คำตอบที่ 1
       เกียร์ออโตน่าเลือกกว่าครับ
คนที่ซื้อ 4 ประตู เกียร์ธรรมดาไปอยากจะได้เป็นเกียร์ออโตเกือบทั้งนั้น
การใช้งานจริง ๆ เดี๋ยวนี้คนขับรถเกียรออโตกันมากว่าครับ สะดวกสบายขับง่ายกว่ากันเยอะ

ถ้าติดแก๊สเรื่องเกียร์ออโตไม่มีปัญหาครับ
เพราะ 2.7 ที่ออกมารุ่นแรก ๆ ก็เกียร์ออโตกันทุกรุ่น
พอมาตอนหลังนี่แหละที่ลูกค้าเรียกร้องอยากได้เกียร์ธรรมดาเพิ่มขึ้น
แต่พอซื้อเกียร์ธรรมดาไปแล้วขอกลับเป็นออโตดีกว่า
ทุกวันนี้มีแต่คนหาอยากแลกเปลี่ยนเป็นเกียร์ออโตครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นรถเก๋งส่วนใหญ่ 90% เป็นออโตทั้งนั้นครับสำหรับรถใหม่ยกเว้นรถแท๊กซี่ส่วนใหญ่จึงเป็นเกียร์ธรรมดา



การบำรุงรักษาไม่มีอะไรมากเลย
แค่ตรวจเช็คระดับน้ำมันเกียร์เท่านั้น ถ้าถึงกำหนดเมื่อไหร่ก็เปลี่ยน ราคาน้ำมันเกียร์ T-IV ของโตต้าแท้ 4 ลิตร 1250 บาท เปลี่ยนทุก 40,000 กิโลเมตร ถ้าใช้งานปกติไม่ลากรอบหรือเชนจ์เกียร์บ่อย เกียร์พวกนี้จะทนทานมากอายุยาวนานมากทีเดียวเพราะเป็นเกียร์ Heavy duty ใช้สำหรับงานหนักเฉพาะจะทนทานกว่าพวกรถเก๋งครับอยู่ได้หลายแสนกิโลเมตร ขนาดรถเก๋งยังใช้กันเกิน 4 แสนโลถึงจะเปลี่ยนคลัทซ์ ถ้าคลัทซ์หมดก็ยกออกมาซ่อมครั้งนึงเปลี่ยนคลัทว์ก็ราว 28000 บาท กว่าจะซ่อมก็เลย 3 แสนโลไปแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       เยี่ยมไปเลยคับ แล้วติด GAS 2 ถังใต้ท้อง วิ่งได้กี่กมจนหมดถัง แล้วจะมีปัญหาเวลากลับมาใช้นำมันหรือไม่ เวลาGAS หมด หรือวิ่งนำมันอย่างเดี่ยว พอดีเคยได้ยินว่า รถใช้ GAS เวลากลับมาวิ่งน้ำมัน มันจะไม่เหมื่อนเดิม พอดีป็นรถคันแรก รบกวนด้วยคับ
แล้วGAS วิ่งได้กม/ลิตร แล้ว เฉลี่ยโลละเท่าไร ในเมือง ตจว.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       แล้วทำไมต้องวิ่งจนแก๊สหมดถังด้วยล่ะครับ
คือใช้งานตอนเป็นน้ำมันยังไง
ช่วงใช้แกสก็เป็นแบบนั้น ถ้าแก็สใกล้หมดก็หาที่เติม
ไม่ใช่วิ่งไปจนแก๊สหมดแล้วเติม
ตอนคุณใช้น้ำมัน คุณต้องวิ่งจนน้ำมันหมดแล้วค่อยหาที่เติมหรือเปล่าล่ะ
ตอนแก๊สใกล้หมดถังอาจมีปัญหาเรื่องแรงดันได้ครับ แต่โดยมาก็ปกติไม่มีปัญหา
อัตราการกินแก๊ส อยู่ 1.3-1.8 บาท ส่วนใหญ่
หรือประมาณ 7 กม/ลิตร อาจน้อยกว่านี้ถ้าเหยียบกันเร็ว ๆ จะเหลือ 6.5-6.8 ครับ

 แก้ไขเมื่อ : 8/4/2553 21:59:59

 แก้ไขเมื่อ : 8/4/2553 22:01:15

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       แล้วมันมีมั๊ยคับที่ติดGASมาเลยกับโรงงาน แบบมิซซู

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ตามความเข้าใจของผมนะครับ มิตซูก็ไม่ได้ติดออกมาจากสายพานการผลิต ลองไปดูSCGแถวๆอ่อนนุช มิตซูทั้งแลนเซอร์ ทั้งไทรทัน2.4 จอดรอติดแก๊สเพียบ เต็มลานจอดเลย เพียงแต่ทางบริษัทเค้ารับประกัน3ปีหรือ1แสนโลให้ก็เท่านั้น

ระหว่างเกียร์ออโต้ กับ ธรรมดา ผมเลือกเกียร์ออโต้ครับ ทุกวันนี้ก็ใช้2.7เกียร์ออโต้อยู่ทั้ง2คัน
ถึงแม้อยากจะลองขับ2.7เกียร์ธรรมดา ได้ข่าวว่าจี๊ดจ๊าดน่าดู แต่ถ้าให้ใช้ในชีวิตประจำวันยังไงก็ขอเลือกเกียร์ออโต้ ถึงแม้ความแรงจะไม่จี๊ดจ๊าดเท่าเกียร์ธรรมดา แต่ก็เหลือเฟือในการใช้งานทั่วๆไปที่ไม่ได้เอาไปแข่งกับใคร

การบำรุงรักษา ผมว่าเกียร์ออโต้เดี๋ยวนี้ก็อึดเป็นแรดแล้วนะครับ ถ้าใช้งานตามปกติ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ สำหรับผมเปลี่ยนที่8หมื่นโล(ตามคู่มือ) แค่นี้ก็ใช้จนลืมแล้วหละครับ เพราะกว่าจะถึงระยะเวลาเปลี่ยนคลัทช์ ผมคงขายรถไปไหนต่อไหนแล้วหละ ตั้งแต่ใช้รถมา ยังไม่เคยใช้ถึง1.5แสนโลซักคันเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       แล้วแต่ชอบนะครับ เพราะมันคนละลักษณะการใช้งานครับ
4 ประตู E : 4 ประตู ไม่มี airbag ไม่มี ABS กุญแจธรรมดา ไม่มีไฟตัดหมอก
smart cab G : เกียร์auto มี airbag abs กุญแจ Immobilizer ไฟตัดหมอก

ใจจริงอยากได้ 4 ประตูรุ่น G เกียร์ auto มากแต่ toyota ไม่ทำ

ผมชอบ ABS นะครับเพราะผมว่ารถกระบะอย่างเราจำเป็นในท้องถนน เพราะถ้าใช้ไม่มี abs อาจจะท้ายปัดได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       เมื่อก่อน TMT ก็ทำ 4 ประตูตัวท๊อปออกมาเลยก็คือรุ่นสูงสุด 2.7 vvti 4 ประตู อ๊อพชั่น G และ 4wd
ตั้งราคาขายตอนแรก 789,000 บาท ถูกกว่ารุ่นท๊อปสุดของเครื่องดีเซล 1 แสนบาท
แต่ว่ารถรุ่นนี้ขายไม่ค่อยดีนัก
ลูกค้าส่วนใหญ่มองว่าเว่อร์ไปอยากได้แค่ 4 ประตูเกียร์ธรรมดา
อ๊อพชั่นไม่ต้องมากนัก แค่ ซทล อวทม. ก็เพียงพอ


แต่เมื่อรุ่น 4 ประตูตัว E ออกมาจริง ๆ ปรากฎว่าการใช้งานจริง ๆ ของลูกค้ากลุ่มนี้เหมือนขาดอะไรไปหลายอย่าง
เป็นต้นว่า
1. เกียร์ธรรมดา ถึงแม้รถจะแรงขึ้นนิด ๆ แต่การใช้งานจริงยังไงคนที่ซื้อไปก็คงต้องกลับมาคิดกันใหม่ ว่ารถคันต่อไปคงต้องซื้อเกียร์ออโต เพราะนี่คือรถที่เราต้องใช้งานจริง ๆ ทุกวัน การขับขี่ที่ต้องทำทุกวันเลือกเกียร์ออโตนั่นแหละเหมาะสมกับการใช้งาน

2. ABS เมื่อก่อนหลาย ๆ คนที่เคยขับปิคอัพดีเซลยุคเก่า ๆ คิดว่าไม่จำเป็น แต่ปัจจุบันถ้าเลือกได้ขอเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

3. AIRBAG ถ้ามีแล้วไม่ได้ใช้ยังไงก็ดีกว่าไม่มีแน่นอน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       -ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแสดงความคิด ตอนนี้โน้มไปทาง 2ประตู ตัวG เกียร์ AUTO แล้วหละคับ
ขอบคุณอีกที.............555

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ถ้าไม่ติดขัดเรื่องจำนวนผู้โดยสาร (ซึ่งน่าจะใช่)
เชียร์เกียร์ Auto ครับ ทีเดียวจบ

แต่ผมก็ขับตัวเกียร์ธรรมดาอยู่ อิๆๆ กดเป็นมาเหมือนกัน

ผมสังเกตว่า เกียร์ 4 กับ 5 มันทดชิดเกินไป ต่างกันแค่ 0.162 (1.000 กับ 0.838)
แต่ถ้าเป็นเกียร์ Auto เกียร์สุดท้ายมันทด 0.753 ซึ่งไม่แปลก ถ้ามันจะกินน้ำมันน้อยกว่า

ถ้าได้เปลี่ยนเฟืองแต่งเกียร์ 5 น่าจะแจ่มกว่านี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       จาก Aod SRT
จริงๆ เรื่องเกียร์ 5 ธรรมดา กับ เกียร์ 4 ออโต้ หากมองจริงๆ เกียร์ออโต้รอบต้องต่ำกว่าในความเร็วเท่ากัน และกินน้ำมันน้อยกว่าด้วย
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เกียร์ธรรมดายังไงก็ย่อมกินน้ำมันน้อยกว่า อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายอย่างด้วย เช่น
-การสูญเสียกำลังในระบบมีมากกว่า เช่น มีการ Slip ใน Torqe Convertor ในจังหวะออกตัว Lock up ยังไม่ทำงาน
-ดูที่เกียร์ 1 ด้วยครับ อัตราทด เกียร์ 1 ใน เกียร์ออโต้จะมี อัตราทดใกล้ๆ เกียร์ 2 ในเกียร์ธรรมดา
และอื่นๆ อีก หลายข้อที่เกียร์ออโต้จะกินน้ำมันมากกว่า

ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า หาไปทำเกียร์ 5 ให้อัตราทดต่ำกว่าเดิม อาจจะดีในเรื่องเดินทางไกล ความเร็วคงที่ อาจจะทำให้กินน้ำมันน้อยลง แต่ในทางกลับกัน top speed และอัตราเร่งอาจจะหายได้ด้วย ต้องชั่งใจดูครับ ว่าจะเอาด้านไหน

แสดงความคิดเห็นย่อย