คำตอบที่ 811
       เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็เก็บสายไฟไปก่อนในเบื้องต้นครับ โดยปล่อยปลายสายไว้เพื่อที่จะทำปลั๊กต่อเพื่อลากโยงเข้าไปควบคุมในรถอีกที (ค่อยว่ากันทีหลังครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 812
       เสร็จเรื่องปั๊มคลัชเรียบร้อยหมดแล้ว ก็ไล่เช็คบริเวณรอบๆโดยรวมอีกครั้งรวมทั้งตัวเครื่องยนต์ด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ขั้วปลั๊ก Coolant temperature sensor มีการตัดสายไฟขาดมา ซึ่งอาจเกิดจากการถูกรั้งดึงเกี่ยวทำให้เกิดการเสียหาย ดังนั้นก็จัดการเชื่อมต่อสายไฟกลับเข้าไปแล้วลองวัดไฟดูถ้าไม่มีสายไฟขาดใน ทุกอย่างปกติก็เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 813
       ระบบท่อน้ำวนด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่องยนต์ที่อยู่ในตระกูลโตโยต้าค่อนข้างดีทีเดียวครับ เพราะว่าเป็นท่อแบบสแตนเลสซึ่งมีอายุการใช้งานที่นาน โอกาสที่จะมีสนิมขึ้นและเกิดการอุดตันหรือแม้กระทั่งพรุนทะลุรั่วออกมาเหมือนอย่างพวกเครื่องตระกูลซูซูกิก็จะน้อยกว่าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 814
       ท่อน้ำบนของเครื่องที่อยู่บริเวณด้านข้างฝาสูบ สภาพโดยรวมดีมากครับเพราะส่วนผนังด้านในที่เป็นทางเดินของน้ำวนเพื่อใช้ระบายความร้อนรอบๆเครื่องยนต์ยังสวยเนียนเหมือนใหม่ทีเดียว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 815
       บริเวณท่อน้ำล่างก็เช่นกันครับ ยังอยู่ในสภาพดีอยู่ ซึ่งก็มาจากการที่ญี่ปุ่นใช้พวกน้ำยาหล่อเย็นเพื่อป้องกันการเกิดสนิม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 816
       ซึ่งในส่วนของท่อน้ำล่างนี้ ภายในก็จะเป็นที่อยู่ของวาล์วน้ำครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 817
       เมื่ออะไรหลายๆอย่างที่ตัวเครื่องและตัวเกียร์เริ่มได้ถูกดัดแปลงและแก้ไข และสร้างเพิ่มจนเกือบจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็ย้ายกลับมาดูในส่วนของตัวรถกันอีกครั้ง เพราะว่าในเมื่อตัวเครื่องและเกียร์มีขนาดที่ใหญ่โตกว่าเครื่องเดิมอยู่มาก ทำให้การตัดเลาะและจัดเตรียมพื้นที่ก็จะต้องดำเนินกันเพิ่มเติมต่อไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 818
       จากเดิมทีที่ได้เลาะและเตรียมการในส่วนของห้องเครื่อง และห้องโดยสารไปแล้วในบางส่วน ก็ต้องมาเลาะพวกบรรดาขายึดต่างๆที่ด้านล่างคัทซีออกไปให้หมด ไม่ว่าจะเป็นคานรับเกียร์เดิม ขายึดเกียร์สโลว์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 819
       ตัดเลาะออกไปให้หมด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 820
       ขายึดพวกนี้ไม่สามารถที่จะใช้งานต่อไปได้อีก เนื่องจากตัวเกียร์ที่นำมาใส่ตัวใหม่นี้จะเป็นคนละระบบกันและขนาดก็แตกต่างกันมาก ดังนั้นทุกๆอย่างจะต้องถูกเลาะออกไปให้หมดก่อนในเบื้องต้น เพื่ออย่างน้อยๆจะได้นำตัวเกียร์ใส่ขึ้นมาทาบดูตำแหน่งได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 821
       เลาะแล้วเจียร์เรียบทั้งหมด ทั้งคานรับเกียร์เมนเดิมและขายึดเกียร์สโลว์ พร้อมกับรองพื้นกันสนิมทิ้งไว้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 822
       ในส่วนของห้องเครื่องนั้นก็คงจะไม่มีอะไรแล้ว เพราะได้เคลียร์ไว้ค่อนข้างโล่งหมดไปแล้ว ดังนั้นก็เข้ามาดูในส่วนของห้องโดยสารกันต่อ เพราะว่างานนี้คงจะต้องรื้อแทบจะทุกอย่างออกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ชุดพรม เบาะ ตู้แอร์ และคอนโซลหน้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 823
       รื้อตู้แอร์ออกไป

ในส่วนของตู้แอร์เย็นในรถนี้ โดยส่วนตัวแล้วผมถือว่าเป็นปัญหาสำคัญอันดับต้นๆเลยครับสำหรับการวางเครื่องที่มีขนาดมิติค่อนข้างใหญ่ลงในบอดี้เล็กๆอย่างซูซูกิ เพราะตำแหน่งที่ยึดตู้แอร์เดิมนี้มันจะมีปัญหากับการวางตำแหน่งของเครื่องที่ถอยร่นเข้ามาหา ดังนั้นถ้ายังคงความเป็นสแตนดาร์ดของรถตามมาตรฐานสเปคเดิมๆของโรงงาน มันก็จะมีข้อจำกัดที่ว่า เครื่องก็จะต้องวางลงไปได้สวย และตู้แอร์มันก็ต้องวางในตำแหน่งที่ใกล้เคียงของเดิมให้มากที่สุดและต้องถอดเข้าออกได้ง่ายด้วย ไม่ง่ายทีเดียวครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเครื่องยนต์ที่เลือกนำมาวางด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 824
       และก็อย่างที่แจ้งไปแล้ว นั่นก็คือ รถสปอร์ตมายด์นี้จะมีความแตกต่างกับพวกตู้ปลาแบบเก่าตรงที่บริเวณแผงหลังห้องเครื่องมันจะมีผ้ายางและฟูกบุไว้ เพื่อลดเสียง ซับการสั่นสะเทือน รวมทั้งกันความร้อนด้วย ดังนั้นในเบื้องต้นนี้เราจะต้องทำการรื้อออกไปก่อนครับ แต่ตอนหลัง หลังจากที่วางเครื่องเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วจะต้องพยายามนำกลับไปติดตั้งเหมือนเดิมให้ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 825
       ถอดออกเก็บไว้แล้วพับเก็บให้ดี เป็นระเบียบเรียบร้อย รอวันเสร็จจะได้เอากลับไปติดตั้งเหมือนเดิมครับ

 แก้ไขเมื่อ : 17/9/2556 22:18:08

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 826
       ส่วนของสายไฟที่ถือว่ายุ่งเหยิงมากที่สุด และก็จะต้องระวังมากที่สุด ก็คือ สายไฟที่เราๆท่านๆจัดวางและใส่มันลงไป ซึ่งไม่ใช่สายไฟของเดิมๆที่มากับรถ(สายไฟของรถเดิมๆมันไม่ยุ่งหรอกครับ) ดังนั้น ความมั่วมันจะมี ไม่มากก็น้อย การรื้อจึงต้องใช้ความระวังเป็นพิเศษ ระวังในที่นี้คือ หลังจากเสร็จงานแล้วมันอาจจะไม่เหมือนเดิม ดังนั้นการรื้ออะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับสายไฟ ถ้าจะให้ดีควรจะมาร์คตำแหน่งคู่ของมัน หรือเขียน จดหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เวลาทำงานเสร็จแล้วจะได้กลับมาติดตั้งได้เหมือนเดิมนะครับ เพราะว่าสายไฟที่ใส่กันเข้าไปนี้บางทีก็ไม่ได้ต่อผ่านแจ๊ค หรือขั้วปลั๊กกันทุกเส้น บางเส้นก็ต่อตายเลย ทำให้การรื้อออกบางทีก็ต้องตัดทิ้งออกไปก่อน สีของสายไฟบางทีก็มั่ว เพราะฉะนั้นจะต้องระมัดระวังครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 827
       รื้อทุกอย่างออกไปหมด เหลือแต่โครงเหล็ก ซึ่งโครงเหล็กนี้ก็รื้อออกไปเป็นชิ้นสุดท้ายเหมือนกันครับเพราะจะเกะกะพื้นที่ในการทำงาน พวกสายไฟเก่าเดิมของตัวรถก็มัดผูกขึ้นไปเก็บไว้ด้านบน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 828
       ในส่วนของการวางเครื่องบล็อคที่ค่อนข้างใหญ่นี้ ในเบื้องต้นเลยมันก็จะต้องดูตำแหน่งความน่าจะเป็นต่างๆที่เหมาะสมโดยการยกขึ้นทาบก่อนที่จะทำการวางตำแหน่งจริง ซึ่งก็จะต้องดูอยู่หลายๆรอบและก็ต้องยกเข้าออกหลายๆทีอยู่เหมือนกันกว่าจะได้จุดที่ต้องการ และในจุดดังกล่าวนั้นมันจะสามารถบ่งบอกถึงตำแหน่งที่จะต้องมีการดัดแปลงผ่าตัดเพื่อที่จะยัดเจ้าเครื่องพวกนี้ให้เข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่เราพึงพอใจได้

จริงๆแล้ว ในการวางเครื่องโดยปกติเท่าที่เคยเห็นอยู่มากมายนี้ มันจะมีการยกใส่กันหลักๆ คือ
1. ยกขึ้นไปทั้งเครื่องและเกียร์พร้อมกันเลยแล้วปรับตัวเกียร์ให้ทิ่มลงด้านล่าง ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสมกับเครื่องยนต์และเกียร์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก คือพวกเครื่องเดิมๆหรือเครื่องวีทาร่าอะไรทำนองนี้ (แต่เครื่องพวกนี้ผมก็แยกส่วนเข้าไปนะครับ ไม่ได้ยกใส่ทั้งแพพร้อมกัน) วิธีนี้โดยส่วนตัวผมถือว่า เป็นวิธีที่ค่อนข้างจะลำบาก แต่ช่างทั่วๆไปที่ชอบง่ายๆ(มักง่าย) มักจะใช้วิธีนี้เพราะว่า ขี้เกียจที่จะแยกเครื่องออกจากเกียร์เพราะงานมันจะมีเพิ่ม แถมเวลาใส่เข้าไปแล้วอาจจะดูว่า "ยาก" ในตอนที่จับเครื่องและเกียร์ชนกลับเข้ามาเหมือนเดิมตอนอยู่ในรถ เพราะหลายอู่ทีเดียวครับที่มักจะมีปัญหาใส่เกียร์เข้ามาแล้วไม่ค่อยตรงจนทำให้ระบบคลัชมันเอียงบ้าง เอาเท้ายันท้ายเกียร์หรือถีบหัวหมูบ้าง ทำให้เกิดผลเสียคือ คลัชมันก็จะเอียงเบี้ยว ขืนๆยันๆเข้าไปจนได้พอขับใช้งานจริงขับออกตัวก็จะได้อาการใหม่มาคือ คลัชสั่น กระพือ ก็คงต้องยกกันใหม่อีกรอบล่ะครับ

2. ถอดแยกเครื่องและเกียร์ออกจากกันก่อนแล้วค่อยประกบใส่ชนกันอีกทีตอนอยู่ในรถ วิธีนี้อาจจะดูยุ่งยากครับ แต่ผมว่ามันเป็นวิธีที่น่าจะดีที่สุด เพราะมันคือมาตรฐานของการซ่อมรถแทบจะทุกยี่ห้อ ตำแหน่งการลาดเอียงของตัวเครื่องที่เราสามารถเซ็ตระดับที่ต้องการไว้คร่าวๆแล้วก็ยกใส่เข้าไปในห้องเครื่องแล้วก็จะได้ระดับความลาดตามที่เราต้องการจะให้เป็น การรื้อถอดประกอบที่ง่ายมันจะบ่งบอกถึงการซ่อมเซอร์วิสที่ไม่ยุ่งยาก รวมถึงการดัดแปลงที่เราได้ใส่รายละเอียดมันลงไปนั้นมันอยู่ภายใต้เนื้องานที่ถูกต้องหรือเปล่า

3. ยกตัวถังรถออก (หรือยกบอดี้) เพื่อที่จะวางเครื่องและเกียร์ลงไปก่อน แล้วค่อยวางตัวถังกลับลงไปทีหลัง วิธีนี้ค่อนข้างจะดูเหมือนทำเยอะเพราะจะต้องรื้อถอดน็อตยึดตัวถังที่บางตัวถอดแสนจะยากเย็นเพื่อถอดออกให้หมด แล้วยกบอดี้ออก ซึ่งโอกาสที่ตัวถังรถจะเกิดปัญหามีค่อนข้างมากถ้าหากทำไม่ระมัดระวัง แต่วิธีนี้จะสามารถเก็บรายละเอียดได้ง่ายที่สุด ช่างทำงานสะดวกสบาย แต่ข้อเสียที่ดูแล้วน่าจะมีปัญหาก็คือ การวางแบบนี้เราจะรู้ได้ค่อนข้างยากว่า ในตำแหน่งที่เราได้วางลงไปนั้นถ้าหากอีกหน่อยมีการซ่อมเครื่องหรือฟิตเครื่อง เปลี่ยนซีลท้ายเครื่องหรือหน้าเกียร์แล้วมันจะมีเหลี่ยมในการเอามือเข้าไปล้วงถอดในจุดสำคัญๆได้หรือเปล่า อย่างพวกน็อตยึดหัวหมูรอบๆ น็อตยึดฝาวาล์วตัวหลังๆ หรือท่อน้ำอะไรก็แล้วแต่ที่มีการวนไปด้านหลังของเครื่องยนต์ เพราะตอนวางตอนแรกมันวางลงไปง่ายๆแบบไม่ติดตัวถังแล้วค่อยครอบตัวถังลงไปส่วนติดตรงไหนก็ผ่ามันออกไปอะไรทำนองนี้ สรุปแล้วก็เวลาจะซ่อมเผลอๆคงต้องยกบอดี้ออกมาอีกรอบหรือเปล่ามันก็ไม่แน่เหมือนกันครับ

จริงอยู่ที่หน้ารถอย่างคาริเบี้ยนสามารถที่จะถอดชุดคานบนล่างที่ด้านหน้าออกมาได้ ซึ่งสำหรับคาริเบี้ยนก็โอเคอยู่ครับ แต่ถ้าเป็นพวกรุ่นสปอร์ตมายด์ก็คงจะต้องถอดทั้งแก้มซ้ายและขวาออกมาด้วยเลยหรือ บางทีก็ไม่ใช่เรื่อง หรือเอาง่ายๆก็ตัดคานหม้อน้ำบนทิ้งไปเลยแล้วค่อยเชื่อมต่อใหม่ทีหลัง มันก็จะทำให้รถช้ำและมีตำหนิ งานสีก็ตามมาด้วย

สรุปแล้วก็คือ ใครจะสะดวกวิธีไหนก็แล้วแต่ความถนัดครับ มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ทำยาก ทำนาน ทำช้า ทำเร็ว ว่ากันไปครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 829
       ผมเลือกวิธีแยกเครื่องเกียร์ออกจากกันแล้วค่อยไปประกบชนกันบนรถนะครับ ซึ่งก็เป็นวิธีที่ได้ทำมาตลอดทั้งงานซ่อมและงานสร้าง ไม่ว่าจะเป็นรถสแตนดาร์ดเดิมๆหรือรถดัดแปลงก็ตาม เพราะมันจะต้องได้เนื้องานเซอร์วิสในอนาคตที่อยู่ในสถานการณ์ที่แท้จริงเดียวกันนี้ และก็เป็นมาตรฐานโดยทั่วไปของงานซ่อมรถด้วย

และโจทย์ข้อต่อมาก็คือ "การวางตำแหน่งของเครื่อง" หรือเรียกอีกอย่างว่า ปัญหาข้อต่อมาคือ การที่จะยัดเครื่องต่างรุ่นที่มีขนาด ลงไปในพื้นที่ที่จำกัด เนื้อที่เล็กๆอย่างซูซูกินั่นเอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 830
       ผมใช้วิธีเอาตัวเครื่องมาเป็นตัวกำหนดเกียร์นะครับ คือ ไม่ต้องสนใจเรื่องเกียร์เลยในเบื้องต้นว่ามันจะใส่ได้หรือเปล่า มันจะติดขาเบาะหรือเปล่า มันต้องถูกผ่าจนถึงเบรคมือหรือเปล่า .... คือ เอาตำแหน่งของเครื่องกับหม้อน้ำ(หมายถึงขนาดหม้อน้ำที่มีความน่าจะเป็น) เป็นหลักครับ เพราะไม่มีทางเลือกอื่นอยู่แล้ว ในเมื่อหน้ารถซูซูกิมันก็มีเนื้อที่อยู่แค่นี้ เราจะทำยังไงให้เครื่องกับหม้อน้ำมันอยู่ในระยะที่น่าจะเป็นแล้วเรื่องเกียร์มันก็ตามมาทีหลัง ค่อยว่ากันทีหลังครับ

ซึ่งไม่นานนัก เราก็ได้ยลโฉมเจ้าเครื่อง 3RZ ที่ลงไปอยู่ในห้องเครื่องแบบหยาบๆก่อนในเบื้องต้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 831
       ในตำแหน่งดังกล่าวนี้เป็นตำแหน่งที่สามารถยกเครื่องลงไปในห้องเครื่องซูซูกิได้แบบพอดีพอดี ประมาณว่า ใบพัดลงผ่านคานหน้าหม้อน้ำและท้ายเครื่องก็เฉี่ยวๆผนังห้องเครื่องลงไปเลยล่ะครับ นั่นก็หมายความว่า ในพื้นที่ดังกล่าวนี้จะไม่เพียงพอสำหรับเนื้อที่ของหัวหมู รวมทั้งเนื้อที่ในการวางหม้อน้ำด้วย ดังนั้นเราต้องมาร์คมิติของตัวเครื่องที่ด้านท้าย(มิติท้ายเครื่อง) กับผนังห้องเครื่องเพื่อที่จะมาคำนวณในการผ่าตัด

ผมใช้คำว่า "ผ่า" นะครับ เพราะว่าแค่การทุบขยายนั้นไม่เพียงพอกับขนาดของเครื่องที่จะวางนะครับ แถมยังจะทำให้รถช้ำอีกต่างหากด้วย แต่การผ่านี้มันก็จะต้องดูให้ดีๆ เพราะบางจุดของห้องเครื่อง อย่างเช่น ด้านแผงที่ยึดหม้อลมเบรค มันจะมีลักษณะของแผงตัวถังเป็นแบบเหล็ก 2 ชั้นและมีความหนาอีกต่างหากด้วย การผ่านี้ถ้าไม่จำเป็นจริงก็ไม่ควรผ่าเข้าไปในเนื้อที่ของตัวเหล็กดังกล่าว นอกซะจากตัวเครื่องมีขนาดที่ใหญ่มากๆจนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 832
       ในส่วนของตำแหน่งยึดหม้อลมเบรคนี้ ก็ควรจะมีการมาร์คขอบเส้นผ่าศูนย์กลางของหม้อลมเบรคไว้ด้วยนะครับ และก็ควรจะเป็นการเผื่อขนาดของหม้อลมเบรคที่จะใส่ไว้ด้วย พวกขนาดชั้นครึ่งอะไรประมาณนี้ เพราะเราจะได้เห็นเหลี่ยมของมัน เวลาจะผ่าอะไรจะได้ไม่มีปัญหา และอีกอย่างที่สำคัญก็คือ ตำแหน่งของจุดยึดปั๊มคลัชตัวบนด้วย เพราะถ้าหากไม่ได้เผื่อขอบของหม้อลมเบรคเป็นขนาดชั้นครึ่งแล้ว และได้มีการติดตั้งปั๊มคลัชใกล้ๆหม้อลมเบรคแบบเดิม ในอนาคตก็คงไม่สามารถเปลี่ยนเป็นหม้อลมขนาดใหญ่ชั้นครึ่งได้ล่ะครับ ตรงจุดนี้ต้องเผื่อไว้นะครับ ถ้าพลาดแล้วก็พลาดเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 833
       ถัดเลยหม้อลมเบรคมาหน่อย มันก็จะมีรู ซึ่งเป็นรูสำหรับเอาน้ำออกนะครับ ซึ่งได้ต่อท่อลงมาจากกระเพาะหมูด้านบนที่อยู่ใต้ตัวถังรถซึ่งด้านบนมีกรอบครอบพลาสติกไว้ รูท่อนี้เป็นไปได้อย่างมากที่อาจจะต้องถูกผ่าออกไปด้วย อย่างไรก็ตามถ้าหากมีการผ่าออกไปเราจะต้องเดินท่อตัวนี้ใหม่และก็หารูออกรูใหม่ทดแทนของเดิมด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นเวลาฝนตกน้ำฝนก็จะอยู่ในรถ ท่อตัวนี้จะมีแต่สปอร์ตมายด์นะครับ คาริเบี้ยนจะไม่มี ถ้าจะมีก็จะมีแต่ปี 89 ที่เป็นหลังคา 2 ชิ้นแต่จะมีแบ่งออกมาเป็น 2 รูซ้ายขวา ซึ่งบางคนมีการปะผุทำสีก็มักจะให้ช่างสีปะเชื่อมปิดไปเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 834
       สำหรับเครื่องยนต์ 3RZ นี้ ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่า ตัวเครื่องจะมีลักษณะเอียงไปทางฝั่งคนขับ แต่ที่ตำแหน่งตัวจานจ่ายและท่อน้ำวนที่หน้าฝาครอบวาล์วนี้จะมีระดับเดียวกัน คือความราบเรียบที่ขนานกับคานหม้อน้ำของซูซูกิ ซึ่งก็เป็นจุดที่ตรงกันกับตัวเกียร์ที่มีการบิดเอียง เพราะว่าในตำแหน่งเครื่องที่เอียงๆแบบนี้ตัวคันเกียร์ก็จะตรงกับตำแหน่งใช้งานในรถครับ สิ่งพวกนี้ต้องดูและพิจารณากันตั้งแต่งานดัดแปลงเครื่องเกียร์เข้าด้วยกันก่อนแล้วนะครับ เพราะตอนขึ้นมาบนรถนี่มันแก้อะไรไม่ค่อยได้มากแล้วครับ

ตำแหน่งของเครื่อง 3RZ ที่เอียงนี้ แต่พวกตัวเกียร์ จานจ่าย ท่อน้ำวนต่างๆ แนวระดับท่อไอดีข้ามเครื่อง รูถ่ายน้ำมันอ่างแคร้งน้ำมันเครื่อง จะ"ตรง" ทั้งหมดครับ และระดับการเอียงนี้มันก็จะแทบใกล้เคียงกับเครื่องโรงงานที่ออกมาตามมาตรฐาน ซึ่งถ้าหากว่าวางเครื่องแบบไม่ให้ตัวเครื่องเอียงมันจะทำให้จุดอื่นๆที่แจ้งมาจะเอียงทั้งหมดครับและมันก็จะกลายเป็นผิดมาตรฐานเดิมไป จุดนี้เป็นจุดที่ฟ้องถึงตำแหน่งการวางเครื่องแทบจะทุกยี่ห้อเครื่องเลยก็ว่าได้(ไม่ใช่แค่เครื่อง 3RZ อย่างเดียว) มันมีหลักเกณฑ์ในการดูและคำนวณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 835
       และในระดับเครื่องยนต์ประมาณที่เห็นนี้ ลองมาดูที่แท่นเครื่องที่คัทซีทั้ง 2 ข้าง ก็อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันครับ ตรงจุดนี้จะบ่งบอกถึงระดับของตัวเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะถ้าหากว่าตัวเครื่องไม่ตรงจะทำให้ยางแท่นเครื่องด้านใดด้านหนึ่งมีระดับที่แตกต่างกันมากๆตรงนี้จะสามารถใช้ตรวจคำตอบได้ครับ

ในรูปจะเป็นยางแท่นเครื่องฝั่งคนขับครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 836
       ส่วนรูปนี้เป็นยางแท่นเครื่องในฝั่งคนนั่งนะครับ สังเกตุว่า ระดับของยางแท่นเครื่องที่เห็นในรูปนี้จะมีระดับที่ต่ำอยู่บ้างนะครับ เพราะว่าผมต้องการที่จะดร๊อปตัวเครื่องให้ต่ำลงมาพอสมควร อันเนื่องจากว่าเครื่องยนต์มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ช่วงชักของกระบอกสูบค่อนข้างยาวทำให้ความสูงของตัวเครื่องมีมาก แถมนำมาวางกับรถซูซูกิที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้กับเครื่องยนต์ขนาดนี้ ทำให้เวลานำเครื่องยนต์ขึ้นทาบในรถมันก็เลยดูคับพอสมควร และมีระดับความสูงอยู่มาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 837
       เมื่อได้ตำแหน่งของเครื่องที่ต้องการคร่าวๆแล้ว ก็ทำการดูระยะที่เหมาะสมในการผ่าตัดเพื่อเพิ่มเนื้อที่สำหรับตำแหน่งเกียร์ซึ่งอันที่จริงแล้วผมก็พอทราบตำแหน่งของขนาดเกียร์รุ่นนี้อยู่แล้วนะครับ พอดีมีสเปคอยู่แล้ว ทำให้ทราบระยะและแนวที่จำเป็นสำหรับเนื้อที่ของตัวเกียร์อยู่แล้ว แต่ในส่วนของตัวเครื่องนั้นมันจำเป็นที่จะต้องยกขึ้นทาบก่อนในเบื้องต้นเพื่อดูแนวที่จำเป็นต้องผ่าเพื่อเป็นการเพิ่มระยะเพิ่มเนื้อที่ของห้องเครื่อง

ในรูปจะเป็นแนวสายไฟที่จะไปยังท้ายรถ ซึ่งจะมีปัญหากับท้ายเครื่องและจุดที่ต้องทำการผ่า ดังนั้นจะต้องแก้ไขออกแบบทางเดินสายไฟใหม่แทนตำแหน่งเดิมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 838
       ไล่รื้อสายไฟชุดที่ไปยังท้ายรถไล่ลงไปเรื่อยๆ ปอกสายไฟไล่ไปเรื่อย ก็พบกับปัญหา คือ สายไฟไหม้ครับ ไหม้เหลือแต่ทองแดงด้วยครับ ในรูปจะเป็นเส้นซ้ายสุดที่แยกโดดๆออกไปนั่นแหละครับ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสายไฟเส้นนี้ไปยังจุดไหนของด้านหลัง ก็ไม่เป็นไรครับรื้อตัดออกไปก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากันตอนหลังในตอนที่ไล่สายไฟอีกที

ชุดนี้ก็เหมือนของผมไหม้เหมือนกันตอนนี้ไฟถอยหลังไม่ติดรอการแก้ไข จาก : nikomw(nikomw) 22/9/2556 7:15:17 [183.88.3.194] ส่วนของคันนี้ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นสีเขียวขาวครับ ไปเป็นไฟหรี่ที่ท้ายรถครับ ตอนหลังต้องลากใหม่ทั้งเส้น จาก : สอ(sorapol) 22/9/2556 22:04:31 [101.108.74.202] แต่การแก้ไขนั้นไม่ยากเท่ากับการหาสาเหตุที่ทำให้มันไหม้ครับ จาก : สอ(sorapol) 22/9/2556 22:06:04 [101.108.74.202] ขั้วหลอดไม่ดีสกปรก กราวด์ไม่แน่น สายไฟมีภาวะโหลด และอื่นๆอีกมากมาย ต้องระวังไฟไหม้ด้วยครับ จาก : สอ(sorapol) 22/9/2556 22:07:36 [101.108.74.202]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 839
       เมื่อได้ระยะแนวท้ายเครื่องที่ได้คำนวณไว้แล้ว และเนื้อที่ที่ต้องการที่จะเพิ่มให้กับเครื่องยนต์และหัวหมูและเกียร์ด้วย การแก้โจทย์ในข้อที่ 3 นั่นก็คือ การนำเครื่องเกียร์วางลงไปในบอดี้ซูซูกิก็เริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 840
       ตำแหน่งของซุ้มเกียร์ที่ได้สเปคในการเพิ่มเนื้อที่ให้กับชุดเกียร์ตามที่ได้คำนวณไว้ก็เริ่มต้นขึ้นด้วยพร้อมๆกันครับ สำหรับเครื่องยนต์และเกียร์ที่มีขนาดใหญ่การแก้ปัญหาโดยการขยายหรือถ่างตัวถังนั้นไม่เพียงพอกับเนื้อที่นะครับ เพราะขยายไปเท่าไหร่มันก็ไม่พอซักทีแถมจะต้องยกเครื่องเกียร์ขึ้นลงทาบระยะอยู่หลายๆรอบอีกต่างหากด้วย แถมการทุบตีเพื่อขยายก็จะสะเทือนตัวถังค่อนข้างช้ำกว่านะครับ บุบ ยุบ ดุ้งไปดุ้งมา

แสดงความคิดเห็นย่อย