จาก Auto IP:61.90.149.126
อังคารที่ , 26/8/2551
เวลา : 17:53
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
การนำรถไปลากพ่วงของหนักหรือลากจูง
อดีตเจ้าหน้าที่อบรมโตโยต้าสุวินทวงศ์
กับเกียร์ ออโต้ แล้วต้องมีการลากจูง หนัก เข้าไร่น่า ซึ่งเป็นทางที่ขรุขระ และใช้แรงดึงเป็นระยะๆ แบบกระตุกอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้วิ่งเรียบบนถนนลาดยาง ผมเป็นห่วงความแข็งแรงของเกียร์ออโต้ ครับ
เนื่องจาก ภายในเกียร์ออโต้ ฟันเฟืองภายใน จะไม่เหมือนกับ เกียร์ธรรมดา ความแข็งแรงของเฟืองจะไม่เท่ากัน เฟืองเกียร์ธรรดาใช้ เฟืองเกียร์แบบเฉียงเป็นเฟืองตัวใหญ่ แต่ เฟืองเกียร์ออโต้ ใช้เฟืองเกียร์แบบ มีเฟืองเกียร์แบบ เหมือนของสว่านแบบ โรตารี่ พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นเฟืองแบบโรตารี่ นั่นเอง ผมว่า เฟืองแบบนี้ การจับกลุ่มของเฟืองจะไม่ได้จับกันโดยตรง และ จับผ่าน โครงเกียร์อีกชั้นหนึ่ง ถ้าหากใช้งานหนักมากๆ มีโอกาส รูดได้ง่าย กว่าเกียร์ธรรดา
และอีกอย่างชุดคลัทซ์ ของเกียร์ออโต้ เป็นคลัท แบบเปียก หลายแผ่น วางซ้อนกัน หนักโหลดมากๆ แผ่นคลัท พวกนี้ ก็มีโอกาส เลื่อนไถลได้ ซึ่ง ถ้าลื่น ไถล มีโอกาส สึกหรอสูงอีก
ช่างอบรมประจำดีเลอร์ Isuzu
การนำไปลากจูงของหนัก ๆ แบบนั้นในเกียร์ออโตไม่ควรทำ เพราะการกระตุกของเกียร์ออโตจะส่งผลบั่นทอนอายุเกียร์ให้สั้นลง
ถ้ามีความจำเป็นต้องลากจูง ควรใช้ความเร็วต่ำและความเร็วคงที่ไม่ให้รถเกิดอาการกระตุกหรือกระชากของเกียร์ ไม่เช่นนั้นเกียร์จะเสียหาย
การใช้เกียรืให้ปรับลงมาที่ D3 or D2 และควรหลีกเลี่ยงการลากในทางขรุขระให้มีการตุกหรือกระแทกเพื่อหลีกเลี่ยงการกระชาก ไม่ควรลากจูงเป็นระยะทางไกล ๆ
อู่รับซ่อมเกียร์ออโต
การใช้เกียร์ออโตสำหรับลากจูงแบบนี้จะทำให้อายุเกียร์สั้นลง เพราะเกียร์ออโตเฟืองเกียร์ไม่แข็งแรงเท่าเกียร์ธรรมดาที่สามารถรับแรงฉุดกระชากได้ดีกว่า ภายในเกียร์ออโตประกอบด้วยชุดคลัทซ์หลายแผ่นอาจทำให้สึกหรอเร็วกกว่าปกติ จากการเสียดสี การลากจูงสามารถทำได้แต่ไม่ควรใช้บ่อยเกินไปนักเพราะมีผลกับการสึกหรอของเกียร์และควรรักษาระดับความเร็วให้คงที่และไม่ใช้ความเร็วสูงในการลากการใช้เกียร์ให้ใช้ D
ขอบคุณทุกท่านมาในที่นี้ครับที่ให้ความกระจ่างมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการใช้งานเกียร์ออโตในการลากจูง
|