คำตอบที่ 1
       ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ (ผมก็รู้น้อยเหมือนกัน)

1. สายอากาศควอเตอร์เวฟทนกำลังส่งได้มากกว่าเครื่องของคุณแน่ครับ แต่ตัวเลขเท่าไหร่ ผมไม่ชัวร์
2. สายอากาศควอเตอร์เวฟแมชหรือไม่นั้น ต้องเอา SWR Meter วัดดูก่อนครับ อุปกรณ์อิเล็คฯ ไม่สามารถตัดสินได้ด้วยตาเปล่า หรือความชำนาญ ต้องใช้เครื่องมือวัดค่า ถึงจะชัวร์ครับ ถ้าค่าของ SWR ตีขึ้นสูง ค่ารีเฟ็กเข้าเครื่องก็สูงตามไป โอกาสเครื่องพังก็สูงตามไป คล้ายๆ ว่าท่านส่งออก 10 วัตต์ แต่มันสะท้อนเข้าเครื่องซะ 5 วัตต์ อุปกรณ์ภายในก็จะพังเร็ว
3. กำลังไฟพอหรือไม่นั้น ต้องดูที่วิธีการต่อวงจรด้วยครับ ผมไม่แน่ใจว่าท่านต่อวงจรอย่างไร โดยปกติแบตฯรถยนต์สามารถจ่ายกระแสสูงๆ ได้ประมาณ 40-50 แอมป์อยู่แล้ว แต่ต้องต่อตรงจากแบตฯ เลย และจ่ายไม่นานไฟก็หมด เพื่อความแน่ใจลองต่อสายไฟขั้วบวกตรงจากแบตฯ ผ่านฟิส์ว สวิทซ์ แล้วเข้าเครื่องเลย เอาสายไฟเส้นโต ซัก 8-10 มิล. ทำสายกราวน์ดีๆด้วย น่าจะแก้ปัญหาเรื่องไฟได้ครับ (รถยนต์ส่วนมากจะจั้มเอาไฟมาจากที่จุดบุหรี่ ซึ่งมันจำกัดกระแสแค่ 10-15 แอมป์เอง ไหนจะต้องผ่านสวิทซ์กุญแจอีก สายไฟก็เส้นเล็ก ความต้านทานสูง ร้อนเร็ว สารพัดปัญหาครับ)
4. ไม่มีความเห็นครับ


ปล. ลองฟังท่านอื่นด้วยนะครับ เอาหลายๆ ความคิดมารวมกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ผมเอง ก้อไม่แน่ใจครับ อย่าเพิ่งเชื่อผม ลองพิจารณาดู

เสาควอเตอร์เวฟทนกำลังส่งได้แค่ไหนครับ
ตอบ ผมว่า มันทนได้มาก แต่มากเท่าไดนั้น ไม่แน่ใจ เพราะว่าผมเองก้อไม่เคยวัด แต่ที่ ผมรู้ๆมาครับ เวลาที่เขาทดสอบ อัตราการทนกำลังส่งสูงสุด นั้น เขาจะทดสอบโดยการ ส่งออกอากาศที่กำลังสูง ประมาณ 3 นาที พัก 1 นาที แล้วดู ความเสียหายที่เกิดขึ้น ( เช่น C ไหม้ ฉนวน หรือ วิป ละลาย ) ซึงผมก้อไม่เคยทดสอบ เอาเป็นว่า เสาควอเตอร์เวฟ น่าจะทนกำลังส่งได้มากกว่า เครื่อง FT2800M
ส่งได้ครับ

ส่วนอย่างอื่น ผมเอง ก้อมีความเห็นเหมือนท่าน แวะมาดู ที่เข้ามาตอบ ซึ่งอาจจะเป็นได้ว่า เสาต้นนี้ ไม่ Match กับความถี่ ที่ใช้งาน ทำให้เกิด reflect กลับมาที่เครื่อง ทีนี้ หากว่า แค่ เบาๆ ก้อจะเข้าไปกวน ภาคขยายเสียง ทำให้เกิดเสียง ปุ๊บ ๆ เวลา ปล่อยคีย์ แต่หากว่า หนักหน่อย ก้อไปกวนภาค TX RX อาจจะทำให้เกิด Loop Feedback ทำให้ คีย์ค้าง เป็นต้น

วิธีทดสอบง่ายๆ อันดับแรก ท่านต้องหาให้ได้ก่อนว่า เสาควอเตอร์เวฟ ต้นนี้ เป็นของย่านใด (ควอเตอร์เวฟ ย่าน 144 MHz ยาวประมาณ 49-50 cm) แล้วก้อ ทดลองปับเครื่องส่ง ไปที่ความถี่นั้นๆ ว่า ยังมีอาการอยู่หรือเปล่า หากว่า อาการดังกล่าวหายไป ก้อน่าจะเป็นที่ เสาไม่แมท แต่หากว่า ยังมีอาการอยู่ ก้อ อาจจะเป็นไปได้ ที่ มุมยิง ของ เสาควอเตอร์เวฟ มันต่ำ ทำให้ สะท้อน หรือ เหนี่นวนำเข้ามาทางสายนำสัญญาณ หรือ สายไฟ เข้ามาในเครื่อง โดยที่ ยิ่งใช้กำลังส่งสูง อาการ ก้อ จะหนักขึ้น อันนี้ ต้องทดลองเปลี่ยน ที่ติดสายอากาศ หรือ ปรับปรุงระบบการเดินสายนำสัญญาณ กับ สายไฟ ใหม่ครับ
ส่วนที่ว่า เครื่องกำลังจะพังหรือเปล่า ผมว่า มันยังไม่พังหรอกครั้บ ...
ลองดูก่อน ไดผลประการใด ลอง มาโพสดูครับ เพื่อนๆ จะได้ช่วยกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ครับ ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำจากท่าน แวะมาดู 202.183.216.2, และท่าน สอบที่ MB-10 203.149.53.172,
จากคำแนะนำของทั้ง 2 ท่านผมก็เลยมีคำถามเพิ่มเติมครับ คือว่า ค่า reflect ที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปต้องมีค่าไม่เกินเท่าไหร่ครับ หรือว่ามีไม่ได้เลยครับ รบกวนด้วยนะครับ และหากเพื่อนสมาชิกท่านใดมีคำแนะนำเพิ่มเติมเชิญด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ครับ จาก " น้าแวะมาดู " และ " น้าสอบที่ MB-10 " ตอบ ค่อนข้างถูกต้อง ครับ ผมจะช่วยชี้เฉพาะเพิ่มให้นะครับ
1. สายอากาศ 1/4 แลมด้า หรือ Quarter wave จะข้อมูลที่ทราบ สมามารถทนกำลังส่งได้มากกว่า 200 W. ครับ เพราะ ไมม่มีอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ เช่น Capacitor อยู่ ภายใน เป้นสายอากาศ ที่มี ค่า L ค่า C ด้วยตัวมันเองทั้งสิ้น
2. สายอากาศไม่ Match กันกับความถี่ใช้งาน คาดว่า น่าจะถุกต้อง ครับ สังเกตุที่บริเวณผิว ของสายอากาศ ( หลังใช้งานประมาณ 1 ชั่วโมง ) ถ้ามีคราบเหมือนสายอากาศถุกรมควัน จาง ๆ ล่ะก็ แม่นแล้ว ครับ ( วิธีนี้ ไม่มีในตำรา สังเกตุจากประสพการณ์ ครับ )
3. กำลังไฟ จาก Battery รถยนต์ จ่ายไฟไม่พอสำหรับเครื่อง 50 วัตต์ คงจะไม่ใช่ ถ้า
3.1 เดินสายไฟ ดี และมีขนาดใหญ่เพียงพอ พูดง่าย ๆ ทำอย่างไรให้ ไฟ แรงดีไม่มีตก น่ะ ครับ แล้วถ้าให้ดี ไม่ต้องผ่าน สวิตซ์กุญแจ ยิ่งแจ๋ว ครับ
3.2 สายไฟ ลบ ลงให้ดี ให้แน่น ครับ
4. เครื่องใกล้พัง ผมว่ายังไม่น่าพังหรอก ครับ

ผมเพิ่มเติมให้ ครับ

1. เดินสายไฟ บวก ลบ ให้ดี เส้น ใหญ่ ๆ หน่อย ในรถผม ๆ ใช้ ขนาด 4 SQM. ทั้ง 2 เส้น ครับ Fuse หลอดแก้ว ขนาด 30 แอมป์
2. สายนำสัญญาณ Trim สายนำสัญญาณ ให้ลงความถี่ที่ใช้งาน ครับ ( ใช้สายนำสัญญาณ ดี ๆ หน่อย กลัว อาการสายนำสัญญาณ รั่ว และ สายนำสัญญาณ เพี้ยน ครับ )
3. สายอากาศ ในรัศมี 100 กม. ผมใช้สายอากาศ Quarter wave ก็พอ ครับ ถ้าทางไกล ใช้สายอากาศ Gain สูงกว่านั้น แต่ผมไม่ใช้สายอากาศที่มี capacitor อยู่ภายใน ( ใช้สายอากาศ ให้ตรงความถี่ ด้วยนะ ) ครับ
4. ติดตั้งเครื่องเลือกพื้นที่ที่สามารถระบายอากาศได้ดี เครื่องจะได้ไม่ร้อนมาก ( ความร้อนสะสม ) ครับ
ขอบคุณ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       น้าวิทยุตอบดีครับ

ขอเสริมเรื่องสายอากาศ Quarter wave ครับ ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นสายอากาศที่มีความยาว 1/4 ของความยาวคลื่น
ถ้าคุณใช้ความถี่ที่ 168.xxx คุณก็เอา 300/168.xxx = 1.7xxx (ผมเดาว่า 300/168.775 = 1.7775 )
คือ 1 ความยาวคลื่นจะยาว = 1.77 เมตรโดยประมาณ
1/4 ก็จะ = 1.77 / 4 = 0.44 เมตร หรือ 44 cm.
ดังนั้น สายอากาศ ของคุณต้องยาวประมาณ 44 เซนติเมตร
(ผมเดาอีกว่าสายอากาศที่คุณซื้อมานั้นย่าน 144-146 ซึ่งยาวประมาณ 51 cm เห็นไหมครับว่ามันยาวกว่ากันตั้งหลายเซนฯ มันเลยไม่แมทวิ่งกันอ่ะครับ)

อีกนิดนึงเรื่อง ค่า reflect จริงๆ แล้วมันต้องมีแน่นอนครับ แต่ให้ดี เอาค่า reflect ควรจะน้อยที่สุด ถ้าค่านี้สูงมาก เครื่องจะเริ่มเสื่อมเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ปล. ผมอาจเดาผิดนะครับ อย่ายึดติด เดาเล่นๆครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ขอบคุณครับคุณ แวะมาดู 202.183.216.2 ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ผมขอร่วมแสดงความเห็นด้วยคนนะครับ อาจจะเป็นแนวทางได้ เนื่องด้วยผมก็ใช้เครื่อง FT2800 เช่นเดียวกัน ก่อนอื่นต้องขอแก้ไขข้อความของผู้ตั้งคำถามนิดนึงนะครับ Antenna เขาเรียกว่า " สายอากาศ " ครับ ไม่ใช่ เสาอากาศ ถ้าเสาอากาศ จะหมายถึง เสาที่เราเอาไว้ตั้งสายอากาศนะครับ เอาละ เริ่มเข้าเรื่องเลย ก็แล้วกัน จากการทดลองของผม นะ ผมใช้สายอากาศ 1/4 Lamda ติดหลังคารถ ใช้กำลังส่งที่มากับเครื่อง FT2800 แบบเต็ม Function ประมาณ 50 วัตต์ โดยประมาณ ในความถี่ Amateur Band หากส่งที่กำลังส่งประมาณ 5 วัตต์ ไม่มีปัญหา ขอยืนยันว่า VSWR , สายไฟที่ต่อ , อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่มีปัญหา (ในกรณีที่ใช้สายอากาศ 1/4 Lamda นะ) แต่เมื่อใดเพิ่มกำลังส่งจาก 5 วัตต์ เป็น 10 วัตต์ ก็ยังไม่มีปัญหา แต่หากเพิ่มกำลังส่งเป็น 50 วัตต์ เต็มกำลังของเครื่อง จะมีอาการเหมือนท่านผู้ตั้งคำถาม เช่นเดียวกัน
จากนั้น ผมทำการทดลองใหม่ โดยเปลี่ยนสายอากาศเป็น 1/2 Lamda ใช้กำลังส่งที่เท่ากัน คือ 50 วัตต์ ไม่เป็นปัญหา ทีแรกผมก็สันนิษฐาน เหมือนท่านผู้ตอบคำถามทุกประการ แต่ด้วยที่พอจะมีความรู้บ้าง ก็ลองทดลองวัดค่าต่า งๆ ลองตรวจเช็คอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว ปรากฏว่าไม่มีปัญหา จากนั้นจึงได้ลองนำเครือ่งวิทยุรุ่นอื่น ๆ ที่มีกำลังส่งเท่ากันมาลองที่สายอากาศ 1/4 Lamda ต้นเดียวกัน ปรากฎว่า ไม่มีปัญหา ดังนั้น จากผลการทดสอบทดลอง ผมขอสรุปว่าน่าจะเกิดจากปัญหาทางเทคนิคของ FT2800 ครับ (อันนี้ถือเป้นความเห็นของผมแต่เพียงผู้เดียวนะครับสุดแต่ท่านใดจะทำการทดลองเป็นอื่นใด)
ปล. เยี่ยมชม website ผมได้ที่ www.geocities.com/e21izc ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำของท่าน e21izc
แล้วก็ website สวยดีครับดูอินตอร์ดี และสำหรับเพื่อนสมาชิกท่านอื่น ๆ ที่มีคำแนะนำก็ขอเรียนเชินครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ผมมีเรื่องสอบถามสักหน่อยครับ...
คือผมอยากรู้ว่า ถ้าผมเอา ฟิวส์ dc-12 V,60A ไปใส่แทน ฟิวส์ ac 380V,5A จะได้มั๊ยครับ ?

แสดงความคิดเห็นย่อย