ศุกร์,19 เมษายน 2567

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

 

 

 

 

 

 

 

 

Page 5

 

 ตอน.... ฟ้าสางที่ขามน้อย       

เรือแล่นมาถึงเกาะขามน้อยเป็นเวลาประมาณตี 4 ของเช้าวันใหม่ เกาะขามน้อยตั้งตระหง่านอยู่ทางด้านซ้ายมือ ความมืดสนิทดูแล้วน่ากลัวพิลึก....นี่แหละหนา..ที่ชาวบ้านเขากล่าวขานกันว่าเกาะผี.... ที่เกาะขามน้อยแห่งนี้เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารอเมริกันได้มาตั้งฐานทัพเรือและได้ยึดเอาเกาะตะพงซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะขามน้อยแห่งนี้เป็นที่จอดเรือรบขนาดใหญ่ เพราะร่องน้ำบริเวณนี้ ลึกมาก ในช่วงเวลานั้นเกิดไข้ป่าระบาดอย่างหนัก ศพทหารอเมริกันที่เสียชีวิตเนื่องมาจากไข้ป่า ถูกนำมาฝั่ง ณ ยังเกาะขามน้อยแห่งนี้ อีกทั้งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่เกาะขามใหญ่ และเกาะสีชัง ที่นับถือศาสนาอิสลาม ก็นำศพผู้เสียชีวิตจากไข้ป่ามาฝังยังเกาะขามน้อยด้วยเหมือนกัน ช่วงเวลานั้นเกาะขามน้อยจึงกลายเป็นสุสานฝังศพคนที่เป็นโรคไข้ป่าตาย เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรคร้าย เกาะแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยหลุมฝังศพเต็มไปหมด.. คำเล่าขานจากผู้เฒ่าผู้แก่บอกไว้ว่า ณ เกาะแห่งนี้มันมีวิญาณผีร้ายอาศัยอยู่มากมาย ใครแล่นเรือผ่านไปมามักจะถูกผีหลอกอยู่เป็นประจำ บ้างก็เห็นคนว่ายน้ำเล่นอยู่หน้าเกาะระหว่างเกาะขามน้อยกับเกาะขามใหญ่อยู่เป็นกลุ่มในยามดึกสงัด บ้างก็ได้ยินเสียงร้องอันหวีดหวิวออกมาจากเกาะนี้ คำเล่าขานพวกนี้ถูกถ่ายทอดจากปากหนึ่งไปสู่อีกปากหนึ่ง จนไม่มีผู้ใดกล้าที่จะแล่นเรือผ่านไปมาในย่านนี้ ยามดึกสงัด .... เมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ผมเคยพาเพื่อน 3 - 4 คนมากางเต็นท์ตกปลา ณ ที่เกาะขามน้อยแห่งนี้ ในตอนนั้นผมก็พอจะรู้ข่าวคราวเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้บางพอสมควร แต่เพราะผมไม่ใช่คนที่กลัวผีจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักกับเรื่องนี้ ..2 คืนบนเกาะขามน้อย ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น นอกจากสภาพหลุมฝังศพที่ยังคงมีให้เห็นอยู่เต็มไปหมด และฝูงปลาหมึกจำนวนมากมายที่พวกเราตกได้ด้วยเหยื่อโยซูริ..... ภายในเรือโชคธนาชลพวกที่หลับก็ยังคงหลับกันอยู่ พวกที่ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนก็นั่งถ่างตาเตรียมลงเหยื่อตกปลากันต่อไป เหยื่อปลาหมึกตัวแรกถูกเกี่ยวโยนลงน้ำไว้ทางท้ายเรือ ...สายน้ำตอนนี้ไหลมุ่งสู่เกาะตะพง...น้ำเริ่มเดินแล้ว....ท้ายเรือลงเบ็ดไว้ 3 สาย ส่วนทางหัวเรือลงเบ็ดไว้ 4 สาย แกร๊กกกกกก....แกร๊กกกกก...เสียงรอก Accurate 870 ตัวเก่งในทริพนี้ร้องเสียงดังลั่น มันปลุกอารมณ์นักตกปลาที่อดหลับอดนอนอย่างผมให้มีความตื่นตัว กระฉับกระเฉงขึ้นมาอีกหน... หลังจากไปนั่งสัปปะหงกเอาหัวโขกราวเรือเล่นซะ 3 โป๊ก เมื่อตอนฟ้าใกล้จะสาง

คราวนี้ผมนั่งอยู่ใกล้คันมากที่สุด คว้าคันขึ้นโยกคานสับแดร็กวัดโป้งงงง...อึด..อึด...กระเบนอีกล่ะ....ด้วยลีลาการสู้เบ็ด มันทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าไอ้ตัวที่ผมกำลังต่อกรด้วยขณะนี้เป็นเจ้ากระเบนอีกแล้ว....ผมใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็งัดมันขึ้นมาบนเรือได้มันเป็นกระเบนที่มีขนาดไซส์ประมาณ 10 กิโล..หลังจากนั้นคันของเจ้าเบียร์ก็ถูกปลากระชากเข้าให้ พลั๊ก....พลั๊ก....พลั๊ก.. เสียงเจ้าเบียร์วัดคัน ดังสนั่น....อยู่พี่อยู่...กึ๋ยยยยย....กระเบนอีกแล้วละพี่ชน...ไต๋เบียร์ผู้คร่ำหวอดในการตกปลาทะเลรับรู้อาการสู้เบ็ดของมัน บอกออกมาเลยว่ามันเป็นกระเบน ไซส์พอ ๆ กับที่ผมได้ขึ้นมา และก็จริง...มันเป็นกระเบนที่มีขนาดเท่ากันเลย...กระเบนพันธุ์นี้ที่หลังของมันจะมีตุ่มเป็น "มุก" สีขาว ที่เขาเอาหนังมาทำเป็นกระเป๋าขาย ซึ่งหนังกระเบนพันธุ์นี้มีราคาแพงเป็นที่นิยมในตลาดด้วยครับ........... แสงอาทิตย์เริ่มจับขอบฟ้า....แป๊รดดดดดดด ....แป๊รดดดด เสียงรอก Abu 6501 C-3 ร้องดังระงม เมื่อถูกปลาขนาดใหญ่กระชากปลายสายอย่างรุนแรง คันเบิรค์เร่ย์ 7 ฟุต โค้งลงแบบหมดแอ๊คชั่น นายแต๋งเจ้าของคันรีบคว้าคันเอามาถือแล้ววัด ปั๊ก .. ปั๊ก ไป 2 ฉับ ก่อนที่จะโน้มแรงอัดเอาปลาสากที่มีขนาดใหญ่สุดในทริพนี้ขึ้นมามันเป็นปลาสากที่มีน้ำหนักถึง 6 กิโล ในขณะเดียวกัน คันของเจ้าโก้ก็ร้องขึ้นมาบ้าง มันช่างเป็นช่วงแห่งความโกลาหลเสียจริง ๆ ปลามันเข้ามากินในเวลาไล่เลี่ย เกือบจะพร้อม ๆ กันเลยด้วยซ้ำ เช้าวันนี้ที่หมายเกาะขามน้อยมีปลาเข้ามากินเหยื่อของพวกเราไป 6 สาย ได้ตัวมา 4 ขาดไป 2 ครั้ง ตัวที่ขาดไปคิดว่าน่าจะเป็นปลาสาก เพราะดูจากปลายสายที่ถูกรอยฟันอันคมกริบกัดขาดแบบนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากปลาสากเท่านั้น ....เทรนเนอร์ขี้เมาเข้ามาบอกกับพวกเราว่าจะพาพวกเราทรอยลิ่งรอบ ๆ เกาะสีชังกัน พวกต่างก็งงกันละซิครับ ย้ายทำไมวะ อยู่ตรงนี้ปลามันก็ยังกินอยู่ จะไปลากสายทรอยลิ่ง ทำไม? ... 

 

เวลาประมาณ 7 โมงเช้า เราแล่นเรือออกจากเกาะขามน้อยมุ่งลงทางทิศใต้ไปยังหลักตาหมื่น ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะสีชัง ระหว่างทางที่เรือแล่นผ่าน เราก็ปล่อยสายทรอยลิ่งไว้ 3 สาย เป็นของพี่บึก..เห็นคราม ที่ปล่อย RAPARA CD-18 ผมลง RAPARA CD-14 และพี่ประสงค์ใช้ RAPARA CD-16 ทุกตัวเป็นรุ่นขาวหัวแดงหมดทั้ง 3 ตัว เราลากสายมาได้หน่อยเดียว ก็ต้องรีบปั่นรอกเก็บสายเอ็นเมื่อไต๋ตี่ตัวแสบขับเรือแล่นปาดหน้าเรือพ่วงที่ลากเรือบรรทุกแป้งมันต่อท้ายมาอีก 15 ลำ ทั้ง ๆ ที่บอกพวกเราเองว่าจะทรอยลิ่ง ไหง ไต๋ขับเรือแบบนี้.... ถ้าพวกเราเก็บสายไม่ทันมีหวังไม่ใครก็ใครละวะ ต้องได้เย่อกับเรือน้ำหนักหลายพันตันที่บรรทุกแป้งมันมาเต็มลำเรือเป็นแน่.....เวงกำ..แต้ แต้..ผมเกิดอารมณ์เซ็งไต๋ขึ้นมาทันที เก็บเบ็ดดีกว่า ตูไม่ทงไม่ทรอย แม่ง..แล้ว..นอนดีกว่า...เรือมาถึงท้ายตาหมื่น ไต๋ตี่จัดแจงหุงหาอาหารมื้อเช้า พี่เสือปลาเข้ามากระซิบถามผมว่า "พี่ชน ในลังแช่อาหาร มีแต่ผัก ไม่เห็นมีพวกหมูพวกเนื้อบ้างเลยรึพี่" อ้าว...ไหง เป็นยังงั้นละพี่.. ผมรีบไปเปิดถังแช่ดู เป็นจริงอย่างพี่เสือบอกทุกประการ อะไรกันวะเนี่ย ไหนบอกว่าราคาค่าเช่าเรือ รวมพร้อมเรื่องอาหาร มีอาหารให้กินเพียบไง? มัยมีแต่ผักวะ.....นี่ดีนะ ที่เจ้าเบียร์มันงัดไอ้สากขึ้นมาได้ ตั้งแต่เมื่อคืนเลยเอามาทำเป็นอาหารให้พวกเรากินกันเช้านี้ อิ่ม...ไปเลย...ชีวิตอยู่กลางทะเลแบบนี้ อะไร ๆ ก้ออร่อยไปหมด ยิ่งตอนมาสุมหัวล้อมวงกินข้าวด้วยกันอย่างนี้แล้ว ... เป็นความสุขอีกแบบหนึ่งที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว...กินไปก็แซวกันไปกลางวงข้าว เรียกเสียงฮาได้ตลอดเวลา... เจ้าเบียร์ที่พวกเรารู้จักถึงความตลกโปกฮาในกระทู้ของ Pantip.com ในนามว่า "คันดี" ยิ่งได้มาคลุกคลีใช้ชีวิตร่วมกันบนเรือแบบนี้ ยิ่งเรียกเสียง ฮา..ออกมาตลอด...ช่างเป็นคนมีอารมณ์ ตลกในหัวใจจริง ๆ นะ... 

 

หลังจากอาหารเช้าผ่านไปเราก็ย้ายหมายไปตกปลากันที่สัพพะยือ ตามแหล่งข่าวที่เราได้รับว่าหมายแห่งนี้มีปลาอินทรีเข้ามาไล่งับเหยื่ออยู่ทุก ๆ ปี พวกเราลงเหยื่อกันพร้อม หวังเฝ้าอินทรีที่อาจจะหลงฝูงเข้ามาฉวยเหยื่อเราสักตัว 2 ตัว แต่จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ก็ไม่มีปลาอะไรเข้ามาฉวยเหยื่อพวกเราเลยสักครั้ง ความเงียบเข้ามาเยือนพวกเราแล้ว........เราย้ายหมายตกปลาอีกครั้ง และอีกครั้ง แต่ละหมายมีแต่ความว่างเปล่า เรือลำนี้มีระบบ Sounder (เครื่องหาแหล่งปลา) แต่ไต๋ตี่กลับใช้มันไม่เป็น ดูไม่ออกว่าตรงไหนมีปลาตรงไหนไม่มีปลา เราขับเรือวนย้อนกลับไปยังหมายสัพพะยืออีกครั้งเพื่อเข้าไปหากองหินกองหนึ่งที่พี่เสือและนายแต๋งมองเห็นจากจอ Sounder ว่ามันมีปลาอาศัยอยู่หลายตัว ไต๋ตี่ขับเรือวนไปก็วนมาอยู่หลายครั้ง เราก็ไม่เห็นกองหินกองนี้สักที จนในที่สุดเทรนเนอร์ก็พาพวกเรามาจอดตกปลาอยู่หน้ากองทราย... จากจอ Sounder มันบอกเราว่าใต้พื้นที่เรือลอยลำจอดอยู่มันเป็นดินทรายทั้งนั้น ปลาสักตัวก็ไม่มีให้เห็นในจอ Sounder .... ผมถามเทรนเนอร์ทันที เมื่อมองดูว่าใต้พื้นน้ำข้างล่างมันไม่มีปลา..เทรนเนอร์ขี้เมากลับตอบมาว่า ปลามันอยู่ในดิน เดี๋ยวเหยื่อลงปลามันก็โผล่ขึ้นมากินเองแหละ....อุวะ...ปัดโธ่..."ปลานะ ลุง ไม่ใช่ไส้เดือน ที่จะโผล่ออกมาจากใต้ดินได้" นายนิค สวนคำพูดเทรนเนอร์ขี้เมาทันที ผมก็ได้แต่อมยิ้ม อยู่ในใจ ...เออใช่ว่ะ....ปลามันไม่ใช่ไส้เดือน...    

อ่านต่อหน้า..6 

[NEXT] [1] [2] [3] [4] [5] [6] [menu]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster