WeekendHobby.com


บันทึกการเดินทาง ที่ทำให้ได้เลข ' 0 ' มา 1 ตัว

จาก เจ้าตัวเล็ก
เสาร์ที่ , 8/1/2548
เวลา : 09:05

อ่าน = 1606
202.47.247.146
       มาจั่วหัวเรื่องไว้ ............ หยั่งเสียงคนสนใจ แล้ววันนี้เย็นๆ จะมาเล่าเรื่องสู่กันอ่านเน่อ พ่อแม่ พี่ น้อง

อิอิ

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       รสชาติของการเดินทางอันหลากหลาย รวมอยู่ที่นี่

31 ธันวาคม 47
ในครั้งแรกก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปที่ไหนหรอก คร่ำครวญคิดอยู่ตั้งนาน Long weekend ทั้งทีไหนไหนก็ไหนไหนนะ มันห้ามใจไม่ได้จริงๆ ขอชีพจรลงล้อสักหน่อยเหอะ
การเดินทางครั้งแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะใช้เส้นทาง offroad หรอก ได้เลือกใช้เส้นทางหลัก (ตามแผนที่เลย) ตัดสินใจไป อ.แม่แจ่มก็แล้วกัน เพราะไม่ได้ไปนานแล้ว เมืองแม่แจ่มนี้เป็นยังไงกันหนา??? เคยไปครั้งยังเป็นเด็ก ก็จำไม่ได้แล้วสิ อีกถ้าบังเอิญเจอกับกลุ่มของลุงหิน (นายหิน) ก็จะเกาะขบวนไปด้วย แต่ถ้าไม่เจอก็ไม่เป็นไร นอนแม่แจ่มสักคืน แล้วมานอนอินทนนท์อีกคืน กลับวันอาทิตย์ พอดี เหมะเจาะ (คิดไว้อย่างนี้ แต่จริงๆ อย่างไหน ต้องติดตาม....)
12.00 น. ออกเดินทาง จาก อ.แม่ริม เชียงใหม่ (ออกจากบ้าน) แวะเบี้ยใบ้รายทางเติมน้ำมัน ตุนเสบียงเป็นระยะ เลือกใช้เส้นทาง ฮอด – แม่แจ่ม เพราะไม่อยากรถติดกลางดอยระหว่างเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ จากทางหลวงหมายเลข 108 เลย อช. ออบหลวงเลี้ยวขวา ไปแม่แจ่ม 40 กว่ากิโลเมตร สภาพเส้นทางเป็นทางลาดยาง 2 ช่องทาง รถวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 90-110 กม./ชม. สองข้างทางเป็นไร่แล้ง หลังฤดูเก็บเกี่ยว และดอยหัวโล้นทั้ง 2 ข้างทาง ป่าเขาถูกทำลายกลายเป็นไร่ข้าวโพดเสียหมด มองไปจนสุดลูกหูลูกตาไม่มีต้นไม้สีเขียวให้ชุ่มฉ่ำสายตาบ้างเลยน้อ....ไม่มีแหล่งชุมชน อากาศร้อนแล้งเสียจริงๆ ระหว่างการเดินทาง แทบจะไม่มีรถสวนทางเลย ‘เมืองแม่แจ่มนี่จะมีปั๊มพ์น้ำมันไหมหนอ?? สงสัยจัง’ ตั้งแต่ทางแยกขับรถต่อมาเรื่อยๆ ร่วม 30 กม. แล้ว ยังไม่เจอแหล่งชุมชนเลย .... เอ๊ะ ชักยังไงยังไง.... ขับรถต่อไปเรื่อยๆ จนเกือบถึงตัวอำเภอ อีกประมาณ 4 กม. เริ่มจะเห็นแหล่งชุมชน เห็นบ้านคนอยู่ประปราย ชักจะอุ่นใจขั้นมาบ้างเมื่อได้เห็นชาวแม่แจ่มใช้รถมอเตอร์ไซค์ ใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ (555 ยังไงซะที่นี่ก็ต้องมีปั๊มพ์น้ำมันหละ)
4 โมงครึ่ง เข้าสู่ตัว อ.แม่แจ่ม ระยะทาง 180 กม. จากเชียงใหม่ มีปั๊มพ์น้ำมัน 2 ปั๊มพ์ (จะปิดตอนเที่ยงคืนถึงตีห้าหรือไม่อันนี้ก็ไม่รู้นา) มีตลาด ให้อุ่นใจ (ยังไงก็ไม่อด) อิอิ 4 โมง ถ้าไปต่อเส้นทางข้างหน้าไม่รู้เป็นยังไง เอาเป็นว่าคืนนี้พักที่แม่แจ่ม หาที่พักที่นอนที่อบอุ่นดีกว่า ว่าแล้วก็หาที่พัก ได้ที่โรงแรม แพมวิว เป็นโรงแรมเล็กๆ 2 ชั้น 10 ห้อง เจ้าของเป็นลุงกับป้าใจดี และยังมีห้องพักว่างพอที่จะให้คนตัวเล็กๆ เข้าไปนอนได้อย่างสบายๆ ราคาที่พักแสนถูก ชั้นบนเป็นห้องแอร์ คืนละ 300 ชั้นล่าง พัดลม คืนละ 200 ห้องพักห้องน้ำสะอาด มีทีวีให้ดู ที่จอดรถปลอดภัย กาแฟยามเช้า สาย บ่าย หรือดึก มีพร้อม เลือกชงเอาเองได้เลย ลุงเจ้าของโรงแรมใจดียังบอกให้เอารถยนต์จอดไว้ ถ้าจะไปไหนใกล้ๆ ก็เอามอ’ไซค์ของแกไปก็ได้ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ กับที่พักก็คือ หมู่บ้านทอผ้าตีนจก ชาวบ้านได้รับสืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้าซิ่นตีนจกมาจากบรรพชน ตั้งแต่อดีต ในปัจจุบันเป็นสินค้า otop สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน ที่นี่มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม แทบจะทุกบ้านจะมีช่างทอผ้า มีกี่ทอผ้า และเราสามารถเดินชมตามบ้านแต่ละบ้านเลือกซื้อผ้าทอได้ ดูพี่ๆ ช่างทอผ้า ดูผ้างามๆ จนหนำใจแล้ว กลับเข้าที่พัก
แผนการเดินทางต่อพรุ่งนี้ บังเอิญสายตาสอดส่ายไปเห็นแผนที่ท่องเที่ยวแม่แจ่ม ก็เลยสนใจ จากเดิมตั้งใจไว้ว่า คืนที่ 2 จะไปนอนหนาวที่อินทนนท์ ก็เลยเปลี่ยนใจ
เส้นทางเดินทางวันรุ่งขึ้นจึงเลือกเป็น เส้นทางแม่นาจร --- เลี้ยวซ้ายข้ามน้ำแม่แจ่ม --- เลี้ยวขวา บ้านแม่นาจรน้อย---บ้านแม่หอย--- บ้านแม่ซา --- บ้านสบแม่รวม---- บ้านโป่งสะแยง----บ้านเสาแดง--- ปลายทางอยู่ที่หมู่บ้านวัดจันทร์ จะไปนอนหนาวบนป่าสนวัดจันทร์สักหน่อย.................... ตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าสภาพเส้นทางเป็นอย่างไร........... แล้วก็นอนหลับไป........................




hs5tff จาก เจ้าตัวเล็ก  61.19.145.71  อาทิตย์, 9/1/2548 เวลา : 13:09   


คำตอบที่ 2
       อ้าวแล้ว...เป็นอย่างไรต่อละ..ครับเจ้าตัวเล็ก....0000...



Mr.Hin จาก นายหิน กลุ่ม Outdoor & camping เชียงใหม่  203.155.194.32  จันทร์, 10/1/2548 เวลา : 08:52   


คำตอบที่ 3
       และแล้วเราก็ต้องคอย แล้วก็คอยเหมียนเดินนะ เจ้าตัวเล๊กอยากรู้อยากเห็นเผื่อว่าจะได้ไปเที่ยวบ้าง (พี่หินวันเสาร์ไปจัดงานวันเด็กที่ไหมมาครับเอามาให้ดูมากๆๆน่ะ)



จาก ลุง จั๋นจ้า  202.129.0.164  จันทร์, 10/1/2548 เวลา : 11:36   


คำตอบที่ 4
       เจ้าตัวเล็กแอบหนีลุงเรย์ไปเที่ยวคงไม่เดี่ยวแน่ๆ หากแน่จริงไปฉลองปี๋ใหม่และจัดงานวันเด็กที่บ้านน้ำเค็ม-ทะเลนอก-บางเนียงที่เขาหลักกะลุงซิ ลุงไปช่วยเหลือเขามา 2 เที่ยวแล้วนะแล้วจะเอารูปมาฝาก



จาก ลุงเรย์  61.90.83.48  จันทร์, 10/1/2548 เวลา : 17:54   


คำตอบที่ 5
       ขออภัย ขออภัย ไม่ได้เล่าเรื่องต่อ สัญญา สัญญา ว่าจะมาเล่าต่อให้จนจบ พร้อม .... แผนที่เส้นทางออฟโรด



hs5tff จาก เจ้าตัวเล็ก  203.150.217.111  อังคาร, 11/1/2548 เวลา : 16:33   


คำตอบที่ 6
       เอาหละ วิญญาณ “กวี” เริ่มเข้าสิงแล้ว

เรามาเล่าเรื่องราวกันต่อ

1 มกราคม 2548
เช้าแรกของปีใหม่
ตื่นนอนแต่สาย……… เปิดทีวีดูก็มีแต่ข่าวสึนามิ ……… หลังจากภารกิจส่วนตัวเสร็จสิ้น จึงเก็บข้าวของ ร่ำลาเจ้าของสถานที่ ออกจากที่พักประมาณ 9 โมง แวะตลาดตุนเสบียงพร้อมสรรพ

การเดินทางวันนี้ …จุดหมายปลายทาง ป่าสน หมู่บ้านวัดจันทร์ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

เริ่มออกเดินทางจากหน้า อ.แม่แจ่ม เส้นทางไม่ได้เปลี่ยวเฉกเช่นที่ผ่านมาเพราะยังมีหมู่บ้านและแหล่งชุมชนให้เห็น บนถนนลาดยาง ระยะทางไม่ได้ไกลจากตัว อ.แม่แจ่มมากนัก เส้นทางสะดวกสะบาย ไม่เกิน 30 กม. ก็ถึงยังหมู่บ้านแม่นาจรน้อย



hs5tff จาก เจ้าตัวเล็ก  203.150.217.111  อังคาร, 11/1/2548 เวลา : 17:07   


คำตอบที่ 7
       บนเส้นทางหมายเลข 1088 จากตัวอำเภอแม่แจ่ม ด้วยเส้นทางอันสะดวกสบาย ขับรถชมนกชมไม้ ชมไร่ ... ชมดอยหัวโล้นเรื่อยไป ระยะทางเพียง 26 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงหมู่บ้านแม่นาจร มีเส้นทางไป อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เลี้ยวซ้ายข้ามลำน้ำแม่แจ่ม บนถนนลาดยาง ขับรถขึ้น ลงดอยได้อย่างสบายๆ จนกระทั่งผ่านทางแยกซ้าย ไม่นานก็ถึงหมู่บ้านแม่นาจรน้อย


...ถนนลาดยางเริ่มขาดๆ หายๆ อาจเนื่องมาจากถูกน้ำกัดเซาะเมื่อครั้งหน้าฝน ข้างทางมีร่องรอยดินถล่มปิดอยู่เป็นระยะ สองด้านซ้าย - ขวา มีเพียงหน้าผา กับเหว อากาศอบอุ่นจนรู้สึกร้อน ขับต่อไป...ร่องรอยของถนนลาดยางไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เส้นทางข้างหน้าเป็นถนนลูกรังอัดแน่น รถขับเคื่อน 2 ล้อธรรมดา สามารถผ่านไปได้ ถนนที่ตัดผ่านดอยแล้วดอยเล่า ขึ้นดอยนี้ ลงดอยนู้น วกไปวนมา .....บนยอดดอยมองเห็นเส้นทางข้างหน้าอยู่ลิบๆ มองไปสุดลูกหูลูกตาเห็นแต่ไร่ร้างหลังฤดูการเก็บเกี่ยว บางแห่งเห็นควันไฟกรุ่นอยู่ 21 กิโลเมตร จากหมู่บ้านแม่นาจรน้อยมาถึงหมู่บ้านแม่หอย เส้นทางขึ้น-ลงดอย ความลาดชั้นมากขึ้นกว่าเดิม มีโค้งหักศอกอยู่เป็นระยะ ..... มองข้างหน้าเห็นแต่ภาพขุนเขาป่าไม้ถูกทำลาย แห้งแล้ง...

............................ นี่นะหรือที่เขาว่ากันว่า "มีมนุษย์ทีไหน ทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าย่อมถูกทำลายลงที่นั่น" ไร้ซึ่งไม้ใหญ่ ให้ร่มเงา ครั้งแดดแผดเผา แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร ร้อนร่มดั่งสุมไฟ มนุษย์หนอช่างโหดร้อย ทำลายป่าไม้จนหมดสิ้น ฟ้าดินเกี่ยงงอน......................



hs5tff จาก เจ้าตัวเล็ก  61.19.145.77  อาทิตย์, 16/1/2548 เวลา : 09:38   


คำตอบที่ 8
       .....มุ่งหน้าไปตามเส้นทางเรื่อยๆ จากหมู่บ้านแม่หอย ข้างทางดูเปล่าเปลี่ยว มุ่งสู่หมู่บ้านแม่ซาระยะทาง 7 กิโลเมตร ถึงแม้เส้นทางจะลำบาก แต่ชาวบ้านที่นี่ก็ไม่ได้ยากจนอย่างที่เราคิด พวกเขามีบ้านไม้ หลังคามุงกระเบื้อง มีรถยนต์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง แทบจะทุกบ้านมีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) มีจานรับสัญญาณโทรทัศน์

.... ผ่านหมู่บ้านแม่ซา 18 กิโลเมตร จะพบทางแยก ซ้ายมือ ไปโรงเรียนบ้านห้วยผา (17 กม.) , โรงเรียนบ้านขุนแม่รวม แยกขวามือไปโรงเรียนบ้านขุนแม่รวม (16 กม.) เป็นทางแยกที่ไม่ได้ระบุในแผนการเดินทางเลย??? ทำอย่างไรดีหนอ?? .......

.....ตัดสินใจ "ไปทางขวาก่อน ถ้าผิดทางค่อยกลับทางเดิมมาตั้งต้นใหม่" คิดในใจอย่างงี้ ..... ว่าแล้วก็หักพวงมาลัยเลี้ยวไปตามทางแยกขวามือ ผ่านทุ่งนา..... ของชาวบ้านแถบนั้นได้สักพัก พบกับสายน้ำใสจนมองเห็นผืนทราย เห็นก้อนหินที่อยู่ในนั้น สายธารที่มีต้นกำเนิดจากขุนเขาใหญ่ สายน้ำที่เปรียบเสมือนแม่ คอยหล่อเลี้ยงผู้คนหลายเผ่าพันธุ์ ชื่อของเธอคือ "แม่แจ่ม" ถนนลูกรังตัดขึ้นสู่ยอดเขาสูงชันอีกครั้ง ถนนที่เคียงคู่ไปกับ "แม่แจ่ม" ..... ตะวันบ่ายคล้อย กับเส้นทางที่ยังไปไม่ถึง ..... จุดหมายปลายทางข้างหน้าคือที่ใดกันเล่า ...... ใครจะหยั่งรู้ได้.... เส้นทางบนดอยสูงชันมองลงมาเห็น ธารน้ำใสอยู่เบื้องล่าง .... ป่าแถบนี้ดูมีชีวิตชีวากว่าที่ผ่านมามากนัก ต้นไม้เขียวขจี ดอกไม้ป่าบางชนิด ออกดอกสีสดสวยอวดความงามตามฤดูกาล บางครั้งถนนตัดสู่ยอดดอยสูงจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องล่าง ทิวเขาและพุ่มไม้บดบังสายธารจนมองไม่เห็น เส้นทางแคบลง และอันตรายมากขึ้น ครั้นขับรถลงมาตามถนน ก็จะพบกับลำน้ำแม่แจ่มให้ฉ่ำชื่นหัวใจ มีข้ามสะพานหลายครั้ง จนจำไม่ได้ แต่เส้นทางข้างหน้ายังยาวไกล...... เริ่มเห็นชาวบ้านออกหาปลาบ้าง.... คงใกล้ถึงหมู่บ้านแล้ว.....ในใจหวังไว้เพราะตะวันเริ่มอ่อนแสงแล้วยังไปไม่ถึงไหนเลย....

..... จากทางแยก 16 กิโลเมตร มาถึงหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง เส้นทางที่ยากลำบาก ไม่ได้ทำให้ชาวบ้านแถบนี้ด้อยโอกาสอย่างที่เราคิดไว้ บ้านก็ยังเป็นบ้านไม้หลังคากระเบื้อง ชาวบ้านมีรถยนต์ใช้ และเช่นกันกับหมู่บ้านที่ผ่านๆ มาคือมีไฟฟ้าใช้ สอบถามจากชาวบ้านทราบมาว่าชื่อ "หมู่บ้านสบแม่รวมใต้" หากเดินทางต่อไป จะเป็นหมู่บ้านสบแม่รวมเหนือ เส้นทางยากกว่าที่ผ่านมา ....

.....ขับรถต่อไปจากหมู่บ้านได้สักนิดก็พบกับสายธารที่ทอดขวางอยู่ สายน้ำแม่แจ่มไม่ได้ลึกอย่างที่คิด พอที่จะขับรถข้ามไปอย่างสบายๆ แต่พอมองเห็นหนทางข้างหน้าไต่ขึ้นตามไหล่เขา ไม่สามารถหยั่งรู้อนาคตของตนเองได้ แสงตะวันเริ่มอ่อนลง ใจคนก็อ่อนตาม ด้วยหนทางที่ไม่ได้มีในแผนการเดินทาง ความลังเลจึงบังเกิดขึ้นในจิตใจ ด้วยหนทางที่ผ่านมาข้ามสะพานมาตลอด มาครั้งนี้ต้องลุยข้ามลำน้ำไป ...

....ขับรถย้อนไปย้อนมาอยู่สองสามครั้งแล้วมาหยูดนิ่งอยู่ข้ามลำธารนั้น จะทำอย่างไรดี??? ในใจเริ่มครุ่นคิด "ทางข้างหน้าไปไหน ?? จะถึงเมื่อไหร่??"



hs5tff จาก เจ้าตัวเล็ก  221.128.99.146  ศุกร์, 21/1/2548 เวลา : 09:28   


คำตอบที่ 9
       สะ-วัด-ดี-เจ้า (ยืมลานนามาใช้)

อ่านแล้วเข้าจินตนาการณ์เข้าถึงบรรยากาศมากเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยไปเลยนะเนี้ย...น่าลงหนังสือนิยายรักนักท่องเที่ยว..(ฮา) ทำให้อยากไปเที่ยวแถวนั้นบ้างจังเลย..อากาศดี คนมีน้ำใจ แล้วจะเข้ามาอ่านต่อในตอนต่อไป...



จาก คนกะเครน-อรัญ  61.91.156.186  ศุกร์, 21/1/2548 เวลา : 12:12   


คำตอบที่ 10
       “ลังเล” คำๆ เดียวที่ทำให้ หลายคนสูญเสียสิ่งรัก หลายต่อหลายครั้งที่เราพลาดโอกาสดีๆ ก็เพียงเพราะความลังเล

ทางเลือกสองทาง คือ
1 เดินทางต่อ ค่ำไหน นอนนั่น อาจต้องนอนกลางป่า หรือในหมู่บ้านหรือที่ไหน ไม่อาจหยั่งรู้
2 ย้อนกลับทางเดิม กลับไปนอนที่แม่แจ่มเช่นเดิมวันรุ่งขึ้นกลับทางอินทนนท์

.....ด้วยจุดหมายปลายทางอยู่ที่ป่าสนวันจันทร์ อ.แม่แจ่ม ทางเลือกที่มีอยู่ไม่ได้ตอบสนองในสิ่งที่ต้องการเลย พยายามครุ่นคิดถึงทางเลือกที่สาม พลางขับรถออกจากหมู่บ้านสบแม่รวมใต้กลับทางเดิม .....ในสมองยังคิด คิด ...แล้วก็คิดไปตลอดทาง ว้าวุ่นกระวนกระวาย หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ กระทั่งขับรถมาถึงหมู่บ้านแม่นาจร พยายามมองหาเส้นทางหมายเลข 1088 ที่ปรากฎในแผนที่เป็นเส้นทางตรงแหนวสู่หมู่บ้านวัดจันทร์ ก็หาไม่เจอ ยังขับรถวนเวียนอยู่ที่หมู่บ้านแม่นาจรอยู่สองสามรอบ มองดูนาฬิกา เวลาสี่โมงครึ่ง ณ ที่นี้ยังมีแสงตะวันเพียงพอให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ไม่เหมือนบนเส้นทางออฟโรดที่ผ่านมา ....... หยุดรถตั้งสติอยู่พักใหญ่ ตัดสินใจเปลี่ยนแผน

นั่นคือทางเลือกที่สาม...........

...ค่ำวันนี้ไปตั้งเต๊นท์นอนรับลมหนาวที่โครงการหลวงปางอุ๋ง ก็แล้วกัน อย่างน้อยๆ ยังมีเพื่อนๆ นักเดินทางผ่านไปมาเลือกสถานที่นี้เป็นที่ค้างแรมคืนเฉกเช่นเรา เลือกเส้นทางปางอุ๋ง วัดจันทร์ ไว้สำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ดีกว่า ....เอาหละ ... รถเริ่มเคลือนที่เข้าสู่เส้นทางหมายเลข 1263 ผ่านหมู่บ้านหลายต่อหลายหมู่บ้าน ประมาณ 40 กิโลเมตรใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงจุดพักกางเต๊นท์ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง เลี้ยวขวาเข้าไป..... ที่นี่มีที่พัก และอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว ให้ได้อยู่กินกันอย่างอุดมสมบูรณ์ตามอัตภาพ (???)

.....หลังจากทำการผูกมิตรทำความรู้จักกับผู้ดูแล (ทราบภายหลังนามว่า ชัยณรงค์) ซึ่งเป็นผู้ให้การอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่มาตั้งเต๊นท์พัก แวะเวียนมาจิบกาแฟและทานอาหารที่นี่....จัดแจงกางเต๊นท์ที่นอน (ณ ลานกางเต๊นท์หน้าสำนักงาน) และจัดการกับอาหารมื้อค่ำเสร็จ ได้มีโอกาสคุยกับพี่ชัยณรงค์อีกครั้ง บอกถึงจุดหมายปลายทางในวันพรุ่งนี้ และเล่าเส้นการเดินทางในวันนี้ให้ฟัง ปรากฎว่า ที่ไปถึงหมู่บ้านสบแม่รวมใต้ในวันนี้ นั่นคือกว่าค่อนทางสู่หมู่บ้านวัดจันทร์แล้ว ...... เห็นหรือยังหละ ผลแห่งความลังแล .......


....แสงแห่งทิวาอ่อนลง อ่อนลง แสงแห่งราตรีเริ่มมีปรากฎ ที่ละน้อย ทีละน้อย จนสามารถมองเห็นดวงดาราได้อย่างชัดเจน หิ่งห้อยน้อยแสงข้าอยากรู้นัก เจ้าไม่หนาวหรือไร..... ใยเจ้าไม่ตอบ..... ณ ที่แห่งนี้ มีนักท่องเที่ยวมากมายหลายกลุ่มมาค้างแรม .....หลังจากภารกิจเสร็จสิ้นต่างๆ จับหนังสือขึ้นมาอ่าน แต่ทานอากาศหนาวไม่ไหวเลยมุดคุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ภายในเต๊นท์ที่คอยกันน้ำค้างไม่ให้โรยรินสู่มนุษย์ตัวน้อยๆ ท่ามกลางแสงเทียน จึงขีดเขียนร่ายบทกวี...........................................

ค่ำคืนนี้นอนหลับไหลไปพร้อมกับบทเพลง............
... ตราบวันนี้เราเป็นนักเดินทาง ก่อเกี่ยวเอาความอ้างว้าง
ท่ามกลางม่านหมอกมัวหมอง หวังได้ใคร่ดีพบพานรังษีแสงทอง
เมื่อตะวันเยี่ยมสิ่ง เห็นทางหยาดเหยียดยาวไกล

เหลียวมองรอบกายพะว้าพวัง ถูกถ่วงอยู่กับความหลังชิงชังมิอาจขับไส
ผิดถูกชั่วดี เขาตีราคาค่าไว้
ชื่นชมเชิดความยิ่งใหญ่ นบไหว้ชื่อเสียงเงินทอง
นักเดินทาง ไม่มีสิ่งใดให้เห็น
นอกเหนือจากความขื่นเข็ญ เป็นเพื่อนร่วมทางเที่ยวท่อง

ไม่มีผู้ใดจะใส่ใจเหลียวมอง
ซดเซไร้ทรัพย์ครอบครอง
มวลญาติพี่น้องหลีกหนี

ตราบวันนี้เราเป็นนักเดินทาง เนาวหน่ายหน่วงเหนี่ยวกีดขวาง
หลุมพรางซ่อนซุกทุกที่ อดทนเอาหนา หวังฟ้าเบื้องบนปรานี
ตราบลมหายใจยังมี มุ่งตรงจนถึงปลายทาง

บทเพลง นักเดินทาง
นักร้อง พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ




hs5tff จาก เจ้าตัวเล็ก  61.19.145.77  เสาร์, 22/1/2548 เวลา : 01:09   


คำตอบที่ 11
       วันสุดท้ายแห่งการเดินทาง

สายนี้ที่ปางอุ๋ง ร่องรอยของน้ำค้างกระซิบกับยอกหญ้ายามที่เราหลับไหลกันไปเมื่อคืนยังมีให้เห็นและสัมผัสได้ถึงความชื้นเย็น อากาศที่นี่ไม่ถึงกับหนาวจัดผ้าห่มและที่นอนที่ขนมาก็สามารถสร้างความอบอุ่นภายในเต๊นท์ให้นอนหลับอย่างสนิทเลยทีเดียว ครั้นโผล่ออกจากเต๊นท์ก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างของอากาศข้างนอก หนาวอะไรเช่นนี้ พลันพบกับตัว ”บุ้ง” (หนอนมีขน) ที่เกาะอยู่นิ่งข้างเต๊นท์ ไม่ยอมไปไหน

ม่านหมอกยังปกคลุมขุนเขา มองไปทางไหนๆ มีแต่หมอกขาวโพลน ภาพสายหมอกโอบกอดขุนเขาที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเป็นเวิ้งกว้าง ท่ามกลางทะเลมองเห็นภูเขาโผล่ยอดคล้ายจะเป็นเกาะแก่งกลางทะเลหมอก อากาศยามสายของที่นี่ยังหนาวเย็น เริ่มต้นเช้านี้ด้วยกาแฟสดกลิ่นหอมกรุ่น นั่งคุยกับคุณชัยณรงค์เรื่องเส้นการเดินทางของวันนี้และได้รับการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ในบริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งหมอกจางลงจึงขอตัวจัดการเก็บข้าวของ มีเสียงคุย เสียงเพลง จากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาค้างแรม บ้างก็เก็บของเตรียมออกเดินทาง บ้างก็ภารกิจส่วนตัวต่างๆ นาๆ เสียงเด็กๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน เพื่อนนักท่องเที่ยวทยอยออกเดินทางจากที่นี่กันไปแล้วหลายคณะและแล้ว เวลาเดินทางของเราก็มาถึง

การเดินทางกลับในวันนี้จะยึดเส้นทางในแผนที่ที่คุณชัยณรงค์ได้เขียนไว้ให้ เริ่มออกเดินทางจากจุดกางเต๊นท์โดยใช้เส้นทางเดิม มุ่งหน้าไปทางขุนยวมเพียง 2 กิโลเมตร ก็ถึงหมู่บ้านปางอุ๋ง แวะเติมน้ำมันที่นี่ บังเอิญสายตาแว๊บมองไปเห็นโรงสีข้าว สอบถามชาวบ้านได้คำตอบมาละแวกนี้ว่าได้เลิกใช้ครกกระเดื่องตำข้าวไปนานแล้ว ชาวบ้านเหล่านี้ ได้ทอดทิ้งวิถีชีวิตอันสืบทอดมาจากบรรพบุรุษของตัวเอง รับเอาวัฒนธรรมใหม่ๆ จากพื้นราบมามากมาย นี่อาจจะเป็นสิ่งดีก็ได้ เพราะมันทำให้ ”เขา” และ “เรา” พูดคุยกันได้รู้เรื่องเป็นภาษาเดียว ทำให้ “เขา” สามารถปรับตัวอยู่กับพวกเราได้ง่าย

ออกจากปั๊มพ์น้ำมัน โรงเรียนบ้านปางอุ๋งอยู่ซ้ายมือด้านขวา มีทางแยก เลี้ยวขวาเข้าไป เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางออฟโรดในวันนี้



hs5tff จาก เจ้าตัวเล็ก  221.128.96.153  ศุกร์, 4/2/2548 เวลา : 10:05   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 7:05:51

Error processing SSI file