คำตอบที่ 1
       รถรุ่นนี้ ปีนี้ สีนี้ ราคาสูงมากๆ หลายๆคนอยากได้ แต่ก็ตามหายากมากๆด้วย
ที่เห็นในนี้มีคนใช้อยู่ก็คุณ AUTO คันนึงล่ะ

ส่วนเรื่องไปเที่ยวเห็นว่าทีโพสล่างๆ คุณ R.400 นำเอารูปทริปไปเที่ยวดอยสอยมาลัยมาลง
ที่ลิ้งค์นี้ครับ http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/question.asp?page=1&id=3148
น่าไปเที่ยวมากๆครับ เห็นแนะนำว่ารถขับสี่เดิมๆไปได้ด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ขอบคุณมากครับ ผมได้ดูทริปไปเที่ยวดอยสอยมาลัยแล้วครับ สวยงามตามธรรมชาติและสงบเงียบดีมาก เป็นแนวที่ผมชอบมาก
ต้องขอบคุณคุณอาเฮงมากนะครับที่ให้ความกระจ่างกับผม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       http://www.youtube.com/watch?v=N-JWaTxwl10

http://www.youtube.com/watch?v=BkD90ZA4934

ในกลุ่มพวกเรา 2.7 มี Top กับจารย์เทพ ท่านอ๋องแปด ก็ขับวีโก้ 2.7 ขึ้นดอยสอยมาแล้ว เขาไปกับกลุ่มวีโก้ชาวเหนือ
ให้ดูจากวิดิโอแล้วตัดสินใจเองนะครับ ว่าขึ้นได้หรือไม่ได้

Fortuner เดิม ๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย ความสามารถในการใช้งานออฟโรดจะด้อยกว่า วีโก้หน่อยนึง ข้อนี้ต้องจำไว้ให้ดี

เห็นคำชี้แนะของ คุณAUTO แล้วมาดูจากในคลิป ผมว่าทางไปหนักหนาสาหัสชนิดที่ว่า ไม่น่าไปแล้วล่ะครับแบบนี้ จาก : อาเฮง(supat19) 17/12/2556 10:24:21 [125.24.189.163]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ในคลิปคือพวกเราจริง ๆ ครับ คือ Top กับอาจารย์เทพ ใช้ Hilux Vigo 2.7 ขึ้นไปทั้ง 2 คัน รู้สึกจะมีวินว์ทั้ง 2 คันแล้วด้วย ที่เดินทางไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นผมใกล้จะถึงวันแต่งงานพอดีเลยไม่ได้เดินทางไปด้วย ทั้งที่อยากไปมาก การเดินทางไปดอยสอยมาลัยตอนนี้นะครับไม่เหมือน 10 กว่าปีก่อนสมัย Jeep cherokee ดัง ดังในบ้านเรา ช่วงนั้นดอยสอยมาลัยสวยงามมาก บรรยากาศดี
แต่ปัจจุบันหลังจากที่กลุ่มเราไปเห็นมา ดอยสอยมาลัย ศาลา 8 เหลี่ยม อยู่ในสภาพทรุดโทรมจนพังไปแล้ว ห้องน้ำไม่มี สภาพด้านบนดอยหลายช่วงไม่น่านอนค้างคืนเท่าไหร่ อีกทั้งมีชาวบ้านมาเลี้ยงวัวแถวนั้น กลิ่นขี้วัวก็เต็มไปหมด การจัดการเป็นแหล่งท่องเที่ยวของทางป่าไม้และหน่วยจัดการต้นน้ำเหนือเขื่อนภูมิพล ไม่เหมือนก่อนแล้วตรงพื้นที่จุดนี้

แต่ถ้าถามผมคือยังไงงก็อยากไปแม้จะรู้สภาพว่าเป็นแบบนี้แล้วก็ตาม เพราะเรายังไม่เคยไป ก็ควรไปเห็นสักครั้ง

***********************************************************


ส่วนการขับรถออฟโรดไปเที่ยวดอยสอยมาลัย ไม่ได้ยากเกินไป แต่ก็ไม่ถึงกับง่ายนักก็เป็นแบบที่เห็นใน วีดิโอนั่นแหละ แต่ทริปแบบนี้คงต้องมีพี่เลี้ยง คอยประคองบ้าง ถึงแม้รถเราเป็น 4x4 แต่จะขับแบบเลี้ยงเดี่ยว ไม่มีคนชำนาญพื้นที่ทางภาคเหนือช่วยเลย ผมว่าคงไม่ไหว เพราะเกิดอะไรขึ้นมาจะลำบาก ลักษณะการขับรถออฟโรดในพื้นที่ภาคเหนือ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ลักษณะการขับรถออฟโรดในพื้นที่ภาคเหนือ มันจะมีความแตกต่างกับทางภาคกลาง ซึ่งเราต้องเข้าใจมันบ้างแต่โดยรวมหน้าฝนไม่ควรไป

1. ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง บางช่วงเป็นเหว ลึกอันตราย จะต่างกับทางป่าทุ่งใหญ่นเรศวรทางภาคกลาง ที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบ
2. ทางส่วนใหญ่จะเป็นเหว ลึก ไม่มีไม้กั้นเป็นทางออฟโรด
3. หน้าแล้งจะเป็นฝุ่นแดงเหมือนทั่วไป แต่มันจะมีน้ำค้างตอนเช้า หรือช่วงหน้าฝน ทำให้เส้นทางลื่นอันตรายมากในการขับรถขึ้นดอย เพราะโอกาสตกเหวมีสูง
4. ดินที่ภาคเหนือส่วนใหญ่จะเป็นดินหนังหมู ถ้ามีฝนตกดินเปียกขึ้นมาเมื่อไหร่ คือดินมันไม่จับกับยางล้อ ถ้าขับออฟโรดที่ภาคเหนือ จะเจอปัยหานี้ คือมันลื่นฟรีทิ้งไปหมด ต่อให้รถใช้ Diff lock หน้าหลังบางทีก็ช่วยไม่ได้ เพราะมันลื่นล้อมันฟรีทิ้ง
5.ยางที่ใช้ส่วนใหญ่เขาจึงใช้เป็นยาง Mud หรือยาง ก. ไก่ ในการใช้งานเส้นทางแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าใส่ยางมัดแล้วล้อจะไม่ฟรีน่ะครับ มันฟรีเยอะมาก แต่ก็ดีกว่าใช้ยาง AT HT ซึ่งทางภาคเหนือมันใช้ไม่ค่อยได้ผล
6.คนพื้นที่ส่วนใหญ่ ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่รัฐ เขาจึงใช้โซ่พันล้อในการขับรถขึ้นดอยเข้าพื้นที่ บางทีเขาเอาโซ่พันล้อกันถึง 4 ล้อเลยก็มี แต่ภาพแบบนี้ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่นัก เพราะคนพื้นที่จริง ๆเขาไม่ได้มาถ่ายรูปมาโชว์กันแบบพวกเราหรือคนอื่น ๆ ที่เป็นนักเที่ยว แต่เขาอยู่กับพื้นที่ตลอด
7. ส่วนใหญ่การขับขึ้นดอยแบบนี้ จะเหนื่อยกว่าขับรถในทางราบ ยิ่งเป็นทางออฟโรดยาว ๆ ด้วยแล้ว ยิ่งเหนื่อยกว่าเดิมมาก
8. เขตพื้นที่ภาคเหนือส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องใช้ Winch Warn แพง ๆ อื่น ๆ ที่กันน้ำได้ เพราะส่วนใหญ่เขาไม่ได้ขับลุยน้ำแช่โคลน แต่เขาะเลือกWinch ที่อึดทนทานโคตร ซ่อมน้อย กินไฟน้อยเพราะใช้งานบ่อย ซ่อมบำรุงไม่แพงเป็นหลัก
9.การใช้ Winch แถวภาคเหนือ ไม่ได้ วินซ์กันแค่สั้น ๆ พอขึ้นจากหล่มโคลนแล้วจบเหมือนในภาคกลาง แต่บางทีต้องวินซ์ส่งต่อกันยาว ๆ หลายชั่วโมง เพื่อส่งรถขึ้นดอย เพราะเส้นทางยาวล้อมันฟรีทิ้งจากดินที่ลื่น รถแรงแค่ไหนก็ขึ้นไม่ไหว ต้องค่อย ๆ พากันไป บางทีวินว์ต่อกันเป็นชั่วโมง ไม่ไหวก็พักชาร์จไฟแบตไปก่อน
10. ดอยทางภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นเขาหัวโล้น วินซ์มักไม่มีที่ยึดกับต้นไม้ ทำให้หาที่วินซ์ก็ไม่ได้
11. ชาวเขาชาวดอยเขาขับกะบะ 2wd ขึ้นดอยก็เยอะ แต่เขาไม่เดินทางหน้าฝน แต่ถ้าจำเป็นเขาก็ใช้โซ่พันล้อ ไม่ได้โชว์ออฟห้าวแป้งขึ้นไปทั้งแบบนั้นเหมือนที่หลายคนเข้าใจ ทักษะในการขับรถขึ้นเขาขึ้นดอยต่างจากคนในเมืองเยอะแยะ เพราะเขาขับกันทุกวัน คนพื้นที่ แต่เราคนในเมืองใช้รถ 4wd บางทียังเอาตัวไม่รอดเลย เพราะเราไม่ใช่คนพื้นที่ ประสบการณ์ ยังไงก็สู้เขาไม่ได้เพราะชีวิตประจำวันไม่ได้ขับขึ้นดอยแบบเค้าทุกวัน
12. ถ้ามีน้ำป่า พัดมาเค้าประเมินได้ว่าจะข้ามหรือไม่ข้ามหรือรออีก2 อาทิตย์น้ำลดจึงค่อยข้ามไป ถ้าเป็นคนในเมือง มันประเมินแบบเขาไม่ได้
13. ขับรถออฟโรดในภาคเหนือไม่จำเป็นต้องเป็นรถยกสูงยางใหญ่ 35 ขึ้นไปแบบขับในป่าเมืองกาญจนบุรี แต่สำคัญคือทักษะมากกว่า คนชำนาญพื้นที่

14 รถส่วนใหญ่จาก Prerunner ก็มักเปลี่ยนมาเป็น 4wd 4x4 เพราะการใช้รถยกสูง 2wd บนเส้นทางแบบนี้ มันอันตราย คนพื้นที่จริง ๆ พอใช้แล้วจะรู้ว่ามันไม่ใช่

การไปพื้นที่แบบนี้มีพี่เลี้ยงบ้างก็ดี บางพื้นที่ง่าย บางพื้นที่ยาก แต่เราไม่เคยไปจะไม่รู้ว่าอะไรยากหรือง่าย ต้องไปเห็นของจริง
ถ้าง่าย ๆ เลยก็ต้องพื้นที่ที่คนเขาเข้ากันไปบ่อย ๆ แสดงว่ามัน ไม่ยากเกินไป เป็นที่พอที่เราจะเข้าได้เหมือนกัน

*****************************************************************************

จากภาพที่ผมบอกว่าตา Top สมาชิกเรา ที่เขาขับรถออฟโรดในพื้นที่ภาคเหนือเป็นประจำ เขาเป็นคนพื้นที่ และต้องทำงานแบบนี้มีชีวิตแบบนี้ในเขตภาคเหนือหลายจังหวัด บางทีก็ต้องใช้โซ่พันล้อเข้าพื้นที่ บางทีเห็นเส้นทางง่าย ๆ อย่างนั้น ก็ต้องลาก Winch กันเป็นชั่วโมงแล้วครับกว่าจะขึ้นดอยได้ ผมเองก็ได้รับคำแนะนำและเรียนรูหลายสิ่งหลายอย่างจาก Top เขาเช่นกัน

เส้นทางบนหนังสือท่องเที่ยว ตามร้านหนังสืออย่าไปดูมัน ผมโยนหนังสือพวกนั้นทิ้งไปหลายเล่มแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       15 อีกข้อนึง บนดอยส่วนใหญ่มีหมอกปกคลุมตลอด ทำให้ทัศนะวิสัย แย่เวลาขับรถบนเขา บนดอย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ถ้าออฟโรดในภาคกลางส่วนใหญ่ จะแตกต่างกันออกไปในการเล่นรถหรือเซทรถ เพราะเน้นเอาไว้เที่ยวมากกว่า

1. เครื่องใหญ่กำลังแรง เพราะส่วนมากเขาไว้เล่นสนุกกัน
2. อาวุธหนักจัดเต็ม ได้ใช้แน่นอน ยิ่งมีอาวุธมากดีกว่าไม่มี จะต่างกันถ้าเป็นภาคเหนือมีมากก็หนักรถเกะกะเปล่า ๆ สิ้นเปลืองเกินจำเป็น
3.ยกสูงยางใหญ่ วางคาน ยางอย่างน้อย 35 ถึงจะเที่ยวกับเค้าไหว ยางยิ่งใหญ่ยิ่งดี ยิ่งสูงยิ่งดี จะต่างกับภาคเหนือที่รถใหญ่แบบนี้ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน พาลจะตกเขาเอาง่าย ๆ กินน้ำมันเกินไปไม่เหมาะเข้าพื้นที่ใช้งาน
4. Winch ต้องกินกระแสไฟมาก ให้อัตราทดสูง เพราะเน้นเล่นหนักโลดโผน ดึงรถที่มีน้ำหนักมากและที่ติดหล่มโคลนหนัก ๆ ต้องการวินซ์กำลังมาก แต่ไม่จำเป็นต้องดึงยาว ๆ นาน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ Winch กินกระแสไฟต่ำ
5.Winch ต้องซีลกันน้ำได้ดี เพราะเน้นลุยป่าข้ามน้ำลุยโคลน
5. ไซด์เรียวมีรอบคัน เพราะในป่าต้องไปฟาดกับต้นไม้ ดินก้อนหิน ต้นไผ่ จะปกป้องรถได้ดี แต่ถ้าเป็นในภาคเหนือไซด์เรียวพวกนี้มีไว้มากก็หนักรถเปล่า ๆ
6. ไปให้ถึงกลับให้ได้ เน้นจุดหมาย แต่ต่างจากพื้นที่ภาคเหนือที่คนพื้นที่ใช้งานรถไม่ได้เที่ยว หรือรถเจ้าหน้าที่ เขาพร้อมจะนอนกินข้าวลิงกลางป่าตลอดเวลา อย่างเช่น LN 106 ไม่มีอาวุธอะไรเลย ถ้าติดหล่มก็ขุด ดัน เข็ญ ขย่ม ถ้าไม่ไหวก็รอทางแห้งอีก 2 อาทิตย์ นอนกลางป่าแล้วก็กลับกู้รถขึ้นมาใหม่ แต่ถ้าเป็นภาคกลาง ก็วินซ์ ดึง ลาก กันไปจนกลับได้ ไม่มีการนอนกินข้าวลิงกลางป่า อาวุธจึงต้องหนักจัดเต็มตลอดเวลา
7. รถพร้อมใช้งานเสร็จกลับมาซ่อมใหม่ บางทีจัดผ้าเบรคไป 1 ชุดสำหรับเข้าป่า เพลา 2 ชุด ไดชาร์จอีกชุดนึง สำหรับออฟโรดจัดเต็ม
แต่ถ้าเป็นของชาวบ้านที่เขาใช้งานจริงในภาคเหนือจะไปใช้รถเหมือนที่เขาเน้นเที่ยวกันในแบบภาคกลางไม่ได้ เพราะรถเขาใช้ทำมาหากิน เข้าป่าทีกลับมาซ่อมที แบบนี้ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้วครับ เอาเงินไปซ่อมรถหมด

แนวทางทั้ง 2 แนวในการเล่นรถจึงต้องแตกต่างกันบ้าง จะส่งผลถึงการแต่งรถ เซทรถในการใช้งานที่ต้องต่างกันไปด้วย
อย่าง LN106 หรือ Hilux Vigo ใช้งานก็แบบนึง ถ้าจะไปเน้นเที่ยวป่าก็ต้องไปแต่งรถอีกแบบนึง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       คุณAUTO ครับรถผมเดิมๆครับ(มือใหม่ด้วยครับ)ขอให้เลือกสถานที่เบาๆหน่อยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ลองไปดูตามนี้นะ http://www.thaitripdd.com/

 แก้ไขเมื่อ : 17/12/2556 20:41:32

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ขอบคุณมากครับ สำหรับสถานที่เที่ยวที่คุณSR5-33 แนะนำมาให้เป็นประโยชน์กับผมและครอบครัวมากเลยครับ
ต้องขอขอบคุณอย่างมากๆๆๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ดอยสอยมาลัยที่ให้ดูในวีดิโอไม่ยากและไม่ง่าย แต่ให้ลองประเมินเองว่าจะไปหรือเปล่า เพราะรถ 2.7 เดิม ๆ ขึ้นไปกันมาแล้ว


***************************************************************

จาก หนุ่ย
ถ้าชอบแนวนี้ ก็ลองไปเรียนขับรถยนต์มาก่อน จะช่วยให้เราสนุก ไม่อันตราย ปลอดภัยยิ่งขึ้นกับครอบครัว หลังจากนั้นก็ไปเรียนเทรนนิ่งออฟโรด
ส่วนสถานที่เรียนเทรนนิ่งออฟโรดนั้นก็จะมี

1. กลุ่ม TOYOTA WEEKEND เขาจัดขึ้นนาน ๆ ครั้ง ไม่ได้แสวงหาผลกำไร จัดที่สนามแม๊กสระบุรี เดือนหน้า มค.57 คุณยศ สมาชิกของเราที่ใช้รุ่น fortuner 2.7 Exclusive ก็ไปในงานนี้ด้วย เพื่อไปเรียนเทรนนิ่ง
http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota/Question.asp?ID=29001

2. TOYOTATRAINING OFF ROAD โรงเรียนโตโยต้าอันนี้ต้องโหลดใบสมัครจากในเวปเข้ากูเกี้ลแล้วโหลดเอา ดูตารางเวลา เขาจะจัดทุกปี ปีล่ะหลายครั้งหลายสนาม ร่วมมือกับทางนิตยสารรถยนต์ 4x4 GRANPIX ไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อคนใช้รถยนต์โตโยต้าทุกท่าน ส่วนมากจะจัดเทรนนิ่งที่เขื่อนคีรีธาร จันทบุรี สนามบ่อพลอยกาญจนบุรี และก็เวียนไปจังหวัดอื่น ๆ จเทรนนิ่ง เสาร อาทิตย์ เสียเฉพาะค่าที่พักประมาณ 2xxx บาท มีวิทยากรจากโตโยต้าและอาจารย์มีประสบการณ์มาสอนให้ ทักษะสำหรับการใช้งานรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ถึงแม้จะไม่มีโอกาสนำรถไปลุยออฟโรดก็ตามแต่ไปเรียนแล้วจะได้รู้ว่าบนถนนจริง ๆ ทั่วไป จะใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร ตามที่เขาออกแบบรถมา

3.ISUZU MOTOR สนามทดสอบรถขับเคลื่อน 4 ล้อของบริษัทตรีเพชร อีซูซุ อยู่ที่ชลบุรี ทางไปสัตหีบระยอง อันนี้ผมไม่แน่ใจเรื่องระเบียบการสมัครลองไปค้นดูเอาเอง แต่ทุกคนรวมถึงพรีเซ็นเตอร์ อย่างบอย ปกรณ์ จะขับรถ ISUZU ไปทำโฆษณาได้จะต้องเรียนจบหลักสูตรผ่านสนามทดสอบแห่งนี้ก่อน เขามีวิทยากรประจำของ ISUZU เองคอยสอนการใช้งานรถ ISUZU ที่ถูกต้อง เรียนรู้จุดดีจุดด้อยของรถ ดาราคนอื่น ๆ อย่างแพง ขวัญข้าว เศวตวิมล ตุ้ย เกียรติกมลก็ต้องมาเรียนก่อนไปขับรถ ISUZU 4x4 ที่ออสเตรเลียเหมือนกัน

4. spirit 4x4 ลองดูในกูเกี้ล แล้วสมัครเอาเริ่มปีหน้า เป็นโรงเรียนสอนขับรถยนต์ 4x4 แบบอาชีพ ค่าเรียนประมาณ 6xxx บาท อันนี้ไม่ได้สอนเฉพาะการขับรถยนต์อย่างเดียว แต่สอนเลยไปถึงการใช้ Winch และอุปกรณ์ช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ต้องมี

ถ้าไปเรียนแล้วจะรู้อะไรมากขึ้น ขับสนุก ปลอดภัย ใช้งานจริงบนถนนได้จริงแล้วจะรู้ว่าทำไมต้องเป็นรถ 4wd
แล้วเวลาอยากไปเที่ยวอยากไปออฟโรด เราก็จะทำได้อย่างไม่มีปัญหา สามารถประเมินเส้นทางเองได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       Fortuner ถ้าจะเอาไปวิ่งใช้งาน ให้ไปแก้ไขเฟืองท้ายมาก่อน ให้เลือกว่าเราจะเอาระดับไหนจากกระทู้ที่ผมรวบรวมเอาไว้
Fortuner เดิม ๆ ไม่ได้ทำอะไรถ้าจะไปลุยออฟโรดมันได้แค่ระดับ 1-2 ดาวเท่านั้นในระดับความยาก คือดีกว่ารถ 2wd ไม่มากนัก เพราะรถไทยแลนด์บ้านเราทาง TOYOTA เขาตัด Option ระบบเฟืองท้ายออกไป
แต่ถ้าเป็นรถ Sport rider ก่อนหน้านี้นี้ยังเป็นเฟืองท้าย Limited อยู่ พอมาตั้งแต่รุ่น Fortuner option ทุกระบบในบ้านเราจะถูกตัดออกไป เขาเน้น 4wd เพื่อใช้ในเมืองมากกว่า ถ้าเอามาวิ่งความเร็วสูงกับออฟโรดก็ต้องนำมาแต่งเพิ่มอีกอยู่ดี

http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/question.asp?id=1664

1. ถ้าไม่ได้เน้นลุยออฟโรด แต่ต้องการตอบสนองการขับขี่ที่ดีขึ้นก็ไปใส่ Limited slip ที่เฟืองท้าย
2.ถ้าชอบมาแนวกึ่งออฟโรดตรงนี้ ก็ไปใส่ Diff lock ไฟฟ้า 'งบไม่เกิน 30,000 บาท
3. ถ้าเน้นการลุยระดับที่มากขึ้น ARB Airlocker งบ 30,000 กว่าบาท
4. ถ้าพอใจระดับเดิมเน้นใช้งานในเมืองอย่างเดียวก็ไม่ต้องทำอะไร

แสดงความคิดเห็นย่อย