คำตอบที่ 45
2 อาทิตย์ก่อนนี้ขับรถ Hilux 2.7 4wd ไปชนท้าย Vigo รุ่นตัวเตี้ยอีกคันนึง อาการคือผมเบรคไม่อยู่เลยไปชนท้ายเขาผิดถูกไม่สำคัญ
ยังไงผมก็ผิดเพราะชนกับคู่กรณี ปัญหาเดิม ๆ คือ ของประกันภัยไม่ว่าที่ไหน คิวซ่อมรถของอู่เต็มมาก อู่เขียวออโต้การาจในซอยแบริ่ง สมุทรปราการ ไม่รับรถซ่อมเพราะงานเยอะมากกว่าจะได้ซ่อมก็เดือนกรกฎาคม ถ้าจะซ่อมคือรอไป 2 เดือน อู่อื่นก็ไม่ต่างอะไรกันคืองานเยอะ เกินกว่าจะรับไหว นโยบายรถคันแรกออกมาทำให้รถยนต์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจำนวน 1 ล้าน 2 แสนคัน ภายในปีเดียว รถมากจำนวนอุบัติเหตุก็มากตามไปด้วย แต่อู่ซ่อมรถไม่ได้เกิดมากให้สอดคล้องกับจำนวนของรถยนต์ที่มากขึ้นแบบผิดปกติ ทำให้งานล้นมือเกินกว่าจะรับกันไหว
รถผมชนท้ายเขา ความเสียหายคือกันชนหน้าที่เป็นพลาสติกมันแตกต้องเปลี่ยน ความเสียหายมีแค่นี้ เพราะนี่คือ Basic ของรถปัจจุบันที่กันชนหน้าเป้นพลาสติกมักจะแตกถ้าเกิดการชนกัน แต่.........หาอู่ซ่อมไม่ได้อู่ในเครือกรุงเทพประกันภัยเต็มหมดเกือบทุกอู่ในสมุทรปราการ โชคดีที่รถขับได้ไม่ได้เสียหายอะไรนอกจากนี้ เลยจอดไว้บ้านเพื่อรอซ่อม พยายามหาอู่โชคดีไปได้อู่ใกล้บ้านซ่อมเร็วที่สุด คือเกิดเหตุประมาณต้นเดือน พ.ค ได้อนุมัติซ่อมได้คิวเพื่อจะเข้าซ่อม วันที่ 22 พค. นี้เอง รอมาเกือบ 3 อาทิตย์เพื่อจะได้เข้าซ่อม นี่คือเร็วสุดแล้วในการเริ่มซ่อมรถ (ซ่อมจริงไม่กี่วัน อะไหล่เพียบ) เห็นแล้วเซ็งจิตในชีวิตปัจจุบันของคนมีรถ
เอาไปจอดรอที่อู่ก็ไม่ได้ด้วยนะเพราะไม่มีที่จอด ทุกอู่เป็นแบบนี้หมด รถขับได้ต้องไปจอดบ้าน อู่ไม่มีที่จอดเพราะเต็มจริง ๆ ยกเว้นรถซ่อมหนัก
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตั้งแต่ผมเดินทางไปทำเรื่องที่อู่นี้ ผมเจอรถ Mazda 2 สีขาวคันนึงเกิดอุบัติเหตุ ชนด้านหน้ามาไม่ถึงเครื่องยนต์แต่โดนถึงคานหน้า เปรียบเทียบแล้วโดนชนด้านหน้าจะมากกว่า Altis ของผม ALTIS ผมเป็นแค่นั้นศูนย์ตีค่าซ่อม 150,000 บาท ซ่อมจริง 3 อาทิตย์แต่รอซ่อมน่ะ 3 เดือน บัดนี้ยังจอดรออะไหล่และรอคิวซ่อมอยู่ที่ TBS แต่ Mazda 2 คันที่ผมเห็นที่อู่นี้เป็นมากกว่ากันแต่ก็ไม่น่าจะมากกมายกว่ากันเท่าไหร่และรถไม่ได้ทำอะไรเลยจอดอยู่แบบนั้นประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว ผมถามเจ้าของอู่ ว่าทำไมยังไม่ซ่อม เขาบอกว่ารถคันนี้ไม่มีประกันชั้น 1 เจ้าของทำปีแรกที่แถมมาและปีที่ 2 ไม่ได้ทำไว้อีก พอรถเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาไม่มีเงินซ่อมลังเลจะขายรถทิ้งทั้งคันแบบนี้เลยหรือไม่ " ค่าซ่อม เกือบ 3 แสนน่ะครับ " อู่ตีค่าซ่อมประมาณนี้จริง ๆ อู่เล็ก น่ะครับไม่ใช่ศูนย์
ผมถามเจ้าของอู่ว่า พี่รถ TOYOTA ถ้าเกิดอุบัติเหตุเวลาซ่อมมันดีกว่ายี่ห้ออื่นจริงหรือไม่ หมายถึงซ่อมถูก หาอะไหล่ง่าย
เจ้าของอู่บอกว่าจริง เวลาหาอะไหล่ซ่อมมันไม่ค่อยเดือดร้อนซึ่งกันและกัน คืออู่ก็หาง่าย เจ้าของรถก็ไม่เดือดร้อน อะไหล่มันเยอะ จะสบายใจ แต่ต้องเป็นรุ่นตลาดน่ะ หมายถึงรถ TOYOTA ก็จริงแต่ต้องเป็นรุ่นตลาดพิมพ์นิยมมากไม่ใช่รุ่นที่คนใช้น้อย ถึงจะหาง่าย
อย่าง Vigo ก็หาอะไหล่ง่าย อะไหล่มือ 2 ก็เพียบ เพราะรถเกิดอุบัติเหตุกันทุกวันขายซากรถกันทุกวัน (แล้วตรูจะได้อะไหล่มือ 2 มาป่าวเนี่ย)
--------------------------------------------------------------------------------------------------
รถถึงแม้อะไหลหาง่ายมีเพียบแต่สิ่งที่ต้องเจอคือเกิดอุบัติเหตุที หาที่ซ่อมรถยากมากเพราะอู่ในเครือประกันมีไม่พอ งานล้นมือ ทางที่ดีถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีกว่าอย่าเกิดอุบัติเหตุเลย เพราะทุกข์หนักก็คือเราไม่ว่าผิดหรือถูก รอซ่อมรถกันเป็นเดือน ๆ กว่าจะได้ซ่อม
แล้วยิ่งรถยี่ห้อที่ไม่ใช่รถตลาด หรือไปหารุ่นรถที่ไม่ใช่ตลาดนิยม ปวดหัวเวลาหาอะไหล่ซ่อมเพราะจอดนอนรอกันยาวววววววว เนื่องจากประกันมี 2 ระบบคือ
1. ประกันหาอะไหล่เอง สำหรับประกันที่เกรดรอง ๆ ลงมา อย่าง CP สินมั่นคง คุ้มภัย อื่น ๆ เขากว่าจะหาอะไหล่มาให้อู่ที่คุณไปซ่อมได้ บางรุ่นจอดรออะไหล่กันยาวจนสนิมกินรถ
2.อู่หาอะไหล่เอง กว่าอู่จะหาได้ก็เหนื่อยเหมือนกันสำหรับรถยี่ห้อแปลก ๆ ไม่ใช่รุ่นตลาด ใจเขาใจเราลองไปหาเองมั่ง ลองนึกดูเขาจะไปหาที่ไหน สั่งศูนย์ไม่ใช่ว่าจะมีสำหรับรถยี่ห้อประหลาดทั้งหลาย ถึงมีอะไหล่ก็รอนานมากบางทีต้องนำเข้าจากต่างประเทศแบบนั้นก็รอไปเหอะนานแสนนาน แพงก็แพง ถ้าแพงมากประกันก็ไม่อนุมัติต้องรอไปหาที่อื่นต่อไปที่ถูกกว่าเพราะประกันมันก็กดราคาค่าซ่อมอู่อีกคุมราคา
รถดีแต่ซ่อมแพง ซ่อมไม่ได้ รอนาน หาอะไหล่ยาก 
