อังคาร,19 มีนาคม 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

มิตรภาพไร้พรมแดน
ตอน.ลูกหมูย่ำสวาท
วันที่ 21-23 ม.ค. 48

เรือ น้ำใจ ตี๋ใหญ่

ผู้ร่วมทริบ 1.คุณหนุ่ม 2.คุณหวัง 3.แจ๊ส 4.คุณจีรศักดิ์ 5.คุณเหน่ง 6.คุณเดือน 7.เฮียเล็ก บางชัน รวมทั้ง น้องปลาและ น้องน้ำ

ลูกหมูย้ำสวาท
‘ตลั๊บบบ’ เสียงตวัดคันดังหนักแน่น ปลายคันเบ็ดแสดงอาการโค้งงอ ด้วยแรงดึงอันหนักหน่วงจากสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ คันเบ็ดโค้งงอแทบจะจุ่มถึงผิวน้ำ ความวิตกกังวลแสดงออกที่สีหน้าคนถือคัน ก่อนจะรวบรวมพละกำลังมาที่ลำแขนทั้งสองข้างที่กุมด้ามคันเบ็ดด้วยท่าทางที่มั่นคง เสียงคำรามเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปาก ดัง“อึ๊บ อ๊าค ” อยู่ตลอดเวลา เป็นระยะ ตามจังหวะที่เขาผู้นั้นงัดคัน เสียงเชียร์เอ็ดตะโลดังลั่นจากเพื่อนผู้ร่วมเดินทาง บ้างก็ทายชื่อปลาปริศนา โดยอาศัยการดูจากอาการของการต่อสู้ ที่หนักหน่วง“ลูกหมู มันต้องเป็นลูกหมูแน่ แน่” หรือไม่ก็ “ยังงี้ โดนลูกหมู ชัวร์ป๊าบบบเลย ท่าน หุหุ” การคาดเดาชนิดปลาเป็นไปต่างๆนานา จวบจนไปเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายนาที คำเฉลยของปริศนาก็ปรากฏต่อสายตา ‘ท่านขุนเดา’ ทันที ที่มันลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ปรากฏเรืองร่างต่อสายตาผู้คนที่ยื่นออรอลุ้น แล้วเสียงจากไต๋หนุ่มรูปงามก็ตะโกนดังลั่น “ไอ้ย่ำ วู้ ไอ้ย่ำตัวใหญ่เสียด้วย ” สิ้นเสียงของคำเฉลยจากไต๋รูปหล่อ ทุกคนถึงกับร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน “อู้ ฮู โคตรไอ้ย่ำเลยนะนี่” ใช่แล้ว มันคือปลาเก๋าแดงจุดฟ้า หรืออีกชื่อหนึ่งที่ดูจะคุ้นหูนักบริโภค ก็คือกุดสลาด แต่คนจังหวัดตราด มักเรียกมันว่า ‘ย่ำสวาท’

ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส นักตกปลา กลุ่มหนึ่งกำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดตราด โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ท่าเรืออรุณี คลองน้ำเชี่ยว ที่ซึ่งมีเรือน้ำใจ จอดเทียบท่ารออยู่ การเดินทางโดยรถยนต์มาสิ้นสุดเมื่อยามตะวันบ่ายคล้อย นาฬิกาบ่งบอกเวลาว่าเย็นมากแล้ว และคงอีกไม่นานแสงจากดวงสุรีย์ก็คงจะลาลับฟ้า นั้นแสดงว่าใกล้จะมืดค่ำลงไปทุกขณะ พวกเราไม่รอช้าให้เสียเวลา เพราะเริ่มจะมืดค่ำลงไปทุกที ทันที ที่รถยนต์จอดสงบนิ่ง เราก็พบกับใบหน้าอันหล่อเหลาของ ไต๋หนุ่มรูปหล่อที่ชื่อว่า ‘ตี๋ใหญ่’ เดินแกว่งตุ้มเข้ามาทักทาย ตามประสาคนที่รู้จักมักจี่ สนิทสนมกันมานาน “แหม! วันนี้ มาถึงเกือบมืดเลยพี่โย ม่ะ รีบขนของลงเรือก่อนดีกว่า น้ำลงจะแห้งคอดแล้ว” ตี๋ใหญ่พูดจบ พวกเราก็ไม่รอช้า ทั้งเด็กเรือเร่งรีบช่วยกันขนข้าวขนของขนสัมภาระ ถ่ายลงเรือน้ำใจอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าเสียงเครื่องยนต์ก็ครางกระหึ่ม เรือน้ำใจค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากท่าเรือ แล่นลัดเลาะไปตามลำคลองที่คดเคี้ยวของลำน้ำเชี่ยว ผ่านหมู่บ้านชาวเล และป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ทั้ง 2 ฝากฝั่งคลอง ระหว่างที่เรือแล่นผ่านแนวป่ากงกาง ตี๋ใหญ่ชี้ให้ดูลิงป่า ตัวหนึ่งที่หน้าอกมีลูกลิงตัวเล็กเกาะอกแม่แน่น กำลังเดินหาอาหารจับปูจับปลาที่เกยตื่นกินเป็นอาหาร มันเป็นทัศนีย์ภาพการดำรงชีวิตของลิงป่าที่ออกมาหาอาหารเลี้ยงชีพยามน้ำลด ผ่านแนวป่าชายแลน ออกสู่ปากคลอง ที่เป็นสันดอนเรือจะต้องชะลอความเร็วให้ช้าลง ใบจักรหมุนตะกุยดินโคลนจนน้ำขุ่น เป็นสีดินโคลน เรือค่อยๆ คืบคลานไปอย่างช้าๆ จนพ้นแนวสันดอน ตี๋ใหญ่จึงเร่งความเร็วเข้าสู่ความเร็วปกติ แสงตะวัน เริ่มจะหรี่แสงลง ดวงอาทิตย์กำลังจะเสร็จสิ้นภารกิจ ดวงจันทร์ กำลังรอรับช่วงภารกิจให้ความสว่างยามค่ำคืนต่อจากดวงตะวัน มันเป็น วัฏจักร แบ่งหน้าที่การทำงานที่สมดุล ของธรรมชาติ เรือน้ำใจยังคงโลดแล่น มุ่งหน้าสู่เกาะหวาย คืนนี้เราจะไปจอดเรือปั่นไฟไดร์หมึกกันที่นั้น

เกาะหวายยามนี้ มีเรือมาจอดปั่นไฟไดร์หมึกอยู่แล้ว 3 ลำ ตี๋ใหญ่ชะลอความเร็วเรือลงเมื่อเห็นว่าเราได้ห่างไกลรัศมีแสงไฟจากเรือทั้ง 3 ลำมาไกลพอสมควร สมอเรือถูกทิ้งลงน้ำ หลอดไฟเปล่งแสงสว่าง รอบลำเรือ “อ้าว...ได้เวลาทำกิจกรรมหาเหยื่อกันแล้วพวกเรา” สิ้นเสียงบอก โยทะกาหลากสี ถูกนำมาผูกเข้ากับสายเอ็น ก่อนจะนำไปนั่งหย่อนข้างกาบเรือ มือขวาถือคันตกปลาหมึกยกขึ้นยกลงเป็นจังหวะจะโคน ส่วนมือซ้ายถือกระป๋องเบียร์ยกขึ้นใส่ปากซด ‘ตามใจความอยาก ใครอยากเมามาก ก็ยกซดบ่อยหน่อย’ เบียร์หมดไปคนละ 3 -4 กระป๋อง ห้องขังเหยื่อยังคงว่างเปล่า ปราศจากสิ่งใดแหวกว่ายให้เห็น พวกเรายังคงไม่ลดละล้มเลิกความพยายาม ยังคงเพลินกับบรรยากาศมากกว่าที่จะต้องได้ตัว มือซ้ายกับมือขวายังคงทำงานสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง ‘มือขวากระดกคัน มือซ้ายกระดกเบียร์’ เวลาดึกสงัดความพยายามของเฮียเล็กและพวกเราก็สำเร็จผล เมื่อปลาหมึกเริ่มจับโยทะกา แล้วพวกเราก็พ่ายแพ้กับความง่วง เพื่อนๆ เริ่มทยอยไปหลับนอนกันทีละคน 2 คน ที่เหลือพอจะต่อสู้กับความง่วงได้ก็ยังคงนั่งตกหมึกกันต่อไปจนกระทั้ง ตี๋ใหญ่ ตื่นขึ้นมาหรี่ไฟ เฉอวน ปฏิบัติการเฉอวนปลาหมึกอุบุติขึ้นทันทีที่ ดวงไฟทั้งหมดดับลง คงเหลือเพียงดวงสีแดงเพียงดวงเดียว ปลาหมึกน้อยใหญ่พุ่งทะยานขึ้นสู่ผิวน้ำ ทันที “เอ้า..” เสียงตี๋ใหญ่ตะโกนสั่งลูกเรือทำการกวานพื้นอวน ปลาหมึกแหวกว่าย วนเวียนรอบพื้นอวน ก่อนจะถูกลำเลียงไปขังไว้ในห้องขังเหยื่อ เป็นอันเสร็จสิ้นขบวนการเฉอวน

แสงตะวันขึ้นจับขอบฟ้า ในเช้าวันใหม่ เรือน้ำใจยังคงโลดแล่น กำลังผ่านพ้นแนวเกาะรัง บ่ายหน้าสู่ หมายกองหินที่ซึ่งมีปลาเก๋าลูกหมูขนาดใหญ่อาศัยอยู่ “หวัดดีตอนเช้าครับ พี่โย เช้านี้เราไปลองที่หมายนี้ดูก่อน แขกชุดที่แล้วไปได้ลูกหมูมาตั้ง 6 ตัว” ตี๋ใหญ่กล่าวคำทักทายพร้อมชี้นิ้วให้ดู ตำแหน่งที่เรากำลังจะเดินทางไปบนหน้าจอ GPS “อ้าว...เล่นไปตั้ง 6 ตัว แล้วมันจะเหลืออีกรึ ตี๋ใหญ่” ผมตอบด้วยความฉงน “ยังเหลืออีกหลายตัว แหม! มันไม่หมดร๊อก หมายนี้ ลูกหมูเยอะ แขกชุดที่แล้วทำขาดไปตั้งหลายตัวแน่ะ ขนาดสาย เบอร์ 100 ยังขาดผึงเลย” ตี๋ใหญ่ ยังคงสาธยายให้เราฟัง ถึงสรรพคุณปลาเก๋าที่หมายนี้ “อ่า หะ จิง ง่ะ ” ผมกล่าวแบบไม่เชื่อหูตัวเอง เจ้าปื้ด ก็กล่าวเสริมลูกพี่เก่า “จริง จิง พี่โย รอกไฟฟ้าของเฮียตี๋ยังเอาไม่ขึ้นเลย สายขาดสะก่อน ขาดกลางน้ำด้วยนะพี่โย ”เจ้าปื้ดพูดจบก็ชี้นิ้วให้ดูรอกไฟฟ้า ตัวบักเอ๊บ “โอ้แม่เจ้า ว้อย นี่เล่นกันสายขนาดนี้ยังขาดอีกหรือนี่สายใหญ่ขนาดนี้แถวบ้านผมเข้าใช้ล่ามควาย เลยนะนี่ ” ผมถึงกับอุทานออกมาเมื่อเห็นขนาดสายที่ใหญ่โต ขณะที่เรากำลังคุยกันเพลินๆ อยู่ดี ดี จู่ๆ ตี๋ใหญ่ก็ลดความเร็วเรือลง แล้วปั่นพังงาเรือหมุนติ้ว อย่างรวดเร็ว จนเรือเอียงวูบ “เฮ้ย !... ตี๋ใหญ่ถึงหมายแล้วเหรอ” ผมถามด้วยความสงสัย ที่จู่ๆ ตี๋ใหญ่ก็หมุนพังงาหันหัวเรือกลับกระทัน “เปล่า เมื่อกี้ผ่านมาเจอหมายใหม่พอดี หมายใหม่เรา เก่าของใครก็ไม่รู้เน๊อะ พี่โย ฮะ ฮา” ตี๋ใหญ่ กล่าวอย่างอารมณ์ดี และวนเรือหาเชื้อปลา ดูทิศทางน้ำทิศทางลม จนแน่ใจ ก่อนจะวนเรือไปยังจุดทิ้งสมอ “เอ้า ทิ้ง” ตี๋ใหญ่ ร้องสั่ง เจ้าบัง จุ่มโพ่ที่ยืนกุมเชิงเฝ้าสมอเรือรอท่าอยู่แล้ว พอสิ้นเสียง ตี๋ใหญ่ เจ้าบังก็จัดการทิ้งสมอเรือทันที ‘ตูมมมม!’

ตอนนี้สมาชิกผองเพื่อน ต่างลุกขึ้นไปหยิบคันเบ็ดของใครของมัน แล้วมายืนเข้าแถว รอเจ้ายอด เด็กเรือที่ขยันขันแข็งทำงานไม่จักเหน็ดจักเหนื่อย บรรจงช้อนเหยื่อหมึกและเกี่ยวเหยื่อให้ ทีละคน เมื่อคนใดได้เกี่ยวเหยื่อเสร็จแล้ว ก็จะไปเลือกทำเล ที่ตนชอบแล้วหย่อนก้น โรยสายทิ้งเหยื่อลงน้ำ แต่ละคนใจจดใจจ่อ สายตาเพ่งมองอยู่ที่ปลายคัน และแล้วคันเบ็ดที่ปักไว้อยู่หน้าผมก็เกิดอาการเหมือนเจ้าลงคัน ปลายคันกระตุกเบาๆ ถี่ๆ อยู่หลายครั้งก่อนจะโน้มวูบลง “ตั๊บบบ!” เสียงวัดคันดังหนักแน่น ปลายคันโค้งโก่งงอ สายเอ็นตึงเขม็ง เกมส์การต่อสู้ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว “อึ๊บบบ! หนักเอาเรื่อง แหะ ตัวนี้” การต่อสู้ระหว่างคนกับปลา ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดปลาอังเกยไซร์ เกือบ 5 กิโล ก็ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ เราเปิดประเดิมปลาตัวแรก ได้อย่างงดงาม ขณะนั้นเองนายหนุ่ม ก็กำลังต่อกรกับปลาเช่นกันและปลาเก๋าขนาด 3 กิโลก็ถูกนายหนุ่มอัญเชิญขึ้นมานอนพะงาบๆ ในตะกร้า ส่วนทางด้านท้ายเรือคุณเดือน ที่ยึดเป็นสมรภูมิ ก็กำลังโน้มคันจนโก่ง พวกเราเมื่อเห็นคันโค้งในลักษณะเช่นนี้ต่างก็พากันเดาไปต่างๆ นานา “ท้ายเรือโดนลูกหมูเข้าให้แล้วพี่โย” นายเดือน พยายาม ออกแรงโน้มคัน ในที่สุดนายเดือนก็สามารถพิชิตปลาตัวแรกของตัวเองในทริบขึ้นมาได้ แต่มันไม่ใช่เก๋าลูกหมูอย่างที่หลายคนคาดเดา แต่มันเป็นปลาสร้อยนกเขา หรือไอ้จี๊ ขนาดใหญ่ “ธ่อ..!ไอ้เราก็นึกว่าเป็นไอ้ลูกหมูสะแล้ว ไหงดันเป็นไอ้จี๊ ไปได้นะ” เสียงนายเดือน บ่นกระปอดกระแปดออกมา

แต่แล้วจู่ๆ ปลาก็หยุดพฤติกรรมกินเหยื่อลง เสียงตี๋ใหญ่ ตะเบ่งออกมาว่า “เรือเลื่อนออกมาไกลหมาย เก็บเบ็ดขยับเรือหน่อยครับ” ตี๋ใหญ่จะคอยเฝ้าดูจอ GPS ตลอดเวลา เมื่อเห็นว่า เรือได้เลื่อนออกมา ไกลหมาย ก็จะทำการขยับเรือใหม่ ทันที พอเรือขยับได้ที่ ปลาก็ฉวยเหยื่อพวกเราอีกครั้ง และคราวนี้เราได้ไอ้เก๋าไซร์ เกือบ 3 กิโล ขึ้นมานอนในตะกร้า “โอ้! นั้นใช่เลย หัวเรืออัดปลาใหญ่แล้วคันโง้งเชียวสงสัยจะเป็นลูกหมู แน่ๆ คราวนี้” ตี๋ใหญ่ เจ้าเก่า ส่งเสียงเชียร์ออกมาจากข้างในเก๋งเรือ พวกเราหันหน้าขวับไปมองยังนายหนุ่ม ภาพที่เราได้เห็นอยู่ในขณะนี้ มันเป็นภาพของนายหนุ่ม คนเดิมที่กำลังยักแย่ยักยันโน้มคัน อัดปลาจนคันโก่ง “อารายฟ่ะ ตูนั่งอยู่ข้างมันแท้ๆ ดันไม่แดร๊กของตู แต่เจือกไปแดร๊กแต่ของมัน ตูตาร้อนผ่าวไปหมดแล้วนะเฟ้ยไอ้หนุ่ม แบ่ง ๆ ตูม้าง จิว้อย ไอ้เพื่อนบังเกิดเกล้า” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยปากแซวนายหนุ่มด้วยความอิจฉาตาร้อน “คนมันหล่ออ่ะแจ๊ค ทำอะไรก็ดีปายโหมด ฮะ ฮ่ะ ฮา” นายหนุ่มได้โอกาส รีบชูหางตัวเองทันที การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป อย่างดุเดือด ดูท่าคู่ต่อกรของนายหนุ่มจะไม่ยอมศิโรราบโดยง่ายดายเสียแล้ว เสียงนายหนุ่มกัดฟันดังกรอด กรอด สลับกับเสียงพึมพำ ‘อึ๊บ อ๊าก’ ตลอดเวลา บ่นไปบ่นมาไม่ทันไร ก็เกิดมีเสียงดัง ‘ปู้ด...แปรดดด’ แซมออกมาด้วย “ก๊ากกก หน่อยแน่ะเล่นปล่อยกำลังภายในเลยรึไงฟ่ะ เจ้าหนุ่ม อื่อฮือ แหวะ”

นายหนุ่มรวบรวมพลังลมปราณทั้งหมดจนมากเกินไป สุดท้ายลมปราณก็เลยแตกซ่าน ดัง ‘ปู้ด ปู้ด’ ออกมาเป็นชุด อย่างกับ หวูดรถไฟ เล่นเอาบรรดาเพื่อนๆ ที่มุงดูแตกกระจาย ตามด้วยเสียงหัวร่อ ดังตามมา ไอ้เสียงรถไฟเปิดหวูด ปู้ด ปู้ด เมื่อกี้นี้ มันเสียงอะไรหว่า ! “แหม! พี่ก้อ ปลามันตัวใหญ่ต้องใช้แรงเยอะ ผมก็ต้องรวบรวมพละกำลังที่มี งัดมันจนสุด สุด ฮิฮิฮิ..เหม็นดีเน๊าะ” นายหนุ่มพูดไปพรางมือก็อัดปลาไป ฝ่ายเจ้าปลาคู่ต่อกรเมื่อมาเจอท่าไม้ตาย ของนายหนุ่ม ด้วยการปล่อยพลังลมปราณ ก็ถึงกับตาปูดทะลักออกมานอกเบ้าตา ลิ้นพองจุกเต็มปาก อวัยวะภายในแตกกระจายด้วยฤทธิ์พลังลมปราณ ‘เสร็จมะก่องด้อง หงายเงิ้บ’ ลอยตุ๊บป่อง พุงชี้ฟ้าสู่ผิวน้ำ ทันที ที่มันปรากฏตัวต่อสายตา พวกเราถึงกับตะลึง นะจังงังเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด กระทั่งต้องสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียง ตี๋ใหญ่ ที่ร้องตะโกนด้วยเสียงระล่ำระลัก อย่างดังว่า “พี่โย พี่โย ไอ้ย่ำ ไอ้ย่ำตัวใหญ่ด้วย อ้ายปื้ดเอาสวิงมาช้อนหน่อยเร็ว” ปลาย่ำสวาทตัวนี้ก็เลยเสร็จท่าไม้ตายของนายหนุ่ม ที่ใช้ท่า ‘พลังปู้ด’ เผด็จศึกมันลงได้อย่างสวยงาม

ด้วยลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ลำตัวที่เป็นสีส้มแต่งแต้มด้วยจุดสีฟ้า ไปทั้งตัวของ เก๋าแดงจุดฟ้า หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่ากุดสลาด หรือทางจังตราดจะเรียกมันว่า ‘ไอ้ย่ำสวาท’ ด้วยเพราะความเชื่อว่าผู้ที่ได้ลิ้มลองเนื้อของมันแล้ว จะทำให้คึกคัก ขนาดนกเขาที่ตายแล้วยังสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาขัน กรุ๊กกรู กรุ๊กกรู ได้อย่างสบาย ว่างั้นเต๊อะ มันก็เป็นความเชื่อของแต่ละคนแต่ละท้องถิ่น นะขอรับ จริงเท็จ ยังไง ต้องถาม ตี๋ใหญ่ ดูเอาเองนะ ขอรับ

วันนี้น้ำกับลมยังคงทะเลาะกัน ไม่ยอมเลิก เฉกเช่นหลายๆ วัน ทำให้เรือต้องเลื่อนออกนอกหมายบ่อย ตี๋ใหญ่ ต้องวิ่งเรือลากสมอเหินน้ำเป็นเจ๊กสกี ขยับเรืออยู่หลายครั้ง “เรือเลื่อนอีกแล้ว เดี๋ยวขอลากสมอเรือเล่นหน่อยครับ พี่โย เก็บเบ็ดเลย” ตี๋ใหญ่ บอกให้เก็บเบ็ด เพื่อที่จะขยับเรือใหม่อีกครั้ง ในขณะที่พวกเรากำลังหมุนรอกกรอสายเอ็นเก็บเข้ามานั้น จู่ๆ เฮียเล็กที่นั่งหนีบกาบเรือ ก็วัดคันอย่างแรง ผมเห็นเฮียเล็ก วัดคันเช่นนั้นจึงถามออกไปว่า “เป็นอะไรเหรอเฮียเล็ก” เฮียเล็ก กล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม ว่า “ปลากินครับ กำลังหมุนเก็บเหยื่ออยู่ดีๆ มันดึงวูบกลางน้ำ” พูดไปก็นั่งหนีบแคมเรืออัดปลาไป ไม่นานปลาก็ถูกเฮียเล็กอัดขึ้นมาสู่ผิวน้ำ เฮียเล็กถึงกับร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกใจ อย่างเสียงดังว่า “อิงซี อิงซี เอาตะขอมาเกี่ยวคอมันที เร็วววววว....” เจ้าปื้ด พอได้ยินว่าเป็นอินทรี เท่านั้นก็รีบคว้าตะขอวิ่งพรวดไปเกี่ยวคอ ปลาอินทรีชะตาขาด ที่แอบมาฉวย สายหน้าที่เป็นสายเอ็นโมโน “เอาไปแลเป็นชิ้นๆ ” เฮียเล็กบอกให้จุ่มโพ่บัง แปรสภาพเป็น ‘ปลาดิบ’ ที่รสชาติแสนจะเอร็ดอร่อยในเวลานั้นทันที

ดวงตะวันเริ่มโรยตัวต่ำลงจนลับขอบน้ำทะเลที่เวิ้งว้าง เรือน้ำใจได้มาจอดทอดสมอลอยลำ ที่หมายหินกอง แห่งหนึ่งท่ามกลางความมืด ที่เงียบสงบคงมีเพียงเสียงลมผสมกับเสียงเกลียวคลื่น คันเบ็ดที่ถืออยู่ในมือยังคงเป็นอุปกรณ์สร้างอารมณ์ความสุนทรี ได้ดี ยามที่ได้ถือมัน แล้วหย่อนสายลงสู่น้ำ มันก็สร้างความสุขให้กับผู้ที่ได้ถือมันแล้ว คืนนี้ พี่หวัง กับนายแจ็ค เกิด Hot ปลาเข้าฉวยจนคันโก่งแล้วโก่งอีกเล่นคนทั้ง 2 อัดปลากันอย่างสนุกสาน เผลอหน่อยเดียว พี่หวัง กับนายแจ๊ค งัดปลามาเกือบจะเต็มตะกร้า ขณะที่นั่งมองดูคนทั้งคู่สนุกกับการตกปลา เพลินๆ อยู่นั้น คันเบ็ดที่ปักไว้ในกระบอกปักคัน ก็ส่งสัญญาณกระตุก ‘กระดุ๊บ กระดุ๊บ’ แล้วโน้มลงจนสุดเหยียด มัน เป็นอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย ยามที่ได้เห็นคันเบ็ดถูกปลาดึงจนโน้มลงอย่างนั้น ไม่ต้องให้มีการย้ำเตือนใดๆ ประสาทสั่งงานให้มือไปดึงคันออกมาจากกระบอกปักคันโดยอัตโนมัติ และดำเนินไปตามขั้นตอน ด้วยความเคยชิน เกมส์การต่อสู่ระหว่าง ‘คนกับปลา’ ในยามดึกสงัด ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง “ ฮะ ฮา ตัวนี้เป็น แดงเขี้ยว ว้อยยย บัง เอาสวิงมาช้อนมันขึ้นเรือที” เจ้าบังไม่รอช้าจัดการ ช้อน แดงเขี้ยวขนาดใหญ่ ขึ้นมาใส่ในตะกร้า ทำให้ขณะนี้เกิดประชากรปลาหนาแน่น จนล้นออกมานอกตะกร้า จนต้องมีการถ่ายเท ประชากรปลาลงไปแช่ในลังน้ำแข็ง ยามนี้เหมือนเป็นช่วงนาทีทองของพวกเราเสียจริงๆ พวกเราเพลิดเพลินกับการตกปลาจนกระทั้งหมึก 3 ร้อยกว่าตัวได้ หมดเกลี้ยง กิจกรรมตกปลาในคืนนี้ก็ต้องยุติลง

ตี๋ใหญ่ ตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืด ก่อนจะสตาร์เครื่องยนต์ หันหัวเรือกลับเข้าฝั่ง ก่อนที่ฟ้าจะสาง “ตี๋ใหญ่ เดี๋ยวแวะเที่ยวเกาะหวาย เล่นน้ำกันหน่อยนะ” ผมบอกตี๋ใหญ่ ให้แวะเที่ยวเกาะหวาย เวลายังเหลือมากพอที่พวกเราจะตะลอนเดินเที่ยวชมธรรมชาติ ชมหาดทราย ชมปลาเก๋า ปลาย่ำสวาท และปลาอื่นๆ อีกมากมายแต่ละตัว ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น พี่นิพนธ์ ได้เลี้ยงไว้ในกระชัง ระหว่างที่เรากำลังแล่นเรือเดินทางมายังเกาะหวาย เสียงรอก ที่เรา Trolling RAPARA CD-14 ไว้ท้ายเรือ ก็ร้องดังสนั่นเสียงดัง “กรอดดดด” เสียงนั้นมากระตุ้นความรู้สึก และทำลายวงสนทนา ให้หยุดลง “เฮ้ย....ปลากินท้ายเรือ” ผม จ้ำขาพรวดๆ ไปจัดการกับสายที่ Trolling ในใจก็อดที่จะขำ เพื่อนที่พูดเมื่อกี้ไม่ได้ “อะไรฟ่ะ ปลากินท้ายเรือ ถ้าปลามันเขมือบท้ายเรือได้ ตัวมันจะใหญ่ขนาดไหน นะ ฮา!” ในที่สุดปลาอินทรี ขนาด 3 โลกว่า ก็ถูกเจ้าปื้ดใช้ตะขอเกี่ยว ขึ้นมานอนบนเรือได้สำเร็จ เจ้าปื้ดจัดการปลดเบ็ดออกจากปากปลา ก่อนจะถามว่า “พี่โยไม่ได้ผูกสายลีดลวดเหรอพี่” เจ้าปื้ด สงสัยที่เห็นผมผูกสายเมนเข้ากับเหยื่อปลอม โดยไม่ใช้สายลีดเดอร์ลวด “ อ้อ .... ปลามันงาบไม่ถึงสายเอ็นหรอกปื้ด” ผมพูดต่อเมื่อเห็นเจ้าปื้ดเอามือ เกาหัวดังแกรก แกรก “สายเอ็นจะให้แอ็คชั่นของเหยื่อได้ดีกว่าใช้สายลีดลวด ผมใช้วิธีนี้บ่อยเคยได้รวดเดียวถึง 3 ตัวก็มี” ได้ทีปล่อยแมงโม้เลยเรา ฮา! เราปิดเกมส์ทริบนี้ด้วยปลาอินทรี ก่อนที่เรือจะเดินทางมาถึงเกาะหวาย เพื่อนๆ เดินขึ้นไปชมเกาะหวายดูการฮุบเหยื่อของปลาเก๋าระดับลูกหมู ที่เลี้ยงไว้ในกระชั่ง เกือบ 10 ตัว บ้างก็เล่นน้ำที่ใสสะอาด บ้างก็เดินเล่นบนหาดทราย และอาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคล ครั้งนี้เป็นการพักผ่อนที่มีความสุขในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของเพื่อนๆ อย่างแท้จริง เรื่องราวในทริบนี้ก็ขอจบลงไว้เพียงเท่านี้

[กลับสู่หน้าเมนูหลัก]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster