จาก เต่าดอย 147.182.5.50
พุธที่ , 25/12/2545
เวลา : 09:44
อ่านแล้ว = 546 ครั้ง
|
ขออนุญาติ Copy เรื่องของน้ำมัน มาเล่าสู่กันฟังครับ.....
ต่างชาติรุกรัฐบาลไทยให้ปิดโรงกลั่นบางจาก น้ำมันไม่ขาดแคลน
๔ ธันวาคม ๒๕๔๕
เรียน ประชาชนผู้รักชาติทุกท่าน
เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน นายเวย์น คลาห์ส ประธานบริษัทคาลเท็กซ์ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์
สื่อมวลชนขู่รัฐบาลไทยว่า "รัฐบาลคิดจะช่วยโรงกลั่นบางจาก รัฐบาลกำลังละเมิดกฎการค้าเสรี
เมื่อบางจากอยู่ไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้ปิดไปตามกลไกตลาด รับรองน้ำมันในไทยไม่ขาดแคลน
เพราะเกินความต้องการ ๓๐% อยู่แล้ว"
คนไทยไม่โง่ เรารู้ว่าไม่มีประเทศไหนในโลกปล่อยให้คู่แข่งต่างชาติเอาเปรียบอย่างเสรี ต่างก็
ต้องช่วยคนของประเทศตัวทั้งนั้น ประธานบริษัทคาลเท็กซ์ขู่ให้รัฐบาลอยู่เฉยๆ ปล่อยให้โรงกลั่นบางจาก
(โรงกลั่นเดียวของไทย) ตายซากอย่างเสรี โรงกลั่นต่างชาติในไทยอีก ๔ แห่งจะได้ขายน้ำมันมากขึ้น
นายเวย์นอ้างว่า ปิดโรงกลั่นบางจากได้ก็ดีเพราะน้ำมันล้นตลาด ที่จริงโรงกลั่นบางจากเป็น
โรงกลั่นที่สร้างมาก่อน แล้วมาต่อเติมปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดปี ๒๕๓๖ ซึ่งน้ำมันกำลังขายคล่อง ต่อมา
บริษัทต่างชาติสร้างโรงกลั่นเพิ่มอีกถึง ๒ โรง สร้างเสร็จปี ๒๕๓๙ น้ำมันก็ล้นตลาดทันที ถ้าจะปิด
ต้องปิดโรงกลั่นต่างชาติที่ก่อปัญหา ไม่ใช่บางจาก
นายเวย์นเตือนรัฐบาลให้พิจารณาอย่างรอบคอบ ถึงเรื่องความเหมาะสมและประสิทธิภาพ การดำเนินงาน รัฐบาลไทยช่วยโรงกลั่นบางจากของรัฐบาลไทยทำไมจะไม่เหมาะสม และในยุค ที่โรงกลั่นขาดทุนตามๆ กัน โรงกลั่นต่างชาติขาดทุนเป็น ๓ เท่าของโรงกลั่นบางจาก ใครมี
ประสิทธิภาพมากกว่ากัน ๙ เดือนของปีนี้ บางจากกำไรสุทธิ ๔๖๑ ล้านบาท
คนต่างชาติกลุ่มหนึ่งจ้องฮุบบางจากให้สิ้นคู่แข่ง และยึดครองกิจการน้ำมันของไทยให้ได้ทั้งหมด
พวกเราหลายคนหลายกลุ่มคัดค้านรัฐบาลที่แล้วเมื่อปี ๒๕๔๒ ไม่ให้ขายหุ้นบางจากให้ต่างชาติ เช่น ชมรมคนรักบางจาก (โดยคุณณรงค์ โชควัฒนา) เครือข่ายพลเมืองไท (โดยกลุ่มประชาชน ๘๔ กลุ่ม
และผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ทั้งพระและฆราวาสรวม ๗๙ ท่าน เช่น พระพยอม กัลยาโณ พระไพศาล วิสาโล
คุณหมอเสม พริ้งพวงแก้ว คุณหมอเฉก ธนะศิริ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นต้น) และกลุ่ม
"คนกู้เมือง" ที่ออกไปร่วมคัดค้านหลังสุด ทำให้รัฐบาลที่แล้วต้องเลิกขายหุ้นบางจากให้ต่างชาติ
บริษัทบางจากมีทั้งโรงกลั่นและกิจการค้าปลีกตามปั๊มบางจากทั่วประเทศ เมื่อนักค้าน้ำมัน
ต่างชาติกลุ่มนั้นฮุบซื้อรวมหมดไม่ได้ ก็แยกตี ตีโรงกลั่นบางจากหนักกว่าเพื่อน ด้วยการขู่รัฐบาล
ไม่ให้ช่วย ประโคมข่าวให้คนไทยด้วยกันเองหลงเชื่อคำใส่ร้ายว่าไม่ดี เช่น น้ำมันคุณภาพต่ำ ขาดทุน ทุกปี จวนจะเจ๊งอยู่แล้ว ตีอีกอย่างหนึ่งคือ แย่งลูกค้าปั๊มต่างๆ ของบางจาก (ปั๊มต่างชาติแย่งกันเองด้วย) ปั๊มต่างชาติบางปั๊มระดมทุนจากต่างประเทศมายอมขาดทุนในระยะสั้น ด้วยการเสนอบริการเลิศลอย
เกินความจำเป็น เช่น เปิดไฟสว่างจ้าเหมือนโรงถ่ายหนังตลอดคืน เป็นต้น ปั๊มตราใบไม้ของคนไทยจะ
เอาเงินทุนมากมายที่ไหนมาทุ่มแข่งกับเขา
ขณะนี้บางจาก บริษัทน้ำมันแห่งชาติของคนไทยแห่งเดียวที่มีโรงกลั่น (รัฐบาลถือหุ้น ๗๒%
คนไทยทั้งหมดถือหุ้นรวม๙๘%) กำลังถูกตีทั้งกิจการโรงกลั่นและการค้าปลีกตามปั๊มต่างๆ อาการ
น่าเป็นห่วงที่สุด ท่านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้กล่าวเมื่อ
วันที่ ๓ ตุลาคมที่ผ่านมาว่า "บริษัทบางจากเป็นบริษัทน้ำมันแห่งเดียวที่คนไทยเป็นเจ้าของ คนไทย
บริหาร และคนไทยใช้
ตอนนี้บริษัทบางจากกำลังป่วยเพราะมีเงินน้อย ถ้าเราไม่มีการเพิ่มทุนให้กับบริษัท บางจาก สงสัยบางจากคงจะต้องตาย แล้วเราก็จะไม่มีบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยเหลือ อยู่เลย
ฉะนั้นพวกเราจึงควรที่จะสนับสนุนบริษัทบางจากให้คงอยู่ และให้สามารถทำงาน ในหน้าที่ที่เป็นเรื่องราวของบริษัทน้ำมัน อันเป็นหน้าที่โดยตรงของบริษัทบางจาก และจะได้ ทำงานเพื่อคนที่เราเรียกเขาว่า คนชนบท"
ผมและคณะกรรมการส่งเสริมบางจากเพื่อชุมชน ได้เข้าพบท่านนายกฯ ทักษิณ ๒ ครั้ง ขอให้ รัฐบาลนี้ให้ความยุติธรรมกับบริษัทบางจากด้วยการเพิ่มทุน ๓,๐๐๐ ล้านบาท ส่วนที่เหลือนั้น ประชาชน จะระดมทุนช่วยเพิ่มเติม ท่านนายกฯ รับปากจะพิจารณา ถึงเวลานี้ยังไม่ทราบผล (ตอนเศรษฐกิจ ฟุบ ปี ๒๕๔๐ บริษัทใหญ่ๆ จะอยู่รอดต้องมีการเพิ่มทุนทั้งนั้น รัฐบาลก่อน เอาเงินคนไทย ไปเพิ่มทุนให้ โรงกลั่นต่างชาติ ๒๘,๓๐๐ ล้านบาท โดยไม่ได้เพิ่มทุนให้บางจาก บริษัทของรัฐบาลไทยเลย)
ขอความกรุณาทุกท่านที่อยากให้บริษัทบางจากอยู่รอดช่วยดังนี้คือ
๑. เผยแพร่ความจริงไปยังญาติสนิทมิตรสหายว่า บางจากไม่ได้แย่อย่างที่คนต่างชาติ กลุ่มหนึ่ง
ใส่ร้าย (ตารางแนบ) พวกผมพร้อมจะไปชี้แจงทุกเวที ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และที่ต่างๆ
๒. ชักชวนกันเติมน้ำมันปั๊มบางจาก คุณภาพดี ราคาไม่แพง แม้ตัวปั๊มจะไม่เลิศหรูเท่าปั๊มต่างชาติ
๓. ท่านและญาติสนิทมิตรสหาย กรุณานำรถแวะปั๊มบางจาก แปะแผ่นติด "เราคนไทย ใช้บางจาก" ที่กระจกรถให้มากคันที่สุด
พระมหาชนกยังทนว่ายน้ำอยู่ได้ทั้งๆ ที่มองไม่เห็นฝั่ง เรื่องแค่นี้เราต้องช่วยกันได้แน่
"ถ้าไทยไม่ช่วยไทย ก็แล้วใครจะมาช่วยเรา"
ขอบคุณครับ
พลตรี
(จำลอง ศรีเมือง)
ในนามคณะกรรมการส่งเสริมบางจากเพื่อชุมชน
บางจากมีผลประกอบการดีกว่าโรงกลั่นน้ำมันต่างชาติทุกรายในประเทศไทย
หน่วย : ล้านบาท
โรงกลั่น กำไร+ / ขาดทุน - สุทธิ
ปี 2539 ปี 2540 ปี 2541 ปี 2542 ปี 2543 ปี 2544 รวม 6 ปี
สตาร์
(คาลเท็กซ์ 64%) - 1,466 - 28,602 7,576 - 815 - 5,319 - 3,499 - 32,125
โรงกลั่น A - 856 - 36,491 11,270 - 2,468 - 8,548 - 4,927 - 42,020
โรงกลั่น B
- 1,946 - 17,799 5,606 - 5,892 - 8,585 - 1,004 - 29,620
โรงกลั่น C 224 - 9,689 - 7,306 - 18,909 - 3,392 - 4,370 - 43,442
บางจาก
1,024 - 3,785 59 - 1,783 - 1,582 - 2,987 - 9,054
หมายเหตุ : 1/ โรงกลั่น B ไม่รวมตัวเลขกำไรจากการขายทรัพย์สิน/เช่ากลับ กับบริษัทในเครือ
2/ โรงกลั่น C ไม่รวมตัวเลขกำไรจากการปรับโครงการสร้างหนี้
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์
ที่ผ่านมารัฐได้ลงทุนและเพิ่มทุนในโรงกลั่นต่างชาติด้วยเงินจำนวนมาก
แต่ไม่ได้เพิ่มทุนให้บางจาก
หน่วย : ล้านบาท
โรงกลั่น สัดส่วน
ที่รัฐถือหุ้น รัฐลงทุน
เริ่มต้น รัฐเพิ่มทุน รวมเงินลงทุน
ของรัฐ
สตาร์
(คาลเท็กซ์ 64%) 36% 4,630 +11,970 16,600
โรงกลั่น A 36% 6,795 +6,905 13,700
โรงกลั่น B 12% 3,700 0 3,700
โรงกลั่น C
49% 10 +9,490 9,500
บางจาก 72% 2,350 0 2,350
รัฐลงทุนในบางจาก 2,350 ล้านบาท ได้กลับคืนไปแล้ว 7,173 ล้านบาท (เงินปันผลและภาษีเงินได้จากผลกำไร)
|