อังคาร,19 มีนาคม 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

ลากมาอุ้ม

28-29 ต.ค. 48
นักกีฬา:- 1.ชนบท 2.ตั้ม ยูเนี่ยน 3.เฮียคิม 4.พี่ตึ้ง พ. พนัส 5.พี่ซิง 6.เต้แว่น


ลากมาอุ้ม ‘ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง .......’ เสียงปะทัดดังเปรี้ยงป้าง สนั่นไปทั่วทั่งบริเวณ สะพานตำรวจน้ำ ตามด้วยเสียง โฆษกป่าวประกาศออกทางเครื่องขยายเสียง “เรือออกได้” อย่างกับปล่อยตัวม้าแข่ง นั้นเป็นสัญญาณการปล่อยตัวนักกีฬาตกปลาให้เริ่มเคลื่อนตัวออกสู่ท้องทะเล เพื่อไปตามหาปลาทั้ง 11 ชนิดที่คณะกรรมการได้ตั้งกติกาไว้ เมื่อสิ้นเสียงประกาศนักกีฬาต่างเริ่มทยอย ไปลงเรือใครเรือมัน ก่อนที่เสียงเครื่องยนต์จากเรือหลายสิบลำจะดังกระหึ่มกึกก้อง ‘บรื้น บรื้น บรืน...’ ประหนึ่งเหมือนตกอยู่ใน สนามแข่งรถยนต์ “วู้... ตื่นเต้น ตื่นเต้นจังเลยพี่” เจ้าเต้ แว่น กล่าวออกมาด้วยอารมณ์ตื่นเต้น ไปกับกองเรือของนักตกปลา ที่กำลังแข่งกันทะยานออกจากสะพานเทียบ เรือตำรวจน้ำ ตะวันบ่าย ของวันหนึ่งที่ผ่านมาไม่นานเท่าไร

นักกีฬาตกปลาต่างมุ่งหน้าเดินทางมาจากทุกสารทิศ สู่ดินแดนปลายแหลมตะวันออก ของแผนที่ประเทศไทย หรือที่เราเรียกว่า ‘สัตหีบ’ พื้นที่แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของกองทัพเรือไทยที่มีแสนยานุภาพเกริกเกรียงไกร ขจรไกลไปทั่วโลก นักตกปลาเหล่านี้เขาพากันมาเพื่อ เข้าร่วมกิจกรรมตกปลา และเป็นการแสดงพลังของคนตกปลาให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ในท้องถิ่นสัตหีบได้รู้ถึงพลังของคนตกปลา และเมื่อวันที่ 28 ถึง 30 ตุลาคม เป็นวันที่นักตกปลาและชาวบ้านสัตหีบจะต้องจารึก ไว้ในความทรงจำว่า ‘วันนี้เป็นวันแข่งขันตกปลาที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของสัตหีบ’ เมื่อได้ฤกษ์ ถึงวันกำหนด เหล่าพี่น้องคนตกปลาก็มาลงทะเบียน ที่สะพานเทียบเรือตำรวจน้ำ โดยมี ฯพณฯ สันต์ศักดิ์ งามพิเชษฐ์ ที่ปรึกษารมต.มหาดไทย มาเป็นประธานกล่าวเปิดงานในครั้งนี้ พิธีการดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ไม่ยืดหยาด และจากนี้ไปอีก 2 วัน 2 คืน นักกีฬาแต่ละทีมก็จะนำผลงานของพวกเขากลับมาที่นี่อีกครั้ง จนได้เวลาที่นักกีฬาแต่ละทีม ต้องออกเดินทางไปเสาะแสวงหาปลาเกมส์ ทั้ง 11 ชนิด ตามกติกา ที่ท่านประธานเดชา ได้ตั้งไว้

“เอ้า พวกเราไปลงเรือกันได้แล้ว ประธานเปิดงานปล่อยตัวนักกีฬาแล้ว” พี่ซิงเอ่ยปาก ชักชวนน้องๆ ให้รีบขนสัมภาระ ไปลงเรือที่ปลาสะพานที่ทอดยาว “เรือจอดเราอยู่ไหนครับเนี่ย” คุณตึ๋ง ถามขณะเดินแบกคันเบ็ดกองโต “เรือจอดที่ปลายสะพานโน้น เลยครับ” สีชา ตอบพร้อมกับชี้มือออกไปยังปลายสะพาน “หูยยยยย ตั้งไกล เน๊าะ” นายเต้ แว่นถึงกับปากจู๋ แม้จะเดินอีกไกล ทุกคนก็ไม ่ปริปากบ่น ต่างก้มหน้าก้มตาเดินไป ก็หยอกเหย้า กันไปจนกระทั่ง ถึงเรือ ‘ตะวันแดง’ “ชื่อเรือเหมือนกับชื่อทีมของเราเลยเน๊อะ พี่” พี่ตึ๋งเอ่ยปากถาม “อ้อ เจ้าวิทยา หนึ่งในสมาชิกทีมตะวันแดง เขาเป็นเจ้าของเรือลำนี้อ่ะครับ” สีชาตอบ เมื่อสัมภาระสิ่งของทุกอย่าง ขนย้ายลงเรือหมดแล้ว ก็ได้เวลาเดินหน้า ไปตามหา ปลากันทันที “ ป่ะ ไต๋ยอช์ต ลุยยยยโลดดดด” เสียงเครื่องยนต์ ครางกระหึ่ม เกือบจะเป็นลำสุดท้ายที่เคลื่นอตัวออกจากท่าเทียบเรือ “ เราจะไปไหนกันก่อนดี ครับไต๋ยอช์ต” การวางแผนตกปลาเริ่มขึ้นบรรดา กุนซือ จอมวางแผน ก็งัดเอาตำราเพลงยุทธ์ ออกมากาง “เดี๋ยวผมว่า จะพาไปหาจั่วโฉมงาม หัวเกาะหน้าหาดนางรำ ดูก่อนครับอาจมีตัว” ไต๋ยอชต์กล่าว เรือเรามาจอด ลอยลำหน้าหาดนางรำ จวบจนตะวับเกือบจะลาลับฟ้า ไต๋ยอชต์จึงตัดสิ้นใจขับเรือไปยังจุดไดร์หมึก “ไปหาไดร์หมึกก่อนดีกว่า คืนนี้ พระจันทร์ ขึ้นเร็วสะด้วย” ไต๋ยอช์ตกล่าว ก่อนจะ สั่งเก็บเบ็ด แล้วขับเรือมุ่งสู่หมายไดร์หมึก น้ายวนและน้าเขียว 2 เด็กเรือที่คนหนึ่ง คือภรรยาคู่ชีวิตของไต๋ยอช์ตนั้นเอง และอีกคนก็เป็นลูกสาวของป๋าจ๋า หรือมีศักดิ์ เป็นพี่สาวของไต๋แขก นั้นเอง ทริบนี้เรือเราจึงมีเด็ก เรือที่เป็นสุภาพสตรีทั้งสองคน “เอ้า..กางคานไฟ คานอวนเลย” เสียงไต๋ยอช์ตดังขึงขัง ‘แหม ที่อยู่บ้านละไม่เห็นเสียงดังอย่างนี้เลยนะไต๋ ฮ่า!’ เสียงใครคนหนึ่งส่งเสียง แซว ไต๋ยอช์ต

เวลาผ่านไปไม่นานไฟแสงสว่างจากดวงไฟก็เปล่งแสงสว่าง นั้นแสดง ว่ากิจกรรมเปิดไฟไดร์หมึกหาเหยื่อ อุบัติขึ้นแล้ว พวกเราบนเรือต่างคว้าชุด โยทะกา มาหย่อนลงน้ำแล้วชักขึ้นชักลง ไม่นานนัก หมึกกล้วย ขนาดกำลังดี ก็มาจับโยทะกา ขณะเดียวกันพี่ตึ๋งกับเฮียคิม ก็ลงสายกลางน้ำเล่นปลาสากไปพร้อมๆ กับการหาเหยื่อไปด้วยและเราก็โชคดี มีปลาสาก ถึง 2 ตัวเข้ามางาบสายที่เราลงไว้ เรามีปลาเกมส์มาตุนในกระเป๋าแล้ว 1 แต้ม แต่แล้วเกมส์หาหมึก ทำเหยื่อ ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ก็ต้องมาสะดุดหยุดลงเมื่อมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาแหวกว่ายไล่งับ ลูกปลาและไล่งาบหมึก แขกที่ไม่ได้รับเชิญนี้ก็คือ ‘ปลาดาบลาว’ ตัวยาวเกือบศอก แสงสีเงินยวงจากเกล็ดของมัน สะท้อนแสงไฟอยู่ใต้น้ำวาววับ เต็มพื้นน้ำไปหมด นี่แหละตัวต้นเหตุที่ทำให้หมึกหายหน้าไม่ยอมมาไล่เกาะโยทะกา “ไต๋ยอช์ต ปลาดาบลาวเต็มไปหมดเลย หมึกไม่กล้าอยู่หรอก เอาสุ่มครอบ กำจัดมันก่อนดีกว่า” สีชาเสนอ ไต๋ยอช์ต พยักหน้าเห็นดีด้วย และการหรี่ไฟครอบในครั้งนี้ ทำให้เราได้หมึก ไม่ถึง 50 ตัว แต่ได้ปลาดาบลาว ตั้ง 1 ตระกร้า และมันก็กลายมาเป็น ‘ทอดมันปลาดาบลาว’ ที่เนื้อเหนียวนุ่มและสุดแสนจะอร่อย ในวันรุ่งขึ้น

ค่ำคืนนี้ ยังมีดวงดาวเจิดจ้า เสียงเครื่องยนต์ คราง ‘ต๊อก ต๊อก ต๊อก’ ฝ่าแสงดวงจันทร์และดวงดาว ที่ส่องแสงริบหรี่พอส่องทางให้เห็น ‘เรือตะวันแดง’ แล่นมาถึงหลังเกาะโรงโขน ที่ซึ่งมีระดับน้ำลึกเกือบ 70 เมตร การตามหาปลาเกมส์ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว “ที่นี่จะมีปลาอังเกยใหญ่กับฉักฮื้อครับ” ไต๋ยอช์ตกล่าว ถึงชนิดปลาที่มีอยู่ ณ ที่แห่งนี้ อุปกรณ์ชุดเล็กและชุดใหญ่ ถูกหยิบขึ้นมาเป็นอาวุธ ตามแต่ละคนจะถนัด บางคนก็เล่นชุด 12 ปอนด์ บางคนก็เล่นชุด 30 ปอนด์ เมื่อแต่ละคนมีอาวุธพร้อมมือ เหยื่อหมึกเป็นจึงถูกนำมาเกี่ยวเบ็ดแล้วไปหย่อนลงน้ำ “ถ้าใครจะตกปลาชักฮือ ก็ให้หมุนรอกกรอสายเอ็นขึ้นมาสัก 8 – 9 รอบนะครับ” นั้นเป็นเพียงการแนะนำ ให้กับสมาชิกใหม่ เท่านั้น และเพียงไม่นานนายตั้ม ก็วัดคัน “อยู่ไหม ครับ” เฮียคิมที่ยืนตกปลาอยู่ใกล้ๆ เอ่ยปากถาม “อยู่ครับ หนักดี” นายตั้ม อัดปลาจนคันโค้ง และแล้วปลาที่นายตั้มอัดก็โชว์ตัวให้พวกเราได้เห็นมันเป็นปลากะมงตาเพชร หรือฉักฮื้อ นั้นเอง จากนั้น ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นที่ท้ายเรือ ดูมันวุ่นวาย เดี๋ยวคันโน้นวัดเดี๋ยวคันนี้อัด ซึ่งก็เป็นปลาฉักฮื้อ ล้วนๆ แผ๊บเดียว ปลากองเต็มตะกร้า จนพี่ซิง ที่อยู่หัวเรือต้องเอ่ยปากแซว “พอเหอะ เล่นอย่างเดียวเลย แน่จริงเปลี่ยนไปเป็นพันธ์อื่นบ้างซิ ฮะ ฮ่า!”

ขณะที่ท้ายเรือกำลังเมามันกับฝูงฉักฮื้อ อยู่นั้น คันเบ็ดที่ปักทิ้งไว้ท้ายเรือ ก็โค้งวูบลง เฮียคิมเป็นผู้ที่ยืนอยู่ใกล้คันมากที่สุด จึงถือโอกาสเป็นผู้อัดปลาตัวนี้สะเลย “ เฮ้ย ไอ้เก๋า ใหญ่” เสียงเอ๊ะ อะ มะเทิ้ง ดังขึ้นเมื่อ เราเห็นปลาที่เฮียคิมอัดนั้นเป็นปลาเก๋า ที่หาตัวได้ยากมากในน่านน้ำ แห่งนี้ “ เย้.....โคตรฟลุ๊กเลยตู” เฮียคิมถึงกับยิ้มแก้ม ตุ่ยกับปลาเก๋าตัวนี้ มันมีนำหนักเกิน 2 กิโล และเป็นแต้ม ที่ 3 ที่เราในคืนนี้ “นั้นมันปลาอะไรหว่า...ว่ายไปว่ายมาอยู่ท้ายเรือ” เสียงเฮียคิมถาม ออกมาด้วยความ สงสัย ไต๋ยอช์ต จึงเดินปรี่มาดูแล้วตะเบ็งเสียงอย่างดังว่า “อินทรี พี่โย อินทรีตัวใหญ่ด้วย” เท่านั้นแหละ ครับ ชุดสายลอยตกปลาอินทรี ก็ถูกจัดขึ้นแล้วปลาสีกุน ตัวเขื่องก็ถูกนำมาเกี่ยวเป็นเหยื่อ วางทุนลึก 4 เมตร แล้วปล่อยไปล่ออินทรีที่ท้ายเรือ แต่มันก็เมินหน้าหนีไม่สนใจใยดี เลยแม้แต่น้อย มันยังคงแหวกว่าย วนรอบเรือ เล่นแสงไฟ อยู่อย่างนั้น “เอาอวนครอบหัวแม่งมันเลย เจือกไม่แหลกเหยื่อดีนัก” สีชากล่าว ไต๋ยอช์ตจึงสั่งการให้ดำเนินการตามแผน นั้นคือ ‘กางอวนครอบไอ้ซี’ แสงไฟถูกหรี่ลงจนเกือบจะดับสนิท ทันใดนั้นเอง เราก็เหตุน้ำแตกกระจายตามด้วยเสียงดังตูมตาม อยู่กลางพื้นอวน “มันเสร็จเราแล้ว เอาปล่อยอวนเลย อ้าว....ปล่อยอวนสะทีสิวะ” เสียงไต๋ยอช์ต เริ่มขุ่นๆ เมื่อน้ายวนและน้าเขียว ไม่ยอมดึงเชือกปล่อยอวน “มันไปแล้วอดแด๊กอินทรีแดดเดียวเลย” อินทรีตัวนี้มันคงตกใจที่อยู่ๆ ก็โผล่หัวมาโดนตาข่ายอวน และเกิดอาการ ‘หัวหดตดหาย’ ว่ายหนีไปแบบขวัญกระเจิงเป็นแน่

แม้อินทรีจะจากเราไปแล้วก็ตาม เราก็โชคดีที่มีหมึกติดมาเกือบ 100 ตัว “น้ำลึกตั้ง 70 เมตร กลับได้หมึกเพียบเลยเอาอีกสักรอบนะไต๋ยอช์ต” สีชากล่าว และการครอบ หมึกครั้งที่ 2 เราก็ได้หมึกอีก เกือบ 100 ตัวเช่นกัน จำนวนเหยื่อขนาด นี้มันเยอะมาก พอสำหรับการตกปลาสำหรับครั้งนี้แล้ว เริ่มต้นเช้าวันใหม่ สมาชิกบางคน ยังคง หลับใหล เพราะถ่างตาตกปลามาทั้งคืน “เมื่อคืนเป็นไงบ้างครับ ได้ปลาเพิ่มรึเปล่า” สามชิกท่านหนึ่งเอ่ยปากสอบถามผลงานเมื่อคืน “ได้ฉักฮื้อรวม 50 ตัวได้” น้ายวนตอบ เมื่อได้ยินคำตอบ รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้า ของเพื่อนทุกคน ความหึกเหิมและหัวใจที่พองโต กับการตามหาปลาเกมส์ชนิดต่อไป ยังคงดำเนินต่อไป ไม่หยุดหยั่ง ไต๋ยอช์ต ยังคงทำหน้าที่ไต๋ที่ดี บังขับเรือแล่นเข้าหมาย ยามเช้าวันนี้ต่อไป “เดี๋ยวหาปลาช่อนที่นี่ สักตัวนะครับ” ไต๋ยอช์ต กล่าวจบ พี่ตึ๋งก็หย่อนสายลงน้ำเสร็จ ก่อนจะปักคันไว้ในกระบอกและเพียงไม่นาน คันของพี่ตึ๋งก็โค้งวูบลง ก่อนจะตามด้วยเสียงสวรรค์ของคนตกปลา ‘แกรกกกกกก’ เสียงรอกดังยาวเหยียด แสดงให้เห็นถึง ปลาที่ลากสายหน้าอยู่นั้นจะต้องมีขนาดไม่ธรรมดาแน่ “ระวังนะพี่ตึ๋ง ลากโหดๆ หนักๆ อย่างนี้ น่าจะเป็นไอ้ช่อนนะพี่” สีชากล่าเตือน และมันก็จริงดังคาด เมื่อพี่ตึ๋ง อัดมันจนลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ มันเป็นไอ้ช่อนทะเล ไซร์ ใหญ่เกิน 5 กิโล และเป็นแต้มที่ 4 ของเราขึ้นมาทันที

การตามหาปลาเกมส์ ตัวที่ 5 และตัวต่อไปยังต้องดำเนินต่อไป เราอยู่เฝ้าหาปลาโฉมงาม และปลาสละ ต่อไปจนตะวันบ่ายคล้อย ก็ไม่มีวี่แวว ของมันโผล่มาให้เราได้ยลโฉมเลยสักตัว ไต๋ยอช์ต จึงตัดสินใจ ย้ายเรือไปหาปลาอังเกย ที่หมายปะการังเทียม แต่เราก็คว้าน้ำเหลว ไม่มีปลาอังเกย ตามที่เราคาดคิด “ป่ะ ไต๋ยอช์ต ไปเฝ้า โฉมงามที่ยุ่งเกลือดีกว่า” ไต๋ยอช์ต จึงขับเรือแล่นสู่ยุ่งเกลือ และที่แห่งนี้ ที่ทำเอาพวกเราเสียวจุกท้องน้อยกันทุกคนเมื่อ เครื่องเรือ สตาร์ท ไม่ติดเรือเราเสีย จอดอยู่กลางร่องเดินเรือสมุทรลำใหญ่ ซึ่งไม่สามารถรู้ชะตากรรมของตัวเองเลยว่า ถ้ามืดค่ำลงเมื่อไหร่ เราจะโดนเรือลำไหนพุ่งชน มันไม่อยากจะคิด เพราะขนาดยังไม่มืด เรือบรรทุกน้ำมันยังวิ่งดิ่งตรงมาหาเรือพวกเราเลย “โบกผ้าขาวไว้ ยวน โบกไว้ มันจะได้เห็นเรา” นั้นคือคำของไต๋ยอช์ต ที่สั่งน้ายวนให้ทำหน้าที่โบกผ้าขาวแสดงจุดที่เราอยู่ การดินร่นร้องเรียกความช่วยไปถึงเรือลำอื่นจึงเกิดขึ้น การวิทยุขอความช่วยเหลือ ไร้ผล ไม่มีเรือลำไหน ขานตอบเสียงเรียกของเรือเราเลย โทรศัพท์มือถือจึงเป็นหนทางเดียวที่เราจะติดต่อกับเรือลำอื่นได้ และเราก็โชคดีที่ติดต่อกับ ทีม VR ไต๋ทานได้สำเร็จและได้รับการช่วยเหลือ โดยมาลากเรือเราให้หลบพ้นเส้นทางอันตราย นี้ไปก่อน

เราขอร้องให้ไต๋ทานพาเรามายังจุดที่เราจอดเมื่อคืน ซึ่งไต๋ทานก็ยินดีพาเรามา เมื่อเรือเราโดนลากมาถึงจุดหมาย นายตั้มก็เกี่ยวหมึกแล้วทิ้งลงท้ายเรือทันที “เอ๊ะ ทำไมยังไม่ถึงพื้นอีกเหรอครับตั้ม” สีชาถาม เมื่อเห็นว่านายตั้ม หย่อนสาย นานผิดปกติ “ยังเลยครับ ยังไม่ถึงพื้นเลย” นายตั้มตอบ “สงสัยปลาจะกินแล้วมั้ง ดูสิ สายเอ็นไหล ไปอยู่ท้ายเรือลำโน้นก็สั่น ดิ๊ก ดิ๊ก “ท่าจะติดปลาแล้วละแบบนี้” สีชากล่าว ในขณะที่นายตั้มกัดฟันปั่นรอกกรอสายเข้ามาอย่างยากลำบากขึ้น มีอาการดิ้นร่น ขัดขืนเกิดขึ้นเสียแล้ว ไต๋ยอช์ต พอได้ยินว่าท้ายเรือกำลังอัดปลาใหญ่อยู่ก็เดินมาดู “ไอ้เกย สะละม้างแบบนี้” ไต๋ยอช์ตกล่าว ในที่สุดปลาที่แอบมากินเหยื่อเรา ก็ลอยตุ๊บป่องสู่ผิวน้ำ ทันที ที่ได้เห็นเกล็ด และรูปพรรณ สันฐาน พวกเราก็รู้ได้ทันทีว่ามันคือ “ไอ้เกย ไอ้เกย ตัวใหญ่ด้วย” แต่พอเราช้อนมันขึ้นมาบนเรือแสงไฟ บนเรือจึงทำให้เรารู้ว่ามันคือปลาแดงเขี้ยว และมันก็เป็นแต้มที่ 5 ของเรา แถมยังคว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทปลากะพง เสียด้วย

จากคืนนั้นจนกระทั้งเช้าวันใหม่และสู่ย่ามบ่าย เราไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้นมาอีกเลย การร้องขอความช่วยเหลือจากเรือลำอื่น ให้มาช่วยลากเรากลับเข้าฝั่ง เพื่อนำปลา เข้าชั่งให้ทันเวลา เริ่มต้นอีกครั้ง โชคดีที่ได้ไต๋ธรรมมาช่วยลากเรือ และไต๋แขก อีกลำสุดท้าย ที่มารับพวกเรากลับเข้าฝั่งก็คือเรือไต๋เดชา ประธานชมรมเรือตกปลา นั้นเอง ผมและเพื่อนๆ จากทีมตะวันแดง ขอกล่าวคำขอบคุณในนำใจ ที่เป็นนักกีฬาของทีมที่เสียสละ มาช่วยลากเรือของเราทุกลำด้วยครับ ทริบนี้เราโดนเรือลากถึง 4 ลำ ที่มาช่วยลากเรือเราในครั้งนี้ จนเราได้ขึ้นแป้น ไปอุ้มถ้วยรางวัลถึง 5 ใบ ‘ลากเรามาอุ้มรางวัล’ แท้ๆ เรื่องราวของ “ลากมาอุ้ม” ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้

ก่อนจากกันผมขอกล่าวแสดงความชื่นชม คณะจัดงานที่ยอมเสียสละจัดงานนี้ทุกคน แม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกสำหรับ ชาวสัตหีบที่มีการจัดการแข่งตกปลา ผมในฐานะนักตกปลาคนหนึ่งขอกล่าวแสดงความชื่นชมในการจัดงานครั้งนี้ ที่มีการนำเสนอสิ่งใหม่ที่แปลกไปจากเดิม สิ่งนั้นก็คือการให้เรือตกปลามารวมตัว ณ จุดเดียวกัน สิ่งนี้ เป็นการแสดงพลังของนักตกปลาที่ดีมาก นอกจากนี้การจัดงานที่ใช้เวลา มากกว่าเดิม ยังส่งผลให้มีปลาขึ้นชั่งมากมาย ดูจากรางวัลที่เตรียมไว้ถูกนำมามอบให้นักกีฬาจนครบทุกรางวัล ไม่มีตกค้างเหมือนทุกครั้งที่จัดมา ไม่น่าเชื่อจริงๆ ขอปรบมือให้ ผู้จัดงานนี้ทุกท่านครับ ด้วยใจจริงครับ .....


[กลับสู่เมนู]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster