จาก Auto
IP:61.90.149.126
อังคารที่ , 1/7/2551
เวลา : 18:11
อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
 แจ้งลบ
 ส่งหาเพื่อน
|
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : "ปิยสวัสดิ์" จี้รัฐเร่งลอยตัวราคาแอลพีจี หวั่นปริมาณใช้พุ่ง เพิ่มภาระการนำเข้าก๊าซหุงต้มจากต่างประเทศ ชี้หากใช้นโยบายตรึงราคาต่อไปก่อให้เกิดปัญหารุนแรงมากขึ้น ด้านบางจากประเมินราคาน้ำมันในประเทศ มีโอกาสแตะ 58-59 บาทต่อลิตร "สุรพงษ์" ชี้ราคาน้ำมันผันผวนลดลงหลังแรงเก็งกำไรตลาดน้ำมันลดลง ล่าสุดน้ำมันดิบโลกพุ่ง 141 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานที่ปรึกษาของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง "Energy Crisis : Thailand Economic Scenario" หัวข้อ วิกฤติราคาน้ำมัน กับทิศทางเศรษฐกิจไทย จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วานนี้ (27 มิ.ย.) ว่า ราคาน้ำมันจะทรงตัวในระดับสูงตลอดไป เนื่องจากกำลังการผลิตและความต้องการที่ตึงตัว และข้อจำกัดของกำลังการกลั่น ขณะเดียวกันความต้องการใช้ก็ยังไม่ชะลอตัวเท่าที่ควร ที่สำคัญ คือท่าทีของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ได้ออกมาระบุว่าราคาน้ำมันจะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 150 - 170 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"กลุ่มที่มีผลต่อราคาน้ำมันตลาดโลก คือ กลุ่มโอเปค เพราะมีอำนาจที่เพิ่มหรือลดกำลังการผลิตน้ำมัน ขณะเดียวกันกลุ่มโอเปคก็ออกมาบอกว่าราคาน้ำมันดิบจะขึ้นไปถึง 150 - 170 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเร็วๆ นี้ นี้คือการเก็งกำไร ดังนั้นอย่าไปหลงประเด็นที่บอกว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมาจากกลุ่มกองทุนต่างๆ" ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าว
เตือนรัฐลอยตัวแอลพีจี-ลดอุดหนุน
ทั้งนี้การประกาศของกลุ่มโอเปค จึงเป็นไปได้สูงที่ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 150 - 170 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่คงไม่ถึง 200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดังนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการขณะนี้ คือ รัฐบาลต้องใช้มาตรการราคา หรือทำให้ราคาสะท้อนต้นทุนแท้จริง เพื่อให้การใช้มีประสิทธิภาพ และยกเลิกการอุดหนุนราคาพลังงานทั้งหมด โดยเฉพาะก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) และ ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) โดยแอลพีจี จะเห็นว่าอุดหนุนขนราคาต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ปัจจุบันราคาตึงอยู่ที่ 18.13 บาทต่อกก. ขณะที่ราคาแท้จริงอยู่ที่ 36 บาทต่อกก. ซึ่งการอุดหนุนดังกล่าว ส่งผลให้ราคาแอลพีจีต่ำกว่าราคาน้ำมันเตา จนทำให้มีการใช้แอลพีจีเพิ่มมากขึ้น ทั้งภาคอุตสาหกรรมและรถยนต์ ซึ่งหากปล่อยต่อไปปัญหาจะรุนแรงมากขึ้น
"รัฐบาลไม่ควรนำเข้าแอลพีจี เพราะราคาต่างประเทศสูงถึง 900 ดอลลาร์ต่อตัน แต่ต้องขายราคาถูกตรึงไว้ที่ 320 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งภาระเหล่านี้จะเพิ่มสูงขึ้นหากยังปล่อยให้นำเข้า และยังสนับสนุนการใช้แอลพีจีเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงทำให้แอลพีจีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยแนวทางที่ถูกต้องควรดำเนินการในภาวะที่แอลพีจีขาดแคลน" ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าว
แนะปรับขึ้นแอลพีจีเป็นราคาเดียว
ส่วนกรณีที่กระทรวงพลังงานจะปรับราคาแอลพีจี 2 ราคาเดือนก.ค. นี้ ดร.ปิยสวัสดิ์ เห็นว่า ควรปรับขึ้นเป็นราคาเดียว เพราะการทำ 2 ราคาจะควบคุมไม่ได้ เหมือนที่เคยทำให้ 2 ราคามาแล้วแต่ต้องยกเลิกไป เพราะไม่สามารถดูแลได้ นอกจากนี้ปัญหาเตรียมรับมืออีกข้อ คือ ค่าไฟฟ้าต้องสูงขึ้นมากภายในไม่เกิน 30 ปีหลังจากนี้ เพราะสัญญาซื้อก๊าซธรรมชาติจะหมดอายุเร็วๆ นี้ หากจะทำสัญญาใหม่ ราคาจัดซื้อใหม่จะสูงขึ้น รวมถึงก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลพีจี) ที่จะต้องนำเข้า และ จัดหาราคาสูงเช่นกัน ดังนั้นอาคารและโรงงานต่างๆ ต้องวางแนวทาง เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้า รับมือค่าไฟฟ้าสูงขึ้น
ส่วนการรับมือกับราคาพลังงานที่สูงขึ้นนั้น รัฐบาลต้องออกมาตรการบังคับ เช่น เก็บเงินค่านำรถยนต์ส่วนตัวเข้าในบางพื้นที่ ส่วนภาคประชาชนต้องปรับพฤติกรรมการใช้พลังงาน หันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน นอกจากนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องมีนโยบายชัดเจนเกี่ยวกับค่าเงินบาท เพราะเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 3-4% ดังนั้นภาครัฐต้องมองผลประโยชน์ของเศรษฐกิจโดยรวม
"การใช้เอ็นจีวี แก็สโซฮอล์ อี 10 อี 20 หรือ อี 85 อาจไม่พอ ต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงเข้ามาใช้ทั้งหมด เช่น รถไฮบริด"
คาดราคาน้ำมันทะยาน 58-59 บาทต่อลิตร
ด้านดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกมีโอกาสแตะระดับ 200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะปัจจุบันการให้ค่าพรีเมียมสำหรับการซื้อขายน้ำมันที่ 200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลในประเทศจะสูงถึง 58 -59 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตามระยะสั้นนี้ ราคาน้ำมันมีโอกาสไปถึง 150 -170 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแน่นอน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศปรับขึ้นอีก 2 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ 44 - 45 บาทต่อลิตร
ดังนั้นมาตรการพลังงานทดแทน จึงจำเป็นต้องดำเนินการ โดยเฉพาะการใช้เอทานอลผสมเบนซิน ที่ 85 % หรือ อี 85 ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้ประชาชน แต่ต้องลงทุนอีกมาก โดยเฉพาะตู้จ่ายในสถานีบริการน้ำมัน ลงทุน 1-2 ล้านบาท ดังนั้นค่าการตลาด อี 85 จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 บาทต่อลิตร เป็น 2.50 บาทต่อลิตร จึงจะคุ้มการลงทุน ส่วนภาคประชาชนนั้น ต้องสร้างแรงจูงใจให้ราคาต่ำกว่าเบนซินไม่น้อยกว่า 12 บาทต่อลิตรและลดภาษีสรรพสามิตอี 85 เหลือ 50 สตางค์ต่อลิตร
พล.ท.พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงราคาแอลพีจีในเดือนก.ค.ตามแผนเดิม โดยจะแยกเป็น 2 ส่วนคือ ภาคครัวเรือนและ ขนส่ง-อุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องพิจารณาปัจจัยประกอบหลายด้าน พร้อมเร่งหาพัฒนาเอ็นจีวีให้พร้อมสำหรับการเป็นพลังงานทางเลือก
สุรพงษ์ชี้แรงเก็งกำไรน้ำมันลดลง
นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาในการสัมมนาหัวข้อ Energy Crisis :Thailand Economic Scenario ว่า มีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันจะมีความผันผวนลดลง เนื่องจาก หลายฝ่ายเริ่มหันมาให้ความสำคัญและเตรียมเข้าไปจัดการกับปัญหาการเก็งกำไรราคาน้ำมันมากขึ้น ทั้งนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่แท้จริง เมื่อตัดเรื่องการเก็งกำไรออกไปแล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 50-65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เขากล่าวด้วยว่า หลังจากที่เพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันมาก ทำให้เริ่มมีกระบวนการเริ่มปรับเปลี่ยน ทั้งเรื่องของพฤติกรรมการใช้และการหาพลังงานทดแทน ฉะนั้น หากมองไปในอนาคต การคาดการณ์ว่า น้ำมันจะขึ้นไปถึง 150-200 ดอลลาร์อาจจะใช่หรือไม่ใช่ เพราะโดยสัญชาตญาณของนักเก็งกำไร แน่นอนว่า ถ้าเห็นทิศทางความต้องการใช้น้ำมันมาก จะยิ่งเก็งกำไรต่อเนื่อง แต่ถ้าเห็นว่า ใช้พลังงานลดลง นักเก็งกำไรก็ต้องหวั่นไหวว่า การเก็งกำไรในอนาคตข้างหน้า จะได้ผลตอบแทนที่ดีหรือไม่
"วันนี้ข้อมูลที่บอกว่า โกลแมน แซคส์ คิดว่า ราคาน้ำมันจะขึ้นไปถึง 200 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งก็น่าแปลกที่คนที่พูดนี้ ไม่ได้อยู่ในแวดวงน้ำมัน แต่อยู่ในแวดวงการเงิน ซึ่งก็จะเห็นชัดเจนว่า กระบวนการเรื่องของน้ำมัน ไม่ใช่ปัจจัยเดี่ยวๆ หากมีความหวั่นไหวว่า อนาคตน้ำมันไม่ได้ เป็นที่ต้องการมากเหมือนอดีต ปัจจัยเรื่องการเก็งกำไรอาจมีผลน้อยลง ผมจึงตั้งเป็นสมมติฐานว่า การขึ้นราคาน้ำมัน อาจจะไม่ได้ขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือน 2-3 เดือนที่ผ่านมา" เขากล่าว
ย้ำรัฐเดินหน้าพลังงานทดแทน
เขากล่าวด้วยว่า ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลจะเดินหน้าส่งเสริมมาตรการประหยัดพลังงาน เช่น สนับสนุนให้การเข้าถึงอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และ การใช้พลังงานทดแทน ส่วนการดูแลอัตราเงินเฟ้อนั้น หลายประเทศใช้ทั้งนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย และนโยบายการคลัง แต่ในส่วนของไทยนั้น จะต้องพิจารณาข้อมูลและวิเคราะห์ปัญหาให้ดี ก่อนที่จะตัดสินใจ
ทั้งนี้ ขณะนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งรวมถึง กลุ่มคนชรา และยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเส้นความยากจนว่า ควรอยู่ที่เท่าใด และจะพยายามไม่ทำให้ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้นหรือที่เรียกว่า wage price spiral
น้ำมันดิบโลกทะลุ 141 ดอลล์
เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.) ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ส่งมอบเดือนสิงหาคม ที่ตลาดสิงคโปร์ทำสถิติสูงสุดรอบใหม่ ทะยานขึ้นไปแตะ 141.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนปรับลงมาในช่วงบ่ายที่ 141.10 ดอลลาร์ เพิ่ม 1.46 ดอลลาร์ โดยการทำสถิติใหม่ของตลาดเอเชียครั้งนี้ มีขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี (26 มิ.ย.) พุ่งขึ้นไปแตะ 140.39 ดอลลาร์ ก่อนลดลงมาปิดตลาดที่ 139.64 ดอลลาร์ เพิ่ม 5.09 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการทำสถิติใหม่ทั้งในแง่ราคาปิดตลาด และราคาระหว่างวัน
ขณะที่นายชาคิบ เคลิล ประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ให้สัมภาษณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบโลกอาจขึ้นไปแตะ 170 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไม่กี่เดือนข้างหน้า
"ผมคาดว่าราคาน้ำมันอาจเคลื่อนไหวในช่วง 150-170 ดอลลาร์ในฤดูร้อนนี้ และอาจจะลดลงในช่วงก่อนสิ้นปี"
เทรดเดอร์ยังจับตากรณีที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ลงมติผ่านร่างกฎหมายให้คณะกรรมาธิการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (ซีเอสทีซี) ใช้อำนาจที่มีทันที เพื่อจำกัดการเก็งกำไรที่มากเกินไปในตลาดสัญญาล่วงหน้าพลังงาน
|
ขอบคุณครับ 
กับข่าวสารที่มีประโยชน์ 
