งดีและสมรรถนะดีที่สุดในกลุ่ม PPV อัตราการกินน้ำมันถือว่าประหยัดค่อนข้างมาก รถเกือบ 2 ตันเครื่อง V6 3.0 กินน้ำมันเกือบ 10 km/l หาไม่ได้ง่าย ๆ ในตลาด เพียงแต่ว่าที่นี่คือประเทศไทยที่คนบริโภคเข้าใจผิดคิดว่าต้องเลือกเครื่องดีเซลเพราะว่า ราคาน้ำมันดีเซลในวันนี้ 27/ 8/ 2555 ดีเซล 29.99 บาท ต่อลิตร เบนซิน 91 ลิตรล่ะ 43.55 บาท ต่อลิตร ห่างกัน 13.55 บาท/ ลิตร การเลือกรถ SUV เบนซินมาใช้งานจึงไม่มีใครเขาทำกัน แต่ถ้าเป็นในต่างประเทศราคาน้ำมันดีเซลจะแพงกว่าเบนซินหรือเท่ากันกับเบนซิน การเลือกรถ ระหว่างดีเซลกับเบนซินแน่นอนว่าในทั่วโลกไม่มีใครเขาเลือกเครื่องดีเซล 2.5 หรือ 3.0 มาใช้งานแน่นอน เพราะเบนซินให้สมรรถะนะที่มากกว่า ความสิ้นเปลือง เบนซินเปลืองกว่ากันเพียงเล็กน้อย เบนซิน 9.75 km/l ดีเซลเปลืองที่ 10.23-12 km/l

ดูจากสเปกตัวนี้เป็น Pajero V6 3.0 ประหยัดกว่า Fortuner 2.7 ถ้าระบบขับเคลื่อนเป็น 4x4 เหมือนกัน รถทั้ง 2 คันอาจจะกินน้ำมันเท่ากัน
แต่การกินน้ำมันเท่ากันก็จะถิอว่า Pajero V63.0 กินน้ำมันน้อยกว่าอยุ่ดี เพราะเครื่องยนต์ใหญ่กว่า คือ 3000 ซีซี
ถ้ารถ 2 คันนี้คือ Fortuner VS Pajero นำไปติดแก๊สทั้งคู่ จะได้อัตราสิ้นเปลืองเท่ากัน ตามสมการเรื่องแก๊สในค่าพลังงานความร้อน แต่ Pajero ต้องวิ่งดีกว่าถ้าถูกฉโลกกับแก๊ส

ส่วนการเลือกรถนั้นผมยังยืนยันคำเดิม Pajero sport รถระดับนี้ราคา 1.3 ล้านบาท เครื่อง V 3.0 อ๊อพชั่นหรูหรา
แต่ใส่ระบบมาเป็นขับเคลื่อน 2wd 2 ล้อหลัง แบบปิคอัพต่อหลังคาเป็นแวน ดูยังไงก็ไม่มีวันเข้ากันไปได้ ถึงแม้คนขับรถระดับนี้จะไม่ได้เอารถเข้าป่าเข้าพงอย่างที่เขาว่าก็ตาม เกียร์ 4wd ที่หายไปก็ลดทอนสมรรถนะในการใช้งานทั่วไปให้ลดลงไปด้วย เพราะนี่คือการซื้อรถ SUV ไม่ใช่การซื้อกระบะต่อหลังคา




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 27/8/2555 เวลา : 18:58  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32126

คำตอบที่ 4
       เสียอย่างเดียว
ไม่มีรุ่น 4x4 มาให้เป็นตัวเลือก



เฮ้อ...จบข่าว น่าเสียดายอย่างมาก หรือว่า มันจะตามมาทีหลังหรือเปล่าครับ
จาก : jumper-x(jumper-x) 28/8/2555 3:44:05 [49.48.175.226]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

taka_vvti จาก TaKa_vvti 110.168.59.242 อังคาร, 28/8/2555 เวลา : 00:04  IP : 110.168.59.242   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32127

คำตอบที่ 5
       โอกาสจะตามมาทีหลังเป็นไปได้สูงมาก เพราะ Pajero V6 3.0 ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ในต่างประเทศไม่มี ในต่างประเทศจะมีเฉพาะรุ่น 4wd และใช้ชุดเกียร์ Pajero GDI อยุ่แล้ว อีกทั้ง Mitsu Thailand ตอนนี้ก็เอาใจลูกค้าสุดสุดด้วยการออกรถรุ่นใดก็ได้ที่มีความต้องการภายในประเทศสูงตามใจลูกค้าคนไทยเป็นหลัก ถ้าลูกค้าคนไทยถามหาตัวเต็ม ๆ เนื่องจาก Pajero V6 3.0 2WD ผลตอบรับยังไม่ดีเท่าที่ควร อีกทั้งคนไทยเองก็กลัวเรื่องการกินน้ำมันเป็นหลักแบบไม่มีความเข้าใจ ผลการทดสอบของคุณ jimmy ในบทความนี้น่าจะทำให้หายข้องใจกันไปได้ถ้าลูกค้าคนไทยไม่ตกตัวเลข Pajero V6 3.0 จะประหยัดน้ำมันมากกว่า Fortuner 2.7 เพราะเครื่องใหญ่กว่า และการกินน้ำมันใกล้เคียงกันกับรุ่น 2.5 VG Turbo 2wd 4wd ซึ่งต่างก็กินน้ำมันที่ 10.2-10.6 km/l เช่นเดียวกันแต่ V6 3.0 ให้อัตราเร่งที่สนุกกว่าตามสไตล์เครื่องเบนซิน

และถ้านำไปติดแก๊ส ความประหยัดของ Pajero V6 3000 จะได้อัตราสิ้นเปลืองเท่ากันกับฟอร์จูเนอร์ 2.7 แต่ได้เครื่องที่แรงกว่าโดยความประหยัดจะอยู่ที่ กิโลเมตรล่ะ 2 บาทยามวิ่งในเมือง และกิโลเมตรล่ะ 1.7 -1.8 บาทยามวิ่งนอกเมือง ถึงแม้จะใส่ระบบ 4wd มาใช้กับ Pajero V6 3.0 แต่การกินแก๊สจะออกมาเท่ากันเลย ตามสมการของการใช้งาน 4wd ยามวิ่งทางไกลจะดีกว่าและปะหยัดกว่าตอนใช้กำลังขึ้นเขา ซึ่งจะประหยัดต่างจากเครื่องดีเซล 2.5 VG Turbo ที่เฉลี่ย 10.5 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ กิโลเมตรล่ะ 2.8- 3.0 บาท ต่อกิโลเมตร ต่างกัน 1 บาทต่อกิโลเมตรอย่างแน่นอนอีกทั้งการใช้ดีเซลต้องรับความเสี่ยงน้ำมันขึ้นราคาอีก 2-3 บาทในอนาคต อย่างที่รู้กันว่าตอนนี้รัฐบาลใจดีไม่เก็บภาษีน้ำมันดีเซล แต่คงทนได้อีกไม่นานในขณะที่แก๊สก็จะขึ้นราคาไปแต่ก็แค่ 2-3 บาทเช่นกัน




จุดอ่อนของ Pajero V6 3000 จะมีแค่ 2 เรื่อง

1. อะไหล่เครื่องยนต์ V6 3000 ของ Mitsu จัดว่าแพง งานนี้คงตอบไม่ได้ว่าเครื่องเบนซินจะซ่อมบำรุงถูกกว่าดีเซล ไม่เหมือนที่เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ที่มีการซ่อมบำรุงถูกกว่าเครื่องดีเซลคอมมอนเรลชัดเจน เพราะแต่ไหนแต่ไรเครื่อง V6 ไม่ว่ารุ่นใดของ Mitsu จัดว่าเป็นการวางตลาดลูกค้าไว้อีกกลุ่มแม้จะลงในปิคอัพ Triton V6 3.5 หรือ Pajero V6 3.5 ตัวส่งออก ก็ตามทีค่า Maintenance ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง เหมาะกับลูกค้าที่เป็นกลุ่ม luxury อยู่แล้ว

2. รถระดับนี้แรงม้าเกิน 216 แรงม้าแต่ใช้แค่ระบบขับ 2 ล้อหลังเหมือนปิคอัพส่งของ 2wd ไม่มีระบบอื่นช่วยเลย
บริษัทรถยนต์ทุกบริษัทต่างได้บทเรียนมาก่อนทั้งนั้นจากลูกค้าคนไทยและบนถนนเมืองไทย ที่ซื้อรถยกสูงแต่ขับแค่ 2 ล้อหลัง มันไปกันไม่ได้ต้องมีการแก้ไขสเปกกันใหม่
ทุกค่ายต่างแก้ไขจุดนี้ด้วยการลดทอนสมรรถะนะของรถลงไป อย่างเช่น Hilux Vigo ทำมาก่อนด้วยการลดแรงบิดของรถ Vigo 3.0 prerunner และ Vigo 2.7 minor ลงไปทั้งหมด ทำให้รถเหล่านี้ลดความแรงลงไปแต่ความเร็วปลายเท่าเดิมให้คงเท่าเดิม
Ford Mazda ต่างก็ทำแบบนี้เช่นเดียวกัน แต่ได้เพิ่มการใส่เฟืองท้าย Limited slip เสริมความปลอดภัยอีกชั้นนึงสำหรับคนเลือกรถยกสูงแต่เอาแค่ขับ 2 ล้อหลัง 2wd
Pajero V6 3.0 2wd ก็ทำเช่นเดียวกันดังจะเห็นว่าคุณ jimmy ทดสอบออกมาก็จะพบว่ารถนั้นคิกดาวน์ลงไปช้าประมาณ 1.5 วินาทีเพราะกล่อง ECU ของเกียร์หน่วงเวลาไว้ให้สมองกลหยุดคิดนิดนึง เพื่อไม่ให้อัตราเร่งกระโชกโฮกฮากเกินไปนัก เนื่องจากรถมีแค่ 2wd ล้อหลัง เพื่อป้องกันการดิ้นที่ล้อหลังจนคุมรถไม่อยู่ รวมถึงอัตราทดเกียร์เฟืองท้ายที่ปรับใหม่สำหรับรถกระเทยทั้งหลายที่ ยกสูงแต่เป็น 2wd เป็นสูตรสำเร็จของ TOYOTA MITSU ในการทอนสมรรถนะรถ 2wd ลงไปไม่ให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ

เพราะฉะนั้นรถ Pajero v6 3.0 อยากได้สมรรถนะเต็ม ๆ อย่างรุ่นส่งออกในต่างประเทศ คงต้องรอ Pajero V6 3.0 ขับ 4wd part time นั่นแหละครับถึงจะได้ในสิ่งที่สูงสุด สมราคาที่จ่ายออกไป ไม่จ่ายเงินเพื่อเอารถแบบนี้
การกินแก๊สถ้านำไปติดแก๊สแล้วจะได้อัตรากการกินแก๊สเท่ากันระหว่างรุ่น 2wd 4wd เพราะรถใหญ่ขนาดนี้ เครื่องใหญ่ขนาดนี้เป็นเครื่องเบนซิน เอาไปติดแก๊สด้วยค่าพลังงานความร้อนของแก๊สที่ลดลง จะได้ความประหยัด ระหว่าง 2wd 4wd เท่ากันครับคือ 7 km/l เท่าเดิมไม่ต่างกันแต่การขับด้วย 4wd จะหนักแน่นกว่ากระชับได้เต็มกว่ารวมถึงอัตราทดเกียร์ที่เพิ่มขึ้นในรุ่น 4wd จะใช้งานหนักได้ดีกว่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 27.55.6.202 อังคาร, 28/8/2555 เวลา : 08:13  IP : 27.55.6.202   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32128

คำตอบที่ 6
       ตอนนี้ก็จะมี Chevrolet Trabilizer ที่เครื่อง 2.8 เป็นต้นไปยังไม่มีการทำรถ 2wd ออกมา แต่ก็ไม่แน่ถ้าตลาดหอมหวานมากเรียกร้องกันมาก Chev อาจจะทนไม่ไหวกับเรื่องนี้ต้องเอารถยกสูง 2wd ออกมาก็เป็นได้
แต่มันก็ผิดหลักการของ GM พอสมควร เพราะลูกค้าหลัก GM เน้นเรื่องความปลอดภัย และรถขับได้หนักแน่นตามสไตล์รถยุโรป
ถ้าไปออกรถ Chevrolet Trabilizer 2WD ล้อหลังอย่างเดียว แล้วรถขับไปดิ้นไป เข้าโค้งซอกแซก รถเหินหาวลงข้างถนนแบบ Vigo prerunner ลูกค้าเก่าด่าตรึม พลอยจะทำให้ GM งานเข้าเสียชื่อตามไปด้วย ถ้าจะทำจริงคงเซทช่วงล่างกันใหม่อีกระยะนึงเพื่อดูว่ารองรับความปลอดภัยได้จริงหรือเปล่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 27.55.6.202 อังคาร, 28/8/2555 เวลา : 08:23  IP : 27.55.6.202   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32129

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันเสาร์,20 เมษายน 2567 (Online 4850 คน)