คำตอบที่ 1
       1. การเอามาบรรทุกหนัก เกินพิกัดต้องทำอย่างที่ผู้อื่นทำคือเสริมช่วงล่างใหม่ เพื่อรองรับกับน้ำหนักที่เกินจากสเปกเดิม
เพลาเดิมคงไม่ไหวครับ ลูกปืนล้อจะแตกก่อน

2. หาติดแก๊สข้างนอกก็ได้ ราคา 30,000 ไม่น่าเกินนี้ครับ ศูนย์คิดราคา 52,000 บาท เขาก็จ้างข้างนอกติดตั้งเหมือนกันแล้วเอาส่วนต่างกำไรอีกต่อนึง เสร็จแล้วก็บอกคุณว่ารับประกัน ถึงเวลามีปัญหาก็ส่งต่อให้อู่ติดแก๊สจัดการให้อยู่ดี
ปัจจุบันการติดแก๊สก้าวหน้าไปมาก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดออกมาติดข้างนอกเองก็ได้ หาอู่ดีหน่อยก็พอ

3.ประหยัดกว่าเดิมกิโลล่ะ 1 บาท โดยประมาณ ลองตีราคาที่กินแก๊สประมาณ 5-6 กิโลเมตร / ลิตร แล้วคิดราคาแก๊สต่อลิตรดูครับ ว่าจะมีค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรเท่าไหร่
รถคุณกินน้ำมัน 14 km/l เป็นเรทที่น่าอิจฉามาก ๆ เพราะ 2.5 ดีเซลคอมมอนเรลของ วีโก้หรือนาวารา กินน้ำมันแค่ 12 km/l โดยประมาณเท่านั้น เปลืองว่ารถรุ่นเก่าของคุณซะอีก คุณพูดแบบนี้ทำให้คนอยากหันมาหา TOYOTA Mighty X เลยนะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ

ขอถามเพิ่มเติมอีกหน่อยครับ ไม่ทราบว่าวีโก้ตัวที่ผมอ้างถึง ที่ศูนย์โตโยต้าที่ผมสอบถาม เค้ามีแถมแค่ประกันชั้นหนึ่ง ไม่ทราบว่าออฟชั่นแบบนี้เหมือนกันหมดทั่วประเทศไหมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ของแถมน่าจะได้ของแถมพื้นฐานเพิ่ม เช่นกรอบทะเบียน ผ้ายาง เป้นต้น แต่ละที่ให้ไม่เหมือนกันครับ แล้วแต่ศูนย์ไหนจะโปรฯตัวไหน +กับเซลส์ใจถึงมากเท่าไหนครับ
แต่ต้องรับว่าตัวพื้นฐานนี้ของแถมน้อยจริงๆครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       รถตอนนี้ได้อานิสงค์ของภาษีรถยนต์คันแรกทำให้รถยนต์แบบพื้นฐานและรถตลาดขายดีมาก ทุกค่ายค้างส่งมอบรถกันจำนวนมาก
โดยเฉพาะค่ายที่ขายดีอยู่แล้วอย่างเช่น ISUZU All new ค้างส่งมอบกว่า 200,000 คัน เรียกว่ารอกันยาวปีหน้าจึงได้รถ
Toyota ปิดการรับจองวีออสไปแล้วเนื่องจากไม่มีกำหนดการรับรถที่แน่นอน เพราะค้างส่งจำนวนมาก
Ford New ranger มีปัยหาค้างส่งมอบจำนวนมาก เนื่องจากรถรุ่นนี้ในตลาดต่างประเทศ Ranger 4x4 ขายดี แต่ในไทยจะเป็น รุ่นขับ 2 ยกสูง ทำให้คนจอง 4wd ไม่ได้รถเลย
ค่ายอื่น ๆ ก้ฌป็นปัญหาเช่นเดียวกัน

สถานการ์ณเป็นแบบนี้ทำให้ เซลตอนนี้ไม่มีรถจะส่งลูกค้ารอเวลาลูกค้ามาถอนจอง โปรโมชั่นก็แทบไม่ต้องหวังเลยเพราะมีแต่กระดาษใบเดียวให้เห็นแต่จะได้รถเมื่อไหร่ไม่ทราบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ผมเคยถามเมื่อเดือนที่แล้วแถวลำลูกกาก็ได้ประกันชั้น1เหมือนกันแต่เสียค่าพรบ.เอง ของแถมอื่นๆก็ทั่วๆไป ฟิล์ม
กรอบป้าย ฯลฯ คิดว่าคงแถมเหมือนๆกันทั่วประเทศ โทรเช็คดูจากจังหวัดใกล้เคียงก็ได้ แต่ซื้อกทม.อาจจะได้ของแถมมากกว่า ตจว.บางทีมีบวกค่าขนส่งด้วย ลองเช็คดูดีๆครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ขอบคุณทุกๆความคิดเห็นครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       จาก จ้าวสำราญฟาร์มตรัง


ยังค้างคาใจ สรุปแบบไหนดี จะไปจองแล้วพี่น้องครับ
ตามหัวข้อครับ ศึกษาข้อมูลในเว็ปต่างๆ ทำให้ผมสรุปได้ดังนี้

1.เครื่องเบนซิลของวีโก้ 2700 เอาไปติดแก๊ส สามารถบรรทุกหนักได้ ซึ่งบางท่านแนะนำให้ไปเล่นดีเซล เพราะว่าถ้าเกิดบรรทุกหนักๆ เครื่องจะทนกว่า อึดกว่า อย่างโน้นอย่างนี่ แต่สำหรับผมหลงรักเจ้าเบนซิน 2700 ตัวนี้เข้าแล้ว วันอังคารนี้ว่าจะไปจอง ได้รถจะมาติดแก๊สข้างนอก เพราะราคาต่างกันเยอะ กับให้บริษัทติดให้ กะว่าจะติด lpg ครับ ปั๊มหาง่าย

แต่ปัญหามีอยู่ว่า ดูจากรีวิวต่างๆ คำแนะนำต่างๆ ในหลายๆเว็ป มีข้อข้องใจอยู่อย่างเดียวแล้วสำหรับตอนนี้ จึงอยากรบกวนท่านๆช่วยชี้แนวทางให้ด้วยเถิดครับ

ปัญหาคือ รถเบนซิลเมื่อเอามาบรรทุกหนัก สรุปว่ากินแก๊สพอๆกับเครื่องดีเซลใช่หรือไม่ ถ้าเกิดประหยักกว่า จะประหยัดประมาณกี่เปอร์เซ็น กะมีเอามาแบกน้ำหนักประมาณ 3 ตัน เปลี่ยนเป็นเพลาลอย ระบบช่วงล่างทำอย่างดี และถ้าเกิดมีค่าใช้จ่ายพอๆกัน ให้เลือกตัวไหนดี ระหว่างดีเซล กับเบนซิน ไม่ว่าจะตัวไหน ก็ตัดสินใจเอาวีโก้ครับ รบกวนหน่อยครับ ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ตอนนี้เชื่อว่าคุณคงจะลังเลใจ ไม่แน่ใจข้อมูลรวมถึงไม่เคยใช้ 2.7 มาก่อนและไม่เคยขับปิคอัพเบนซินแบบนี้มาก่อน
บางทีไปฟังคนอื่นมาและคนที่ฟังมาไม่มีข้อมูลเลย อาศัยเขาเล่ามาแค่นั้นเอง ยิ่งพากันงงไปใหญ่จะตัดสินใจไม่ถูก
ผมบอกข้อมูลให้ดังนี้ก่อน เพราะคงต้องตอบยาวอีกแล้ว
รถ Hilux Vigo ที่ขายมีทั้งหมด 5 รุ่นดังนี้

1. 2000 ซีซี 1TR-FE เบนซิน ส่วนใหญ่ขายในแอฟริกาใต้ คิวบา เม๊กซิโก
2. 2700 ซ๊ซี 2TR-FE เบนซิน ขายทั่วโลกตลาดหลักอยู่ที่ตะวันออกกลาง ทวีปออสเตรเลีย โซนเอเชีย ยุโรปและสหราชอาณาจักรมีเล็กน้อย
3. V6 4.0 ลิตร 4000 ซีซี 1GR-FE เบนซิน ตะวันออกกลาง ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกา
_______ รุ่นย่อย V6 4.0 Supercharger 350 แรงม้า ทวีปออสเตรเลีย
4. 2.5 ดีเซลคอมมอนเรล ขายน้อยมากมีเป็นหย่อม ๆ ตลาดหลักคือในประเทศไทย ย่านอาเซียนบางประเทศ
5. 3.0 ดีเซล คอมมอนเรล ขายน้อยมากเหมือนกัน ตลาดหลักอยู่ในไทย และส่วนน้อยส่งไปยุโรปแต่เป็นอีกเวอร์ชั่นนึง
_______-รุ่นย่อยของ 3.0 ดีเซล เวอร์ชั่น 200 แรงม้าโดยประมาณ ส่งขายในยุโรป รองรับยูโร 5 ต้องใช้น้ำมันดีเซลเฉพาะ ตลาดส่วนนี้จะน้อยปีนึงหลักหมื่นคัน



คำตอบ ตอนนี้ผมยังไม่ได้บอกว่าอะไรดีกว่าใคร แต่ให้ดูรถในแต่ละรุ่นที่ผลิตออกมาก่อน ถ้า................ บอกว่าดีเซลดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ ทำไมไม่ให้ TOYOTA เลิกผลิตปิคอัพเครื่องเบนซินขายไปซะเลยล่ะครับ แล้วให้ขายแต่ปิคอัพดีเซลอย่างเดียวไปเลย


ทีนี้เริ่มเห็นฉุกคิดอะไรบางอย่างหรือยังครับ ....... ตอนนี้ผมยังไม่ได้บอกน่ะว่าอะไรดีกว่าอะไร
รถที่เขาผลิตออกมา ไม่ว่าจะเป็นเบนซิน หรือดีเซล เขามั่นใจแล้วว่ามันสามารถใช้งานได้ในภูมิภาคนั้น ๆ หรือประเทศนั้น ๆ ได้อย่างเหมาะสม กำลังเครื่องยนต์เพียงพอกับการใช้งานและสอดคล้องกับการใช้งานของลูกค้าในประเทศนั้น ๆ
แต่ว่าในแต่ละภูมิภาคมีความต้องการในการใช้รุ่นของเครื่องยนต์แตกต่างกันไป ถ้าในโซนอื่น ๆ เขาจะนิยมเป็นปิคอัพเครื่องยนต์เบนซินและส่วนใหญ่จะไม่ติดแก๊ส ถึงแม้ในหลาย ๆ ประเทศราคาน้ำมันจะแพงแต่เขาก็ไม่ได้ติดแก๊ส เพราะฉะนั้นปิคอัพเบนซินยังไม่เกียวกับหัวข้อการติดแก๊ส
แต่ที่จะพูดถึงคือส่วนใหญ่จะเป็นปิคอัพเบนซินแบ่งตามรุ่นเครื่องยนต์และขนาดตามการใช้งาน ถ้าเป็นโซนยุโรปเวลาเอารถเข้าไปขายส่วนใหย่ต้องมีทั้งเวอร์ชั่นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและรุ่นดีเซลให้ลูกค้าเลือกด้วย เพราะทวีปยุโรปเน้นไปทางดีเซล


ทีนี้ทางบ้านเราหมายถึงในประเทศไทย บ้านเราเป็นฐานการผลิตและเพื่อการส่งออกปิคอัพขนาด 1 ตันแต่บ้านเราถูกส่งเสริมด้วยการตลาดของดีเซลมานานกว่า 20 ปีมาแล้ว อีกทั้งตอนนี้ราคาน้ำมันดีเซล 30 บาท ราคาน้ำมันเบนซิน 91 ลิตรล่ะ 43 บาท ใครซื้อรถปิคอัพเบนซินมาวิ่งโดยไม่ติดแก๊สก็ในบ้านเราก็ประหลาดล่ะ เรื่องที่บอกว่าดีเซลอย่างโน้น เบนซินอย่างนี้อย่าเพิ่งไปสนใจอะไรมากนัก เพราะพวกนี้มันคือการตลาดเท่านั้นเอง
รถมันสามารถเอามาวิ่งใช้งานตอบสนองความต้องการเราได้อย่างเพียงพอแน่นอนครับ ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นไหนมาใช้งาน
แต่มันจะตอบสนองความอยาก.......... ของคนเราไม่ได้ทั้งหมดหรอก มันต้องแยกกันไป ตามจุดประสงค์

รถที่ TOYOTA บ้านโพธิ์ผลิตเพื่อขายเป็นปิคอัพเพื่อการส่งออก ส่วนใหญ่จะเป็น 2.7 เบนซิน เป็นหลัก เครื่องยนต์ผลิตที่โรงงาน STM นิคมอมตะชลบุรี ส่วน V6 4.0 เป็นเครื่องยนต์ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น และเอามาผลิตเป็นปิคอัพ ที่โรงงานบ้านโพธิ์ ส่วนรุ่น 2.0 เบนซินบ้านเราไม่ได้ทำส่งต่างประเทศ จะเป็นที่โรงงาน TOYOTA แอฟริกาใต้
ส่วนรถปิคอัพดีเซล จะขายในตลาดไทยเป็นหลัก เครื่องยนต์ผลิตที่โรงงาน STM นิคมอมตะชลบุรี
คือเขาแบ่งสัดส่วนกันไว้แล้ว ปิคอัพเบนซิน 2.7 ส่งออกนอก ส่วนดีเซลขายในไทย ตลาดมันถูกแยกกันไว้หมดแล้ว
เพียงแต่ว่าเราได้อานิสงค์โครงการ IMV ที่ต้องขายและแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนไปทั่วโลก ทำให้ TOYOTA เอารถปิคอัพ 2.7 เบนซินส่วนนึงทำออกมาขายในบ้านเรา ทำให้คนไทยตื่นตาตื่นใจเพิ่งรับรู้โลกทรรศน์ใหม่ ๆ ในการใช้งานปิคอัพต่างจากรุ่นเดิม ๆ
เพราะฉะนั้น รถมันใช้งานได้ทุกรุ่น อย่าไปฟังคนอื่นพูดโดยไม่มีข้อมูล เพียงแต่เราจะเลือกรุ่นไหนนั้นค่อยมาว่ากันอีกที

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ผมไม่เข้าใจคำว่าอึดที่ชาวบ้านหลายคนใช้คำนี้กับปิคอัพดีเซลซักเท่าไหร่ ว่าที่อึดมันหมายความว่าอย่างไร
แต่นิยามของผมมีความหมายประมาณรูปด้านล่าง คือ Ford New ranger 3.2 4x4 4wd ที่ขุมพลังมหาศาล ทนทานอึด สู้งานหนักตะลุยไปได้ทุกที่
ซึ่งการจะมีแบบนี้ได้ เครื่องยนต์ต้องทรงพลังให้กำลังสูง มีระบบขับเคลื่อนที่ดีและเป็น 4x4 จึงจะสร้างกำลังให้ใช้งานได้เต็มที่ ทำงานสัมพันธ์กับชุดเกียร์และแชสซีย์ต้องรองรับงานหนักได้ ทนต่อโครงสร้างการบิดตัวได้ดี ทุกอย่างมันต้องประกอบไปด้วยกันจะมีแค่อย่างใดอย่างนึงไม่ได้ หรือมีไม่ครบก็ทำงานไม่ได้เต็มที่ ซึ่งกะบะขนาด 1 ตัน ยามนี้ไม่มีใครเกิน Ford New ranger 3.2 4x4 ไปได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       อึดจริง ทนจริง ใช้งานได้ดีจริง กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลกในโฉมใหม่ NEW RANGER AAT Ford ระยองส่งไปขายเป็นรุ่น 3.2 wildtrak 4x4 เป็นหลัก ในตลาดต่างประเทศ


แต่คนไทยซื้อเป็นรุ่น 4x2
แล้วคุณคิดว่ามันจะอึด ทนทาน เหมือนในโฆษณาหรือเปล่า ทุกอย่างมันต้องครบ จึงจะเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์ของคำว่าอึด
เพราะรถพอลากจูงหนัก หรือใช้งานหนัก พลังมันจะหายไปส่วนนึงกับระบบส่งกำลัง ประสิทธิภาพจะส่งออกมาไม่เต็มที่
ถ้าลากของหนักมากล้อบางทีก็จะฟรีกับที่แม้เครื่องยนต์กำลังจะเหลือ แต่กำลังก็หายไปโดยเปล่า สูญเสียพลังงานและสึกหรอมากกว่าปกติ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       รถที่ว่าอึดแบบนี้นอกจากใช้งานได้จริงแล้วยังต้องทนทานทั้งเครื่องยนต์ ชุดเกียร์ ช่วงล่าง ไปด้วย จึงน่าจะเรียกว่าอึดได้


แต่พอผมบอกว่ารถคันนี้ดี แต่ลูกค้าส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยซื้อ Ford 3.2 หลายคนยอมรับว่าเป็นรถดีจริง ชั่วโมงนี่รถปิคอัพอันดับ 1 ในด้านต่าง ๆ ต้องยกให้ Ford new ranger 3.2 AT 4x4 wildtrak แต่คนส่วนใหญ่ก็กลัวไม่กล้าซื้อ กลัวนั่นกลัวนี่ กลัวสารพัด
ถ้าผมเงินเหลือ และมีเนื้อที่ดินที่บ้านใหญ่เพียงพอที่จะจอดรถได้อีก 4-5 คันก็จะซื้อมาเพิ่มอยู่หรอก ปิคอัพที่ว่าอึดแบบนี้น่ะ
รถที่ว่าดีแบบนี้น่ะ เป็นรถดีเซลด้วยแถมทรงพลังมหาศาล 450 NM 200 แรงม้าแต่แปลกน่ะชาวบ้านกลับกลัวไม่กล้าซื้อ พอแนะนำก็ยังไม่กล้า
แถมคนไทยมาเลือก รุ่น 4x2 อีกต่างหาก Ford ไทยแลนด์เลยสบายใจไปเลย เพราะทุกวันนี้ก็ส่งออกรุ่น 4x4 ไม่พอขายอยู่แล้ว คนไทยที่จอง 4x4 ไว้เลยด่าฟอร์ดกันตรึมเพราะจองกันข้ามปี และยอด 3.2 ก็ไม่ได้เยอะจนน่ากลัวมากนัก ลูกค้าในไทยส่วนใหญ่ไปเล่น 4x2 เกียร์ MT Ford ไทยแลนด์เลยโดนด่าน้อยหน่อยกว่าที่ควรจะเป็น เซลนั่งรอเวลาลูกค้าจะมาจองกับมาถอนจองแค่นั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       จากที่ใช้ 2.7 CNG Smart cab มา 2 เดือน วิ่งไปประมาณ 10000
ไม่ลองดู 2.7 ที่ติดตั้งจากโรงงานละครับ...บรรทุกของเหลวหาแบบ
ที่ช่วงล่างแน่นๆหน่อยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       รถอีกตัวนึงที่ว่าอึดก็เป็น LN 106 และ YN 106 ที่กรมป่าไม้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต กรมชลประทาน และมูลนิธิหรือหน่วยงานราชการซื้อกันมาใช้นั่นแหละ ทนมือทนเท้าอึดจริงนักหนา เป็นตำนานของรถในเมืองไทยรุ่นนึงไปแล้ว เครื่อง 3L ดีเซล 91 แรงม้ากับเบนซิน 4Y ทนทานมากทั้ง 2 แบบ เดี๋ยวนี้ก็ยังมีใช้กันอยู่ เพราะฉะนั้นคำตอบของรถมันไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเป็นดีเซลหรือเป็นเบนซิน เพราะมันสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 อย่าง แล้วจุดประสงค์ของการกินน้ำมันก็ไม่ใช่ทุกอย่างหรือเป็นปัจจัยของการเลือกรถ ที่จำเป็นต้องเอาค่าใช้จ่ายเรืองค่าเชื้อเพลิงเป็นตัวตั้งทั้งหมด


แต่ถ้าเป็นในไทย ดีเซลลิตรล่ะ 30 บาท เบนซินลิตรล่ะ 43 บาท อย่างนี้น่าคิดครับ เพราะมันต่างกันเกินไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       Hilux 2.7 เบนซิน กับ 2.5 ดีเซล จะเลือกอะไรก็ต้องทำช่วงล่างเพลาลอยทั้งนั้น เพราะมันบรรทุกหนัก 3 ตัน ช่วงเดิมไม่ไหวครับ รถ TATA กระบะลอย ที่ไปบรรทุกหนักกัน 3 ตัน โดยไม่ทำช่วงล่าง ลูกปืนแตก เฟืองท้ายแตก ลูกปืนกากบาทพัง รถเป็นขับ 2wd ปีกนกด้านหน้าฉีก ลูกหมากพังเร็วมาก

ถ้าเลือก 2.5 ดีเซล การกินน้ำมันปกติรถเปล่าจะอยุ่ที่ 12 km/l ค่าใช้จ่ายประมาณ 2.5 บาทต่อกิโลเมตร ถ้าบรรทุกหนักจะอยุ่ที่ 3.0-3.5 บาทต่อกิโลเมตร ไม่พ้นเรทนี้ไปได้หรอกครับ
ถ้าเลือก 2.7 เบนซิน ต้องแก้ปัญหาด้วยการติดแก๊ส ค่าใช้จ่าย รถเปล่าจะอยุ่ที่ 1.7 บาท ต่อกิโลเมตร ถ้าบรรทุกหนักจะอยุ่ที่ 2.2-2.5 บาท / กิโลเมตร โดยเฉลี่ยติดแก๊ส LPG จะประหยัดกว่าใช้ดีเซลประมาณ 1 บาท / กิโลเมตร
เพราะฉะนั้นการเลือก 2.7 มาใช้งานเป็นรถเชิงพาณิชย์แบบนี้ต้องใช้กันยาว ๆ จะคุ้มค่า คือยังไงก็ประหยัดกว่าแต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับระยะทางและระยะเวลาการใช้ คือสามารถใช้กันยาวถึงคุ้มกว่าที่จะซื้อมาใช้ระยะสั้น ๆ






ส่วนความทนทานของเครื่องยนต์มันเพียงพอกับการใช้งานแน่นอน ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน
เนื่องจากเครื่อง 2.7 เป็นเครื่องสำหรับปิคอัพ ไม่ใช่เครื่องรถเก๋ง ความทนทานจะสูงกว่ามาก การออกแบบเครื่องยนตืเขาทำมาสำหรับบรรทุกอยุ่แล้ว ถ้าเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ทำออกมาแล้วบรรทุกไม่ได้หรือ ไม่ทนทาน TOYOTA THAILAND ก็คงเอาไปส่งขายเมืองนอกไม่ได้หรอกโดนด่าตรึม ในรถ Hilux 2.7 4x4 ที่ออสเตรเลียเขาเอาไปวิ่งระหว่างทวีปและก็เอาไปใช้ทำงานในเหมืองนะครับ ถ้าไม่ทนจริงก็คงอยู่ไม่ได้แล้วรถพวกนี้กว่าเขาจะปลดระวางก็ใช้งานกัน 5- 8 แสนกิโลเมตรแล้ว ในโมเดลหน้า New Hilux จะออกมาใหม่ในปี 2014 -2015 TOYOTA ก็ต้องทำเครื่องเบนซินขายไปทั่วโลกอีกอยู่ดี มันเป็นไปตามตลาดแต่ละส่วนภูมิภาค

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
      

ค่าใช้จ่ายถ้าคิดเฉพาะค่าใช้เชื้อเพลิงอย่างง่าย ๆ 2.7 ติดแก๊ส วิ่ง 5 แสนกิโลเมตร จ่ายประมาณ 850,000 บาท
แต่ถ้าเป็นดีเซล 2.5 วิ่ง 5 แสนโล จ่ายประมาณ 1.25 ล้านบาท
ระยะทางการวิ่งเท่ากันเพราะเราต้องใช้รถ แต่ด้วยระยะที่เท่ากันจะประหยัดหรือมีเงินเหลือได้เกินคุ้ม 5 แสนโลเท่ากัน ประหยัดไปอย่างน้อยก็ 5 แสนบาทอยู่ดี
มีบางคนพยายามใช้รถดีเซลคอมมอนเรล ที่ประมาณ 2 แสนกิโลเมตร แล้วปล่อยขายออกไป ที่เวลา 5 -8 ปี หลังจากนั้นก็เอาเงินไปดาวน์รถป้ายแดงมาใช้งานต่อ แต่อย่าลืมว่าระยะทางปกติที่ใช้งานก็เหมือนเดิม พอใช้ไป 2 แสนโลก็ต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงอีกเหมือนเดิมซึ่งไม่ได้ลดลง เพราะระยะทางการใช้งานเหมือนเดิม พอครบก็ปล่อยรถออกไปอีก เสียเงินค่าเชื้อเพลิงเหมือนเดิมคือแพงกว่าเบนซินติดแก๊ส และเสียเงินซื้อรถใหม่บวกดอกเบี้ยกับไฟแนนซ์บวกกับเสียค่าเสื่อมรถตลอด เพราะเปลี่ยนรถบ่อย
คนไม่กล้าใช้ยาวกลัวค่าซ่อมดีเซลหรืออาจเป็นด้วยเหตุผลอื่น ๆ คืออยากเปลี่ยน ชอบรถรุ่นใหม่กว่า รถดีเซลที่ว่ากลับไม่ค่อยกล้าใช้กันยาว เมื่อใช้งานจริงแต่ถึงจะใช้งานจริงก็เจอค่าโสหุ้ยไม่น้อยเหมือนกัน

like จาก : canoe(canoe) 12/10/2555 8:50:35 [110.77.161.52]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       อีกอย่างที่ต้องแนะนำแต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำตามที่ผมบอก

ลองไปหาเช่ารถปิคอัพวีโก้ 2.5 ดีเซลมาวิ่งซัก 1 วันเต็ม
หลังจากนั้นไปหาเช่ารถ 2.7 มาวิ่งซัก 1 วันเต็ม ๆ เปรียบเทียบ การใช้งานและค่าเชื้อเพลิง 2 คันนี้ดูครับ
หลังจากลองวิ่งดู ทั้ง 2 วันแล้ว คุณจะได้พบคำตอบที่ตรงใจคุณมากที่สุด และจะได้พิสูจน์ว่าที่ผมพูดนะจริงหรือไม่ ค่าเช่ารถปิคอัพแถวภูเก็ตก็น่าจะอยู่ในราคา 1000 บาท / วัน ดีกว่าไปเสียเงินจอง 5000 บาท ทั้งที่ยังไม่ได้ลองรถเลย


รถป้ายแดงคันนึงอยู่กับเรานาน เราใช้เวลาขับก็นานเป็นแสนกิโลเมตร แต่แปลกน่ะ หลาย ๆ คนส่วนมากให้เวลากับการไปทดลองขับรถน้อยมาก ๆ ๆๆ
ทั้งที่มันเป็นเรื่องสำคัยในชีวิต แต่กลับไปให้เวลาคิด (แต่คิดโดยขาดความรอบคอบและขาดข้อมูลอย่างเพียงพอ )

ชอบครับ ขอบคุณครับ จาก : luckymanth(luckymanth) 8/10/2555 10:00:06 [125.24.84.209]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       เคยเห็นที่เขาใส่กันชนลากเรือไหมครับ แล้วเขาไปต่อพ่วงด้านหลังเอาไว้ลากของเป็นเหมือนรถกะบะอีกคันนึง
ค่ากันชนลากเรือประมาณ 4000-4500 บาท ส่วนต่อพ่วงเทเลอร์นั้นแล้วแต่ราคาสั่งต่อ
ถ้าเราทำแบบนี้จะบรรทุกหนักได้ประมาณ 1 ตันกว่า แล้วที่ใส่เทเลอร์ก็จะได้อีกประมาณ 1 ตันกว่า คือเราลากพ่วงไปด้วยบรรทุกของได้ 3 ตันเหมือนกัน โดยที่รถเราไม่ต้องไปตบแต่งดัดแปลงเพื่อทำเพลาลอยแต่อย่างใด ไม่ต้องดัดแปลงให้เสียรถและรถกะบะยังใช้งานได้ตามปกติยามที่เราไม่ต้องการบรรทุกของเพราะขอลากเทรเลอร์ปลดออกง่ายด้วยตัวเราเอง สามารถเลือกกะบะแคปมาใช้งานก็ยังได้ เพราะเราไปเพิ่มพื้นที่ตรงลากพ่วงแทน เป็นทางเลือกที่ผมเคยดูในโฆษณาของคนที่เขารับต่อเทรลเลอร์ลากเรือ เจทสกี ที่เห็นบริษัทบรรทุกสินค้าต้องการลดค่าใช้จ่ายด้วยการลดที่ยวการบรรทุกลงและไม่ต้องดัดแปลงรถ ลองพิจาณาดูด้วยก็ดีนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ตามนั้นเลยครับ ผมว่า 2.7 เบนซินติดแก๊ส น่าจะประหยัดกว่า 2.5 พอสมควร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวัน ขอบคุณพี่ออโต้มากครับ ข้อมูลชัดเจนดีมาก ทำให้มองเห็นทุกอย่างเป็นรูปธรรมครับ ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       คาดว่า คุณ จ้าวสำราญฟาร์มตรัง คงมองอะไรออกชัดเจนมากขึ้นแล้วนะครับ
หลายคนที่บอกหรือตัดสินใจในเรื่องใช้งานรถ มองแต่ฟังเขาเล่ามา หรือบางทีเอาเวลาไปนั่งนึกคิดโบรชัวร์ ตัวเลขบนแผ่นกระดาษ ในการตัดสินใจเรื่องรถมันไม่น่าจะเอาเป็นข้อมูลหลักในการตัดสินใจ แต่เอาเป็นข้อมูลประกอบได้แน่นอน แต่ถ้าเห็นเป็นรูปธรรมแบบ จขกท. นั่นแหละข้อมูลหลักเลยว่าเราต้องการรถแบบใดให้ตรงกับการใช้งานตามวัตถุประสงค์และคุ้มค่าที่สุด





ผมยก ตัวอย่างลูกน้องในหน่วยงานผมกับคนที่ทำงานผมให้ฟัง
เวลาเขาซื้อรถคนในโรงงานมักจะซื้อ prerunner ยกสูงขับ 2wd และเรื่องปิคอัพเบนซิน Fortuner เบนซินอย่าไปฝันว่าเขาจะซื้อ
พวกนี้เขาก็ได้ข้อมูลจากการคุยต่อกันมานี่แหละ บอกว่ารถเบนซินกินน้ำมัน เครื่องยนต์เดี๋ยวมันไม่ทนทาน ไม่อึดบรรทุกหนักไม่ได้ ซื้อรถ 4wd ไม่รู้จะซื้อทำไม กลัวค่าซ่อม
แต่เชื่อไหม พวกเขา ใช้รถ 5 ปี 50,000 โลหรือน้อยกว่านั้น ไม่ใช่ 5 ปี 5 แสนโลเหมือน Fortuner 2.7 4x4 ในเวป FC Club
เรื่องบรรทุกหนักอย่าไปฝัน อย่างดีก็เอาปิคอัพไปย้ายของตามหอพักของเพื่อน หรือขนของสัมภาระกลับบ้านตามเทสกาล เรื่องบรรทุกหนักขึ้นเขาไม่มีทางหรอก พอใช้งานรถได้ 6-7 ปีก็ขายดาวน์ไปซื้อปิคอัพคันใหม่ต่อไป


ผมบอกว่าเนี่ยนะเฮ้ย เอ็งซื้อปิคอัพดีเซลเพราะกลัวเปลืองน้ำมัน แต่ใช้รถกันแค่เนี๊ยะนะแล้วขายออกเข้าเต๊นท์ ค่าน้ำมัน ปีล่ะ 1 หมื่นโลเป็นเงินเท่าไหร่ว่ะเนี่ย ไหนบอกกลัวเปลืองน้ำมันเลยเลือกดีเซล ยกสูงขับ 2wd แต่เอามาใช้จริงบอกเปลือง ต้องประหยัดด้วยการไม่ใช้รถซื้อมมอไซด์มาขับแทน แล้วบอกไม่ยอมซื้อรถ Vigo 4wd เพราะกลัวเปลืองน้ำมัน แต่......... มันเล่นไม่ไปไหนเลย ขับรถไปที่ไหนก็ไม่ไปไหนกันเลย ซ่อมก็ไม่ได้ซ่อมอะไรเลย เข้าศูนย์กันนับครั้งได้ พอรถเก่าก็เปลี่ยนรถกันใหม่หาเงินเป็นหนี้กันต่อ ทั้งที่ทำงานกันหนัก ผมบอกมันว่าเฮ้ยเอ็งจะซื้อรถแต่ละครั้งกดเครื่องคิดเลขกันมั่งหรือเปล่าว้า เคยไปลองขับรถอย่างจริงจังมั่งหรือเปล่าว่าต้องการซื้อรถมาทำอะไรกันแน่ คนถ้ามโนภาพเรื่องแบบนี้ไม่ออกก็จะเป็นแบบนี้อยุ่ TOYOTA ก็ขายรถได้ดีอีกตามเคย แต่คนทำงานโรงงานหาเงินเป็นหนี้วันยังค่ำ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       อยากทราบว่า ราคา Toyota Vigo รุ่น 2.7J-PS VVT-i(เบนซิน) เกียร์ธรรมดา 5 สปีด 534,000 บาท ราคาตามนี้ไหมครับ
และได้ส่วนลดเงินสดเท่าไรครับ เน้นเอาแค่ประกันชั้น 1

เนื่องจาก
ตอนนี้ร้านผมที่เชียงใหม่จะออกรถขนไม้ 1 คัน แต่ตอนนี้ แพ้ทางราคา triton ราคาที่เชียงใหม่ 433,000 ขึ้นมาจาก 428,000
เนื่องจากเสียงสนับสนุน 2.7 ของผมเพียงเสียงเดียว ที่ไม่ว่าจะดีกว่า triton มากขนาดไหน ก็แพ้เรื่องราคา เป็นแสนเลย
เลยอยากรู้ส่วนลดเงินสด (เคยเห็นในบอร์ด หาไม่เจอแล้ว ว่าลดได้ หลายหมื่น)เผื่อเอาข้อมูลไปชนกับเขาได้บ้าง

ปล. จะเอารถใช้ในเชียงใหม่ครับ กะมี 2.7 ตอนเดียวแปะสติ๊กเกอร์คลับสักหน่อย คงเท่ห์น่าดู อิอิ

หรือคุณท็อปพอรู้จักศูนย์ในเชียงใหม่ไหมครับ (ต้องให้เจ้าถิ่นช่วย)ขอบคุณครับ จาก : taka_vvti(taka_vvti) 25/10/2555 0:54:25 [115.87.40.46]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       เรื่องราคาเป็นตัวตัดสินใจก็จริงอยู่ เนื่องจากถูกกว่ากัน แต่ว่า Mitsu มีข้อด้อยหลายข้อมากเลยนะครับ นอกจากข้อดีที่ถูกกว่า 1 แสนบาทแล้วอย่างอื่นหาแทบไม่เจอเลย เช่น กินแก๊สใกล้เคียงกัน กำลังเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2.7 และต่ำกว่าดีเซล 2.5 ยุคนี้ ที่สำคัญเครื่องยนต์ไม่ทนทานเท่ากับ 2.7 ถ้าจะใช้งานหนักใช้งานยาว ๆ ต้องไปติดกระปุกน้ำมันเลี้ยงบ่าวาล์วไว้ด้วย ค่าซ่อมบำรุงกลับแพงกว่าตามสไตล์ Mitsu

ถ้าจะบรรทุกหนักเยอะ ๆ หรือวิ่งขึ้นเขาขึ้นดอยด้วย และใช้ยาวนานหลายปี กำลังเครื่องยนต์ ต้องเอาเหลือ ๆ ไว้ก่อน ควรยอมจ่ายเพิ่มมาเป็น 2.7 ดีกว่า แต่ถ้าไม่หนักหนาสาหัสมากนักจะเอาแค่ Mitsu ก็ได้
Vigo 2.7 ถ้าไม่ใช่รุ่น CNG แท้จากโรงงานน่าจะยังแถมประกันชั้น 1 อยู่ครับ อื่น ๆ ต้องลองหาข้อมูลดูว่าจะต่างกันเท่าไหร่
Mitsu ก็แถมประกันชั้น 1 เหมือนกัน แต่ของแถมน้อยกว่าดีเซล อยู่แล้วและโครงการอื่น ๆ ของ Mitsu Thailand เรื่องโปรการทำตลาด Mitsu รุ่น 2.4 เบนซินอยู่นอกเหนือข้อยกเว้นของโปรโมชั่น ไม่สามารถเข้าร่วมรายการได้
ทั้งนี้เป็นปกติของปิคอัพรุ่นเบนซิน เหมือนที่วีโก้ 2.7 เจอมาคือ รถปิคอัพเบนซินไม่อยู่ในรายการส่งเสริมการขาย ของบริษัทรถ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       จาก TaKa_vvti

เอารูปที่ผมลงจาก review ในต่างประเทศให้เขาดูไหมครับ รถถ้าเอาบรรทุกหนักความเหมาะสมผมยังให้ 2.7 แม้จะต้องจ่ายแพงกว่า
จริง ๆ แล้วถ้าบ้านเรามี Hilux 2.7 4x4 single cab ขายผมให้คะแนนเต็ม ๆ ไปกับตัวนี้เหนือกว่า Mitsu 2.4 แม้ว่าจ่ายแพงมากกว่าอีก 1 แสนกว่าบาทก็ยังคุ้มกว่า เพราะสมบุกสมบันทนทานกว่าและซ่อมถูกกว่า Mitsu 2.4
ยกเว้นบรรทุกไม่หนักไม่เยอะ ไม่สมบุกสมบัน ไม่คำนึงถึงราคาขายต่อเท่าไหร่นัก ก็น่าเลือก Mitsu

รุ่นนี้สุดยอดจริงๆครับ จาก : taka_vvti(taka_vvti) 25/10/2555 23:23:02 [110.168.52.95] Hilux 4x4 singlecab ตัวส่งนอก แต่บ้านเรามีเฉพาะ Hilux 4x2 ที่ทนทานน้อยกว่า จาก : Auto.(Auto.) 26/10/2555 8:35:08 [202.80.239.130] แต่ถึง TOYOTA เอามาขายจริง คนไทยก็ไม่นิยมซื้อรุ่น 4x4 อีกอยู่ดี จาก : Auto.(Auto.) 26/10/2555 8:49:22 [202.80.239.130] ชาวบ้านจะซื้อรถตอนเดียว มักซื้อ 2wd มากกว่าคิดว่าเหลือพอแล้ว คิดว่ารถ 4wd ไม่จำเป็นก็ได้ จาก : Auto.(Auto.) 26/10/2555 19:38:45 [124.122.96.131]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       ผมว่า 2.7 ยังไงก็ยังเป็นรถที่ใช้ได้จริงมากกว่า เพียงแต่ต้องจ่ายแพงกว่า ตอนซื้อ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       mitsu 2.4 Hilux 2.7 หักลบกันแล้ว Mitsu มีดีกว่ากันตอนซื้อ ป้ายแดงถูกกว่า 1 แสนบาท ถ้าไม่คิดราคาขายต่อ เก็บเงินส่วนต่างไว้ 1 แสนบาทเป็นค่าซ่อมค่าดอกเบี้ยในการผ่อนก็พอไหว เพราะส่วนต่างค่าเชื้อเพลิงแทบไม่ต่างกันเท่าไหร่ กินแก๊สพอกัน แต่อย่างอื่น Mitsu เป็นรองหมด
คู่นี้แทบไม่ต้องลองเอารถไปขับเปรียบเทียบเลย เพราะ Mitsu ยังถือว่ารถและเครื่องยนต์เป็นรองค่อนข้างมาก เหมือนเอามวยรุ่นเล็กมาต่อยกับรุ่นใหญ่กว่า ซึ่ง Mitsu ยังเสียเปรียบทุกด้าน
ถ้าคิดว่าหักลบ 1 แสนบาทนี้แล้วคุ้มกับการเลือก Mitsu ก็จัด Mitsu ไปเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
      
ถ้ายังจำกระทู้ได้ในเกร็ดความรู้รถใช้แก๊สคำตอบ 246 ที่ผมคัดลอก link จากบทความของ เวป manager ให้ดู ของคุณใหญ่ที่เขียนไว้

1. ถ้ารถปิคอัพดีเซลหรือเครื่องยนต์ดีเซลต้องยกให้ ISUZU เจ้าพ่อวงการตัวจริงเสียงจริง เขาคือเบอร์ 1
2. ถ้ารถปิคอัพเบนซินต้องยกให้เบอร์ 1 คือ TOYOTA ที่ผลิตขายส่งไปทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นปิคอัพขนาด 1 ตัน หรือขนาดบิ๊กไซด์ในสหรัฐอย่าง Tundra ที่ต่างก็ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ในตลาดปิคอัพเบนซิน TOYOTA ยังถือครองอันดับ 1 ของโลก คู่แข่งหลายยี่ห้อยังถือว่าเป็นรอง TOYOTA หลายช่วงตัวเพราะเครื่องยนต์เบนซินมักจะมีขนาดเล็กกว่า TOYOTA และแรงม้ากับความประหยัดยังเป็นรองเครื่องยนต์จากค่าย TOYOTA โดยเฉพาะค่ายอเมริกันเอาเครื่องเบนซินใหญ่กว่ามาเทียบกับปิคอัพเบนซินค่ายญี่ปุ่นยังเป็นรองมากทั้งในเรื่องความประหยัดและความแรงรวมความจุกจิกและความทนทาน

TOYOTA เขามีอีกบริษัทนึงที่เป็นพันธมิตรกันค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเครื่องยนต์เบนซินโดยเฉพาะ เครื่องเบนซินของค่ายนี้ค่อนข้างพัฒนาไปไกลกว่าคู่แข่ง ( ระดับเดียวกัน )

ถ้ายังจำกันได้ตอนปี 2005-2007 ที่ TMT THAILAND เปิดตัว Hilux 2.7 4AT ในไทย ถ้าเปรียบเทียบรถดีเซลในระดับเดียวกันถือว่า 2.7 ได้เปรียบกว่ารถปิคอัพดีเซลในระดับเดียวกันค่อนข้างมาก เนื่องจากพอเอามาติดแก๊สแล้วเหลือค่าใช้จ่ายเพียง 1.2-1.5 บาท / กม.เพราะแก๊สราคาถูกไม่เกิน 11 บาท / ลิตร ตัวรถวิ่งดีกว่า option มากกว่า แถมขายเป็นป้ายแดงก็มีราคาถูกกว่าดีเซล ขายเป็นมือ 2 ก็ยังแพงกว่าดีเซลอีก เครื่องยนต์และเกียร์ออโตเมติกทนทานกว่าแถมเครื่องแรงกว่าดีเซล 2.5 ในระดับเดียวกัน ค่าซ่อมบำรุงถูกกว่าชัดเจนมาก เปรียบเทียบกับปิคอัพดีเซล 2.5 ยุคเก่าและยุคใหม่แล้วดีเซลแพ้ราบคาบ จน TOYOTA ต้องเลิกผลิตรุ่นนี้กันเลยทีเดียว เพราะถ้ายังปล่อยไว้ตลาดปิคอัพในไทยปั่นป่วนหมดแน่ เพราะดีเซลมีค่าใช้จ่าย 2.5-3.0 บาท / กม. เจอจุกจิกเรื่องชุดเทอร์โบที่มีราคาแพงและชุดคอมมอนเรลอีก ถ้าเครื่องพังน้ำแห้งตอนซ่อมจ่ายแพงกว่าเบนซิน 2.7 บานเบอะ คู่แข่งเบนซินอื่น ๆ ตอนนั้นยังไม่มีใครกล้าทำตลาดด้วยซ้ำ กว่าจะเดินทางมาถึงจุดเดียวกับ TOYOTA ยืนอยู่ในเวลานี้ของการเป็นปิคอัพเบนซิน ค่ายคู่แข่งยังต้องใช้เวลาอีกนาน
ตอนนี้จะว่าโชคดีก็ตรงที่ราคาแก๊สขยับขึ้นมาทำให้คนลังเลที่จะใช้รถติดแก๊สมากขึ้น ไม่งั้นดีเซลขายไม่ได้อีก
เรื่องที่คนอื่นบอกว่าดีเซลซ่อมถูกกว่า เครื่องดีกว่า แรงกว่าในรุ่น 2.5 หรือเครื่องดีเซลยุคเก่านั้น ตอนนี้ไม่มีใครกล้าพูดแบบนั้นอีกแล้ว ที่พูดกันเมื่อกอ่นเพราะด้วยความไม่รู้เรื่องปิคอัพเบนซินหรือไม่มีประสบการณ์ทั้งสิ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       ขอบคุณคุณ Auto สำหรับคำแนะนำครับ
2.7 single cab ไม่มีส่วนลดเลย มีแต่ของแถม แต่ถ้าตัว CNG ได้ลดแค่ 8,000 บาท
บทสรุปต้องใช้ mitsu ครับ (แพ้เสียงข้างมาก)
ถือว่าลองใช้ ได้เปรียบเทียบกับ 2.7 ที่ใช้อยู่ปัจจุบันละกัน

คันต่อไปค่อยเป็น 2.7 ละกัน

ขอบคุณอีกครั้งครับ

Mitsu single 2.4 ก็ดีนะครับ ขับแล้วรู้สึกว่าช่วงล่างแน่น นิ่งกว่า 2.7cabซะอีก จาก : -?-(-?-) 26/10/2555 21:20:58 [115.87.128.154] บรรทุกหนัก+ขึ้นเขาแรงสู้ 2.7 ไม่ได้แน่ แต่อาจจะควบคุมรถได้ดีกว่า จาก : -?-(-?-) 26/10/2555 21:22:50 [115.87.128.154]   แสดงความคิดเห็นย่อย