WeekendHobby.com


กังหันลมไปลาว

จาก คุณชายชาเขียว
อังคารที่ , 11/1/2548
เวลา : 22:12

อ่าน = 1987
61.19.148.195
       เมื่อปีไหม่ กังหันลมทั้งหมดรวม 5 คัน 17 ชีวิต ไปเที่ยวลาวมา ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2547 - 2 มกราคม 2548 ที่จริงผมจะรอรูปลงก่อนแล้วค่อยเล่า การณ์กลับกลายเป็นว่าเกิดอุบัติเหตุรูปภาพที่เสือเหลืองถ่ายไว้หายหมดเลย ส่วนที่ผมก็ไม่มีเครื่องสแกน เอาเป็นว่าผมจะเล่าเป็นตัวหนังสือก่อน ส่วนรูปภาพประกอบค่อยดูตามหลัง ตอนที่รวบรวมได้ก็แล้วกัน
กลุ่มจากกรุงเทพฯ ประกอบด้วย รถเสือเหลือง รถลายพราง รถ ต.ปลาตากลม รถเต่าบิน(แขกรับเชิญ) นัดกันที่ปั๊ม 21.00 น. คืนวันที่ 27 ธันวาคมและออกเดินทางมาถีงผมที่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น เช้า 2.30 น.โดยประมาณ และไปทานไข่กระทะกันที่ ร้านอุดรโอชา อ.เมือง อุดรธานี ตอน 5.00 น. (รู้สึกจะเปิดอยู่ร้านเดียว) ทุกคนพยายามให้เต็มถังมากที่สุด เบิ้ลกันหลายคน เพราะไม่รู้ว่ามื้อต่อไปจะได้ทานอะไร ที่ไหน จากนั้นก็เติมน้ำมันรถให้เต็มถังเช่นกัน แล้วรีบบึ่งไปเข้าคิวที่หน้าด่าน ที่สะพานมิตรภาพ หนองคาย
28 ธันวาคม 2547 (วันแรกในลาว)
เรานัดเจอกับผู้พันโอที่หน้าด่านนี่เอง เสียใจด้วยที่รถ ต.ปลาตากลมไม่ได้เข้าไปด้วย ก็เลยต้องไปฝาก วันละ 80 บาท ส่วนหนุ่ม ๆ ที่มากับรถรวมทั้งเจ้าของรถ ก็แยกย้ายกันไปประจำรถคันอื่น ๆ กันไป เอกสารที่เตรียมยื่นขาออกที่ด่านไทย ก็คือ พาสปอร์ตของแต่ละคน ใบเข้า/ออกของไทย ใบอนุญาตนำรถออกนอกประเทศ (สำหรับคนที่นำรถไปด้วย) เสียค่าข้ามสะพานสำหรับรถคันละ 30 บาท จากนั้นไปที่ด่านขาเข้าของลาว ยื่นพาสปอร์ต ใบเข้า/ออกของลาว ใบอนุญาตนำรถออกนอกประเทศ (สำหรับคนที่นำรถไปด้วย) เสียค่าเข้าเมืองพาสปอร์ตละ 50 บาท ค่านำรถเข้าประเทศคันละ 250 บาท/7 วัน (ข้อแนะนำ : ไม่ควรยื่นเป็นกลุ่ม จะเกิดความล่าช้า และต.ม.ลาวจะดูว่าเป็นการท่องเที่ยวกับทัวร์ จะให้ไปติดต่อกับบริษัททัวร์ของลาว ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก) เพื่อความรวดเร็วเราเลยให้พิเศษเจ้าหน้าที่กันไปเล็กน้อย (เลย ต.ม.ไปอยู่ตึกแถวขวามือ) คันละ 250 บาท จะได้สติ๊กเกอร์ให้ติดที่รถเลย เอาล่ะการเดินทางในลาวก็จะเริ่มแล้ว อย่าลืมนะครับขับชิดขวา ห้ามแซงชวา ต้องคอยบอกกันอยู่เสมอ อ้อ!ระวังมอเตอร์ไซค์ด้วยนะครับ เยอะมาก แล้วเขาก็ใหญ่ซะด้วยสิ ไม่หลบกันเลย เพราะที่นี่มอเตอร์ไซค์ศักดิ์ศรีเท่ากับรถยนต์นะครับ จากด่านมาที่ในเมืองเวียงจันทน์ก็ประมาณ 20 กว่ากิโล ตามกำหนดการเราจะดิ่งตรงไปนอนที่หลวงพระบางเลย ประมาณ 360 กิโล ตามทางหลวงหมายเลข 13 (เสียค่าด่าน 2 ด่าน ด่านละ 2,000 กีบ) แต่การกลับไม่เป็นอย่างนั้นรถผู้พันโอ (ไกด์กิติมศักดิ์ของเรา) เสีย ทำงานหนักไปซะขนปีกนกหัก เราเลยต้องไปซ่อมที่วังเวียง แล้วเลยนอนที่เรือนพักชื่อ ดอกคูณ ที่นั่นเอง (คืนละ 350 บาท) เราก็เลยแยกกันทำงาน ใครเป็นช่างใหญ่ก็ช่วยดูช่วยซ่อมรถผู้พันไป ใครถนัดทำอาหารก็ไปจัดการ งานนี้ได้พี่ศักดิ์ พี่หล่นและภรรยา และสมาชิกของคุณโมทย์เป็นผู้เตรียมอุปกรณ์และจัดการให้ ส่วนคนอื่นที่ไม่ถนัดก็คอยล้างจานไปแล้วกัน เมนูวันนี้ คือ แกงมัสมั่น(กป.) ปลากระป๋อง กุนเชียงทอ และที่ขาดไม่ได้ก็ไข่เจียว และยำไข่เยี่ยวม้าสำหรับวงเหล้า คืนนี้ไม่ไมใครต่อเลย เพลียจากการเดินทาง เลยยังไปไม่ถึงลาวกันนะครับคืนนี้
29 ธันวาคม 2547
เช้านี้เราทานข้าวต้มร้อน ๆ รับอากาศที่หนาวจัด และยังหุงข้าวไปอีกหม้อสำหรับตอนกลางวัน อิ่มหนำสำราญกันแล้วผู้พันก็พาเราไปทัวร์วังเวียงกันเล็กน้อยที่วังเวียงรีสอร์ท เสียค่าเข้าชมคนละ 1,000 กีบ รถคันละ 3,000 กีบ ที่นี่มาชมถ้ำน้ำไหล ที่วังเวียงเป็นศูนย์กลางเหมือนกัน นักท่องเที่ยวมักจะใช้เป็นที่พักระหว่างทาง ในกรณีที่ไม่อยากเดินทางไกลระหว่าง เวียงจันทน์-หลวงพระบาง และยังเป็นทางแยกไปที่เขื่อนน้ำงึมอีกด้วย เราออกจากเวียงวังประมาณ 5 โมงเช้า ถัดจากวังเวียงไปประมาณ 30 กิโล ถึงบ้านกาสี ซึ่งเป็นจุดพักรถ มีอาหารขาย และ ห้องน้ำให้เข้า (นอกจากนั้นก็อาศัยป่าและข้างทางกันไป) ซึ่งต่อจากนี้ไปเส้นทางจะเป็นบนเขาตลอดจนถึงหลวงพระบางเลย ไม่สามารถทำความเร็วได้ เราไปแวะปิคนิคอาหารเที่ยงกันบนยอดเขากันเลย จากบ้านกาสีไปประมาณ 40 กิโล ก็ถึงบ้านพูถูน (ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่า) ซึ่งเป็นทางแยกไปหลวงพระบาง และ เชียงขวาง แต่วันนี้เราขอดิ่งตรงไปยังหลวงพระบางกันก่อน ถึงหลวงพระบางประมาณ 4 โมงเย็น แวะเติมน้ำมันกันก่อน ซึ่งเป็นการเติมครั้งแรกในลาว จากที่เราเติมกันเต็มจากอุดรฯ ฟังตัวเลขกันซะสะดุ้งเลยล่อเข้าไปตั้ง สามแสนกว่ากีบแน่ะ ค่อยยังชั่วคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,200 กว่าบาท (ตกลิตรละ 20.82 บาท)ที่ในเมืองเขาจะคิดอัตราแลกเปลี่ยนให้ที่ 100 บาท = 26,000 กีบ แต่นอกเมือง จะคิดให้ที่ 1 บาท = 25,000 กีบ เราก็จ่ายกันเป็นแบงก์ร้อย และรับทอนเป็นแบงก์กีบกันไป จากนั้นเราก็รีบขึ้นไปดูวิวหลวงพระบางและพระอาทิตย์ตกกันที่พระธาตุภูษี ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก และวิวของหลวงพระบางที่ดีที่สุดเลยเชียวแหละ เพราะรอบพระธาตุมีทางเดินได้รอบ ๆ ซึ่งสามารถดูวิวของหลวงพระบางได้ทุกด้านเลยทีเดียว ลงมาจากพระธาตุก็เจอถนนคนเดินพอดี ซี่งมีการปิดถนนขายของพื้นเมืองกันตั้งแต่ ห้าโมงเย็นจนถึงห้าทุ่ม ช้อปกันให้สนุกไปเลย แต่อย่าลืมต่อรองราคากันด้วย สามารถต่อได้ถึง 40% เลยทีเดียว คืนนี้เราไปนอนพักกันที่เรือนพักวงปันยา (คืนละ 250 -350 บาท) มีทั้งหมด 10 ห้อง (ควรจะจองล่วงหน้า) คืนนี้เรายังไม่ได้สำรวจอะไรกันมากนัก ต้องกลับไปทำอาหารกันต่อ (แต่ละคนขนเสบียงกันไปมาก เลยต้องช่วยกันกินให้รถเบาขึ้นมาหน่อย) หลังอาหารเย็น ทางเราได้ส่งแนวหน้าไปสำรวจเทคในลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามที่พักนี่เอง ส่วนจะถึงลาวกันหรือไม่คงต้องไปถามกันเอาเอง ส่วนผมเองไม่ได้ไปเพราะมีคนไปคุมด้วย ขอพักกันก่อน แล้วดูสิว่าใครจะตื่นไปใส่บาตรกับผม

ขอรายงานแค่นี้ก่อน โปรดติดตามต่อไปด้วย

เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       ขอรายงานต่อนะครับ
อ้อ! ลืมบอกไปนะครับว่า การชึ้นไปบนพระธาตุภูษี ก็ถือเป็นการวัดสมรรถภาพ และอายุ อย่างหนึ่งนะครับ เพราะยอดเขาสูง 150 เมตร มีบันได 328 ขั้น เล่นเอาผมแย่เหมือนกัน ต้องพักเป็นครั้งคราว

30 ธันวาคม 2547
เช้านี้ผู้พันโอมาปลุกผมแต่เช้า ตีสี่กว่า ๆ เนื่องจากนัดกันไปตักบาตร สรุปว่ามีผมกับผู้เฒ่าศักดิ์เท่านั้นที่ตื่น คนอื่นขอบายไปตักกันวันรุ่งขึ้น โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ ที่กว่าจะกลับมานอนกันก็เกือบเช้าซะแล้ว เราไปเตรียมของ พี่ศักดิ์เตรียมมาม่าไป 6 ลัง ส่วนผมกับผู้พันก็อาศัยแม่ค้าแถวนั้น เนื่องจากเป็นรายแรก ๆ ซื้อกันคนละถาดแล้ว ก็ยังได้แถมให้ลูกสาวผมได้ชิมขนมลาวอีกด้วย อ้อ เขาขายถาดละ 100 บาทครับ ระหว่างที่รอ เราก็ข้ามถนนไปทานชานม กาแฟร้อนกัน (ต้องสั่งชานมนะครับถึงจะได้ชาร้อนโบราณ ถ้าสั่งชาร้อนเฉย ๆ จะได้ชาจีนร้อนครับ) พระลงมาก็เกือบหกโมงครึ่งแน่ะ เพราะบังเอิญเป็นวันที่หนาวมากของหลวงพระบางพอดี พระอาทิตย์ก็ไม่ขึ้นซะที ซึ่งตามกฎของลาว เวลาที่พระบิณฑบาตรคือ มองไปที่ลายมือตนเอง เห็นเมื่อไหร่ก็คือได้เวลาแล้ว ระหว่างรอเราเลยรอรับประทานอาหารเช้าไปด้วย ที่ร้านจะมี กาแฟร้อน ชานมร้อน หรือใครจะสั่งชาลิปตันก็มี ส่วนของหนัก ก็จะมี ข้าวจี่คือขนมปังฝรั่งเศสยาวผิงไฟอ่อนผ่ามาให้ทาเนย อร่อยมาก จะคู่กับไข่ดาว หรือ ชิ้นมาย ลักษณะเป็นหมูสับปรุงรสปั้นเป็นก้อนในน้ำซุป ออกรสเค็ม เวลาทานจะใช้ข้าวจี่จิ้มลงไป หรือตักหมูมาใส่ตรงกลางของข้าวจี่ก็ได้ ส่วนตอนสายซัก 7 โมงครึ่งน้ำซุปจะได้ที่พอดีก็จะเปิดขายเฝอหรือก๋วยเตี๋ยวนั่นเอง แต่วันนี้เรายังไม่ได้ชิมเฝอของร้านนี้เพราะน้ำซุปยังไม่ได้ ก็เลยสั่งข้าวจี่มาลองกันก่อน ตักบาตรเสร็จกลับมาหนุ่ม ๆ ยังไม่ตื่นกันเลย เราเลยชวนกันไปทานเฝอ ที่ร้านใกล้ ๆ ที่พัก มีเฝอไก่ เนื้อวัว และหมู รสชาติดีทีเดียว พอกลับมาเลยบอกคนอื่น ๆ ทยอยกันไปกินจะได้ไม่ต้องทำกับข้าวเช้ากัน ส่วนผมก็ไปสำรวจดูตลาดยามและบ้านเมืองยามเช้าดีกว่า ผมไปเจอตลาดสด ซึ่งนอกจากมีเนื้อวัว หมู ไก่ ขายตามปกติเหมือนตลาดบ้านเราแล้ว ยังมีสัตว์ฮิตอีกอย่างคือ กระรอก และสัตว์ป่าอื่น ๆ ประเภท นก งู เลยทีเดียว ก็เห็นอาหารเช้าของชาวบ้านกัน ได้แก่ เฝอ ข้าวเหนียวปั้นแบน ๆ ชุบไข่ย่าง ปากหม้อ ขนมครก ซึ่งรสชาติก็แตกต่างจากเราไปบ้าง ผมเองได้น้ำผึ้งมาขวดหนึ่งจากการบีบสด ๆ เลย จากนั้นก็ไปแวะซื้อขนมปังเป็นเสบียงติดรถ ที่ร้านตรงสี่แยกศูนย์การค้าดารา เค้าเอาขนมปังฝรั่งเศสไปย่างไฟให้ร้อน แล้วมาผ่ากลาง ทาด้วยตับบด น้ำพริกเผา ใส่ผักสลัด ผักชี มะละกอหั่นเป็นเส้น หมูยอ หนังหมู หมูสับ ขายอันละ 8,000 กีบ จะซื้อครึ่งอันก็ขายเหมือนกัน ร้านนี้ก็มีอาหารอย่างอื่นขายเหมือนกัน มีทั้งเฝอ ปอเปี๊ยะทอด ข้าวแกง และข้าวซอย (อย่านึกถึงข้าวซอยบ้านเรานะ เพราะมันคือก๋วยเตี๋ยวต้มยำ) สรุปแล้วกว่าจะครบองค์ได้ออกเดินทางกันก็ สิบโมงครึ่ง วันนี้เราตรงไปออกนอกเมืองกัน ผู้พันจะพาเราไปถ้ำติ่ง โดยใช้เส้นทางผ่านหมู่บ้านช่างไห ชมดูการต้มเหล้าขาว และทอผ้าพื้นเมือง แล้วไปขึ้นเรือที่หมู่บ้านปากอู ต้องเสียค่าเรือคนละ 5,000 กีบ แต่เรามากันหลายคนเลยต่อรองได้นิดหน่อย ข้ามแม่น้างา ซึ่งเป็นแม่น้ำ 2 สี เกิดจากสีของแม่น้ำโขงและแม่น้ำละอู พอเรือวิ่งไปกลางแม่น้ำจะเห็นว่าสีของแม่น้ำไม่เหมือนกันจริง ๆ ค่าเข้าชมถ้ำติ่งคนละ 10,000 กีบ มีถ้ำติ่งล่างกับถ้ำติ่งบน ซึ่งถ้าติ่งบนจะต้องเดินไปนิดหน่อย และขึ้นบันไดไปอีก 218 ขั้น งานนี้ก็พิสูจน์ความฟิตของคนได้อีกเหมือนกันนะครับ ถ้ำติ่งบนมีไฟฉายให้ไปส่องดูพระพุทธรูปกันได้ แต่พระไม่เยอะเท่าถ้ำติ่งล่าง ถ้าใครไม่ขับรถไปเขามีบริการเรือจากหลวงพระบางมาที่ถ้ำติ่งเลยนะครับ กลับจากถ้ำติ่ง ไปแวะทานข้าวเที่ยงกันแล้วก็ไปชมน้ำตกกวางสีกัน น้ำตกอยู่ห่างจากหลวงพระบาง 30 กม. เป็นถนนลูกรัง เสียค่าเข้าชมคนละ 8,000 กีบ ผู้พันบอกว่าตอนหน้าฝนน้ำจะเยอะกว่านี้ แต่ขนาดนี้ก็นับว่าเยอะแล้ว เราไปก็ค่อนข้างเย็นแล้ว ร้านรวงต่าง ๆ ก็ปิดหมดแล้ว กลับไปที่พักเลยให้ต่างคนต่างหาข้าวเย็นกันเอง ให้แม่ครัวได้พักบ้าง และฟรีสำหรับคนที่ต้องการไปเดินช้อปปิ้ง

31 ธันวาคม 2547
เช้านี้เรานัดกันแต่เช้า 7 โมงครึ่ง เดินทางไปที่เชียงขวาง ห่างจากหลวงพระบาง ประมาณ 300 กว่ากิโล กว่าจะได้ออกกันจริง ๆ ก็ 8โมงเช้า เราไปถึงเชียงขวาง 15.30 น. ทางอยู่บนภูเขาตลอด ไม่สามารถทำเวลาได้เลย ไปถึงเราไปที่จุดชมวิวดูวิวรอบ ๆ อากาศวันนี้หนาวมาก คาดกันว่าน่าจะซัก 15 องศา จากนั้นเราตรงไปที่ทุ่งไหหิน ค่าเข้าชมคนละ 5,000 กีบ ชมทุ่งกันแบบหนาวสั่นมากเลย คืนนี้เราพักกันที่บ้านสำพันดวงประกอบ คืนละ 250 บาท ส่วนอาหารเย็นญาติของผ้พันนัดเลี้ยงที่บ้าน เราก็เลยขนกันทั้ง 17 ชีวิตไปที่นั่น เขาชวนกินเบียร์แต่ไม่มีจอก(แก้ว) เพราะตามธรรมเนียมคือใช้จอกใบเดียว โดยเริ่มที่เจ้าบ้านก่อน แต่ไม่ได้กินต่อกันนะ จะเทเบียร์เป็นครั้ง ๆ ไป คืนนี้อากาศหนาวมากจริง ๆ ทุกคนเลยรีบทานและกลับไปนอน คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 3 องศา เลยไม่มีใคร count down เลย

1 มกราคม 2548
เช้านี้หนาวจนแม่ครัวทำไม่ไหว เลยต้มน้ำร้อนแล้วกินโจ๊กคัพ มาม่าคัพกัน วันนี้หุงข้าวติดรถไป 2 หม้อ ไว้กินกลางวัน พอจะออกเดินทาง ปรากฏว่าเสือเหลืองเดี้ยง หนาวจนสตาร์ทไม่ติดต้องพ่วงกัน เราไปชมเจดีย์เก่าแก่ และแวะชมวัดเก่าแก่ ซึ่งโดนบอมบ์ ระหว่างทางแวะเยี่ยมญาติผู้พัน เจอร้านข้าง ๆ โชว์น้ำมันพืชที่เป็นไขในขวด ต่อจากนั้นเราไปที่ถ้ำปลิว ซึ่งเป็นถ้ำที่พวกเวียดกงใช้เป็นที่ซ่อน และโดนบอมบ์ไป จาก 200 คนเหลือรอด 2 คน เพราะลงไปตักน้ำข้างล่าง ออกจากถ้ำเราไปที่น้ำพุร้อน มีบริการแช่น้ำพุร้อน ทำเป็นห้องเรียบร้อย ห้องละ 2 อ่าง (อ่างปูน) ค่าบริการอาบน้ำร้อนคนละ 4,000 กีบ แถมสบู่ให้ด้วย สบายตัวมาก คืนนี้ไม่มีกิจกรรมยามวิกาลอีก เนื่องจากต้องออกรถแต่เช้า เพื่อให้ถึงกรุงเทพ ฯ กันภายในคืนที่ 2 มกราคม

2 มกราคม 2548
นัดกันออกจากที่พัก ตั้งแต่ตีสี่ แต่กว่าจะเรียบร้อย ก็ออกกัน 4.45 น. ถึงแยกบ้านพูถูน 8:00 น. กลุ่มที่อยู่กรุงเทพ ฯ ก็ตียาวไปเวียงจันทน์ และต่อไปกรุงเทพ ฯ โดยมีผู้พันส่งที่หน้าด่าน ส่วนผมขอขึ้นไปนอนหลวงพระบางอีก 1 คืน เพราะคุณนายใหญ่และคุณนายเล็ก (ลูกสาว) ยังไม่ได้ช้อปปิ้งเลย เราไปถึงหลวงพระบางเกือบเที่ยง ผมเลยไปตามเก็บดูวัดต่าง ๆ และวังเก่า ซึ่งตอนนี้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แล้วเลยขับรถวนดูตลาดต่าง ๆ ที่มีอยู่ ทั้งตลาดผ้า ตลาดจีน ตลาดโพนสี และสำรวจร้านผ้าต่าง ๆ ตามคำสั่งคุณนาย

ผมออกจากหลวงพระบางเช้าวันที่ 3 มกราคม 2548 เวลา 9:25 น. ถึงด่าน ต.ม.เวลา 17:30 น.

ขอจบทริปการเดินทางเท่านี้นะครับ

ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการนำรถไป :
การตรวจและเตียมรถ
1. เปลี่ยนท่อยางน้ำ
2. สายพานไดชาร์จและสายพานแอร์ หากใช้มานานแล้ว ควรเปลี่ยนไปเลย
3. ตรวจเช็คเบรคและครัท
4.ทำความสะอาดกรองอากาศ
5. ยางรถควรอยู่ในสภาพดี
ตามรายทาง หาอู่ซ่อมยากมาก
Note : คราวหน้าใครไปช่วยซื้อขนมปังปิ๊บ แล้วแบ่งเป็นถุงเล็ก ๆ ไว้โยนแจกเด็ก ๆ ตามหมู่บ้านชาวเขาที่ขับรถผ่าน มีหมู่บ้านตลอด และเด็กเยอะมาก ขอบอก ขับรถระวังเด็กและสัตว์เลี้ยงด้วยนะครับ

ไว้พบกันใหม่ทริปหน้า เชียงของ บ่อแก้ว หลวงน้ำทา หลวงพระบาง เวียงจันทน์ สะบายดีปีใหม่นะครับ .....คุณชายชาเขียว




จาก คุณชายชาเขียว  61.19.148.195  พุธ, 12/1/2548 เวลา : 21:44   


คำตอบที่ 2
       อยากตามไปด้วยจัง



จาก คนอยากไป  203.148.252.234  พุธ, 12/1/2548 เวลา : 22:57   


คำตอบที่ 3
       ได้ โปรด อย่างโยน ขนม ให้ เด็ก ข้างทางเพราะ จะเป็น อันตราย ในอนาคต นะครับ และ การเดิน ทางไม่ควร เเวะ ข้างทาง เป็นที่ สุด เพราะ อาจ ไม่เหลือ ลมหายใจ กับ ก็ ได้ นะครับ สำหรับ ท่าน ที่อย่ากไป ให้ ทิ้ง เบอร์โทร ไว้ เลย ครับ เดียว ผม โทรไปหาครับ ผม กำลังจะเดิน ทาง เข้าไป เที่ยว ตรุษจีน นี้ครับ



จาก นักเดินทาง   202.57.173.155  พุธ, 12/1/2548 เวลา : 23:06   


คำตอบที่ 4
       Note : คราวหน้าใครไปช่วยซื้อขนมปังปิ๊บ แล้วแบ่งเป็นถุงเล็ก ๆ ไว้โยนแจกเด็ก ๆ ตามหมู่บ้านชาวเขาที่ขับรถผ่าน มีหมู่บ้านตลอด และเด็กเยอะมาก ขอบอก ขับรถระวังเด็กและสัตว์เลี้ยง

อันนี้.....ไมควรทําครับ....เป็นอันตรายอย่างยิ่ง...สําหรับรถคันหลัง....เด็ก...ไม่รู้อะไร ?? พอคันหน้า โยน...
คันหลังตามมา ความอยากได้ของ ระวังรถคันหลัง จะเหยียบเอาครับ.....

วิธีที่แจกของที่ดีที่สุด จอดตามหมู่บ้านครับ....แจกเป็นจุดๆๆ ไป....


จุด อันตราย ก็น่าจะเหลือแค่จุดเดียวครับ....
ช่วงที่ออกจากวังเวียงประมาณ ซัก 10-15 ก.ม. นอกนั้น
ไม่น่าจะมีอะไรแล้วครับ....ข้อสําคัญ กลางคืนอย่าวิ่งแล้วกัน......



400 จาก 400 TOC 200  203.172.35.189  พฤหัสบดี, 13/1/2548 เวลา : 04:31   


คำตอบที่ 5
       สบายดีปีใหม่ ประเทศลาวเจริญแล้ว เหตุการณ์ต่างๆไม่ว่าดีหรือร้ายก็มีเหมือนไทย ฉะนั้นผู้ที่ต้องการเข้าไปเที่ยวในลาวไม่ต้องวิตกกังวลใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่ปฏิบัติตามกฎหมายเขาเท่านั้น การเข้าออกสะดวกสบาย ค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะค่ารถหรือประกันก็ไม่แพงเหมือนแต่ก่อน ถ้าผู้ใดสนใจจะไปเที่ยวสามารถสอบถามกับสมาชิกของกลุ่มกังหันลมได้ โดยเราไม่คิดค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น และท่านจะได้เที่ยวอย่างประหยัดและสนุก เบอร์โทรศัพท์ 018547853 คุณโอ ทำงานในลาวมาเกือบ10ปีแล้วแต่เป็นคนไทยที่มีความรู้ในเส้นทางต่างๆในประเทศลาวได้เป็นอย่างดี



จาก เสือเหลือง  203.118.120.254  พฤหัสบดี, 13/1/2548 เวลา : 19:45   


คำตอบที่ 6
       อยากไปครับถ้ามีสมาชิกท่านใดไป ขอตามไปด้วยคันหนึ่ง 06-3039474 ยศ ขอบคุณครับ



จาก คนอยากไป  203.148.252.235  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 01:13   


คำตอบที่ 7
       รอดูรูปครับ.....



vps1992 จาก SAK  61.90.61.19  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 08:19   


คำตอบที่ 8
      





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:10   


คำตอบที่ 9
      





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:12   


คำตอบที่ 10
       สมาชิกกำลังชมเมืองโบราณ





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:14   


คำตอบที่ 11
      





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:16   


คำตอบที่ 12
       ใครรู้มั่งว่าปาเจโร่รุ่นนี้ปีไหน ช่วยบอกที





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:21   


คำตอบที่ 13
       ขนาดหน้าหนาวยังมีนําขนาดนี้ สงสัยหน้าฝนต้องมาเยี่ยมเยียนกันอีกทีซะแล้ว คิดว่าหน้าฝนน่าจะสวยกว่านี้เยอะ





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:23   


คำตอบที่ 14
       ถําปริว ถํานี้มีประวัติน่ากลัวมาก แต่ไม่เหมาะสมในการอธิบาย





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:26   


คำตอบที่ 15
       คราบดำๆบนเพดานถําเป็นรอยเขม่าไฟที่โดนปืนไฟยิงเข้าไป





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:28   


คำตอบที่ 16
       ภูเขาสูงเหนือระดับทะเลมากกว่า2400





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:30   


คำตอบที่ 17
      





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:32   


คำตอบที่ 18
       สมาชิกกำลังแอ็คชั่นอยู่บนยอกเขา อากาศหนาวมาก





จาก เสือเหลือง  203.118.123.132  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:33   


คำตอบที่ 19
       หิวที่ไหน ทำครัวที่นั่น





จาก เสือเหลือง  203.118.108.143  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:54   


คำตอบที่ 20
       ชนบทประเทศลาว





จาก เสือเหลือง  203.118.108.143  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 20:55   


คำตอบที่ 21
       ถําติ่ง





จาก เสือเหลือง  203.118.108.143  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 21:00   


คำตอบที่ 22
      





จาก เสือเหลือง  203.118.108.143  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 21:05   


คำตอบที่ 23
       ภายในถําติ่ง





จาก เสือเหลือง  203.118.108.143  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 21:07   


คำตอบที่ 24
       ของขนไปอย่างกับย้ายบ้าน





จาก เสือเหลือง  203.118.108.143  ศุกร์, 14/1/2548 เวลา : 21:08   


คำตอบที่ 25
      





จาก tui  203.156.27.137  จันทร์, 17/1/2548 เวลา : 22:21   


คำตอบที่ 26
      





จาก tui  203.156.27.137  จันทร์, 17/1/2548 เวลา : 22:24   


คำตอบที่ 27
      





จาก tui  203.156.27.137  จันทร์, 17/1/2548 เวลา : 22:25   


คำตอบที่ 28
       สวย ๆ และสภาพเป็นธรรมชาติดีมากครับ อิจฉาจริง ๆ ครับ



Rin จาก Rin  202.12.118.36  อังคาร, 18/1/2548 เวลา : 08:28   


คำตอบที่ 29
       สวยจังอยากจะหาโอกาสไปมั่ง.....ภาพทำไมสีแปลกๆครับ



Mr.Hin จาก นายหิน กลุ่ม Outdoor & camping เชียงใหม่  203.155.194.183  อังคาร, 18/1/2548 เวลา : 19:08   


คำตอบที่ 30
       ค่าน้ำมันหมดไป 320,000- อู้หู!!!





จาก โยธา๒  210.213.6.126  จันทร์, 24/1/2548 เวลา : 20:27   


คำตอบที่ 31
       Sticker ประกันภัยรถ





จาก โยธา๒  210.213.6.126  จันทร์, 24/1/2548 เวลา : 20:29   


คำตอบที่ 32
       ค่าผ่านทางนะจ๊ะ!!!





จาก โยธา๒  210.213.6.126  จันทร์, 24/1/2548 เวลา : 20:31   


คำตอบที่ 33
       แผนที่หลวงพระบาง





จาก โยธา๒  210.213.6.126  จันทร์, 24/1/2548 เวลา : 20:32   


คำตอบที่ 34
       ราคาที่พักจ้า!!!





จาก โยธา๒  210.213.6.126  จันทร์, 24/1/2548 เวลา : 20:34   


คำตอบที่ 35
       นี่ก็ใช่!!!





จาก โยธา๒  210.213.6.126  จันทร์, 24/1/2548 เวลา : 20:35   


คำตอบที่ 36
       นี่อีกเอาเข้าไป! เอาให้พอ





จาก โยธา๒  210.213.6.126  จันทร์, 24/1/2548 เวลา : 20:36   


คำตอบที่ 37
       บัตรเข้าชมถ้ำติ่ง!!





จาก โยธา๒  210.213.6.126  จันทร์, 24/1/2548 เวลา : 20:38   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 7:05:52

Error processing SSI file