อังคาร,19 มีนาคม 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

มิตรภาพไร้พรมแดน
ตอน.ยุทธการหักเขี้ยวฉลาม
วันที่ 9 - 12 ก.พ. 2550

เรือ Ocean One Ranong ไต๋นุ

ผู้ร่วมทริบ 1.พี่เหนี่ยว 2.พี่ชาญ 3.คุณโฟ 4.พี่ซิง 5.ไก่ก่อสร้าง 6.คุณบรรจง 7.คุณเล็ก ศรีราชา 8.เฮียอรุณ 9.เต้ แว่น 10.กริชอรุณ 11.ตึ๋งพนัส

ยุทธการหักเขี้ยวฉลาม
กลางดึกสงัดคืนหนึ่ง ชายฉกรรณ์นับไปนับมาได้สิบคนถือฤกษ์สะดวก ยกขบวนเคลื่อนพลออกจาก บ้านใคร บ้านมัน สู่พื้นที่นัดหมาย ณ จังหวัดระนอง โดยมีท่านพี่เหนี่ยว เป็นผู้นำกลุ่มจาก กรุงเทพมหานคร นำสมาชิก จำนวน พอกะเทินหรือประมาณ 1 ขยุ้ม พร้อมสัมภารกขนขึ้นยานพาหนะจนเต็มเอียด ควบปุเลง ปุเลง มุ่งหน้าลงใต้ โดยมีจุดหมายอยู่ที่ 'ระนอง' ค่ำคืนนี้ มืดมิด แสงสลัวของดวงจันทร์ ส่องทางพอให้เห็นสองฝากฝั่งเส้นทาง ที่พาหะคู่ชีพกำลังแล่นผ่าน การเดินทางตลอดเส้นทาง เป็นไปอย่างสะดวกโยธินไม่มีเหตุร้ายใด มาขัดขว้างหรือต่อต้าน การเดินทางมาของพวกเขาในครั้งนี้ จนกระทั้งขบวนคาราวาน คนล่าฝันได้เดินทางมาถึงจังหวัดระนอง เมื่อยามฟ้าสาง แสงดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงร่ำไรจับขอบฟ้า และจากนี้ไป กลุ่มคนล่าฝันจะต้องขนสัมภารกทั้งหมดขึ้นเรือ Ocean One Ranong 1 จากนี้ไปอีกไม่ไกล ความฝันของพวกเขาอยู่แค่เอื่อมแล้ว

เสียงท่านพี่เหนี่ยวตะโกนเรียกพลดังลั่น "ทุกคนเตรียมพร้อม รีบขนสัมภาระ ลงเรือโดยไว เสร็จเร็วเท่าไหร่ เราก็จะได้ออกเดินทางเร็วขึ้นเท่านั้น" สิ้นเสียงท่านพี่เหนี่ยว สมาชิก คนล่าฝัน กุลีกุจอ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ บ้างก็แบกลังเบ็ด บ้างก็หอบคันเบ็ดหยิบ ลงเรือชั่วเพียงพริบตา สัมภาระ ต่างๆ ที่อยู่บนรถก็ถูกเคลื่อนย้ายมากองพะเนินบนเรือแทน เมื่อทุกอย่างพร้อม เสียงเครื่องยนต์ขนาด 275 แรงม้าก็ครางกระหึ่ม สมาชิกคนล่าฝัน ก็ขึ้นมาร่วมตัวบนชั้นสองของเรือ Ocean One เพื่อมาฟัง กำหนดการเดินทางและกติกา การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ในครั้งนี้ "น้าโย ผมอยาก Trolling จะเริ่มลากสาย Trolling ได้เมื่อไหร่ครับ" เสียงนายต้นหลิว ที่ส่ออาการ หืดกระหาย กว่าใครเพื่อน ร้องถามขึ้น เมื่อเรือเริ่มเคลื่อนตัวออกสู่ท้องทะเล "เดี๋ยวก่อน ใจเย็นๆ ให้ผ่านการทำเอกสารที่เกาะสองไปก่อนแล้วเราค่อยลงสายลากกัน" นายชนบท กล่าว ก่อนจะเริ่มซักซ้อม แผนการของภารกิจครั้งนี้ "เราจะถึงที่หมายประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง พอพ้นหัวเกาะนี้ใครที่กระหายอยากจะซ้อมมือลงสาย Trolling ก็ได้ แต่ลงไม่เกิน 3 สายนะ" สิ้นเสียง นายชนบท นายต้นหลิว ที่รอโอกาส นี้มานานรีบขานรับทันที "ผมขอลงไอ้ม่วงแสบ นายบรรจง กับท่านพี่เหนี่ยวจะเอาตัวไหนลงมาสู้กับผมครับ" ท่านพี่เหนี่ยวไม่รอช้า ตอบรับคำท้า ของนายต้นหลิวทันที "ผมเอา อีเขียวซ่าส์ ลงไปสู้แล้วกัน แล้วจะรู้สึก ว่าอีเขียวซ่าส์ ของผมมัน จะซ่าส์แค่ไหน แล้วนายบรรจงละ จะเอาตัวไหนมาสู้กันกับผมครับ" ท่านพี่เหนี่ยวหันหน้ามาถามนายบรรจง ในขณะที่ นายบรรจง กำลังมะงุมมะงาหรา ประกอบอุปกรณ์ TIAGRA 50 WLRSA ตัวใหญ่พอๆ กับหม้อหุงข้าว นายบรรจง ละสายตา จากรอกตัวยักษ์ แล้วเงยหน้าหันไปทางนายเล็กศรีราชาก่อนจะปรึกษาคู่หูว่า "เราจะเอาเหยื่อเด็ด ตัวไหน ไปสู้กับเขา ดีละนายเล็กแต่ละคนฝีมือ น่ากลัวทั้งนั้น" นายเล็กศรีราชา ครุ่นคิดอย่างหนัก เพราะดู คู่ต่อสู้แต่ละคน ทั้งท่านพี่เหนี่ยว และนายต้นหลิว ฝีมือไม่ธรรมดาแน่ "เอาอะไรดีละ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าปลาพม่ามันชอบแบบไหน ถามนายชนบท ดีกว่า จะเอาตัวไหนดี" นายเล็ก ศรีราชา หันมาถามนายชนบท เป็นตัวช่วยสุดท้าย

"เอาหัวเจ๊ต สีชมพู หวานแหว๋ว ลงไปสู้ เลยคุณบรรจง คราวที่แล้ว เหยื่อตัวนี้เด็ดสุดๆ เดี๋ยวป๊าด เดี๋ยวป๊าด โดนไปหลายตัว" นายชนบท กล่าวพร้อมกับ หยิบเหยื่อเจ๊ต ที่ได้มาจาก ท่านพี่หมูโอเชี่ยนยื่นให้ " ลงขันคนละ 300 นะ กองเชียร์ใครจะถือหางใครก็เลือกได้เลย ปลาฉวยของใครก่อนรับไปเลย ปลาอะไรก็ได้ ไม่เน้น" ท่านพี่เหนี่ยวเสนอกติกาให้ทราบ ในขณะที่นายบรรจง ก้มหน้าก้มตา มะงุมมะงาหรา งุ่มง่าม ประกอบชุดสายหน้า นายต้นหลิว กับท่านพี่เหนี่ยว รีบฉวยโอกาสนี้ ปล่อยไอ้ม่วงแสบและอีเขียวซ่าส์ ลงน้ำทันที แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนายต้นหลิว ที่กำลังปล่อยสายส่งไอ้ม่วงแสบ ไปได้ไม่ทันไร ก็ยกคันตะวัด "นี่แน่ ไอ้ม่วงแสบผมทำงานแล้ว ยังลงสายไม่เสร็จเลย ฮ่า ฮา" เสียงนายต้นหลิว ดีใจจนสุดจะยับยั้ง "อาราย ผมยังไม่ได้ลงสายเลย แบบนี่ไม่ยุติธรรมนี่หว่า ตัวนี้ไม่นับ เอาตัวใหม่" เสียงนายบรรจงโวยวายเป็นการใหญ่ ในที่สุดนายต้นหลิวก็ลาก อินทรี ไซร์งามขึ้นเรือได้เป็นผลสำเร็จ "เย้.....มื้อเที่ยงนี้มีปลากินแล้วพวกเรา" เสียงดีใจสุดพรรณนาของบรรดากองเชียร์ ดังขึ้นก่อนที่นายเท้ง กะลาสีประจำเรือ จะเอาตะบองมาเผ่นกระบาล อินทรีตัวนั้น 'โป๊ก' เสียงดังฟังหนักแน่น จากนั้นสาย Trolling ก็เงียบเป็นเป่าสาก

จากนี้ไปอีกหลายชั่วโมง กว่าจะถึงหมาย นักล่าฝันจากแดนสยาม ทยอยกันไปพักผ่อน ในห้องนอนที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ คงเหลือ แต่คนแดนตายไม่กี่คนที่ทรหดอดทน ไม่ยอมหลับยอมนอน นั่งเฝ้าฟังเสียงรอกร้อง หนึ่งในนั้นก็คือนายต้นหลิวผู้หืดกระหาย "ประมาณบ่าย 3 โมง กว่าๆ เราจะผ่านชายร่อง ที่นั้นจะมีโอกาสได้ซ้อมมือกันอีกครั้ง แต่จากนี้ไปอีกเกือบ 4 ชั่วโมง นอนพัก เอาแรงกันก่อนดีกว่า" นายชนบทบอก สมาชิกที่ถ่างตาเฝ้า สาย Trolling ไม่ยอมพักยอมผ่อน แต่ก็ไร้ผล เขายังคงเป็นมนุษย์เหล็กไม่ยอมหลับนอนอยู่ดี กระทั้งตะวันบ่ายแก่ๆ สมาชิกเริ่มทยอย กันตื่นนอน ด้วยความสดชื่น ร่างกายพร้อมที่จะผจญกับศึกใหญ่ ที่รออยู่ข้างหน้าในอีกไม่นาน "อ่า.....ได้นอนสักตื่น ค่อยยังชั่วหน่อย นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วละนี่" นายชนบท ตื่นขึ้นมา ก็เอ่ยปาก ถามนายเก๋ ผู้คุมเรือ ในขณะที่มือขวาคว้าขวดน้ำ แล้วเทน้ำลงบนฝ่ามือลูบหน้าลูบตาเรียกความสดชื่น ให้คืน กลับสู่ ร่างกาย "จะ 4 โมงเย็นแล้วพี่โย เย็นนี้จะกินอะไรกันดี ครับ" นายเก๋ กล่าวตอบ "อื่ม...เอาอะไรก็ได้จัดมาเลย กินได้หมดแหละ เออ! นี่เรากำลังจะเข้า เขตร่องน้ำแล้วอ่ะ ดิ บ๊ะ งั้นต้องรีบไปลงสาย Trolling สะหน่อย เผื่อจะเจอตัว แบบคราวที่แล้ว" นายชนบท กล่าวจบ ก็งัดเอาเหยื่อ BONITA สีส้มหลังดำ ในนาม 'มะระกอ' มาเข้าสายหน้า 150 ปอนด์ "เอาหม้อหุงข้าวของนายบรรจง นี่ละวะ นายเล็กเตรียมตัวโดนของใหญ่ไว้ได้เลย เหยื่อตัวนี้ลีลาส่ายก้น มันออดอ้อนดีนัก ปลาเห็นต้องผวาเข้ามางาบทุกที" นายชนบทกล่าว

ในขณะที่กำลังปล่อยสายออกจากรอกตัวยักษ์ แล้วก็จริงอย่างที่คาดไว้ เมื่อเรือแล่นผ่าน สันดอน ที่ระดับน้ำลึกประมาณ 300 กว่าเมตร ปลายคันก็โน้มลงตามแรงกระชาก ก่อนที่ หม้อหุงข้าว จะคำรามเสียงดังกึกก้องสนั่นลำเรือ 'กร๊อดดดด' แต่แล้วเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง ตดยังไม่สิ้นกลิ่นเหม็น ชั่วเพียงเสี้ยวเวลานั้น คันเบ็ดก็ดีดตัวคืนกลับสู่ตำแหน่งเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น " เอ๋ะ....สงสัยมันจะงาบไม่ติดเบ็ด เก็บเหยื่อขึ้นมาดูดีกว่า ว่ายังอยู่ดีหรือเปล่า ไม่ใช่โดน แดร๊ก หายไปทั้งยวงสะละ ฮา!" นายเล็ก ศรีราชาเปรย แบบติดตลก "นี่ไง มีฟันปลาหักติดตัวเหยื่อมาด้วย ฮะ ฮา ฮ่า ไอ้ปลาตัวนี้ฟันหล่อ สะแล้ว" นายเล็กศรีราชา เพ่งมองซี่ฟันเล่มใหญ่ ในสมองครุ่นคิด ก่อนจะเปรยเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา " ขนาดฟันยังใหญ่ขนาดนี้ แล้ว ตัวมันจะใหญ่ขนาดไหน เฮอะ! ไม่อยากจะคิดเลย" แม้จะพลาดโอกาส ประลองกำลังกับสัตว์ใหญ่ที่แอบมาทักทายสายลาก แต่ก็ไม่ทำให้คนล่าฝัน เกิดความท้อถอย หรือบั่นทอนกำลังใจ ของพวกเขาให้ลดน้อยถอยลงแม้แต่น้อย การลากสายยังคงดำเนินต่อไป กระทั้งดวงตะวันลาลับฟ้า ก็ไม่มีเหตุการณ์ตื่นเต้นใดๆ เกิดขึ้น สมาชิกคนล่าฝัน บางคนชักออกอาการเซื่องซึม แสดงความเหนื่อยล้าจากการเดินทางออกมาให้เห็น บางคนทนไม่ไหวก็กลับไปงีบพักเอาแรง ในขณะที่เรือกำลัง คืบคลานเคลื่อนตัวเข้าใกล้แหล่งชุมนุมของฝูงปลาเข้าไปทุกขณะ ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ก็จะถึงที่หมายแล้ว หัวใจนายต้นหลิวเริ่มเต้นถี่ไม่เป็นจังหวะ ด้วยความตื่นเต้นที่ครอบงำจิตใจ เขาจึงไม่อาจจะข่มตาให้หลับลง แม้ร่างกาย จะเหนื่อยล้าสักเพียงใด เขาจึงลุกขึ้นเดินไปเดินมา เหมือนหนูติดจั่น หยิบอาวุธ ขึ้นมาลูบคลำ คล้ายประหนึ่งว่า กำลังลูบไล้เรืองร่าง อันเปลือยเปล่าของดรุณีวัยแรกรุ่นก็มิปาน "เฮอะ.....เมื่อไหร่มันจะถึงสะทีว้อย รอจนเหงือก จะแห้งตายอยู่แล้ว" เสียงรำพึงรำพัน คล้ายคนใกล้จะบ้า ดังเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปาก ที่เปิดเผยอเพียงเล็กน้อย

เวลา 3 ทุ่มครึ่ง เรือ Ocean One เบาเครื่องลง นั้นเป็นสัญญาณบอกเหตุ ว่าการเดินทางใกล้ ถึงที่หมายแล้ว สมาชิกคนล่าฝัน ผู้หืดกระหาย ดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอน ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกมา จากห้องพักผ่อนไปคว้าอาวุธอุปกรณ์ที่เตรียมมา หนีบไว้ข้างกายเตรียมพร้อมที่จะเผชิญ กับฝัน ที่ตั้งใจไว้ ซึ่งพวกเขาไม่อาจจะรู้แม้แต่น้อย ว่าสิ่งที่พวกเขาฝันไว้ จะเป็นจริงดังฝันหนือเปล่า ณ เวลานั้น พวกเขาเพียงต้องการให้ ปลา อะไรก็ได้สักตัว มางาบเหยื่อ Jig ของเขาเท่านั้น "เอ้า....เร็ว ท่านพี่เหนี่ยว ปลาเข้าแล้ว ลงเหยื่อกันได้เลย ระดับ 50 ถึง 60 เมตรครับ" เสียงนายเก๋ ตะโกน บอกระดับตำแหน่งของปลา ที่ปรากฏกายในจอ Sounder เสียงนั้นมันกระตุ้นต่อมฮึกเหิม แก่ผู้ที่ ได้ยิน อย่างยิ่ง "นายเล็ก นายตึ๋ง นายบรรจง รีบส่งเหยื่อลงไปเล่นมันเลยเร็ว" เสียงท่านพี่เหนี่ยว ตะโกนร้องบอกแก่สมาชิก ให้รีบจัดการปลาที่แหวกว่าย อยู่ระดับกลางน้ำ ส่วนตัวหัวโจกนั้นคง จะกบดานอยู่ระดับ พื้นด้านล่างแน่ สิ้นเสียงสั่งการจากท่านพี่เหนี่ยว ก็มีเสียง เฮ ดังลั่น "ไชโย ถึงสะที รอเวลานี้มาแล้ว ลุย เล้ยยย ฮะ ฮ่า ฮา" เสียงไชโยโห่ร้องดังกึกก้อง ประหนึ่งเหมือนกองเชียร์แมนยูฯ เจอกับลีเวอร์พูล ยังไงยังงั้น "เอ้าทุกคนเตรียมพร้อม ลงเหยื่อไปล่อมันกันได้แล้ว " เสียงดังเฉียบขาดจากท่านพี่เหนี่ยวดังขึ้น "นายเต้แว่น นายต้นหลิว นายไก่ เตรียมพร้อม ประจำที่กาบซ้ายเรือไว้ " เสียงท่านพี่เหนี่ยวร้องบอก สมาชิก เพื่อเตรีมประจัญบานกับปลา

เหล่าสมาชิกทะยอย ปล่อยเหยื่อ Jig ลงสู่น้ำทันที ที่ได้ยินสัญญาณจากท่านพี่เหนี่ยว เมื่อเหยื่อจิ๊กดำดิ่งลงสู่น้ำได้ระดับที่ปลาแหวกว่ายอยู่ ตามระดับความลึกที่นายเก๋ ตัวชี้เป่าร้องบอก แต่ละคนก็เริ่มอวดลีล่าด้วยการส่ายเอวกระดกก้น 'งึก งึก' มือข้างที่ถนัดกำด้ามฟอร์กิ๊ฟ แล้วงัดขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับมืออีกข้าง ที่กุมมือหมุนทำหน้าที่หมุนกว้านแขนรอกเก็บสาย อย่างเป็นจังหวะ แต่ละคนต่างแสดงลีลา กันสุดฤทธิ์สุดเดช ไม่ช้าไม่นาน ปลาตัวแรก ก็หลงกลระบำส่ายก้น อ้าปากเข้างาบเหยื่อเต็มปาก "อึ๊บ....เสร็จตูละ เจ้าตัวนี้ อื๊บบบบ ดีดดิ้น ดีจังว้อย...." เสียงดีใจดังออกมาจากปาก นายต้นหลิว เมื่อปลายสายเกิดแรงต่อต้าน และขัดขืนดิ้นรนอย่างสุดฤทธิ์ การต่อสู้ระหว่างคนกับปลาบรรเลงเปิดฉากบรรเลงได้ไม่นาน ก็ถูกนายต้นหลิว ที่ช่ำชองกลยุทธ์ แสดงผละกำลัง งัดคันจนคู่ต่อกรหมดหนทางสู้ยอมแพ้อย่างสิโรราบ "เฮ้ย นี่มันปลาอะไรละเว้ย ทำไมหน้าตามันน่าเกลียด ออกจะทุเรศอย่างนี้วะ" นายต้นหลิว สบถเสียงด้วยความตกใจ กับสิ่งที่ตนเองตกขึ้นมาได้ "เวง...เอ่ย เวง จริงๆ นี่ มันปลาปีศาจนี่หว่า ซวยแล้วมั๊ยละอีตาต้นหลิวดันทะลึ่ง ไปตกเอาปลาปีศาจขึ้นมาสะแล้ว" นายชนบท กล่าวเมื่อเห็นรูปพรรณปลาตัวนั้น "เสร็จกัน หมายนี้ ถ้ามีไอ้ปลาปีศาจ ปลาอื่นไม่มีแล้ว เก็บอาวุธ ย้ายหมายดีกว่า" กัปตันนุ กล่าวเมื่อเห็นว่า ถ้าขืนอยู่ต่อไปมีสิทธิ์ โดนเจ้าตัวนี้สอยเอาเหยื่อ Jig ที่ราคาแพง ขาดพินาศหมดเป็นแน่ "นายต้นหลิว ทีหน้าทีหลังอย่าไปเอามันขึ้นมาอีกละ แค่ตัวแรกก็ต้องรีบเผ่นแล้ว ฮะ ฮา ฮ่า" นายบรรจงกล่าว

นักล่าฝันจึงจำเป็นต้องถอนกำลังถอยหนีอย่างไม่เป็นท่า เพียงแค่ด่านแรกก็เสียท่า ต่อฝ่ายปลาเสียแล้ว ท่านพี่เหนี่ยวต้องเรียกสมาชิก เพื่อมาปรับขบวนกลยุทธ์กันใหม่ ในขณะที่เรือ Ocean One แล่นสู่ด่านหน้าก่อนถึงหมายปลาสีทอง "อีกประมาณ 3 ไมล์ เราจะถึงดอนที่หมายนี้มีปลาเยลโลฟินมากมาย เราจะต้องเก็บปลาโอ และเยลโลฟิน เพื่อมาเป็นเหยื่อ ตกปลาสีทอง กับเก๋าถ่าน ให้ได้มากที่สุด" ท่านพี่เหนี่ยว ชี้แจงแผนการ ให้เหล่าสมาชิกทราบ ไม่ช้าไม่นานเรือ Ocean One ก็เคลื่อนตัวเข้าสู่หมาย "เตรียมตัวให้พร้อม ส่งเหยื่อ Jig ชุดเล็กสัก 40 หรือ 60 กรัม ลงไปเล่นงานมันเลย" นายชนบท ชี้แนะ ก่อนจะดีดคันส่ง เหยื่อ Jig ขนาด 40 กรัมลงน้ำ "ป๊าบ เข้าให้เสร็จ ละ 1" นายตึ๊ง สบถเสียงอย่างดัง เมื่อเหยื่อของเขาสำแดงอานุภาพ "อึ๊บ ผมก็โดนแล้ว ฮะ ฮา เสร็จเราอีก 1 แล้ว" นายเต้แว่น กล่าว การต่อสู้ประจัญบาน อุบัติขึ้นรอบลำเรือ ปลาโอลาย และเยลโลฟิน ถูก สมาชิกคนล่าฝัน จัดการตัวแล้วตัวเล่า ยิ่งเวลาผ่านเนินนานไปเท่าใด จำนวนปลาดูจะเพิ่มปริมาณจำนวนมากขึ้น "มันมาจากไหน กันเยอะแยะ ไปหมดเลย ว่ะยิ่งดึก ยิ่งเยอะ พวกเรา ดูโน้น สิ มันกระโดด โชว์ตัวขู่พวกเราด้วย" ท่านโฟ หนึ่งใน เพื่อนร่วมฝันกล่าว เมื่อเห็นฝูงปลากระโดดโชว์ตัวรอบลำเรือ "ปลาล้อมเรือพวกเราแล้ว รีบส่งเหยื่อออกไปเด็ดหัว ไอ้ตัวหัวโจ๊กที่โดดน้ำอยู่ปลายชายไฟเลยเร็ว" นายเก๋ กล่าวด้วยเสียงระร่ำระลัก

"นายตึ๋ง นายเต้แว่น นายไก่ก่อสร้าง รีบดีดคันส่งเหยื่อจิ๊กออกไปยังเป้าหมายโดยเร็ว" ท่านพี่เหนี่ยว ร้องบอกสมาชิก ทั้ง 3 นาย ให้จัดการกับปลา ที่อาจหาญ แสดงตัวอย่างไม่เกรงกลัว 'จ๋อม จ๋อม จ๋อม' เสียงเหยื่อจิ๊กรูปทรงประหลาดตกกระทบน้ำ นายตึ๋ง นายไก่ และนายเล็กศรีราชา โรยสายปล่อยอาวุธให้ดำดิ่งลงสู่เป้าหมายเบื้องล่าง พอคาดคะเนได้ระยะ ทั้งสามคน ก็ทำการ โยกเอว ส่ายก้นเป็นจังหวะ 'ด๊องแด๋ง' ไม่นานนัก นายตึ๋ง ก็ได้รับแรงกระชากอย่างรุนแรง และหนักหน่วงจากปลายสาย จนแทบไม่อาจจะต้านพละกำลังจากแรงกระชากนี้ได้ แต่ด้วย ความชำนาญ และถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดีทำให้นายตึ๋ง รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ปรับสภาพเกมส์ แก้ไขสถานการณ์ที่กำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบนี้ไปได้อย่างหวุดหวิด "โอ๊ะ โอ โอ๋ เหยื่อผม มันทำงานแล้ว ตัวใหญ่เอาเรื่องเสียด้วย" เสียงนายตึ๋ง พ.พนัสกล่าวไม่ค่อยจะเป็นสำเนียง เกมส์การต่อสู้ยืดเยื้อ ออกไปนานหลายนาที ไม่นานนัก นายตึ๋ง พ.พนัสที่อาศัยประสบการณ์ ก็สามารถ งัดเอาปลาคู่ต่อสู้ ขึ้นมาบนเรือ ได้เป็นผลสำเร็จมันคือ 'ด๊อกทูธทูน่า' ไซร์ 17 กิโลกรัม "เยี่ยมมากนายตึ๋ง จัดการกับพวกมันต่อไป มันยังเหลือ อยู่อีกหลายตัว" ท่านพี่เหนี่ยวกล่าวชื่นชมสมาชิก "อึ๊บ ของผมก็โดน เข้าให้แล้ว ครับท่าน แต่เอ๋ะ พวกเราหายไปไหน หนึ่งคนครับ" นายเล็กศรีราชากล่าวพร้อมกับเกิดความสงสัยขึ้นเมื่อไม่เห็นนายต้นหลิว ออกมาต่อกร ต้านรับกับฝูงปลา ที่ดาหน้าขึ้นเล่นน้ำ ในยามนี้

"เมื่อกี้ เห็นนายต้นหลิว เอาเบ็ดเกี่ยวปลาโอตัวใหญ่ เดินไปด้านหลัง ท้ายเรือ โน้น ครับ" นายบรรจงกล่าวต่อไปว่า "ไม่รู้ จะเล่นพิเรนท์ อะไรอีกหรือเปล่านะ เหยื่อปลาโอ ตัวใหญ่ สะด้วยสิ ไม่รู้จะเอา ไปทำ อะไรนะครับ" นายชนบทเมื่อได้ยินนายบรรจงกล่าวเช่น แสดง อาการตกใจขึ้นมาทันที "ตายห่ะ! นี่นายต้นหลิว คิดทำการบรรลัยแล้วละสิ พวกเรา ต้องรีบไปห้ามโดยเร็ว ชักช้าจะเสียการใหญ่แน่แล้ว" นายชนบทเอ่ยจบ ก็รีบเดินมาท้ายเรือ และสิ่งที่ประจักษ์ต่อสายตาของเขาอยู่ในขณะนี้ก็คือ ภาพของนายต้นหลิว กำลังโรยสาย ส่งเหยื่อชิ้นใหญ่ อยู่พอดี "เดี๋ยวก่อนนายต้นหลิว นี่กำลังทำอะไรอยู่ อย่าพึ่งไปล่อฉลามเด็ดขาดนะ เดี๋ยวพวกมัน จะตื่นแล้วเพื่อนๆ เราจะซวย" นายชนบทเอ่ยปาก ถามนายต้นหลิว "ผมกำลังส่งปลาโอ ลงไปจัดการ กับหลามร้าย ฟันคม ที่ว่ายอยู่ด้านล่าง ผมอยากลองปะทะกำลังกับมันสักตั้ง" นายต้นหลิวตอบ "เฮ้ย ...ทำอย่างนั้นไม่ดีนะ นายต้นหลิว เดี๋ยวพวกมันตื่น กลิ่นคาวเลือด จะกรู่กันมากินเบ็ดเพื่อนๆ หมด จะไม่ได้ปลาอื่นกันเลยนะ" นายชนบทกล่าวต่อไปว่า " จะพากันเสียแรง กับเสียเบ็ดไปเปล่าๆ รีบเก็บขึ้นมาก่อนเถอะ"

นายชนบทกล่าวยังไม่ จบประโยค คันเบ็ดที่อยู่ในมือของนายต้นหลิว ก็ถูกแรงกระชาก อย่างรุนแรงและดุดัน "ช้าไปแล้วครับท่านชนบท ปลาโอ ของผมมันทำงานแล้ว เห็นมั๊ย ฮะ ฮ่า เล่นของใหญ่สะด้วยสิ" นายต้นหลิว กล่าว ด้วยสีหน้า ที่แสดงออกมาด้วยความดีใจจนสุดบรรยาย แต่สีหน้าของ นายชนบท กลับแฝงด้วยความหวาดวิตก แล้วสิ่งที่นายชนบท หวาดวิตกก็เกิดขึ้น เมื่อฉลามร้ายที่แหวกว่ายอยู่เบื้องล่าง ได้กลิ่นคาวปลาโอที่ฟุ้งกระจาย จากการที่โดนทึ้งจนกระจุย ต่างพากันตื่นตัวปรี่เข้ามารุมกัดกินเหยื่อ ของบรรดาสมาชิกคนอื่น "เฮ้ย ผมโดนของใหญ่เข้าให้แล้ว งัดไม่ขึ้นเลย มันพาหนีอย่างเดียว ทำไงดี เกิดเหตุใดขึ้น ทำไมพวกเราหลายคน งัดปลา ไม่ขึ้นกันเลย" เสียงเอ็ดตะโรดังขึ้นระงม เกิดความโกลาหลแก่สมาชิกคนล่าฝัน หลายคนโดน ฉลามร้ายงับเหยื่อลากวิ่งไม่ยอมหยุด "ก็จะใครเสียอีกละที่ไปปลุกให้มันตื่น ก้ออีตาต้นหลิวนี่ไง ที่แอบหย่อน ปลาโอตัวใหญ่ลงไปปลุกมันอ่ะเด่ะ เป็นไงละความบรรลัยมาเยือนเลย" นายบรรจงกล่าว ในขณะที่ นายต้นหลิว กำลังเพลิดเพลินกับการต่อสู้กับ ฉลามร้าย แต่เพื่อนๆ อีกหลายคนกลับแสดงสีหน้าไม่ยินดีเท่าไหร่นัก เพราะต้องเสีย ชุดสายหน้า ไปกับปากปลาฉลามร้าย "เออ ดูดิ อยากรู้นักว่าอีตาต้นหลิว มันจะสู้ได้สักกี่น้ำ ตูจะคอยสมน้ำหน้าคน ตอนที่มันหมดแรงหอบซี่โครงบาน ฮะ ฮา ฮ่า" ท่านพี่ซิง ปลาทราย กล่าวเย้ยหยัน

ในขณะเดียวกันนั้นเอง คัน นายต้นหลิว อีกคันที่ลงเหยื่อแล้วปักคาไว้ในกระบอก อยู่ข้าง นายเล็กศรีราชา ก็แสดงอาการไหวตัว แสดงว่า ปลากำลังงาบเหยื่อเข้าให้แล้ว "เอ้า นายเล็ก จัดการสะ เจ้าของคัน กำลังง้วนกับการอัดปลาฉลามอยู่ท้ายเรือนู้น" พี่ซิง ปลาทรายกล่าว "อารัยเนี่ย น้าต้นหลิว ลงคัน 2 คันเชียวรึนี่ แล้วจะดูแลได้ยังไง ลงแค่คันเดียว ก็อัดปลา จะไม่ไหว อยู่แล้ว" นายเล็กศรีราชา กล่าวก่อนจะรับหน้าที่เป็นมือสังหารจำเป็น กระชากคันออกจากกระบอก จัดการ กับปลา ฟันหมา หรือด๊อกทูธ ไซร์ใหญ่ เกือบ 10 กิโล ขึ้นมาได้ ข้างฝ่ายนายต้นหลิว ที่กำลัง สนุกสนานกับฉลามร้าย บัดนี้ปรากฏเม็ดเหงื่อไหลย้อยไปทั่วตัว "อุ๊บ.....ของผมโดนแล้ว ไอ้ตัวนี้ ใหญ่สะด้วย" เสียงนายตึ๋ง ร้องตะโกน โดยหารู้ไม่ ว่าไอ้ตัวที่กำลังอัดอยู่นั้นมันคือปลาฉลาม ขณะนั้นเอง เสียงแหกปากร้องลั่นก็ดังขึ้นทางหัวเรือ "อ๊าก .... มันตัวอะไรเล่าเว้ย แรงดึงโคตรแรงเลย ป๋าโย" เสียงท่านพี่ซิง นั้นเองที่ร้องสะ ตกอกตกใจหมด "ตายห่ะละวะ งานนี้ ไอ้หลามมันป่วนสะหมดแล้ว ปลาอื่นๆ หนีไปหมดแล้ว ละแบบนี้" นายชนบทกล่าว "เออ มันคงกล้าอยู่ละนะ ไอ้หลามเยอะขนาดนี้ ขืนอยู่ก็โดนแด๊รกนะซิ ฮะ ฮ่า" คุณโฟ กล่าวเสริม สมาชิกคนอื่นๆ เมื่อเห็นเหตุการณ์ดังนั้นต่างเก็บสาย ของตนเองขึ้นมาหมด คงเพราะไม่อยาก จะต่อกรกับฝูงฉลามร้าย คงปล่อยให้นายต้นหลิวเพลินกับสิ่งที่ตนเองใฝ่ฝันนักใฝ่ฝันหนา ไปเพียงลำพัง เวลาผ่านไป ร่วมชั่วโมง สายเอ็น 50 ปอนด์ที่ทำงานอย่างหนัก ก็มิอาจจะต้านทานพละกำลังของฉลามร้ายต่อไปได้ จึงขาดสะบัน เป็นเสร็จสิ้นเกมส์การต่อสู้ ที่ยืดเยื้อมานานนับชั่วโมง "เฮอะ ขาดไปได้ก็ดี เสียเวลาไปเกือบชั่วโมง ที่หน้าที่หลัง อย่าแอบหย่อนเหยื่อปลาโอทั้งตัวแบบนี้อีกละ มันเสียเวลา เพื่อนๆ ก็ไม่ได้ลงคันตกปลากันรู้มั๊ยนายต้นหลิว ปลาอื่นมันจะพากันหายหัวหนีไปหมด แล้วจะพากันอดตกปลาทั้งลำเรือ" เสียงนายเก๋ กล่าว ต่อไปอีกว่า "ป่ะ ย้ายไปหมายใหม่ ข้างล่างไอ้หลามป่วนหมดแล้วละหมายนี้"

เสียงเครื่องยนต์เรือ คำรามอีกครั้ง สายสมอถูกกว้านเก็บขึ้นมา ก่อนที่เรือ Ocean One Ranong 1 จะเดินเครื่องแล่นสู่หมายข้างหน้า การย้ายหมายครั้งนี้ใช้เวลาไม่นานนัก เราก็เดินทางมาถึง 'ดอนทูน่า' "เอ้า ลงเบ็ดได้ หมายนี้ คราวที่แล้ว เยลโล ตัวใหญ่ๆ เพียบ" ไต๋นุ ชะโงกหน้า ร้องบอก "ป่ะ ลงเบ็ดกันได้แล้ว ถึงหมายแล้ว ใช้เหยื่อจิ๊ก ตัวเล็กๆ แล้วดีดไปชายไฟนะ ปล่อยเหยื่อไหล ไปตามน้ำ กะว่าเหยื่อจมลงไปสัก 40 เมตร ก็ปั่นรอกเก็บสายเข้ามา เดี๋ยวก็โดน" นายชนบท แนะนำนายเต้ และเพื่อนสมาชิกใหม่ที่พึ่งจะมาตกปลาแห่งนี้เป็นครั้งแรก "โอ้โห ไม่อยากเชื่อ ทำตามพี่โยบอก มันซัดเลยพี่ นี่ เป็นไง คันโง้ง อย่างนี้มีเฮ งานเข้าแล้วครับพี่ๆทั้งหลาย" เสียงนายเต้แว่น ตะโกนอย่างสะใจ ชั่วโมงนี้มองไปทางไหนจะพบภาพคนกำลังอัดปลา ทั้งนั้น เวลาผ่านไปพักใหญ่ปลาที่ตกได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปลาเยลโลฟิน และปลาโอลาย ตระกร้าแล้วตระกร้าเล่า ถูกลำเลียงลงแช่เย็น บางคนเริ่มออกอาการเหนื่อยล้า เพราะเสียงหายใจดังฝืดฟาดเล็ดรอดออกมาให้ได้ยิน "เป็นไง ถึงกับหอบ เลยรึนายเต้ ฮะ ฮ่า" เสียงพี่ซิง ส่งเสียงแซว รุ่นน้องด้วยอารมณ์ขัน เวลาเดินผ่านไปปลาชักเริ่มฉวยห่างตัว เมื่อนานๆ ปลาจะฉวยสักตัว ความเหนื่อยล้าบวกกับความง่วงนอนก็เข้ามาเยือน "นี่มันกี่โมง กี่ยามแล้วนี่ ตกปลา จนเพลิน ลืมง่วงเลยเรา" นายไก่ก่อสร้างเอ่ยปากถาม "ตี 2 กว่าแล้ว ปลาก็ชักกินห่างตัวแล้วด้วย ไปนอนเอาแรง ก่อนป่ะ เดี๋ยวใกล้สว่างจะไปปลุก ไม่ลืมหรอกน่า" ท่านพี่เหนี่ยว ตอบพร้อมกับบอกให้น้องๆ ไปนอนพักผ่อน เอาแรง ไว้ต่อสู้กับเกมส์มันส์ ยามใกล้รุ่งอรุณ เพื่อนสมาชิกหลายคน คอยๆทยอยหายไปทีละคนสองคน จนเหลือคนที่อึด และโคตรอึด เพียง 2 - 3 คนเท่านั้น และหนึ่งในนั้นก็มีนายต้นหลิว กับนายเล็ก ศรีราชา

รุ่งอรุณ วันใหม่ ดวงอาทิตย์ยังไม่สาดแสงส่องท้องฟ้า สมาชิกหลายคนเริ่มทยอย ตื่นจากการ หลับไหล เพราะโดน ปลุกให้ตื่นขึ้นมาตกปลา "เอ้า ตื่นๆ กันได้แล้ว ใกล้จะสว่างแล้ว มาดูปลา ขึ้นเล่นน้ำ รอบเรือเร็ว" นายชนบท ร้องตะโกนปลุกสมาชิก ดังลั่น บางคนก็ดีดตัวผึ๋ง ลุกขึ้นจาก ที่นอนเอาน้ำลูบหน้าลูกตา เสร็จก็คว้าคันเบ็ดติดมือ แล้วเดินไปหาทำเลที่เหมาะๆ ก่อนจะดีดคัน ส่งเหยื่อจิ๊ก ลงไปหลอกล่อ ฝูงปลาที่ขึ้นเล่นน้ำรับแสงอรุณยามเช้า "เกิดมาจากท้อง พ่อท้องแม่ ก็เคยเห็นปลาทะเลขึ้นเล่นน้ำเยอะขนาดนี้ก็ครั้งนี้แหละพี่น้อง" เสียงใครคนหนึ่งเปล่งเสียง ด้วยความ ตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็น "นี่มันยังกับปลาหน้าวัดไร่ขิง เลยนะนี่ ทำไมทะเลบ้านเราไม่อย่างนี้ ให้เห็นบ้างนะ" พี่ชาญ ที่ยืนดูฝูงถึงกับเปรยเสียงออกมา แสดงความหดหู่อยู่ลึกๆ เมื่อเปรียบเทียบ กับปลาในบ้านเรา "ป่ะเร็ว เปลี่ยนไปเล่นป๊อบผิวน้ำดีกว่า อ้าวนั้นนายเล็กศรีราชาโดนเข้าให้แล้ว ยังงี้ มีเฮ้ งานเข้าแล้ว ครับพี่น้อง" นายชนบทร้องตะโกน แนะนำให้สมาชิกเปลี่ยนไปเล่นป๊อบ ซึ่งเป็นเหยื่อผิวน้ำแทนการจิ๊ก และมันก็ได้ผลดี เมื่อปลาเข้าชาร์ทเหยื่อตูมตามน้ำแตกกระจายสร้างอรรถรส แบบใหม่ ให้เพื่อนๆได้สนุกสนานกับเกมส์ตกปลา มากยิ่งขึ้น "โห้ย มันซัดเหยื่อผมสะกระเด็นกระดอน เลยนะไอ้ตัวนี้" เสียงตึ๋ง พ.พนัส กล่าวด้วยความสะใจ ช่วงเวลานี้ ถือเป็นช่วงแห่งความเร้าใจ จะเรียกว่าช่วง 'งานเข้าชุดใหญ่' ก็ว่าได้ ทุกคนสนุกสนานกับเกมส์ตกปลาที่เร้าใจ ได้บ้าง หลุดบ้าง เป็นเรื่องธรรดาของเกมส์ตกปลา

จนดวงตะวันขึ้นสู่ท้องฟ้าเวลาแห่งความหฤหรรษ์ ก็หมดลง เมื่อแสงแดด ส่องรังษี ร้อนระอุ ขับไล่ความเย็นหมดสิ้นไป "ป่ะเก็บเบ็ด Game Over แล้ว ข้างหน้าเรายังมีเกมส์หนักๆรอพวกเราอยู่" นายชนบท ร้องบอกเพื่อนๆ เสียงเครื่องยนต์คำรามขึ้นอีกครั้งและจากนี้ไปเราจะมุ่งหน้าสู่ฝัน กับเกมส์ตกปลาน้ำลึก ที่ระดับ 200 กว่าเมตร นั้นคือ ปลาเก๋าถ่านและปลาสีทองเนื้ออร่อย หลังจากเสียพลังงานไปกันเยอะ ก็ถึงเวลาที่จะต้องเติมพลังกับอาหารเช้า "บ่ะ สุดยอด เช้านี้ มีหมูแฮมไข่ดาวกินด้วย อย่างกับโรงแรมห้าดาวเลยนะนี่ " คุณโฟ ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาหารเช้า สบถเสียงออกมา "อาราย คุณโฟ ตื่นมาก็กินเลยรึ มัยไม่ตื่นมาเล่นปลาหัวรุ่งละ อย่างมันส์เลย ขอบอก" พี่ซิงออกปากแซว พอเรียกเสียง ฮา ให้เพื่อนๆ ได้ขยับเหงือกกันบ้าง "ปลาพวกน ี้ปล่อยให้น้องๆ เล่นก็พอ ผม อ่ะนะ มันต้องเอาไอ้ตัวหญ่าย หญ่าย มันถึงจะสมน้ำสมเนื้อกับผม" คุณโฟ กล่าวตอบ ปล่อยมุขตามแบบฉบับ ผู้พันอารมณ์ดี ของเพื่อนๆ หลังอาหารมื้อเช้าลงกระเพา สมาชิกต่างนั่งทอดอารมณ์ ชมบรรยากาศ ของท้องทะเลพม่า มองไปสุดสายตามีเพียงน้ำกับฟ้า ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราไม่พบเรือแล่น อยู่ในระแวกนี้สักลำ คงจะมีเพียงเรือของเราเพียงลำเดียว เท่านั้น บนชั้นสองของเรือ พี่ซิง พี่เหนี่ยว นายไก่ ก่อสร้าง นายตึ๋ง พ.พนัสและคุณบรรจง กำลังสนทนา ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนและตอนเช้าที่พี่งจะผ่านไปหมาดๆ จะมีก็เพียงนายต้นหลิวที่กำลังง่วนกับการปล่อยสาย Trolling ไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์จริงๆ "ขยันเหลือเกินหมอนี่" ท่านพี่เหนี่ยวกล่าว ก่อนจะแยกย้าย พากันไปพักผ่อนในห้องแอร์ที่เย็นฉ่ำ

"ถึงหมายแล้วครับ ตื่นมาตกปลาได้แล้ว" นายเก๋ ส่งเสียงปลุก ให้สมาชิกรับรู้เมื่อเรือเดินทาง มาถึง หมายเก๋าถ่าน " เก๋ เดี๋ยวให้เท้งเอาปลาโอไปแลมา มาสักตระกร้า นะ" นายชนบทร้องบอกนายเก๋ ก่อนจะหันกล่าวกับเพื่อนๆ ว่า " เราจะเอาปลาโอที่เราตกได้เมื่อคืน มาแลเป็นเหยื่อตกปลาเก๋าถ่าน กับปลาเก๋ากันครับ ใครยังไม่ทำชุดสายหน้า บอกมาครับ เดี๋ยวผมทำให้" นายชนบทกล่าวต่อ ในขณะที่ นายไก่ก่อสร้าง และนายตึ๋ง พ.พนัส ไม่รีรอให้เสียงเวลา คว้าก้อนเนื้อปลาโอมาเกี่ยวเบ็ด เสร็จก็หย่อนลงน้ำ "น้ำลึกเท่าไรครับพี่โย" นายไก่ร้องถาม ขณะที่มือก็ทำหน้าที่ปล่อยสาย ส่งเหยื่อลงสู่พื้น " ลึก 210 เมตร ครับไก่ ทิ้งเหยื่อลืมไปเลยละน้ำลึกขนาดนี้ ฮะ ฮา ! " นายชนบทตอบ และเพียงนายไก่ ส่งเหยื่อตก ถึงพื้นด้านล่าง ก็โดยปลากระชากทันที แรงกระชากอันหนักหน่วง ทำให้นายไก่ต้องอุทานออกมา "เฮ้ย มันเอาเลยรึว่ะ" นายตึ๋ง พ.พนัส ที่ลงเหยื่ออยู่ข้างๆ ก็โดนแรงดึงอันหนักหน่วงกระชาก สาย เช่นเดียวกับายไก่ ก่อสร้าง "อุ๊บ ของผมก็โดน" นายตึ๋ง พ.พนัส ร้องเสียงดัง ทำให้เพื่อนที่ กำลังอืดอาด ยังไม่ทันลงสาย ต้องรีบเร่ง ส่งเหยื่อลงน้ำ "อะ โหย๊ะโหย๋ อารายกัน นี่ ผมยังไม่ทันลงเบ็ดเลย ล่อกันแล้วหรือนี่" นายเต้ แว่น สบถเสียงออกมา แล้วรีบส่งเหยื่อลงน้ำ เสียงท่อนเหล็ก ถ่วงน้ำหนัก ตกกระทบน้ำดัง 'ต๋อม' เวลาผ่านไปพักใหญ่นายไก่ก่อสร้าง งัดเอาปลาสีทองตัวใหญ่ขึ้นลอยน้ำตุ๊บป่อง ยามนี้ สมาชิกหลายคนกำลังพันตูกับฝูงปลาแดงสีทองสลับกับปลาเก๋าถ่านกันอย่างสนุกสนานแม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยขนาดไหน ยังไม่มีใครท้อถอย ปลาถูกนำมาเรียงรายนอนอ้าปากพะงาบ ๆ ในตระกร้า แม้แต่ตั้วเฮียอรุณ ที่พึ่งจะตื่นขึ้นมาหย่อนเหยื่อ ยังงัดเอาสีทองตัวบักเอ๊บ ขึ้นมาถึง 2 ตัวติดๆ รวมทั้งเจ้าเต้แว่น ที่งัดเอาโคตรสีทอง หนักเกือบๆ 17 กิโลขึ้นมา สร้างสีสรร

หันกลับมาดูทางนายตึ๋ง พ.พนัส ยังคงทะเลาะกับปลาตัวแรก ไม่เลิกสีหน้าคนตกแสดงอาการบูดเบี้ยว กัดฝันจนกร้ามขึ้นเป็นสันนูน "สงสัยผมจะโดนไอ้หลามสะแล้ว ป๋าเหนี่ยว เอาม่ะ ไอ้หลามใหญ่เชียวนะตัวนี้" นายตึ๋ง พ.พนัสส่งเสียงเรียกหาตัวช่วยและท่านพี่เหนี่ยวก็ไม่ปฏิเสธ รับคันมาอัดต่อ ด้วยพละกำลังที่เหลือเฟือ ไม่นานฉลามตัวบักเอ๊บ หนักเกิน 100 กิโล ก็ถูก ท่านพี่เหนี่ยวงัดจนกระเด็นกระดอน ขึ้นมานอนแผ่สองสลึง ให้เพื่อนได้ยลโฉม ก่อนที่เจ้าเท้งเด็กประจำเรือจะเอามีดมาตัดสายปล่อยมันไป "โอ้ โห ไอ้หลาม ตัวใหญ่ โคตรๆ งาบคนได้เลยนะครับ" นายเต้ แว่น ดูจะตื่นเต้นกับขนาดมโหฬาร ของมัน ขณะนั้น นายต้นหลิว เมื่อได้ยิน ว่า 'ฉลามใหญ่' ถึงกับหูผึ่ง ออกอาการกระสัน รีบเสียบคันที่พึ่งจะลงเหยื่อไปลงในกระบอกปักคัน แล้วไปคว้าเอาชุด 30 ปอนด์ ที่เกี่ยวเหยื่อปลาโอตัวใหญ่หนักเกือบ 2 กิโล ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ขึ้นมา หย่อนลงท้ายเรือ "เฮ้ย นั้นเจ้าต้นหลิวกำลังทำอะไร" นายชนบทร้องตะโกนเสียงหลงเมื่อแลเห็น นายต้นหลิวกำลังถือคัน 30 ปอนด์ โรยสายส่งเหยื่อลงสู่น้ำ นายต้นหลิวหันขวับมามองยังต้นเสียงก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงตระกุกตระกัก ว่า "ปะ ปะ ป๋าเหนี่ยวบอกให้ ผะ ผมหย่อนเลย ไอ้หลามกำลังเข้า ผมทะ ทำ ตะตามป๋าเหนี่ยวบอก" ต้นหลิวตอบ แต่ยังไม่หยุดพฤติกรรม การโรยสาย ยังปล่อยสายส่งเหยื่อต่อไป

นายชนบทเห็นดังนั้นเกรงว่าจะไม่ได้การจึงร้องบอกให้นายต้นหลิวรีบเก็บเหยื่อขึ้นมาสะก่อนที่ จะสายเกินไป " รีบเก็บขึ้นมาเลย เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอย่างเมื่อวานนี้หรอก จำไม่ได้หรือไง ไอ้หลามป่วน ทั้งลำ" คำร้องขอ ของนายชนบทช้าไปเสียแล้ว เมื่อนายต้นหลิวหย่อนเหยื่อถึงพื้นพอดี กับปลาฉลาม ที่กำลังหิวโหยเมื่อเห็นปลาโอตัวใหญ่ลอยอยู่ตรงหน้า มันก็เข้ามางาบทันที "ช้าไปเสียแล้วครับน้าโย มันเล่นปลาโอผมแล้ว ฮะ ฮ่า แหม มันจะเร็วอะไรขนาดนี้ ถึงพื้นปุ๊บ ล่อปั๊บ" นายต้นหลิวกล่าว อย่าง สะใจในผลงานที่ตนเองสร้าง จากนั้นคาราวานฉลามก็เข้าถล่มเหยื่อของเพื่อนที่ลงไว้ อย่างบ้าคลั่ง "เฮ้ย ทำไม มีแต่ ไอ้หลาม ฉวยเบ็ดพวกเราละนี่ ปลาสีทองปลาเก๋า มันหายไปไหนหมด" นายไก่ก่อสร้าง พึมพำด้วยความแปลกใจ "จะมีใคร สะอีกละ ก็อีตาต้นหลิวเจ้าเก่ายี่ห้อเดิม เล่นไปกระตุ้นต่อมหิวไอ้หลามนะสิ ดูดิ โดนไอ้หลามกันถ้วนหน้าเลย" นายตึ๋งพ.พนัส ตะโกนบอก เพื่อนๆ เรา 5-6 คน กำลังโดนฝูงฉลามซัดเหยื่อสะแล้ว คนที่ยังไม่โดนฉลามงาบเบ็ด ก็รีบเก็บเบ็ดตัวเองขึ้นมา แล้วแปรสภาพ เป็นกองเชียร์ ไปนั่งดู พร้อมส่งเสียงเชียร์เพื่อนๆ ที่กำลังตกระกำลำบากแทน เราเสียเวลากับการต่อสู้กับฉลามไปเกือบชั่วโมง ถ้าจะไม่ทำอะไรสักอย่างคงจะไม่ได้เรื่องในหมายต่อไป คงมีคนแอบตกฉลามอีกเป็นแน่ อย่ากระนั้นเลยต้องรีบจัดการปลดแรง ให้คนๆ นั้นหมดสภาพก่อนคงจะดีเป็นแน่

นายชนบทคิดดังนั้นจึงหันไปปรึกษากับไต๋นุ "นุ พานายต้นหลิว ไปตามหาฝัน ของเขาหน่อยนะ พาไปหมายฉลามโดยเฉพาะเลยนะ" นายชนบทเอ่ยปากร้องบอกไต๋นุ "ได้เลยครับพี่โย หมายอยู่ใกล้ๆ นี้แหละเดี๋ยวพาไปครับ บอกให้เก็บเบ็ดได้เลย" ไต๋นุตอบสนองความต้องการทันที "เอ้า..เดี๋ยวจะพาไป ตกไอ้หลามโดยเฉพาะ ห้ามถอยก็แล้วกัน ตกกันให้ตายไปข้างเลยเอ้า" นายชนบทร้องเพื่อนๆ "เย้ ..เยี่ยม เยี่ยม มันต้องยังงี้ สิ น้าโย ผมไม่มีถอยอยู่แล้ว" นายต้นหลิวกล่าว อย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง เรือแล่นมาได้เพียง 10 นาที ไต๋นุก็สั่งให้ตาเหน่งทิ้งสมอ แสดงว่าเรามาถึงหมายไอ้หลามแล้ว "เอ้า ใครอยากเจอ ไอ้หลาม ลงเบ็ดเลย หมายนี้ไอ้หลามเพียบ" เสียงไต๋นุตะโกบอก นายต้นหลิวไม่รอช้ารีบลงเหยื่อส่งไปล่อไอ้หลามทันที แล้วก็จริงดังคาด พอเหยื่อถึงพื้นก็โดนสวาปามทันที "อุ๊บ....ฮา โดนแล้วหนักตุ๊บเสียด้วย"นายต้นหลิว กล่าวด้วยอาการสะใจอย่างสุดซึ้ง เจ้าเต้แว่น เห็นดังนั้น นึกอยากจะเล่นของใหญ่กับเขาบ้างจึงเดินมากระซิบร้องบอกกับนายชนบท "พี่โย จัดให้ผมสักตัวนะพี่ เอาใหญ่ๆ เลยนะพี่ อยากลองดูสักตั้ง แฮ่ะ แฮะ" นายเต้แว่น ร้องบอก "ได้เลย เด๋วพี่จัดให้" นายชนบทกล่าวจบก็เดินไปหยิบคันชุด 30 ปอนด์ขึ้นมาเกี่ยวเหยื่อเนื้อปลาโอ ก้อนใหญ่ แล้วส่งลงน้ำ เพียงเหยื่อลงสู้พื้นไม่ถึงนาที ก็โดนกระชากคันอย่างแรง นายชนบทออกแรงวัดคันย้ำคมเบ็ด ก่อนจะส่งให้นายเต้แว่น รับไปอัด ตามคำขอ

"เอ้า เต้ ติดแล้ว ไม่เล็กเลยละตัวนี้" นายชนบทกล่าว ขณะยื่นคันส่งให้ "โอ้ โห สุดยอดเลยพี่ หนักโคตร โคตร" นายเต้แว่น พอรับคันมากุมถือไว้ก็สามารถรับรู้ถึงพละกำลังอันมหาศาล ของมัน เวลาผ่านไป ครึ่งชั่วโมง ใจที่อยากเจอ อยากประลอง เกิดฝ่อขึ้นมาดื่อๆ นายเต้แว่นเกิดถอดใจ 'ใจฝ่อ' เสียแล้ว "พี่ผมชักจะไม่ไหวแล้ว ปวดแขน ปวดหลัง ปวดไปหมดทั้งตัวมากเลยพี่" น้ำเสียงนายเต้แว่น ที่ออดอ้อน ทำให้คนที่ได้ยิน ถึงกับกลั่นหัวร่อไว้ไม่อยู่ "ก๊าก เป็นยังไงเต้ ยอมแพ้ง่ายๆ ได้ไง ฮะ ฮา ฮ่า " นายไก่ก่อสร้างกล่าวพร้อมกับปล่อยเสียงหัวเราะ นายเต้เมื่อโดนไม้นี้ จึงต้องยอมก้มหน้ากัดฟันสู้ต่อไป ข้างฝ่ายนายต้นหลิว หลังจากงัดเอาฉลามขึ้นมาได้สำเร็จ ก็รีบลงเหยื่อชิ้นใหม่ลงไปใหม่ทันที "เอาให้หายอยากเลยนะน้าหลิว" นายตึ๋ง พ.พนัสกล่าว "นี่มันซัดอีกแล้วน้าโย เห็นม่ะ แหล่งชุมชนไอ้หลามเลยนะหมายนี้ เยี่ยม" นายต้นหลิวพูดออกมาด้วยความสะใจ ในขณะที่ ออกกำลังแขนงัดคู่ต่อสูง เวลาผ่านไปพักใหญ่ ฝ่ายคนเริ่มส่ออาการเดี้ยง ออกมาให้เห็น เหงื่อเม็ดโป้งๆ ผลุดขึ้นเต็มหน้า นายต้นหลิว "ขอน้ำดื่มหน่อยครับพี่ชาญ คอแห้งเหลือเกิน" นายต้นหลิวเอ่ยปากขอพักให้น้ำ พี่ชาญคอยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ที่แสนดี บัดนี้เสียงนายต้นหลิวที่เคยดังมาโดยตลอดกลับเงียบหายไป "เป็นอะไรไปต้นหลิว ถึงกับเป็นใบแล้วรึ" ท่านพี่เหนี่ยว เอ่ยปากทักเมื่อเห็นสีหน้าต้นหลิวออกอาการ 'ใบ้แดร๊ก' ไม่พูดไม่จาเหมือนที่ผ่านมา ต้นหลิวได้แต่ส่ายหน้า แล้วกัดฟัน อัดฉลามต่อไป จนกระทั้งฉลามตัวใหญ่ยอมแพ้ลอยขึ้นมาให้นายเท้ง ตัดสายปล่อยไป ส่วนคนตกถึงกับหน้าซีด เหมือนลม จะรับทาน ไม่พูดไม่จากับใครอีกเลยตั้งแต่นั้นมา จนกระทั้งวันเดินทางกลับ ถึงค่อยได้ยินเสียงนายต้นหลิว "ผมเหนื่อยมาก แม้แต่จะขยับปากพูดยังไม่มีแรงจะทำเลยครับน้าโย" นายต้นหลิวสารภาพ เมื่อเรากำลังเดินทางกลับเข้าสู้ฝั่ง

เรื่องราวทริบนี้ ก็เดินทางมาถึงบทสุดท้าย เมื่อได้เวลาที่จะต้องเดินทางกลับสู้ฝั่ง คาราวคนล่าฝัน ต่างสมหวังดังฝันที่แต่ละคนตั้งใจไว้ แต่ยังมีบางคนที่วาดฝันไว้ต่อไป และเขาจะกลับมาล่าฝันของเขา ในอีกไม่นานเมื่อถึงฤดูกาลล่าฝันนั้นมาถึง ติดตามเรื่องราวของ 'คนล่าฝัน' ตอน ต่อไปนะครับ พี่น้อง
กระผมนายชนบทขอบคุณ ทุกท่านที่ติดตามอ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งผม นำมาเรียงร้อยเป็นตัวหนังสือเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ และนำมาถ่ายทอดให้ท่านผู้อ่านเพื่อความบันเทิงครับ

 

[กลับสู่หน้าเมนูหลัก]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster