จาก เงา
58.9.188.37
IP:58.9.188.37
พฤหัสบดีที่ , 13/12/2550
เวลา : 07:22
อ่านแล้ว = 1241 ครั้ง
 แจ้งลบ
 ส่งหาเพื่อน
|
ข้อคิดก่อนซื้อของทาง internet
มีหลายท่าน หลายรายแล้วที่โดนโกงจากการซื้อ การขาย ผ่าน net แล้วใน 100 รายจะได้เงินคืนแค่ 5 % เท่านั้น การติดตามผู้ที่ฉ้อโกงทาง
Netนั้น การติดตามตัวนั้นค่อนทั้งได้ลำบากเพราะต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายครับ
1. ทั้งผู้ซื้อที่ถูกผู้ขายโกงหรือ ผู้ขายที่ถูกผู้ซื้อโกง(อันนี้มีน้อยมาก)
2. เจ้าหน้าที่ธนาคารที่เราโอนเงิน
3.เจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ(เพราะท่านโทรติดต่อซื้อขายกัน)
4.เจ้าหน้าที่ๆให้บริการ internet
5.เจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพื่อไปลากคอไอ้คนที่โกงเราเข้าคุก กว่าผู้เสียหายจะดำเนินการจนได้ชื่อที่อยู่ของผู้ที่โกงท่าน บอกได้เลยว่า ไม่น้อยกว่า 3 เดือน เสียทั้งเงินและเวลาครับ มันก็อีกนั้นแหละอาจจะมีบางท่าน บางหลายไม่ยอมเอาถึงที่สุด ไม่ได้เสียดายเงินแต่เจ็บใจครับก็มี (ประเด็นหลัง ผมขอยกนิ้วให้ เอามันเลย)
ที่นี้เรามาพูดถึงการจัดการเกี่ยวกับการป้องกัน การถูกฉ้อโกงนะครับ
1.การซื้อขายนั้นเกิดขึ้นระหว่าง ผู้ซื้อ และผู้ขายตกลงกัน แต่เราก็ต้องคิดให้รอบครอบ อย่าโลภ อย่าเห็นแก่ถูกนะครับ ของถูกและดีไม่มีในโลก จำไว้เลยนะ ของราคาถูกลดให้แบบไม่น่าเป็นไปได้ นั้นแหละโดน
2.หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงิน เลยขายให้ถูกๆ อันนี้ไปหาผู้ขายเลยครับ ไปดูสินค้าว่าดีตามที่คุยกันไว้ไหม
3.ถ้าผู้ขายอยู่ต่างจังหวัด ท่านบอกได้เลยว่าช่วยถ่ายรูปสินค้าที่ท่านจะซื้อมาลงให้ดูหน่อย แล้วถ้าผู้ขายบอกว่าไม่มีกล้อง บอกไปเลยว่า
ผู้ขายต้องหาวิธีนะครับ จะใช้กล้องจากมือถือก็ได้ ถึงมันไม่ค่อยชัด ก็ยังดูออกว่าใช่สินค้าที่เราต้องการไหม
4.กรณืที่ผู้ขายต้องการให้โอนเงินค่าสินค้าทั้งหมดหรือโอนก่อนครึ่งหนึ่ง ไม่ต้องไปอยากได้ครับ พอโอนให้มันเดี๋ยวมันปิดมือถือเลย
หรือมันไม่ปิดจนกว่าจะครบ 3 วัน(มันยังมีเวลาหลอกรายอื่นอีก)
5.ถึงผู้ขายจะจำเป็นเร่งด่วนก็อย่าใจอ่อนครับ
6.ถ้าท่านจำเป้นที่จะต้องการจริงๆก็ต่อรองค่ามัคจำ ให้แค่ 5% พอครับ ที่เหลือเรียกเก็บแบบ พกง.
7.ที่นี้ถ้าต้องลงกันที่ 5 % ได้รอรับสินค้า เมื่อไปรับ พกง.ที่ไปรษณีย์ ท่านต้องแกะต่อหน้าไปรษณีย์เลยครับ (ท่านต้องจ่ายเงินก่อนครับถึงจะแกะสิ่งของได้ อันนี้เป็นเงื่อนไขของไปรษณีย์ครับ)เมื่อแกะแล้วของไม่ตรงกับสิ่งที่เราสั่งซื้อ ไปรษณีย์ไม่คืนเงินให้ท่านทุกกรณีครับ
ให้ท่านแจ้งกับพนักงานไปรษณีย์ว่าของที่ส่งมานั้น ไม่ตรงกับที่ท่านสั่ง ให้ทาง พนักงานไปรษณีย์เป็นพยานให้( เขาจะให้ความร่วมมือดีมากครับ) จากนั้นท่านไปแจ้งความที่ สน.พื้นที่ๆท่านไปรับของ แล้วแจ้งความตามที่ท่านต้องการโดยจะขอคืนเงินค่าสิ่งของคืน แต่ท่านต้องบอกรายละเอียดนะครับว่าท่านสั่งซื้ออะไรไป จากนั้นนำใบแจ้งความไปที่ไปรษณีย์ที่ท่านไปรับของให้กับพนักงาน ต้องรอการสอบสวนก่อนนะครับ ประมาณ 15 วันถึงจะได้เงินคืน ก็ดีกว่าสูญเงินทั้งหมด
8.เมื่อท่านโอนเงินแล้วอย่าลืมขอเลขที่ รหัสพัสดุไปรษณีย์ด้วยนะครับ จะเป็นอย่างนี้ครับ ED , EF ,PA อันนี้แล้วแต่จะส่งแบบไหนจะได้เข้าไปเช็คได้ที่ http://www.thailandpost.co.th ครับ ว่าส่งมาจริงไหม แต่กว่าจะ update จริงๆก็ไม่ต่ำกว่า 6 ชม.ครับ แล้วสอบถามน้ำหนักของตัวสินค้าที่ส่ง น้ำหนักประมาณเท่าไหร่ ถ้าท่านซื้อวิทยุ handy พร้อมแบตและแท่นชาร์จ ลองประเมินดูนะครับว่ามันจะหนักเท่าไหร่ แล้วตรงกับน้ำหนักจริงรึไม่(คลาดคลาดเคลื่อนของน้ำหนักจะไม่เกิน + - 10% )แล้วอย่าลืมขอเบอร์ตรงหรือมือถือ ของพนักงานที่ไปรษณีย์เพื่อสอบถามเพื่อเติม อันนี้ก็อยู่ที่ท่านแล้ว
9.ถ้าผู้ขายบอกว่าก่อนหน้าที่เราจะโทรไปก็มีคนอื่นโทมาก่อนแล้วว่าจะโอนเงินให้ครึ่งหนึ่งหรือทั้งหมดแต่ยังไม่โอนมา ถ้าท่านต้องการจะได้บอกปัดรายอื่นไป ให้เรารีบโอนค่ามัดจำมาก่อน ชั่งมันครับอย่าไปอยากได้ แค่นี้ก็ออกอาการแล้ว
10.กรณีนี้ถ้าท่านจะต้องโอนเงิน ถามเลยว่าผู้ขายชื่อจริงอะไร(มันโกหกได้) แล้วบัญชีที่จะโอนตรงกันไหม ถ้าไม่ตรงไม่ต้องโอนทุกกรณี อย่าไปอยากได้
11.ถ้าผู้ขายอยู่ที่ภาคกลาง(สมมุติ) แต่ธนาคารเจ้าของบัญชีอยู่อีกที่หนึ่ง เป็นไปไม่ได้ครับที่ผู้ขายจะเสียค่าเบิกถอนเงินข้ามเขต ซึ่งเสียค่าบริการครั้งละ 20 บาท จะมาอ้างว่ายังไม่มีเวลาไปเปิดบัญชี ท่านบอกไปเลยไปเปิดก่อนถึงจะโอนเงินให้ ท่านอย่ารีบอยากได้ จะเข้าทางมันทันที
12.หรือเมื่อได้เลขบัญชีมาแล้ว ท่านถามพนักงานแบงค์ได้เลยว่าบัญชีที่ท่านจะโอนเงินไปให้เปิดมานานรึยัง (อันนี้ท่านผู้ซื้อคงเข้าใจนะว่าผมหมายถึงอะไร) สังเกตุความถูกต้องเองนะครับ
13.ถ้าผู้ขายบอกว่ากำลังจะส่งของให้ตอนนี้อยู่ที่ไปรษณีย์ ท่านขอคุยกับไปรษณีย์เลยครับ แล้วถามว่าไปรษณีย์ที่ท่านคุยด้วยอยู่ที่ไหน แล้วผู้ส่งของ มาส่งที่นี้บ่อยรึเปล่า แล้วขอเบอร์ตรงหรือมือถือหน่อย อันนี้ก็อยู่ที่ท่านแล้วนะ
14.หรือถ้าท่านมีเพื่อนหรือญาติที่อยู่ในพื้นที่ๆผู้ขายอยู่ ก็ให้นัดไปรับของแทนท่านได้เลยแล้วให้ผู้ขายลองสินค้าที่ท่านซื้อ ระหว่างที่ลองอยู่นั้นท่านก็โทรคุยกับญาติหรือให้ผู้ขายลองหรือทดสอบสินค้าตามที่ผู้ขายคุยไว้
15.ข้อนี้ก็ขอให้ท่านผู้ที่เสียหายทุกท่านที่ถูกฉ้อโกง คงจะได้รับประโยชน์จากข้อความข้างต้นไม่มากก็น้อย ข้อความข้างต้นเกิดจากความคิดเห็นส่วนตัวของผม ก็เพื่อสกัดกั้น คนที่หากินบนความเดือดร้อนของผู้อื่นครับ
อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล เพื่อมาทำร้ายผู้อื่นอีก
|
