WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


จากพระเอก สู่ บทผู้ร้าย ของนักวิทยุสมัครเล่น

จาก 5523
IP:61.19.52.58

พฤหัสบดีที่ , 13/9/2550
เวลา : 15:32

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       ชาวบ้านสวดวิทยุฯทำแตกตื่น ตั้งชมรมคนเฝ้าระวังภัยสึนามิ
13 กันยายน 2550 14:17 น.
ชาวบ้าน จ.พังงา รุมสวดเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นทำคนแตกตื่น รวมกลุ่มเตรียมตั้งชมรม“คนเฝ้าระวังภัยสึนามิบ้านเขาหลัก” ด้านชาวระนองอพยพกลับบ้านแล้ว หลังตื่น"สึนามิ"พร้อมเฝ้าติดตามข่าวสารใกล้ชิด ยันจะไม่ใช้ชีวิตอยู่บนความประมาท ผู้ว่าฯ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา

(13กย.) ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากเกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเย็นวันที่ 12ก.ย.ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติของไทย ประเมินในขั้นต้นแล้วว่าไม่กระทบต่อประเทศไทย แต่มีชาวบ้านในพื้นที่ชายทะเลของจังหวัดพังงา พากันอพยพ เพราะเกรงว่าอาจจะเกิด คลื่น สึนามิ ขึ้นมาอย่างเมื่อปลายปี 2547 โดยเฉพาะที่บ้านเขาหลัก ,บ้านทับละมุ ต.ลำแก่นอ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ชาวบ้านทราบข่าวการเกิดแผ่นดินไหวจากทางทีวีแล้ว ก็เฝ้าดูสถานการณ์ที่จะตามมา ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านที่เล่นวิทยุเครือข่ายสมัครเล่นและเครือข่าย วิทยุ ซี บี แจ้งเมื่อช่วงเวลา 20.00 น.ของวันเดียวกันว่า ขณะนี้เกาะสุมาตรานั้นได้รับความเสียหายเพราะแรง สึนามิ และเวลา 23.00 น.นี้ สึนามิ จะพัดถล่มประเทศไทยหนักว่าเดิม จากจึงนั้นได้เกิดความโกลาหลขึ้น ในบรรดาชาวบ้านที่ได้ทราบข่าวดังกล่าว บ้างก็ขี่จักรยานยนต์รถยนต์ ไปแจ้งกับกับญาติตัวเองให้หนีขึ้นที่สูงกันจนวุ่นวาย

นายธรรมธนกฤษ หาญช้าง อายุ 45 ปี เจ้าของร้านปูซีฟู๊ด ตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม ห่างจากชายทะเลเขาหลัก 300 เมตร กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้คนแตกตื่นกันมานั้นเกิดจาก ข่ายวิทยุสมัครเล่นทั้งสองความถี่ข้างต้น ที่สื่อสารกันจนสร้างความตื่นตระหนก ข่าวที่นำมาสื่อสารกันนั้นขาดการควบคุม แทนที่จะยึดเอาของราชการเป็นหลักในการถ่ายทอด กลับไปเอาข้อมูลที่ไมไม่ได้กรอง

"ในส่วนชาวบ้านนั้นก็มีความกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้ว่าทางจังหวัดหรือทางราชการจะบอกว่าให้รอฟังข่าวจากราชการอย่าได้แตกตื่น แต่ชาวบ้านเหมือนกับว่าไม่เชื่อและไม่ไว้ใจหอเตือนภัยที่ทางการสร้างขึ้นมา แม้ว่าจะมีการซ้อมอพยพหนีภัยเมื่อเดือนก่อนแล้วก็ตาม จากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้เห็นได้ชัดว่าการที่ทางการเข้ามาซ้อมหนีภัยนั้นเอาเข้าจริงๆยามฉุกเฉิน ไม่สามารถปฏิบัติได้เป็นรูปธรรม "

นายธรรมธนกฤษ กล่าวต่อไปอีกว่า จากที่ตนเองตระเวนดูตามถนนเพชรเกษมที่ขนานไปกับชายฝั่งทะเล ระยะทางรวมแล้วประมาณ 20 กิโลเมตร พบว่าชาวบ้านพากันแตกตื่นอพยพหนีตาย ทางที่ดีนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือว่าจังหวัดเอง น่าจะจัดทีมพร้อมรถติดเครื่องขยายเสียงวิ่งไปตามถนน บอกให้ชาวบ้านมั่นใจว่าเป็นตัวแทนของทางราชการ ให้รอฟังข่าวจากทางราชการเท่านั้นไม่ต้องฟังใครที่ไหน เพราะที่ชาวบ้านวิ่งหนีกันนั้นไม่มีหน่วยงานของราชการที่รับผิดชอบออกรถวิ่งประชามสัมพันธ์อย่างนี้ มีแต่รถของกู้ภัยต่างๆที่วิ่งกัน ขวักไขว่และเปิดไฟไซเรน เป็นการเพิ่มความตระหนก

นายชูศักดิ์ มงคล อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า ชาวบ้านเขาหลัก อ.ท้ายเหมือง กำลังรวมตัวกันขึ้นตั้งเป็นชมรม “คนเฝ้าระวังภัย สึนามิ บ้านเขาหลัก” หลังจากที่ได้หารือกัน เพื่อทำหน้าที่รับข่าวสารจากทางราชการเพียงอย่างเดียวไว้คอยแจ้งเตือนภัย

พ.ต.อ. สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงากล่าวว่า ที่มีเครือข่ายวิทยุความถี่ต่างๆแจ้งข่าวจนเกิดความสับสน ในเรื่องนี้นับว่าเป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่จะต้องหารือ เพื่อยุติการสร้างความหวาดกลัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเช้าวันที่ 13 ก.ย. 50 ประชาชนชาวจังหวัดระนองในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ ที่ได้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ทุกคนได้เดินทางกลับเข้าบ้านของตัวเองหมดทุกคนแล้ว แม้ว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นอีกทางตอนใต้ของเกาะสุมาตราก็ตาม แต่ทุกคนยังคงเฝ้าติดตามข่าวสารทางโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง

นายทองหล่อ ใกล้ชิด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158 หมู่ 7 ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ชาวบ้านหาดทรายขาว ต.กำพวน อำเภอสุขสำราญ กล่าวว่า ได้กลับมาที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ขณะที่บางคนได้นอนที่บ้านญาติ และได้กลับมาเมื่อตอนเช้า โดยได้ใช้ชีวิตและประกอบอาชีพตามปกติ ไม่ตื่นตระหนกตกใจ แต่ก็ได้ติดตามข่าวสารต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หากเกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาดความรุนแรงมากกว่า 7 ริคเตอร์ แม้ว่าทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จะไม่ส่งสัญญาณเตือนภัยให้อพยพ แต่พวกตนก็จะอพยพเอง เพื่อความไม่ประมาท

นายเชิญ พันธุ์ดี อายุ 70 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน บ้านหาดทรายขาว ต.กำพวน อ.สุขสำราญ กล่าวว่า เหตุการณ์คลื่นสึนามิเมื่อปลายปี 2547 ได้สอนบทเรียนให้เรียนรู้เรื่องสึนามิเป็นอย่างดี เพราะครั้งนั้นแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่เหตุการณ์แผ่นดินที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พวกตนไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจ ก็อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน เมื่อแน่ใจว่าไม่เกิดสึนามิแล้ว จึงเดินทางกลับมาบ้าน อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะนี้ไม่สามารถออกไปทำประมงได้ เนื่องจากคลื่นลมในทะเลแรง ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวแต่อย่างใด แต่เป็นลมมรสุมที่เกิดขึ้นตามปกติในระยะนี้

นางกาญจนาภา กี่หมัน ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดยังคงเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะยังคงได้รับรายงานการเกิดแผ่นดินไหวยู่ โดยได้ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของประชาชนที่ได้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนี้ได้กลับมาบ้านกันทุกคนแล้ว ซึ่งก็ขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก แต่ขอให้คอยฟังข่าวสารทางราชการ และขอให้เชื่อมั่นว่า ถ้ามีการแจ้งเตือนภัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถส่งสัญญาณเตือนภัยได้ทันเวลาอย่างแน่นอน

นายเจษฎา วัฒนานุรักษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ทางจังหวัดระนองได้สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปอยู่ในที่ปลอดภัย แม้จะไม่เกิดคลื่นสึนามิ แต่การอพยพดังกล่าวทำให้ทราบว่าหากเกิดสึนามิในตอนกลางคืนจะประสบปัญหาในเรื่องการขาดแสงไฟส่องสว่าง การประกาศแจ้งเตือนจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ มีน้อยและล่าช้า

"แม้การอพยพในครั้งนี้จะไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ แต่ทำให้เห็นขอผิดพลาดในหลายข้อ เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นซ้อมหนีสึนามิในเวลากลางวัน จึงไม่ทราบทราบถึงปัญหาที่จะเกิดในกลางคืน ดังนั้นองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเมื่อทราบถึงปัญหาแล้วจะปรับปรุงและเตรียมพร้อมทั้งในเรื่องการแก้ไขเรื่องเส้นทางหนีและแสงสว่าง ในเส้นทางเส้นของประชาชนต่อไป"นายเจษฎา กล่าว

ข้อมูลจาก http://www.komchadluek.net/2007/09/13/a001_135019.php?news_id=135019



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       ขอบคุณสำหรับข้อคิดจากเรื่องนี้ครับ แต่ยังค้างคาใจอยู่

1) สรุปว่าข่าวที่ว่ามา ได้รับทราบมาจาก
1. นักวิทยุสมัครเล่น (Ham)
2. นักวิทยุสาสมัคร (VR)
3. นักวิทยุความถี่ประชาชน (CB)
4. นักวิทยุท้องถิ่น (ว.ถ.)

ข่ายไหนกันแน่ครับ งง

2) ที่ว่าความถี่ที่ใช้ มันช่องความถี่ไหน กี่MHz ครับ

-ถ้าทราบก็ต้องตักเตือนนะครับแบบนี้ สร้างความวุ่นวาย
ถ้าเป็นต่างประเทศบานปลายขนาดรัฐต้องออกมาช่วย
หรือ ต่างชาติต้องส่งคนมา สงสัยโดนปรับ โดนลงโทษ
เลยนะครับ ถือว่าแจ้งความเท็จนะครับ

3) ผู้ที่แจ้งบนความถี่ บอกนามเรียกขานหรือ บอกชื่อมั้ยครับ เพราะถ้าเป็นนักวิทยุสมัครเล่นจริงๆต้องแจ้งนามเรียกขานครับ ของไทยเรามี E2 (เอ๊กโค ทู) กับ HS (โฮเทล เซร่า) นำหน้าครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก คนรักวิทยุคนหนึ่ง 58.8.169.38 พฤหัสบดี, 13/9/2550 เวลา : 16:49  IP : 58.8.169.38   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10955

คำตอบที่ 2
       น่าจะเป็นการหาแพะของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมากกว่าครับ เท่าที่ฟังข่าวมาหน่วยงานรับผิด ชอบมีการประเมินสถานการณ์ผิดพลาด หาที่ลงปกปิดความผิดตนไม่ได้ ก็เอาลงที่วิทยุสมัครเล่น เนื่องจากเป็นเป้าใหญ่



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

จาก kob 202.91.18.205 อาทิตย์, 16/9/2550 เวลา : 23:08  IP : 202.91.18.205  แก้ไขข้อความ แก้ไขข้อความ   เปลี่ยนรูปใหม่ เปลี่ยนรูป   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 10978

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,26 เมษายน 2567 (Online 5452 คน)