WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


เรื่องควรรู้เกี่ยวกับรถพลังงานทางเลือกในอนาคต ทำไมใคร ๆ ก็ฝันถึงกันนัก

จาก Auto
IP:61.90.149.126

พฤหัสบดีที่ , 9/10/2551
เวลา : 21:10

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ผมเห็นหลาย ๆ ท่านฝันถึงรถพวกนี้กันบ่อยๆ บางคนรอให้ Toyota หรือบริษัทรถอื่นๆ ผลิตรถพลังงานทางเลือกออกมา หรือไม่ก็ติดแก๊สออกมากัน บางคนก็ตื่นเต้นกันขนาดหนักถึงรถไฟฟ้า รถไฮบริด รถ E85 รถอีโคคาร์ แถมยังมีบางพวกตื่นเต้นกับรถไฮโดรเจน นอกจากนี้ยังมีบางพวกตื่นเต้นมากกับข่าวดีเซลติดแก๊สได้ 100%

พอดีวันนี้มีเวลาจะอธิบายให้กระจ่าง ๆ ในหลาย ๆ หัวข้อ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       อ้าวบทความล่องหนอ่ะ

รออ่านต่อนะค้า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก oa 124.121.92.176 พฤหัสบดี, 9/10/2551 เวลา : 21:19  IP : 124.121.92.176   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5831

คำตอบที่ 2
       เอาข้อแรกก่อน รถไฮบริด

หลายคนรอที่จะซื้อรถไฮบริด รถรุ่นนี้ความจริงไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใดในต่างประเทศอย่างอเมริกาและญี่ปุ่น เขาขายมาหลายปีมาแล้วน่าจะเกิน 4-5 ปีด้วยซ้ำเท่าที่ผมจำได้เลา ๆ คือรุ่น Lexus RX 330 RH นอกนั้นจำไม่ค่อยได้แล้ว ต่อมาก็เป็นรุ่น Alphard Estima อื่น ๆ Civic ไฮบริดนี่ก็มีชื่อเสียงมาก แล้วก็ตามมาด้วยรุ่นอื่น ๆ ทีนี้บ้านเรานี่เพิ่งจะนำเข้ามาเมือประมาณปี 2005 ได้มั้งโดยบริษทแรกที่นำเข้ามาคือ Honda Automobile ขายให้กับหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานเอกชน โดยบริษัทเขาเซอร์วิสให้ฟรีทุกอย่างเรื่องการเก็บซากแบตเตอรี่เขาจะเป็นผู้กำจัดเอง ต่อมาก็มีผู้นำเข้าอสระเริ่มนำเข้า Alphard Estima Lexus RX 330เข้ามาลองตลาดเมือ่ปีที่แล้ว แต่ยอดไม่วิ่งนัก

ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปมีเงินบ้างไม่มีบ้างก็อยากจะซื้อใช้อยากรอว่าเมื่อไหร่ไฮบริดมันจะมา คือมันมาแล้วครับและที่จะขนมาของ Toyota มันก็กำลังงจะมา
แต่ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า เอาแค่สมัยเปิดตัวรถไฮบริดกว่า 10 ปีที่แล้ว และกว่าคนไทยจะได้ใช้รถไฮบริดกันมันกี่ปี กว่าที่รถไฮบริดคันแรกของไทยจะขึ้นไลน์ประกอบที่เกตเวย์ฉะเชิงเทรามันกี่ปี สำหรับ Plant ฉะนั้นคนที่รอรถเหล่านี้บางทีมันไม่จำเป็นต้องรอเพราะกว่าจะได้ใช้กันบางทีเผลอแพลบเดียวเวลามันผ่านไป 4-5 ปีไปแล้ว อีกประการนึงรถพวกนี้มันเป็นเล่นที่มีราคาสูง Civic ราคาขายตอนนั้นก็ 1.7 ล้าน เข้าไปแล้วรถอื่นๆ ก็ 3 ล้านกว่าหมด คือระดับเราๆ ท่าน ๆจะซื้อมาเพื่อหวังประหยัดน้ำมันคงไม่ได้ มันคือของเล่นเศรษฐีที่เขาต้องการความแปลกใหม่ในชีวิต ซึ่งหลาย ๆ คนเขาก็ไม่ได้ซื้อเพราะเขากลัวค่าซ่อม แต่ที่จริงแล้วค่าซ่อมมันก็ไม่ได้แพงมากนักแต่ที่ว่าไม่แพงน่ะ อย่างท่าน ๆ ทั่วไปก็คงจ่ายไม่ไหว เพราะเข็ศุนย์รถทั่วไปยังบอกว่าแพง รถตัวนี้เลิกคิดได้ถ้ายังกังวลกับค่าอะไหล่

อีกอย่างนึง ในอเมริกาเขาขายซีวิคคูเป้คันล่ะ 5-6 แสนบาท ซีวิคไฮบริดก็แพงกว่านี้แต่เขามีเงินซื้อ เพราะคนไทยไปทำงานล้างจานพ่อครัวได้เงินเดือนล่ะ 7 หมื่นบาท
แต่รายได้คนไทย เดือนล่ะ 8000 บาท เฉลี่ย เพราะฉะนั้นที่ฝัน ๆ รถไฮบริดจะมีราคาถูกก็ต้องฝันไปกอ่นเพราะความจริงไม่ใช่เวลานี้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 61.90.149.126 พฤหัสบดี, 9/10/2551 เวลา : 21:28  IP : 61.90.149.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5833

คำตอบที่ 3
      





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 61.90.149.126 พฤหัสบดี, 9/10/2551 เวลา : 21:29  IP : 61.90.149.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5834

คำตอบที่ 4
       รถ Flexible

เห็นหลายท่านน้ำลายหกกันเหลือเกินตอน Honda เอามาโชว์แต่ที่จริงรถคันนี้เพิ่งเริ่มทดลองขายในตลาดอเมริกาเหนือ กับยุโรปด้วยมั้ง ขายในที่นี้มันหมายถึงรู้สึกเขาจะปล่อยเช่ามั้ง คือไม่ขายขาดทาง Honda Motor ให้เช่าแล้วเซอร์วิสฟรีทุกอย่างเก็บข้อมูลการใช้ไปด้วย

ซึ่งก็หมายความว่า รถตัวนี้กว่าจะขึ้นไลน์ผลิตจริงเพื่อขายอย่างน้อยต้องรออีก 4-5 ปีเป็นอย่างน้อย แล้วการที่จะมาขายบ้านเราก็ไม่รุ้ว่าเมื่อไหร่เพราะฉะนั้นไม่ต้องรอ ถ้าท่านรอก็รถคันเดิของท่านคงพังไปกอ่นเพราะการใช้นั่นแหละครับ
และถ้ามันมาจริง ราคารถก็ยังไม่ใช่รถแบบ mass product ที่มีราคาถูกแน่นอน ตัวนี้ราคาก็ใกล้ไฮบริดอีก



comment ให้อีกอย่าง ใครๆ ก็พูดถึงรถพลังงานใช้น้ำมาเป็นเชื้อเพลิง ความคิดเช่นนี้หายนะมันกำลังจะมาเยือน
ท่านคิดดูหน่อยว่าตอนนี้ท่านซื้อน้ำเปล่ากันขวดล่ะเท่าไหร่ 10 บาท ได้กี่ซีซี
ถ้าเมือใดเอาน้ำมาเป็นเชื้อเพลิง ราคาน้ำเปล่าที่จะใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตมันจะมีราคาสุงขึ้นซึ่งตอนนั้นไม่รู้จะเป็นราคาเท่าไหร่ ( ในซาอุน้ำเปล่าแพงกว่าน้ำมัน) ไม่ใช่ผมคิดเผื่อไปกอ่นนะครับแต่สิ่งใดที่มันสามารถแปรสภาพเป็นเงินได้มันจะเพิ่มมูลค่าในตัวมันเองทั้งนั้น



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 61.90.149.126 พฤหัสบดี, 9/10/2551 เวลา : 21:40  IP : 61.90.149.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5847

คำตอบที่ 5
       E85 เห็นฝ่ายหนับหนุนก็เยอะค้านก็แยะ

บางพวกบ้าหนักเข้าไปอีกอยากให้เปลี่ยนมาเป็นเอทานอล 50 -85 กันทั้งประเทศ
คือต้องเข้าใจธรรมชาตของรถยนต์ E85 เสียก่อนว่าส่วนใหญ่มันป็นรถที่มีขนาดใหญ่ รถพวกนี้ต้องการซีซีมาก ๆ ถึงจะดี (คงไม่มีใครคิดเลยเถิดไปดีเซลอีกนะ บางพวกยังไม่บรรลุยังพายเรือวนในอ่างกับดีเซลอยู่เลย) และส่วนใหญ่รถพวกนี้ต้องเป็นรถซีดานขนาดกลางขึ้นไป เพราะคงไม่มีใครบ้าเอารถเล็ก ๆ หรือรถที่มีซีซีต่ำกว่า 1600 มาทำรถใช้เอทานอลขนาดนี้หรอกนะ


ราคารถพวกนี้ปัจจุบัน เอาแค่รถรุ่นอันกะติ๊ดจะจบที่ราคา 8-9 แสนบาท (เกียร์ออโต ) ทีนี้พอมาเป็น E85 ราคามันจะเกิน 1 ล้านบาท แต่จะเกินไปมากน้อยขนาดไหนขึ้นอยุ่กับบริษัทรถเขาจะกดราคาลงได้แค่ไหน คุณจะซื้อรถซีดานธรรมดาคันนึงจ่ายล้านกว่าบาท
ความเป็นจริงคุณจ่ายไหวไหมครับ คุณไม่เสียดายเงินหรือครับ

นอกจากนี้รถ E85 จากเดิมใช้น้ำมัน 95 มันกินน้ำมัน 12 m/l พอมาใช้ E85 มันจะเหลือการกินน้ำมันประมาณ 8 km/l ไม่ทราบว่ารับไหวไหมครับ
เพราะเหตุนี้เขาต้องกดราคาเชื้อเพลิง E85 ให้ถูกกว่ากันลิตรนึงต้องเกิน 10 กว่าบาทขึ้นไป ไม่งั้นเติมทีก็คงไม่คุ้ม




ในบราซิลเองมีรถพวกนี้อยู่มาก แต่คนที่ซื้อรถได้ก็ต้องรวยพอตัว ที่สำคัญรถ E85 แบบนี้มันไม่ได้พัมนาทันสมัยอะไรมากนักเพราะมันมีข้อจำกัดมากในด้านเทคโนโลยีเพราะการพัฒนารถต้องช้ากว่าภูมิภาคอื่น ๆ เรา ๆ ท่าน ๆ จะยอมหรือที่นานวันไปรถเชยกว่าต่างประเทศซะอีก ที่สำคัญบริษัทรถเขาใช้ไทยเป็นฐานส่งออกคงไม่มีใครอยากเอาด้วย






ค่ายรถฝรั่งอยากได้ E85 เพราะอย่างสวีดิชแอสเซมบลีย์มันทำแค่นำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบในประเทศไทยเท่านั้น โรงงานไม่มีอะไรเลย ถ้าได้ภาษีเท่ากับอีโคคาร์จึงจะกดราคาต่ำลงมาได้ รถอย่าง Volvo คนมีเงินจึงซื้อ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 61.90.149.126 พฤหัสบดี, 9/10/2551 เวลา : 21:53  IP : 61.90.149.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5850

คำตอบที่ 6
       อีโคคาร์


กว่าจะเกิดได้ก็แท้งแล้วมาหลายหน เพราะเงื่อนไขมันเอื้อให้บริษัทใหญ่ ๆ ก็ดูเอาเถอะบอกว่ารถต้องผลิตให้ได้อย่างน้อยปีล่ะ 1 แสนคัน บริษัทไหนจะทำก็คิดหนักแถมด้วยข้อจำกัดมากมาย

รถอีโคคาร์ ขนาดเล็กมีไม่กี่ประเทศที่นิยมรถขนาดเล็กแบบนี้ มียุโรป ญี่ปุ่น แต่คนไทยจะรับอีโคคาร์ไหวหรือ เพราะนิสัยคนไทย
1. คนไทยจะนิยมรถเกียร์ออโต รถขนาดเล็ก 1100 ซีซีเกียร์ออโตคงลำบาก ถึงได้มาก็ไม่เหมาะกับตัว

2. ใครเคยใช้ city บอกว่ารถไม่เกาะถนนบ้าง นิสัยคนไทยเป็นประเภทนั้นแหละครับ คนตอบปัญรถยนตืบางท่านถึงกับตอบให้แบบผ่าซากเลย ว่าคุณต้องเปลี่ยนรถ นี่มันรถซิตี้คาร์

3. ใครเคยใช้ Opel corsa แล้วบอกว่าวิ่งเร็วแล้วมีเสียงดังเข้ามาในห้องโดยสารบ้าง
นิสัยคนไทยเป็นประเภทนั้นแหละครับ นี่มันไม่ใช่รถลีมูซีนนะ

4. ใครเคยดูราคารถแจ๊สตัว TOP เปรียบเทียบกับอัลติสบ้าง
ก็แบบนั้นแหละ เพราะโครงสร้างรถซีดานกับซิตี้คาร์แท้จริงแล้วต้นทุนไม่ต่างกันมาก แต่เขาได้สิทธิภาษีราคามันเลยถูก รถที่ไม่ได้เรื่องภาราคาก็ชนกันแบบนั้นแหละ

5.ใครเคยไปงานแสดงรถแล้วชอบไปเคาะรถบ้าง
บางยี่ห้อมันก็เคาะกันซะบุบ บางทีเปิดโปรงมาก็บอกว่าชนหมาทีเดียวคงยุบทั้งเครื่อง
ที่จริงมันก็แบบนั้นแหละ รับได้หรือเปล่า



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 61.90.149.126 พฤหัสบดี, 9/10/2551 เวลา : 22:04  IP : 61.90.149.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5851

คำตอบที่ 7
       ดีเซลคอมมอนเรล

ตอนนี้หลาย ๆ ประเทศเขาเปลี่ยนกันไปหมดแล้วรวมถึงไทยด้วยเพราะโลกมันพัฒนามากขึ้นจะไปหยุดอยู่กับที่เดิม ๆ ไม่ได้ ถามถึงความประหยัดมันก็ประหยัดแต่ผมว่าสู้เครื่องดเม ๆ อย่าง 4JA1 ไม่ได้แต่วิ่งกว่ากันมาก

ทีนี้ผมเห็นคนทั่วไปเปรียบเทียบกันเหลือเกิน ดีเซล ทนกว่า จุกจิกน้อยกว่า ค่าซ่อมถูกกว่า พวกนี้เอามาจากตำราเล่มเดิม ๆแต่งกันมาเมื่อปี 2520 ผมก็อ่านเพราะผมก็เรียนมา
ถ้าเป็นในเวปนี้ผมเปรียบเทียบราคาให้ดูกันหลายครั้งแล้ว แต่ถ้าเป็นเวปอื่นไม่อยากไปยุ่งด้วยเถียงกันไม่จบ


ไม่ใช่เครื่องดีเซลไม่ดี ดีครับมันดีพัฒนาทันสมัยกว่าแต่ก่อนมากเทคโนโลยีไปไกล ในยุโรปก็นิยมใช้มากขึ้นเรื่อยๆ สัดส่วนนี่ดีเซล 56 เบนซิน 44 เลยมั้งบางประเทศ บางประเทศก็เบนซินมากว่านิดหน่อย
แต่ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่เชียร์แบบใดแบบนึง แต่ส่วนตัวผมน่ะไม่ใช้ดีเซลอยู่แล้ว

ทีนี้เครื่องยนต์มันมีจุดดีจุดด้อยต่างกัน ไม่งั้นเครื่องเบนซินขายไม่ได้ แต่ถ้าดีเซลทุเรศเหลือหลายก็คงส่งไปยุโรปไม่ได้เช่นกัน อันนี้ไม่ได้พูดถึงเมืองไทยนะ ว่างๆ ใครมีโอกาสลองไปนับดูรถเทรลเลอร์ที่เขาส่งออกไปแหลมฉบังรอขึ้นเรือไปต่างประเทศว่า รถวีโก้ที่เขาส่งขายต่างประเทศมีเบนซินกี่คัน ดีเซลกี่คัน
ผมนับดูบางคัน เบนซินหมดเลยทั้งเทรลเลอร์ บางคันมีดีเซลแจมมา 2-3 คัน
แต่ถ้าเทรลเลอร์กันไหนมีแต่ปิคอัพดีเซล ผมเดาไว้ก่อนคันนี้มันวิ่งส่งขายในประเทศแน่นอน





บางคนใช้ดีเซลแต่ฝันติดแก๊ส อ้าวแล้วตอนซื้อทำไมมันไม่ซื้อเครื่องดีเซล มันบอกว่าชอบดีเซล ชอบดีเซลแต่อยากติดแก๊ส 100% ฟังดูมันขัดขัด ไม๊ พอติดแก๊สแล้วมันก้เหลือแต่วิญญาณดีเซลแต่ร่างกายเป็นเบนซินนึกในใจแล้วมันไปติดทำอะไร
Toyota เขาส่งให้สถาบันแห่งนึงวิจัยพลังงานไบโอ เพื่อใช้กับดีเซลเหตุที่เขาต้องทำเพราะฐานการผลิตปิคอัพดีเซลเขาอยู่ที่นี่จึงต้องทำ แต่พวกรอก็รออย่างฝันเพราะมีความหวังเดียว แต่นานแค่ไหนก็ตอบไม่ได้นะกว่าจะออกมาก้คงใช้เวลาประมาณ 5-6 ปีมั้ง เมื่อนั้นขายรถไปแล้วล่ะมั้ง


หลาย ๆคนไปเชื่อดีเซลประหยัดแต่พอมาวิ่งจริงสู้นำมันไม่ไหว คือประหยัดยังไงเอามาทำธุริกจมันขาดทุนก็ต้องหยุดครับเพราะมันไม่คุ้มทุนที่เราจะเสียไปบางคนวิ่งรถ 5000 โล เดือนล่ะ 15000 บาท เห็นแล้วเสียดายเงินแทน



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 61.90.149.126 พฤหัสบดี, 9/10/2551 เวลา : 22:22  IP : 61.90.149.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5852

คำตอบที่ 8
       รถติดแก๊สจากโรงงาน

หลาย ๆ คนฝันกันมานาน ป่านนี้คงไม่เลิกฝันหรอก รถติดแก๊สจากโรงงานมียี่ห้อเดียวในประเทศคือ BENZ NGT นอกนั้นเขาติดภายนอกทั้งนั้นแหละกว่าอัลติสใหม่จะออกสำหรับติดแก๊สก็ราวสิ้นปี คนที่รอไม่รู้รอกันนานแค่ไหนผ่อนรถคันเดิมหมดจะได้ซื้อรถที่ติดแก๊สออกจากโรงงานหรือเปล่า บางทีการรอไม่ได้ช่วยอะไรมันดีขึ้น

ทุกบริษัทรถไม่ว่า มิตซู โตต้าเขาวิจัยเรื่องนี้เฉพาะในประเทศไทยมากว่า 4-5 ปีมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเริ่มทำ ตอนนี้มิตซูเขาออกรถติดแก๊ส เอ็นจีวีมาแล้วยี่ห้อแก๊สไปเปิดดูเอง เขาทดลองกันมานานเฉพาะเรื่องนี้กว่าจะมาจ้างร้านข้างนอกติดให้ตรงนี้

แต่ไม่มีบริษัทใดเอาขึ้นไลน์ประกอบในโรงงานหรอก เพราะ.............

ทีนี้มาเป็นปิคอัพ อย่างเชฟ ราคาติดแก๊สปาเข้าไปเกือบ 2 แสนต่อคัน คุ้มไหมครับคนที่รอ และยังคงรอต่อไป กับการประหยัดขึ้นโลละ 1 บาท ต้องวิ่ง 2 แสนโลจึงจะคุ้ม ตอนนั้ขายรถไปยัง

เรื่องราวพวกนี้มีมากมาย................................วันนี้จบแค่นี้กอ่นขอกลับบ้านแล้วครับ มีอะไรสงสัยต่อกันวันหลัง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 61.90.149.126 พฤหัสบดี, 9/10/2551 เวลา : 22:31  IP : 61.90.149.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5853

คำตอบที่ 9
       ที่ผมออกมาพูดแบบนี้เสมือนการติดเบรกความฝันของทุกท่าน แต่ที่จริงแล้วผมอยากให้ทุกคนลองตื่นกลับมามองที่ความจริงปัจจุบันว่าตอนนี้เรากำลังใช้รถอะไรอยู่ เรามีวิธีอะไรที่จะประหยัดมันได้เอาเท่านั้นก็พอ เพราะรถพลังงานทางเลือกที่กล่าวมานั้นมันเป็นเรื่องของอนาคตซึ่งไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ ที่มาแล้วราคาผลิตในปัจจุบันนั้นมันเกินกว่าคนทั่วๆ ไปจะซื้อมาใช้เพื่อหวังแค่การประหยัดน้ำมัน
รถทั่ว ๆ ไปที่เราใช้กันทุกวันนี้ภาระค่าใช้จ่ายมากทุกรุ่น กว่าจะถึงเวลานั้นไม่รู้หมดเงินกับรถไปอีกเท่าไหร่


เอาเรื่องการแก้ปัญหาปัจจุบันแล้วค่อยฝันถึงอนาคต



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 61.90.149.126 ศุกร์, 10/10/2551 เวลา : 11:40  IP : 61.90.149.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5860

คำตอบที่ 10
       มีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทแห่งนึงพูดเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า โปรดักส์เรามีพร้อมแต่ตลาดพร้อมหรือยัง
ซึ่งความหมายของเขามันบ่งบอกได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น
1. กำลังซื้อของลูกค้าทั่วไป
2.ช่างเซอร์วิสทั่วๆ ไป
3.ตลาดทั่ว ๆ ไปยอมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้หรือยัง




เคยมีการถามกันว่าวีโก้บ้านเราทำไมไม่มีอ๊อพชั่นแบบยุโรปมาให้ ทำไมประหยัดกันจัง
เอาเป็นว่าถ้าราคาขายปิคอัพบ้านเรา หมายถึงวีโก้ ราคาขายเท่ากับอังกฤษรุ่น Top เกียร์ออโตดีเซล 3.0 ราคา 1.4 ล้านบาท [ราคาขายเท่าในอังกฤษและสหราชอาณาจักร] เรื่องนี้คงกลายเป็นเรื่องด่ากันสนั่นเวปว่าขายรถแพงแน่นอน ของจริงในเมืองไทยยังไม่มีใครกล้าซื้อปิคอัพราคา ล้านกว่าบาท เพราะตลาดมันไม่ถึงเวลาที่จะยอมรับตรงจุดนี้ได้



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก Auto 61.90.149.126 ศุกร์, 10/10/2551 เวลา : 13:40  IP : 61.90.149.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5862

คำตอบที่ 11
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก j cha 125.25.101.209 เสาร์, 11/10/2551 เวลา : 09:13  IP : 125.25.101.209   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 5871

คำตอบที่ 12
       เดินเอา เหยื่อก็ซื้อไป รู้ว่าถูกตีกรอบให้บริโภคอยู่แล้ว สุดท้ายอยู่ที่ตัดสินใจ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก sss 124.157.189.180 พฤหัสบดี, 24/9/2552 เวลา : 13:24  IP : 124.157.189.180   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 15498

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,19 เมษายน 2567 (Online 3615 คน)