WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ชาวบ้านโวย ออฟโรดทำป่าพัง

จาก ปกาเกอะญอ
IP:203.146.162.36

พฤหัสบดีที่ , 19/8/2547
เวลา : 16:25

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ชาวบ้านโวย ออฟโรดดอยอินทนนท์ทำป่าพัง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 สิงหาคม 2547 15:14 น.



“ชุมชนปกาเกอะญอ”เผยคาราวานออฟโรด ส่งผลให้ป่ากระทบกระเทือน นกหลายชนิดเริ่มหายไป(ภาพ:ททท.)

รายงานจากสกว.ระบุ “ชุมชนปกาเกอะญอ” เผยคาราวานออฟโรด และแก๊งค์มอเตอร์ไซค์รบกวนสถานที่ท่องเที่ยว ส่งผลให้ป่าได้รับผลกระทบกระเทือน นกหลายชนิดเริ่มหายไป หวั่นผลผลกระทบบานปลายหากไม่เร่งแก้ ระบุที่ผ่านมาถูกท่องเที่ยวโดยไม่รู้ตัว ชุมชนขอดูแลจัดการท่องเที่ยวด้วยตนเองพร้อมเตรียมเสนอโครงร่างงานวิจัยเพื่อจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

นายสุรสิทธิ์ ดลใจไพรวัลย์ ตัวแทนกลุ่มเยาวชนบ้านผาหมอน ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และเริ่มมีการท่องเที่ยวเกิดขึ้น ชุมชนโดยรอบ รวมทั้งบ้านผาหมอนต่างก็ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากกลุ่มคาราวานรถออฟโรดของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ รวมถึงแก็งค์มอเตอไซค์ ที่มักจะขับผ่านเข้ามาในหมู่บ้านเป็นประจำ ส่งผลให้ป่าได้รับผลกระทบ นกหลายชนิดเริ่มหายไปจากชุมชน จนบางครั้งชาวบ้านต้องนำต้นไม้ไปขวางเพื่อไม่ให้รถนักท่องเที่ยวผ่าน
ซึ่งรูปแบบการจัดการท่องเที่ยวที่ผ่านมาชาวบ้านเองก็ไม่เคยเข้าไปมีส่วนจัดการเลยแม้แต่น้อย

“หมู่บ้านเราตั้งอยู่บนเส้นทางไปอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้าไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคาราวานออฟโรดของชาวต่างชาติ และจากการประชุมร่วมกับชาวบ้าน ส่วนใหญ่แล้วจะมีความเห็นตรงกันก็คือ ถึงเวลาแล้วที่ชุมชนต้องเตรียมความพร้อม และเข้าไปมีส่วนในการจัดการการท่องเที่ยวในพื้นที่บ้านผาหมอนด้วยตัวเอง”

นายสรุสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาได้มีการวิเคราะห์ และหารือร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่เครือข่ายการเรียนรู้และประสานงานวิจัยการท่องเที่ยวโดยชุมชนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานภาคเพื่อต้องแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ อันจะนำไปสู่การจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน

“กลุ่มชาวบ้านเองก็ได้มีการหารือกันว่าจะทำการท่องเที่ยวแบบไหนดี และเราก็ได้วิเคราะห์ถึงทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่มีอยู่ในบ้านผาหมอน สภาพปัญหาที่เป็นอยู่ของชุมชน ชาวบ้านเราได้เห็นสภาพว่าบ้านผาหมอนเป็น ชุมชนชาวปกาเกอะเญอ ที่ยังคงมีการดำรงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมอยู่ทั้งด้านความเชื่อ ประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆรวมทั้งยังเป็นแหล่งที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ป่า แหล่งน้ำ น้ำตก และนกที่มีอยู่มากมาย หลายชนิด”

นายสรุสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ชุมชนยังมีเรื่องของการทอผ้า การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติแบบดั้งเดิม ทำเครื่องจักสาน มีสมุนไพร เส้นทางศึกษาธรรมชาติในชุมชน การทำการเกษตร ที่คนภายนอกมักจะเข้ามาแวะเวียนเที่ยวชมอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่มีการจัดการท่องเที่ยวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

อนึ่งทางชุมชนยังได้มีการประชุมร่วมกันว่าต่อไปนี้ชาวบ้านจะต้องเป็นผู้จัดการเรื่องการท่องเที่ยวของชุมชน
และจะต้องเป็นการท่องแบบเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะต้องได้รู้เรื่องของวัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ ข้อห้ามต่าง ๆ ตามแบบอย่างของวิถีชีวิตชาวปกาเกอะเญอ ถ้าจะชมธรรมชาติก็มาเดินศึกษาตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติของหมู่บ้าน มาเรียนรู้เรื่องภูมิปัญญาการใช้สมุนไพร การทอผ้าย้อมผ้า การเกษตรที่มีชาวบ้านเป็นคนอธิบายด้วย
ด้าน นางสาวสุภาวิณี ทรงพรวาณิชย์ เจ้าหน้าที่เครือข่ายการเรียนรู้และประสานงานวิจัยการท่องเที่ยวโดยชุมชน
จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานภาค กล่าวว่า ในพื้นที่บ้านผาหมอนนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่อยู่บนเส้นสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่ผ่านมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้าไปเป็นจำนวนมาก และหากชาวบ้านต้องการจะจัดการท่องเทียวโดยตนเองนั้น ต้องมีการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะความพร้อมของชาวบ้าน รูปแบบ และวิธีในการจัดการแหล่งท่องเที่ยว


“สำหรับการจัดการการท่องเที่ยว จำเป็นต้องใช้กระบวนการวิจัยแบบมีส่วนร่วมเข้าหนุนให้ชาวบ้านเกิดกระบวนการเรียนรู้ ทั้งนี้ก็เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในอนาคต และต้องทำการศึกษารวบรวม และทบทวนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับเรื่องของวีถีชีวิตของชุมชนบ้านผาหมอนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติ ดิน น้ำป่า สัตว์ป่า นก สมุนไพร วัฒนธรรมประเพณีต่างๆ เรื่องระบบการเกษตร ก่อนเป็นเบื้องต้น”

นางสาวสุภาวิณี กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการวิจัยท่องเที่ยวโดยชุมชนของบ้านผาหมอนนี้ จะใช้ชื่อโครงการว่า
“การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมแบบยั่งยืนโดยชุมชนบ้านผาหมอนดอยอินทนน์” ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการปรับแก้โครงร่าง และงานวิจัยที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ ชาวบ้านถือว่าอาจจะเป็นแนวทางให้ชุมชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของตัวชาวบ้านและชุมชนเอง ซึ่งจะมีส่วนทำให้กลับมามองเห็นความสำคัญหลาย ๆ ด้าน

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9470000039838



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 31
       ผมก็ชอบเหมือนกัน.......





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก ลุงชม 203.146.162.36 พฤหัสบดี, 13/1/2548 เวลา : 15:49  IP : 203.146.162.36   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 20127

คำตอบที่ 32
       เอาจัยเค้า....
..........มาใส่จัยเราบ้าง
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก้อมาจากมนุษย์
แล้วทำมั้ยมนุษย์ต้องมาวิจารณ์กันเอง
เอาสมองส่วนนั้นไปคิดหาวิธีแก้ปัญหาดีกว่ามั้ย!!!!!!



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เดกน้อย 118.172.138.11 อาทิตย์, 14/9/2551 เวลา : 16:20  IP : 118.172.138.11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 36384

คำตอบที่ 33
       เอาจัยเค้า....
..........มาใส่จัยเราบ้าง
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก้อมาจากมนุษย์
แล้วทำมั้ยมนุษย์ต้องมาวิจารณ์กันเอง
เอาสมองส่วนนั้นไปคิดหาวิธีแก้ปัญหาดีกว่ามั้ย!!!!!!



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก เดกน้อย 118.172.138.11 อาทิตย์, 14/9/2551 เวลา : 16:21  IP : 118.172.138.11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 36385

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,26 เมษายน 2567 (Online 6145 คน)