อังคาร,19 มีนาคม 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

เพื่อนไร้พรมหแดน
ตอน. มหาเฮง

ตราด 29-31 ส.ค. 46

มาอ่านคนที่

ผู้ร่วมทริพ 1.ชนบท 2.ผู้พันเหนี่ยว 3.Cybernop นพ 4.ต้อง 5.ต้น Newell 6.ปู่ต้อม 7.ตั้ม TUM 8.ตุลย์ 9.ตี๋ และ 10.น้องมิ้น

แม้หนทางจะยาวไกล หลายร้อยกิโลเมตร ถึงจะยังไม่หมดฤดูฝนที่กำลังตั้งเค้า ทำท่าว่าจะตกอยู่หรอมร่อ เป็นอุปสรรคขว้างหน้าก็ตาม มันไม่ได้ส่งผลทำให้พวกเราเกิดความท้อถอยเลยแม้แต่น้อย ความกะสันต์ ความอยากที่จะตกปลามันมีมากเกินกว่าอุปสรรคพวกนี้จะมาขว้างกั้นได้

เช้าวันที่ 29 ส.ค.46 รถยนต์ 3 คันตะบึ่งห้อ ทะยานออกจากบ้านใครบ้านมัน จุดหมายปลายทางอยู่ที่ ท่าเรืออรุณี บ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด เวลาบ่าย 4 โมง เราก็พาตัวเองมาเยื้องกายที่ตัวเมืองตราดกันแล้ว เราแวะตลาดสด หาซื้อเสบียงคนและหาเหยื่อสำรองตุนไว้ก่อนอย่างเช่น พวกปลาทูโม่ง ปูม้า หรือหมึกลอบ ถ้ามีก็จะคว้าไว้ก่อนละ คือไม่ว่าผมเจออะไรที่พอจะเอามาทำเหยื่อตกปลาได้ผมจะซื้อ ตุนไว้เพราะข่าวจาก ไต๋เรือชื่อดังหลายคน บอกมาว่าตอนนี้หาหมึกทำเหยื่อยากมาก ผมเดินหาจนทั่วทั้งตลาดสดจนน่องปูด แข้งขาแทบหงิก ก็ไม่พบสิ่งที่ผมต้องการเลยสักร้านเดียว แม้แต่ปลาหมึก ก็ไม่มีขาย จะเห็นมีอยู่เพียงร้าน เดียว ที่มีปูดำเป็น ตัวขนาด 3 นิ้ว ผูกมัดเป็นพวงวางขายเท่านั้น "นี่มันอะไรกันวุ่ย ชาวประมง ไม่ยอม ออกไปจับปลา วางลอบ ไดร์หมึกกันบ้างรึไงฟ่ะ " เอาวะ ได้ปูดำก็ยังดีกว่า ไม่มีอะไรติดมือไป ผมเลยคว้าปูดำมา 2 พวง เรามีเหยื่อปูดำ 10 ตัว ตุนไว้เป็นเหยื่อตกปลา น่าจะพอเพียง สำหรับอัดปลาเก๋าลูกหมูแล้วละ

ที่ท่าเรืออรุณี พอขนของลงเรือเสร็จ ตี๋ใหญ่ก็ทำหน้าที่คุมพังงาบังคับเรือทะยานออกจากท่าเรืออรุณี ลัดเลาะมาตามลำคลองที่คดเคี้ยว มุ่งหน้าสู่ท้องทะเลทันที นั้นหมายถึงฝันของพวกเรากำลังใกล้เข้ามาแล้ว วู้.....ดีใจจัง คืนนี้ตี๋ใหญ่จะพาพวกเราไปไดร์หมึกที่เกาะหวาย ค่ำคืนนี้พระจันทร์มืดสนิท เราฝาก ความหวัง เรื่องเหยื่ออยู่ที่การเฉอวนเท่านั้นเรือน้ำใจ 2 มาถึงหมายไดร์หมึกเป็นเวลา 2 ทุ่มพอดี แสงไฟไดร์สว่างไสว พลพรรค ต.เต่า จัดแจง หยิบคันเบ็ดชุดเล็กมาผูกโยทะกาแล้วหย่อนลงน้ำ ในขณะที่พวกเรา กำลังสาระวน อยู่กับการโยกคันเบ็ด โสกหมึกอยู่นั้น เจ้าต้อง ก็เปรยออกมาว่า "เออ ทริปไหนนะ พี่โยที่พี่ โสกหมึกแล้ว ได้อินทรีกันน่ะ " ยังไม่ทันที่นายต้องจะพูดจบประโยค คันเบ็ดในมือปู่ต้อม ที่นั่งโสกหมึกอยู่ข้างผม ก็โค้ง ลงจรดผิวน้ำ ปู่ต้อมถึงกับร้องเสียงหลง ตกใจในพฤติกรรมของคันเบ็ดที่ตัวเองถืออยู่ " เฮ้ยยยยย หมึกยักษ์ หมึกยักษ์ มากินเบ็ดผ๊ม " สายเอ็น 8 ปอนด์ วิ่งปี๊ดออกจากรอกสปินอย่างรวดเร็ว เจ้าตัวลึกลับ มันพาสาย มุดเข้าใต้ท้องเรือ อาการดิ้นรนต่อสู้ขัดขืนและดิ้นรน ของตัวลึกลับยามวิกาลที่อาจหาญมางาบโยทะกา วิ่ง ปู๊ดป๊าดไปทางซ้ายที ชะแวบไปทางขวาที ปู่ต้อมพยายาม ระงับความตื่นเต้น ลดอาการ ใจเต้นตุ๋ม ตุ๋ม ต่อม ต่อม บรรจงงัดปลาหมึกยักษ์ ที่เข้าใจในตอนแรกขึ้นมาทีละนิด ทีละนิด จนพวกเราซึ่งบัดนี้ทำตัวเป็นไทยมุง ตีตั๋วชั้น 1 มายื่นชะเง้อคอมอง สายตาทุกคู่เพ็งมองลงไปยังพื้นน้ำด้านล่าง พอเห็นแสงเงาแวววับของเจ้าตัวปริศนาที่มาขม้ำโยทะกา บรรดาไทยมุง ก็ถึงบางอ้อ " เฮ้ย ปู่ต้อม มันไม่ใช่หมึกยักษ์โว้ย มันเป็นอินทรี" หนึ่งในไทยมุงซึ่งมีผมร่วมอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ร้องบอก ให้ทุกคน คลาย สงสัย ก่อนที่ปู่ต้อมจะเป่าลมออกจากปากเสียงดัง ปู๊ด "มิน่าละ ว่าแล้วทำไมมันถึงสู้เบ็ดจัง" เสียงปู่ต้อม เปรยออกมา ปนความรู้สึกดีใจ ยิ้มจนปากแทบจะฉีก เปิดประเดิมทริปด้วยอินทรีที่อาจหาญมาเขมือบโยทะกาจนเต็มปาก เจ้าตุลย์ เมื่อเห็น อินทรีน้อย นอนดิ้นกระแด้ว กระแด้ว บนเรือ ก็พาลให้เกินน้ำลายสอ "อย่างนี้มันต้อง เอามาทำ ซาซิมิจิ้มวาซาบิแล้วพี่" พอเจ้าตุลย์พูดจบ พี่เหนี่ยวของเรา ก็เกิด อาการ เช่นเดียวกับ ปู่ต้อม "เฮ้ย หมึกอะไร ฟ่ะ วิ่งจู๊ด แรงเยอะขนาดนี้" และพอพี่เหนี่ยวสาวสายเอ็นขึ้นมา มันเป็นอินทรี ขนาด เท่ากัน กับของปู่ต้อม ที่มางับโยทะกาอีกตัวและอีก 1 ตัวจากฝีมือใคร ผมจำไม่ได้แล้วละ "อะไรกันวะ นี่เราอยู่ใน วงล้อม ของฝูงอินทรี ป๊อก แล้วรึนี่" ผมสบถออกมาเมื่อเห็นว่าเราได้ปลาอินทรีตั้ง 3 ตัวติดต่อกัน ผมไม่ได้ยินดี กับปลาอินทรีที่ได้ หรอกนะครับเพราะมันเป็น ลาง บอกเหตุอย่างหนึ่ง ว่า "คืนนี้ พวกตู คงไม่ได้หมึกสักตัวแน่" ก็อินทรี เป็นฝูงล้อมเรือเราอย่างนี้ ปลาหมึกที่ไหนมัน จะใจกล้า หน้า ด้านเข้ามาใกล้ละ มันก็กลัวจะถูกแด๊กก เหมือนกันละจริงม่ะ ตี๋ใหญ่ พอรู้ว่าเราโสกได้ปลาอินทรี ถึง 3 ตัว ก็มองรูปการออกว่า ถ้าขืน ดันทุรัง เปิดไฟไดร์ต่อไป คงจะไม่ได้หมึกมาทำเหยื่อสักตัวแน่ ผมเห็นท่าไม่ดี จึงบอก ตี๋ใหญ่ เผ่นไปตั้ง หลัก หาที่ใหม่ไดร์หมึกกันดีกว่า

ตี๋ใหญ่เผ่นแน๊บ ไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง พาเรือแล่นเข้ามาด้านในห่างจากจุดเดิมไกลพอสมควร เครื่องปั่นไฟ ทำงานอีกครั้งแสงไฟเปิดสว่างอีกหน สมาชิกหลายคนหลบเข้าไปนอนพุงพุ้ย ในเก๋งเรือ จนเวลาดึกสงัด พวกเราก็ต้องตกใจสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เมื่อพื้นเรือมีควันพวยพุงขึ้นมา จากจุดห้อง เครื่องปั่นไฟ ฉับพลันนั้นแสงไฟไดร์ก็ดับลงพร้อมกับเครื่องปั่นไฟ ก็หยุดส่งเสียงคำรามลงไปด้วย เสียง เอ๊ะ อะ มะเทิง อึกกะทึก คึกโครม ของตี๋ใหญ่ และเด็กเรือดังลั่น ดูแล้วเหมือนเกิดจราจลย่อยๆ บนเรือน้ำใจ2 ความโกลาหล วุ่นวาย ก็สงบลงเมื่อเรารู้สาเหตุที่ทำให้ควันท่วมเรือแล้วว่ามาจาก ท่อส่งน้ำเข้าเครื่องปั่นไฟ หลุดออกจากถังน้ำ ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจนไหม้ และน๊อค เกิดควันท่วมเรือนั้นเอง "เวงกำ จริงๆ เล้ย ตี๋ใหญ่เหยื่อก็ยังไม่ได้สักตัว เครื่องปั่นไฟก็ดันมาเสียอีก แล้วนี่เราจะไปหาเหยื่อที่ไหนได้บ้างละเว้ย เนี่ย" ว่าแล้วอยากเอา หน้าแข้ง ไปก่ายหน้าผากโหนก โหนกของตี๋ใหญ่จริงๆ เล้ย (ก็มันเอามาก่ายหน้าผากตัวเองไม่ได้นี่หว่า ขอยื่มหน้าผาก ตี๋ใหญ่ ก่ายไป ก่อนแล้วกันนะ ฮ่ะ ฮ่า!) อารมณ์ตอนนี้ ไม่อยากจะบรรยายเลยจริงๆ ผับผ่าเฮอะ ตี๋ใหญ่ก็คงจะไม่ต่างจากผมเท่าไรนักหรอก เราไปขอ แบ่งปันเหยื่อจากไต๋เดช ได้ปลาสีกุน มา10 ตัว ก็ต้องขอขอบคุณไต๋เดช ที่เอื้ออารี แบ่งปันเหยื่อให้พวกเรา สรุปทริปนี้เรามีเหยื่อ ปูดำ เป็นๆ จากที่ซื้อมา 10 ตัว ปลาหมึก 4 ตัว และปลาสีกุนอีก 20 กว่าตัว "เอาวะ ตี๋ใหญ่เป็นไงเป็นกัน มีเหยื่อแค่นี้ก็ ไม่เป็นไร พอเช้า เราไปหาซื้อหมึกตายจากเรือไดร์ก็ได้"

เช้าวันที่ 30 ส.ค. 46 เป็นเช้าในวันที่เหยื่อไม่พร้อม เราแล่นเรือมาที่หลังเกาะรัง เพื่อหาซื้อหมึกตาย จากเรือไดร์หมึก วันนี้มีเรือมาจอดเรียงราย หลังเกาะรังอยู่ 5-6 ลำ ตี๋ใหญ่แล่นเรือเข้าเทียบ เรือ ลำที่ อยู่ใกล้เรือเรามากที่สุด เราขอแบ่งซื้อหมึกตาย จากเรือลำนั้น แต่เราก็ได้รับการปฏิเสธจากไต๋เรือ เราจึงต้อง เข้าเทียบเรือลำที่ 2 ที่อยู่ถัดไป ไต๋ผู้ใจดี ยอมแบ่งหมึกตายขายให้เรา ในกิโลกรัมละ 30 บาท เรามีหมึกตาย อีก 2 กระจาดแล้ว โว้ย ไปตี๋ใหญ่ ออกหมายนอกได้แล้ว เรากล่าวคำขอบคุณ พร้อมกับจ่ายค่าหมึก 2 กระจาด และมอบ เอ็ม 150 ให้กับคนเรือลำนั้นเป็นการตอบแทนในน้ำใจ ระหว่างที่เราแล่นเรือเข้าสู่หมายแรก เจ้าต้น ได้ปล่อยสายลาก ล่ออินทรีด้วยราพาร่า CD 14 ขาวหัวแดง และแล้วเสียงรอก Daiwa Tournament ก็แผดเสียงคำรามลั่น ตี๋ใหญ่ ลดความเร็วเรือลง เจ้าต้นอาสาเป็นมืออัด ส่วนเจ้าปื๊ด ตอนหลังได้รับฉายาว่า "ไอ้ฟายปื๊ด" รับหน้าที่เป็นมือตะขอ เมื่อนายต้น บังคับปลาอินทรี เข้ามาใกล้ในรัศมีคมตะขอ เสียงตะขอ ก็สับฉึกลงบนร่างของอินทรี ตัวนั้นแต่พอเจ้าปืด จะยกปลาขึ้นเรือ ปลาอินทรีมันก็สะบัดร่าง หลุดจากคมตะขอ พร้อมกับคมเบ็ดของราพาร่าหลุดตกน้ำไปทันที อิสรภาพกลับเป็นของมันอีกครั้ง และเจ้าปื๊ด ก็ได้รับฉายาว่า "ไอ้ฟายปื๊ด" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

เราแล่นเรือมาถึงหมายแรก เบ็ดทุกคันเกี่ยวหมึกตายหย่อนลงน้ำ "เงียบฉี่ ปลามันเมินเหยื่อพวกเรา วะตี๋ใหญ่" ผมบอกตี๋ใหญ่เมื่อเห็นว่ามันเงียบนานผิดปกติ "เอ้าเก็บเบ็ดก่อน เรือเข้าไม่ตรงหมาย" เสียงตี๋ใหญ่สั่งพวกเราให้เก็บเบ็ดขึ้นก่อนเพื่อจะเขยิบเรือใหม่อีกครั้ง พอสายสมอเรือตึง หมึกตายที่ ซ้อนคม เบ็ดไว้ ก็ถูกหย่อนลงไปในน้ำอีกครั้ง คราวนี้ ทั้งปลาหมูสี ปลาอังเกย รุมถล่มเหยื่อหมึกตายอย่างเมามัน เพื่อนเราเพลิดเพลิน กับฝูงปลา มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมเห็น ปลาที่พี่เหนี่ยวดึงขึ้นมาบนเรือ เกล็ดของมัน ถลอก ปอกเปิดไปหมด ผมเคยเห็นปลาที่เกิดลักษณะอย่างนี้ก็เดาออกได้ทันที่ว่า มันคงโดนเจ้าลูกหมู งาบเข้า ให้แล้ว แล้วเราจะมัวชักช้าอยู่ใย ผมรีบเก็บขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเหยื่อจากหมึกตายเป็นปูดำ ทันทีแล้วบรรจง หย่อนปูดำลงน้ำ ปูดำออกอาการ กระดี้ กระด๊า ตะกายขา แสดงอาการร่าเริง ทันทีที่มันสัมผัสกับผิวน้ำ แหม! ดูเจ้าปูมันคึกคักน่าดู พอตะกั่วแตะถึงพื้นดินผมก็ผลัดคานโยกเบรก ของรอก Accurate 665 H ไปจนสุด พร้อมรบเต็มที "คอยดูเถอะเมิง มางาบอีปูของตูเมื่อไหร่ ตูจะงัดให้หัวทิ่มเลยเมิง" ในช่วงที่เราถือคัน รอปลามากินเหยื่อ เราควรจะยกคันขึ้นแล้วค่อยๆ ลดคันลงอย่างช้าๆ พอตะกั่วแตะพื้น ให้รอสักพัก แล้ว ก็ยกคันขึ้นใหม่ ที่ต้องยกคันขึ้นแบบนี้เป็นการเช็คเหยื่อ และทำให้เหยื่อได้เคลื่อนไหว อีกทั้งยังเป็น การดึง เหยื่อให้ออกมาจากซอกหิน ซึ่งบางครั้งมันอาจจะเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในซอกหิน ให้ออกมาแสดงตัวสร้างจุดสนใจให้กับปลา อีกด้วยนะครับ นักตกปลาบางคนที่ดวงซวยขนาดหนัก หย่อนเหยื่อนานนับครึ่งชั่วโมง ก็ไม่มีปลามาเตะต้องเหยื่อสักที พอยกเหยื่อขึ้นมาดู เหยื่อก็ยังดิ้น กระแด่ว กระแด่ว โชว์ความแข็งแรงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ทุกประการ มันมีความเป็นไปได้ที่เหยื่อของเรา อาจจะตกลงไปในร่อง ใน ซอกหิน แล้วปลามันจะเข้าไปงับเหยื่อได้ ยังไงละจริงม่ะ แต่ถ้าเรายกคันขึ้นลง มันจะช่วยลดปัญหา นี้ได้นะครับ

ผมใช้วิธียกคัน ขึ้นลงได้ไม่ถึง 5 ครั้ง คันเบ็ดที่ผมถืออยู่ในมือ ก็ถูกกระชากด้วยแรงมหาศาล ผมรีบ วัดคันสวนเต็มแรง ทันทีกะจะให้มันหัวทิ่ม แต่เหมือนมีแรงสะท้อนกลับ มันดึงผมจนหัวทิ่ม ทันทีเหมือนกัน ใช้แล้ว อาการดึงเราหัวทิ่มแบบนี้แหละต้องเป็นมัน ไอ้เก๋าลูกหมูแน่นอน มหกรรมเกมส์ "คนเย่อปลา ปลาเย่อคน" เริ่มขึ้นแล้ว "เย้....ไอ้ลูกหมู เมิงเสร็จตูแล้วเฟ้ย อย่าได้ขัดขืนการจับกุมเชียวน่าเมิง ฮะ ฮ่า ! " เวลานี้สิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดก็คือ เอามือทั้ง 2 ข้าง กุมด้ามคันเบ็ดให้แน่น และเท้าทั้ง 2 ข้าง ยันเข้ากับ กราบเรือให้มั่นคง แล้วจึงออกแรงโน้มคัน แล้วรีบกรอรอกเก็บสายเอ็น เราต้องรีบจัดการมัน ก่อนที่มัน จะพาร่างอันอ้วนท้วมเข้าไปซุกอยู่ในรู ปลาขาดไม่ว่า แต่โดนแซว ข้ามปีไม่เลิกนี่สิ ปัญหาใหญ่เลยละ ใคร จะยอมได้จริงม่ะครับ ฮ่ะ ฮ่า ! คันบิวท์ Bank Graphite USA EX Heavy 30-50 Lb. โชว์แอ็คชั่นสุดๆ คันโค้งงอจนจะจรดผิวน้ำ ผม พยายาม เก็บสายเอ็นแต่ละนิ้วแต่ละคืบ มันช่างยากเย็นแสนเข็ญ เสียเหลือเกินเวลาผ่านไปนานนับ 10 นาที เหงื่อเม็ดโป่งๆ เริ่มผุด ขึ้นจับตาม ใบหน้า แขนทั้ง 2 ข้างทำงานอย่างหนัก เหมือนกับเล่นเกมส์งัดข้อ ที่ต้องเกร็งแขนอยู่ตลอด เริ่มจะอ่อนล้าลงไปทุกที "ปลาเก๋า ลูกหมูตัวนี้ ทำไมมันมีพละกำลังมากมายขนาดนี้ฟ่ะ ตูจะหมดแรงแล้วนะโว้ย" ชักจะมีเสียงบ่นกะปอดกะแปรด เหมือนคน แก่ที่บ้านเลยวุ่ยเรา ฮ่า! พละกำลังผมเริ่มจะลดน้อยถอยลง ไปเรื่อยๆ มือไม้เกร็งสั่นเป็นเจ้าเข้า ใบหน้าบูดเบี้ยว เหมือนคน ปวดท้องหนักอย่างรุนแรง ผม ออกแรงฮึดงัดคันอีกครั้งด้วยมือที่สั่นระริก และรีบโน้มคันลงพร้อมกับปั่นรอกเก็บสายเอ็น จังหวะที่เราลดคันลง จะต้องหมุนรอก กรอสายเอ็น เข้ามาด้วยพร้อมกันนะครับ อย่าให้สายเอ็นหย่อนเด็ดขาด และในที่สุด ผมก็เป็นฝ่ายกำชัยชนะ เมื่อผมออกแรงกัดฟัน ปั๊มคันอีกเพียง 4 - 5 ครั้ง มันหยุดขัดขืนการจับกุม ยอมให้ผมงัดมันขึ้นมาทีละน้อย ทีละน้อย ไม่นานหลังจากนี้ ไอ้ลูกหมูพุงโต ก็ขึ้นมา ลอยตุ๊บป่อง ข้างกราบเรือ พอทุกคนได้เห็นขนาดของ "ลูกหมู" ตัวนี้ ถึงกับร้องอุทาน ออกมาด้วยความตกใจ กับขนาดที่ใหญ่โตพุงพุ้ย ของเก๋าลูกหมูตัวนี้ ตัวที่ทำให้ผม ถึงกับลิ้นห้อย นอนหมดแรงข้ามวันไปเลยละครับ พอบรรดาน้องๆ ที่มาด้วยกันได้เห็นฤทธิ์เดชของอีปูดำ ก็เปรยออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง "โห้ยอีปูดำ ของพี่โยแผลงฤทธิ์ แล้ววะ ดูดิล่อปลาเก๋าตัวโคตรใหญ่เสียด้วย " จากนั้น เสียงร้องขอปูดำ จากเจ้าปื๊ด เด็กเรือก็ดังระงมลั่นเรือ เจ้าปื๊ดก็กุลีกุจอจับปูดำมาเกี่ยวเบ็ดหย่อนลงน้ำให้ทีละคน และปูดำก็ไม่ทำให้น้องๆ ได้ผิดหวังเมื่อได้อัดปลาเก๋า จนสมใจกันจนถ้วนหน้าปลาเก๋าไซร์ 4-6 กิโลถูกสอยขึ้นมา เพิ่มประชากรปลาเก๋าบนพื้นเรือ ถึง 5-6 ตัว แล้วปลาก็หยุดกินเบ็ดเสียดื้อๆ "ตี๋ใหญ่ย้ายหมายดีกว่า ปลาไม่กินเบ็ดแล้ว เสียเวลามานั่งรอ" ผมบอกตี๋ใหญ่เมื่อเห็นว่าปลา ไม่กินเหยื่อน นานผิดปกติ "อ้าวเก็บเบ็ดย้ายหมายไปหมายนอกกัน" นั้นคือคำประกาศิต จากตี๋ใหญ่


ครั้งนี้เราแล่นเรือมาถึงซากเรือ ก่อนตะวันจะตกดิน ตั้งหลายชั่วโมง พอสายสมอตึง เจ้าต้น ที่อยู่ท้ายเรือ ก็ร้องเอ๊ะอะ โวยวายขึ้นเมื่อเห็นฝูงอินทรี กระโดดโชว์ตัวไล่งับปลา "อินทรี พี่ อินทรีกระโดดที่ท้ายเรือ" สายตาทุกคู่ หันไปมองที่ท้ายเรือเป็นจุดเดียว อินทรี ฝูงนั้นมันกำลังกระโดดขึ้นโชว์ตัว อยู่ห่างท้ายเรือ เราไปไม่เกิน 50 เมตร นายต้อง นายต้น และเจ้าตั้ม รีบวางคันเบ็ดชุด 20 ปอนด์ หันไปคว้าชุด 12 ปอนด์ ผูกรีดเดอร์ลวด เกี่ยวปลาสีกุน ลงน้ำทันที ตามมาด้วย ตี๋ใหญ่ ที่คว้าเอาคัน 10 ปอนด์ ชุดหมานของผม มาผูกชุดสายหน้าลวด ก่อนจะเกี่ยวปลาสีกุน หย่อนลงน้ำตามไปเป็นสายที่ 4 เวลาผ่านไป อัดบุหรีไม่ทัน 3 ซีด เสียงกรีดร้องจากรอก ABU Rocket 6500 CS ก็แผดเสียงที่แหบ แหบ แต่แสบทรวง เสียงกรีดร้อง โหยหวน ของรอก ABU ยิ่งกว่าเสียงร้องของเปรตวัดสุทัศ เสียอีกนะ ขอรับ "กรี๊ดดดดดดดดดดดดด กึ๊ก กึก กึก" ไอ้เสียง กึ๊ก กึก กึก ช่วงหลังมาจาก ตัวเกลี่ยสายมันไม่ยอมวิ่งตามสปูลนะสิครับ ตัวเกลี่ยสายมันวิ่งไปติดสาย Safety ที่นายต้องเอาไปคล้อย ไว้ที่ร่อง ตัวเกลี่ย สาย มันก็มีแต่พังกับพังเท่านั้นนะสิขอรับ บทเรียนราคาไม่ค่อยจะแพง อีกบทหนึ่งของนายต้องเลยละ และเกือบจะในเวลาเดียวกัน ร้อง Newell C-220 ของนายต้นก็ถูกกระชาก พร้อมกันกับสายเอ็นในคันชุด 10 ปอนด์ ในมือตี๋ใหญ่ ก็วิ่งจู๊ด ออกไปแทบจะพร้อมๆ กัน ปลากิน เบ็ดพร้อมกัน ทั้ง 3 คัน ยกเว้น คันของเจ้าตั้ม คันเดียวที่ปลาเมิน ฮ่า! ตี๋ใหญ่เรียกให้ผมมารับคัน ไปอัดต่อ เพราะว่าไอ้คันชุดนี้ มันเป็น ชุดตีเหยื่อปลอม และหมุนซ้าย "เฮ้ยรอกอะไรวะ หมุนด้านซ้าย ผมไม่ถนัดหรอกพี่โยรีบมารับเอาไปเลยเร็ว" ผมรับคันจาก ตี๋ใหญ่ มาอัดต่อ อินทรีตัวเขือง วิ่งปรูด ปราด พาสาย 10 ปอนด์ กรีดน้ำ ออกไปอย่างรวดเร็ว ปลาอินทรี 4 ถึง 7 กิโล กับสาย 10 ปอนด์ บอกได้คำ เดียว ว่า "มันส์พะยะค่ะ" แต่แล้วปลาของเจ้าต้องก็ขาดไป เพราะ ตัวเกลี่ยสายพัง เวลากรอรอก สายเอ็นเลยมากองกันที่กระจุกที่เดียว คราวนี้ก็เหลือแต่ของผม กับของเจ้าต้น ปลามันวิ่งขวักไขว่ พาสายเอ็นไขว้กันไปก็ไขว้กันมาหลายครั้งที่ผมกับนายต้น ต้องรีบเคลียร์ สายที่กากบากกัน เสียวกลัวว่าสายจะไปบาดกันขาด ในที่สุด อินทรีทั้ง 2 ตัว ก็ถูกเจ้าปื๊ดเกี่ยวขึ้นเรือได้ทั้ง 2 ตัว


หลังจากนั้น ทั้งนายตุลย์ เจ้านพ และปู่ต้อม ต่างก็หันมาเล่นสายลอยกันเป็นแถว จนไม่มีที่ว่างให้ คันชุดหมาน ของผมลงเบียดได้เลย ตี๋ใหญ่ ก็เลยปักคันของผมไว้ตรงท้ายเรือปล่อยให้ปลาเหยื่อว่ายน้ำ เล่นห่างตัวเรือแค่ 2 เมตรเท่านั้น จากนั้นพวกเราก็มานั่งล้อมวงปล่อยแมงโม้บินกันให้ว่อน ที่หัวเรือ จนปู่ต้อม หันไปมองเห็น คันหมาน ของผมออกอาการกระดก ถี่ๆ แล้วโค้งวูบลง "เฮ้ย ปลากินเบ็ด" เสียงปู่ต้อม ดังขึ้นเหมือนเสียงสัญญาณจากพระเจ้า ทุกคนลุกพรึบ แทบจะพร้อมกันแล้วต่างคนต่าง วิ่ง กรูกันไปที่ท้ายเรือ "โครม ครึ่ม ครึ่ม" และ "โอ้ย ใครเหยียบขาตูวะ" ด้วยอารามความดีใจ ตอนนี้ตูข้าไม่สนแล้วว่าจะเป็นคันใคร ใครคว้าคันได้ก่อน ถือเป็นขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ ฮ่า! "คันใครก็ช่าง ปลาแหลกเมื่อไหร่ ถือว่าเป็นคันของตู" เสียงใครบางคนเปล่งออกมาในขณะที่วิ่งไปคว้าคัน "ฮา...เสร็จตู โห้ยยย รอกหมุนซ้าย เอ้าใครจะเอามาเอาไปเลย ไม่ถนัดวุ้ย" เสียง ขุนโจรต้นที่วิ่งมาคว้าคันได้เป็นคนแรก แต่ก็ต้องมาติดที่ใช้รอกมือซ้ายไม่ถนัดนั้นเอง "ก๊ากกกกกก สมน้ำหน้า" ผมถึงกับปล่อยก๊าก ออกมานึกสมน้ำหน้าอยู่ในใจ เจ้าตั้ม รับคันจากขุนโจรต้นมาอัด "เฮ้ย เอ็นหมด" เสียงตกใจจากนายตั้มเมื่อแลเห็นสายเอ็นเหลือติดแกนสปูลเพียงไม่กี่รอบ ก่อนที่เจ้าตั้มจะตัดสินใจกดสปูลแล้ววัดคัน แล้วมัน ก็เหลือ เพียง ความว่างเปล่า "เวงกำ มัวแต่โม้กันอยู่หัวเรือ ปลากินเบ็ดเมื่อไหร่ไม่รู้เรื่อง โอ้ย จะบ้าตาย แล้วดู ดิ ใครให้ใช้รอก ไม่มี เสียงมาลอยสายอินทรีกันละเนี่ย" เสียงไอ้อ้วนตั้ม บ่นเป็นหมูกินรำ กลบเกลื่อนความผิดที่ตัวเองพึ่งจะทำปลาขาดไปหยก หยก... จากนั้นไม่กี่อึดใจปลาอินทรีก็เข้าถล่มพวกเราอีก ระลอก มันเข้ามาฉวยสายลอยคราวเดียวถึง 3 สาย สิ่งที่พวกเราพบ สิ่งที่พวกเรา กำลัง เผชิญ อยู่ในขณะนี้ มันเป็นความโกลาหน วุ่นวาย ม๊าก มาก ทางฝ่ายพี่เหนี่ยว เจ้านพ และนายตี๋ ก็นั่งสอยปลาหน้าดินกันจนเพลิน ทั้งอังเกย แดงเขี้ยว สร้อยนกเขา รวมทั้ง หูช้าง ที่รู้สึกจะถูกชะตากับ เจ้านพ เป็นพิเศษ หัวเรืออัดปลาได้ถึง 2 ตะกร้าเต็มๆ ดูแล้ว พวกเรา จะสนุกสนานกันใหญ่ พวกที่ชอบเล่นสายลอย ก็มี เฮ อยู่เป็นระยะๆ ส่วนพวกที่ชอบเล่นปลาหน้าดิน เดี๋ยวก็งัด เดี๋ยวก็อัด กันจนมือหงิก จวบจนเวลาเลยไป ถึง 3 ทุ่ม ก็ต้องมีอัดต้องรีบเผ่น กันอีกครั้งเพราะว่า มันมี "ตัวเหา" สัตว์น้ำชนิดหนึ่ง ตัวมันสีขาว มันชอบเกาะกินปลา และเหยื่อที่เราหย่อนไว้ เมื่อมีสัตว์ตัวนี้เกาะติดเหยื่อขึ้นมา เมื่อไหร่ พึงรู้ไว้ด้วยว่า จะไม่มีปลาตัวไหนกล้าเข้ามาในบริเวณนั้นเด็ดขาด ให้รีบย้ายไปหมายอื่นกันได้เลย

เราย้ายหมายกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จำนวนปลาที่เราได้ตอนนี้ก็มากพอ สมกับ ความกะสันต์ สนองตัญหา ความอยากให้พวกเราได้สะใจ กับเกมส์ ที่สุดมันส์นี้แล้ว เราจึงเดินทางกลับเข้าฝั่ง กันในคืนนั้นเลย มาถึงเกาะหวายก็สว่างพอดี เราแวะพักผ่อนเล่นน้ำกันที่เกาะหวาย ก่อนจะขึ้นไปเดินเล่น บนเกาะ ที่มีบริการอาบน้ำจืดจากฝักบัวจนชุ่มช่ำสบายตัว ได้เวลาจะกล่าวคำอำลากันแล้ว ท้องทะเลตราด ยังคงเป็นแดนสวรรค์ของนักตกปลา แม้ทริปนี้เราจะไดร์หมึกได้เพียง 4 ตัว แต่เรากลับได้ปลามามากมาย "มหาเฮง" จริงๆ ครับ ทริปนี้ แล้วเพื่อนๆ เวลาลงเรืออย่าลืมพา "คุณเฮง" ลงเรือไปด้วยนะครับ ผมขอบคุณ ตี๋ใหญ่ ที่บริการ พวกเราประดุจเป็นญาติสนิทมิตรสหาย เรือน้ำใจ2 ยาว 17 เมตร มี "หมาดอย" เป็นไต๋ ท่านใดสนใจ ติดต่อจองเรือได้ที่ ตี๋ใหญ่ เบอร์โทร 01-9837378 ครับ

********** ขอให้สนุกกับการตกปลากันทุกคนครับ *******

[หน้าต่อไป] [กลับสู่เมนู]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster