WeekendHobby.com


ขอความคิดเห็นหน่อยนะค่ะว่าถ้าทำแล้วจะมีคนมาพักไหมค่ะ

จาก วิไลพร
อาทิตย์ที่ , 12/2/2549
เวลา : 23:39

อ่าน = 1502
202.28.38.253
       ปณิธานของเจ้าของที่

แต่เดิมนั้นข้าพเจ้าทำงานและมีบ้านอยู่ที่กรุงเทพ ตอนนั้นได้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ และตับอักเสบ ได้รับความทุกข์ทรมานมาก รักษาไม่หายขาดต้องพบแพทย์เป็นประจำ จึงได้ตัดสินใจย้ายมาอยู่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 11 ปี ที่ผ่านมา เพื่อรักษาตัวเอง เพราะเห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่มีอากาศดี ข้าพเจ้าจึงซื้อที่ดิน ในอำเภอแม่แตง จำนวน 30 ไร่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 30 กิโลเมตร ตอนแรกนั้นเป็นพื้นที่ที่มีความแห้งแล้ง จากนั้นได้ทราบว่ากรมป่าไม้ มีการแจกกล้าไม้ให้นำมาปลูกป่าเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าจึงเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะปลูกป่าเพื่อพระองค์ท่าน จึงไปรับกล้าไม้จากกรมป่าไม้ จำนวน 10,000 ต้น เพื่อนำมาปลูกในที่ของตนเอง ปัจจุบันต้นไม้ ได้เจริญเติบโต สร้างอากาศที่บริสุทธิ์ ให้ความร่มรื่นเป็นอย่างมาก ปรากฏว่าหลังจากปลูกต้นไม้ ได้ประมาณ 6 – 7 ปี อาการของโรคดังกล่าวได้ค่อย ๆ หายขาดและไม่กลับมาเป็นอีก บวกกับการใช้ชีวิตที่นี้ข้าพเจ้าได้รักษาสุขภาพของข้าพเจ้า โดยการใช้ธรรมชาติบำบัดควบคู่ไปกับการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นการได้อยู่ในที่ที่อากาศดี ไร้มลพิษ การรับประทานอาหารที่ดี และการอยู่รวมกับผู้คนที่น้ำใจงาม จึงทำให้ข้าพเจ้าเกิดแรงบันดาลใจต้องการที่จะให้ตัวข้าพเจ้าเองและผู้อื่นที่รักในธรรมชาติและวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ได้มีสุขภาพที่ดี มีอาหารที่ปลอดสารพิษรับประทาน และมีความสุขทางด้านจิตใจ จึงคิดที่จะสร้างที่พักอาศัยให้แก่บุคคลทั่วไปที่สนใจ ด้วยเหตุผลข้างต้น และเห็นว่าปัจจุบันโลกร้อนขึ้น น้ำแข็งละลาย เกิดอุทกภัยทุกที่ อากาศเปลี่ยนแปลง และสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปจากเดิมมาก จึงคิดที่จะปลูกป่าเพิ่มจากเดิม และจะใช้รายได้ที่เกิดขึ้นหลังจากการหักค่าใช้จ่ายแล้ว เป็นทุนในการปลูกป่าทดแทนเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ที่พักอาศัยแห่งนี้จะเป็นบ้านพักในสวนป่าและสมุนไพร เน้นธรรมชาติเป็นหลัก มีชีวิตที่เรียบง่าย มีกิจกรรมให้ทำ อาทิเช่น การศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักพระพุทธศาสนาจากอาจารย์สอนด้านวิชาพุทธศาสนาและปรัชญาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (เนื่องจากอาจารย์อีกท่านมีปณิธานอยากจะสอนพระพุทธศาสนาให้เยาวชนและบุคคลทั่วไป) ดนตรีไทย นวดแผนไทย มีห้องอบสมุนไพร การฝึกโยคะ ชี้กง และคอร์ดอาหารเพื่อสุขภาพโดยเน้นเกษตรอินทรีย์ และครบสารอาหารหลัก 5 หมู่ พร้อมอาหารเจ และ มังสาวิรัต มีการรักษาโรคด้วยธรรมชาติบำบัดควบคู่กับการรักษาโรคแผนปัจจุบัน ฯลฯ

อีกทั้งยังใกล้สถานที่ท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็น วัดพระพุทธบาทสี่ร้อย ที่ประดิษฐานพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า วัดอรัญญวิเวก ที่โด่งดังไปทั่วประเทศและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอันได้แก่ โป่งเดือดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ น้ำตกหมากฟ้าที่สวยไม่แพ้ที่ใด ๆ อีกทั้งยังมี อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ปางช้างแม่ตะมาน เขื่อนแม่งัด และเส้นทางอ๊อฟโรดที่หฤโหด โดยจะให้บริการค่าที่พักในอัตราที่ไม่แพง ทั้งนี้เพื่อให้สมกับปณิธานของข้าพเจ้าในการปลูกป่าและของเพื่อนข้าพเจ้าในการสอนพระพุทธศาสนาประสบความสำเร็จ

ขอความคิดเห็นค่ะว่าถ้าทำแล้วจะมีคนมาพักรึเปล่าค่ะ แสดงความคิดเห็นได้ที่กระทู้หรือได้ที่
kewsurin@hotmai.com kewsurin@yahoo.com หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่ 01-6026943
หรือส่งไปรษณีย์บัตรได้ที่ ภาควิชาปรัญชาและศาสนา คณะมนุษย์ศาสตร์ ปท.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 50202




ขอบพระคุณที่กรุณาอ่านบทความ และรอคอยการติดต่อจากท่าน
ขอบพระคุณค่ะ




เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       อ่านดูแล้วน่าสนใจดีน่ะค่ะ เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมค่ะ น่าจะทำค่ะถ้ามีทุน คิดว่ามีคนไปพักค่ะ เพราะว่าจะเอาเงินไปปลูกป่าด้วยค่ะ ความคิดดีค่ะ



จาก เด็กผี  202.129.32.7  จันทร์, 13/2/2549 เวลา : 08:37   


คำตอบที่ 2
       ขออนุญาตแสดงความเห็นแบบไม่เกรงใจนะครับ ในฐานะที่ผมเองก็พอมีประสบการณ์ด้านนี้อยู่บ้าง...

คุณตั้งคำถามว่า "ทำแบบนี้ จะมีคนมาพักไหม?"
ผมขอถามกลับว่า "คุณต้องการทำแบบนี้ เพื่ออะไร?"

ถ้าคุณมีวัตถุประสงค์เพื่อจะขายที่พัก โดยวางคอนเซ็ปต์ว่า เป็นพื้นที่เสื่อมโทรมมาก่อน และได้รับการปลูกต้นไม้จนเต็มพื้นที่ อากาศดี บรรยากาศดี ช่วยให้ผู้มาพักมีสุขภาพดี (พิสูจน์โดยท่านเจ้าบ้าน) มาถึงวันนี้ ท่านเจ้าบ้านมีความสุขเสียจนอยากหาทุกข์เพิ่ม ด้วยการอยากทำให้เป็นธุรกิจ อยากให้มีการสอนดนตรีไทย นวดแผนไทย มีห้องอบสมุนไพร การฝึกโยคะ ชี้กง ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมเสริมที่อยากทำเพิ่มนี้ มันคือค่าใช้จ่ายและเงินลงทุนทั้งสิ้น (ตกแต่งสถานที่ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกิจกรรมต่างๆ) ซึ่งเงินลงทุนนี้ คุณคงไม่คิดจะโยนมันทิ้งไปทุกเดือนๆโดยไม่หวังผลตอบแทนกลับมา แล้วคุณก็มากังวล (เป็นทุกข์) ว่า จะมีคนมาพักหรือไม่ เดือนนี้จะเอาสตางค์ที่ไหนมาจ่ายเบี้ยเลี้ยงคนงาน ซึ่งผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ในช่วง 2-3 ปีแรก คุณคงไม่มีเงินเหลือในแต่ละเดือนพอจะเอาไปซื้อที่ปลูกต้นไม้เพิ่มเติมเพื่อคืนประโยชน์ให้แผ่นดินหรอก

ถ้าอยากคืนประโยชน์ให้แผ่นดินด้วยการปลูกต้นไม้จริง ลองหาหนังสือ "คนปลูกต้นไม้" ของ ฌอง ฌิโอโน มาอ่าน หรือศึกษาวิธีการคืนคุณแผ่นดินจากหนังสือ "คนบ้าปลูกต้นไม้" ที่เอาประวัติของดาบวิชัย มาเล่า น่าจะดีกว่า ไม่ต้องลงทุนมาก ไม่ต้องเครียด กลัวไม่มีคนมาพัก กลัวไม่มีรายได้มาจุนเจือความฝัน!

คราวนี้ถ้าคุณตอบคำถามผมว่า "ต้องการทำแบบนี้เพราะท่านเจ้าบ้านมีความสุข จึงอยากแบ่งปันความสุขให้ผู้อื่นบ้าง แต่กลัวว่าลงทุนไปแล้ว จะไม่คุ้ม จะเจ๊ง เพราะอาจไม่มีคนมาพัก" ผมจะเล่าเรื่องจริงให้ฟังเรื่องหนึ่ง

พนักงานต๊อกต๋อยประจำธนาคารแห่งหนึ่ง เบื่อชีวิตเมืองหลวงอย่างถึงที่สุด แต่ก็ทนทำงานเพื่อเลี้ยงดูลูกเมียมานานกว่า 25 ปี เมื่อเมียเสียชีวิตจากโรคร้าย ก็กัดฟันเลี้ยงดูลูกส่งเสียจนเรียนจบออกมามีงานทำ

เพียงลูกทำงานได้ไม่ถึง 2 เดือน พนักงานแบงค์ต๊อกต๋อยคนนั้นก็ลาออกมาตามหาความฝันที่จะไปให้พ้นจากเมืองหลวงพร้อมกับเงินที่เก็บสะสมไว้ก้อนหนึ่ง เขาไปซื้อที่ปลูกบ้านหลังเล็กๆเชิงดอยอินทนนท์ ใน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ จากนั้นก็เอาเงินที่เหลือส่วนหนึ่งหาซื้อที่นาจากชาวบ้านแถวนั้น ได้มาอีกแค่ 5 ไร่ แล้วเขาก็ลงมือทำนาตามวิถีเกษตรธรรมชาติ ด้วยแรงบันดาลใจจากหนังสือ "ปฏิวัตยุคสมัยด้วยฟางเส้นเดียว" ของมาซาโนบุ ฟูกูโอกะ และการไปพบปะพูดคุยกับปราชญ์ชาวบ้านแห่งที่ราบสูง "คำเดื่อง ภาษี" เกษตรกรผู้ทำเกษตรกรรมธรรมชาติอีกคนหนึ่งของเมืองไทย

เพื่อนพ้องของอดีตพนักงานแบงค์รู้ข่าวการหันหลังให้วิถีชีวิตเมืองหลวง หากมีเวลาก็จะแวะไปเยี่ยม ชวนพรรคพวกเพื่อนพ้องไปนอนเล่นที่นาของเขา เมื่อถึงฤดูหว่าน ฤดูเกี่ยว เขาก็จะโทรถามเพื่อนๆว่ามีใครอยากมาร่วมสนุก ลงแขก หว่านข้าว เกี่ยวข้าวบ้าง ซึ่งเพื่อนๆก็ให้การตอบรับ เหมารถตู้ ขึ้นเครื่องบิน เดินทางไปที่ที่นา ถอดเสื้อสูท กระโดดลงลุยนาหว่านข้าว เกี่ยวข้าวกันเป็นที่สนุกสนาน

4 ปีผ่านไป เทศกาลหว่านและเกี่ยวข้าวของอดีตพนักงานแบงค์ต๊อกต๋อยคนนี้ได้มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวสาวชาวสวีเดนซึ่งบังเอิญเป็นเพื่อนของเพื่อนและเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยพอดี เธอจึงได้มีโอกาสทดลองเกี่ยวข้าวด้วยมือ น่าประทับใจมาก และจากนั้นในปีต่อๆมา ก็มีทั้งชาวเนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก อเมริกัน สิงคโปร์ ฯลฯ ซึ่งทราบข่าวจากการบอกต่อ และการชักชวนของเพื่อนพ้องให้มาร่วมลงแขกเพิ่มขึ้นทุกๆปี

รายได้ของเขามาจากการขายข้าวที่ได้จากนาปลอดสารพิษให้กับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งยินดีรับซื้อแบบเหมายุ้ง เงินที่ได้ แม้จะไม่มาก แต่ก็พออยู่กินตามอัตภาพ จนถึงวันหนึ่ง เขาก็คิดว่า จะเอาเงินส่วนที่พอมีเหลือ มาสร้างกระต๊อบเล็กๆให้ผู้มาเยือนได้เข้าพัก เก็บค่าใช้จ่ายเล็กน้อยพอเป็นค่าน้ำค่าไฟ ค่าบำรุงรักษา ไม่ต้องมีรูมเซอร์วิส ไม่ต้องมีทีวี ตู้เย็น และกิจกรรมใดๆ เอาไว้เป็นที่ "พัก" เท่านั้น
อดีตพนักงานแบงค์คนนี้ทำด้วยความสุข ไม่เครียดกับการหาลูกค้า ไม่ต้องกังวลว่าจะมีแขกมาพักมากพอจะจ่ายดอกเบี้ยแต่ละเดือนหรือไม่

คุณอยากเป็นแบบไหน ตัดสินใจเองครับ

ปล. อดีตพนักงานธนาคารต๊อกต๋อยคนนั้นคือคุณพ่อของผมเอง



เฌอเขียว จาก เฌอเขียว  61.91.78.227  จันทร์, 13/2/2549 เวลา : 10:40   


คำตอบที่ 3
       ...ความฝันของมนุษย์มีหลากหลายรูปแบบแล้วแต่จินตนาการ
...ผมอ่านทั้งเจ้าของกระทู้ และผู้ให้ข้อแนะนำ
...เขาเรียกว่าทางเลือกก่อนตัดสินใจ
...ถ้ามีทุนเหลือเฟือเหตุผลแรกก็ไม่เลวครับ
...เพื่อจุดประสงค์จากสุขภาพตนเองที่พิสูจน์ว่าดีขึ้น
...แล้วต้องการเผื่อแผ่ให้กับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพแล้วยังหาทางไม่ออก
...ส่วนของ น้าเฌอเขียว เป็นแนวเศรษฐกิจพอเพียง
...มีความสุขต่มความเหมาะสมแก่อัตภาพแต่ก็มีความสุขได้เช่นกัน
...ส่วนลงทุนแล้วถ้าหวังผลกำไรกลับคืนเป็นตัวเงินอาจทำนายยาก
...ขึ้นอยู่กับการโปรโมทและความพึงพอใจของลูกค้า
...แต่ถ้าทำขึ้นเพื่อต้องการแบ่งปันให้คนในสังคม
...ได้มีทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นสำหรับผู้ที่ถึงทางตัน
...โดยที่ไม่แสวงหากำไรจนเป็นธุรกิจใหญ่โต
...ถ้ามีความสุขที่จะกระทำก็จงทำตามที่ใจปราถนาเถอะครับ
...ก็แค่มุมมองความคิดเห็นเสียงหนึ่งเท่านั้น



จาก น้าพี  202.57.190.2  อังคาร, 14/2/2549 เวลา : 12:02   


คำตอบที่ 4
       ผมล่ะอิจฉา "อดีตพนักงานแบงค์คนนั้น" ...จังเลยครับ หลังจากที่หมดห่วงทั้งหลายแหล่ ก็ได้ทำตามความฝันที่ตนเองตั้งใจเอาไว้

น่าภูมิใจแทนที่ท่าน ที่จากไปในช่วงที่ท่านทำความฝันที่เป็นจริงแล้ว


น้าพี....ฝันอะไรบ้างเล่าสู่กันฟังบ้างซิครับ

ส่วนผมก็ยังเป็นพนักงานต๊อกต๋อย ที่ใช้ชีวิตอย่าง "หมาล่าเนื้อ" เหมือนเดิม หยุดนิ่งเมื่อไหร่ก็อดเมื่อนั้น.....ยังไม่มีโอกาสทำความฝันให้เป็นจริงซักทีครับ



mop จาก MOP  58.11.40.115  อังคาร, 14/2/2549 เวลา : 15:41   


คำตอบที่ 5
       จากประสบการณ์ที่ได้พบปะกับนักเดินทางมาตลอด 9 ปี (http://www.poungsadtour.com) ผมขออนุญาตออกความเห็นนิดครับ

อันดับแรกต้องมีจุดยืนในการทำครับต้องดูว่าจริง ๆ เราอยากทำอะไรเพื่ออะไร ผมจะเล่าตัวอย่างจากความฝันของผมเองดีกว่าครับ กะอยากมีที่ซักแปลงไม่ต้องมากจัดแบ่งพื้นที่ปลูกต้นหางนกยูง , คูน (ราชพฤกษ์) , ทองกวาว จัดปลูกห้องพักทรงเอเฟรมซัก ๔-๕ หลังเพื่อเอาไว้รองรับเพื่อน ๆ นักท่องเที่ยว ชักชวนชุมชนรอบข้างจัดการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและเป็นการดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมท่องเที่ยวไว้บริการเพื่อน ๆ นักเดินทางทั้งเดินป่า เชิงนิเวศน์

อันนี้เป็นหลัก ๆ นะครับที่สำคัญผมแนะนำเบื้องต้นเลยว่าคุณต้องตัดสินใจเลยครับว่าจะทำเชิงธุรกิจหรือใจรัก เชิงธุรกิจคือต้นทุนนำมาซึ่งกำไรในรูปแบบเงินตรา แต่ใจรักคือต้นทุนและกำไรที่ได้ทางจิตใจครับ ถ้าตัดสินใจที่จะทำในรูปแบบไหนแล้วค่อยวางแผนในการจัดทำต่อไปครับ หากต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเมล์หาผมได้ครับผมอยู่เชียงใหม่เหมือนกันครับ และว่าง ๆ อาจได้ไปเที่ยวยังสถานที่ของท่านเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นฉันพี่น้องครับ



จาก พวงแสด...  203.113.0.193  อังคาร, 14/2/2549 เวลา : 16:08   


คำตอบที่ 6
       ...น้า mop น้าพีก็มีความฝันเรื่อยๆแหละ
...แต่ก็แค่ฝัน เพราะมีความสุขดีเวลาคิด(เล่นๆ)
...หลายอย่างที่อยากทำเพราะต้องการความอิสระเสรี ฟรีสไตล์
...แต่พอคิดเรื่องถ้าเกิดว่า????ไม่เป็นดั่งคิด
...จะเอาอะไรกินดีล่ะทีนี้ ตื่นจากฝันตรงนี้ทุกทีเลย555
...เลยจำเป็นต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนให้เขาโขก สับบ้าง ตามโอกาส
...แต่ก็ยังมีฝันอยู่นะ
...ฝันล่าสุด อยากทำอะไรง่ายๆสบายๆเล็กๆแต่มีความสุขใจ
...ที่ ปาย นั่นแหละเหมือนชุมชนที่รวมศิลปินหลากหลาย
...แถมมีอะไรๆให้ติดใจหลายอย่าง จริงๆ
...ฝันไปเรื่อย สุขใจดี ครับ



จาก น้าพี  202.57.190.2  อังคาร, 14/2/2549 เวลา : 17:34   


คำตอบที่ 7
       อย่าทำเลยครับ เจ๊งแน่นอน
ไม่มีความคิดรวบยอดของงานที่จะทำเลย
เหมือน คนที่พออยู่ๆไปเริ่มเห็นโอกาสที่จะทำเงินได้
ก็เห็นจากคนอื่นๆ ที่ทำแหล่ะ แล้วมาสรุปแบบลวกๆกับตัวเอง ว่าน่าจะทำบ้าง

แล้วมาเก็ตติงแพลนคุณดูเหมือน ว่าแทบจะเซอร์วิสได้หมดทั้ง เพื่อสุขภาพ เพื่อนสันทนาการ เพื่อท่องเที่ยว เพื่อสังคม เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน

จุดขายจริงๆอยู่ตรงไหนครับ
สุดท้ายลงทุนขนาดนี้ ถ้าไม่นึกถึงเพื่อการค้า เจ๊งครับเจ๊ง



จาก ปลิวลม  203.209.106.20  อังคาร, 14/2/2549 เวลา : 23:07   


คำตอบที่ 8
       ดีโม่สุดหล่อ



จาก นัด  203.149.16.33  จันทร์, 6/8/2550 เวลา : 20:42   


คำตอบที่ 9
       โม่คิงทำงานสมุนไพรตรงไหน



จาก นัด  203.146.104.35  พฤหัสบดี, 23/8/2550 เวลา : 21:05   


คำตอบที่ 10
       ดีใจด้วยครับที่สุขภาพดีขึ้น แต่การที่จะกระโจนเข้าสู่วงจรธุรกิจผมไม่เชิงห้ามน่ะครับ เพราะเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อสุขภาพ แต่ถ้ายืนยันว่าจะทำเป็นธุรกิจ ก็กำหนดจุดยืนทางธุรกิจให้ชัดเจนไปเลยครับ ไม่ว่าHome stay ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ , spa , สมุนไพรบำบัด ฯ ผมก็เคยวาง Concept เหมือนคุณเลยครับและพบว่ามันก้วางเกินไปไม่ Focus ทำให้ไม่รู้ว่าจุดขายและจุดแข็งของธุรกิจตนเองคืออะไรและอยู่ตรงไหน ก็เป็นข้อแนะนำหรือข้อเสนอแนะเชิงแลกเปลี่ยนครับ ขออวยพรให้โชคดีครับ



จาก ศรัทธา  124.157.225.137  เสาร์, 25/8/2550 เวลา : 11:50   


คำตอบที่ 11
       c



จาก .  203.149.12.234  จันทร์, 10/9/2550 เวลา : 09:52   


คำตอบที่ 12
       - ไม่ทราบว่า ได้ทำไปแล้วอย่างไร หรือไม่
- เห็นด้วยกับคุณเฌอเขียว
- ถ้าทำเป็นธุรกิจก็มีโอกาสเป็นทุกข์แน่ ๆ
- แต่ถ้าอยากทำ ก็น่าจะคิดให้ชัดเจนว่าจะทำเพื่ออะไรกันแน่
- ไม่ว่าจะทำเป็นธุรกิจหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาว่า จะทำได้อย่างไร (ทุน แรงงาน คน เวลา ฯลฯ) และน่าจะเริ่มจากเล็ก ๆ เพียงบางอย่างก่อน เท่าที่จะไม่เดือดร้อน (ด้านทุน เวลา คน ฯลฯ) ถ้าดี มันก็จะโตไปเอง
- ถ้ามุ่ง"ให้สังคม" โดยไม่เดือดร้อนตนเองและครอบครัวน่าจะได้ความสุข



จาก TN  118.174.220.175  ศุกร์, 2/5/2551 เวลา : 16:54   


คำตอบที่ 13
       เห็นด้วยทำเป็นมูลนิธิครับ



cotto จาก cotto  203.130.145.67  เสาร์, 3/5/2551 เวลา : 08:27   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 7:08:35

Error processing SSI file