เสาร์,20 ธันวาคม 2568

เรื่องเล่าคนตกปลา

250 ไมล์กับนายชนบท
แล่นเรือโต้คลื่น
ปลากระบึกที่สีชัง
คืนพระจันทร์ยิ้มแฉ่ง
บางเสร่ยังมีลุ้น
ดอดไปฟันไอ้โฉม
วันนี้ที่รอคอย
มันแปลกดีนะ
สายันรัญจวน
ทุบไอ้สากที่สัพพะยื้อ
น้ำใจ
โฉมเอยโฉมงาม
แข่งขันตกปลาสัญจร#1
ปลายฝนต้นหนาว
แข่งขันตกปลาแสมสารครั้งที่#6
ลูกหมูจอมซ่าส์
โต้ลมหนาว
เก่งกับเฮง
เมษาฮาวาย
เมื่อผมไปงานแข่งฯ
ลองเรือใหม่กับไต๋โก๊ะ
หูดำที่เกาะค้างคาว
ไปลุยโฉมงามกับไต๋น้อง
มหาเฮง
นักเลงโตสากดำ
ฟ้าหลังฝน
หลังมรสุมสงบ
ตามล่าปลาจัมโบ้
บันทึกแห่งความทรงจำ
คุณพริ้งลองของ
อัดปลาโต้เดิ้ง
เพื่อนรักต่างแดน
เก๋าหน้าหวาน
ไต๋ยอช์ตพาเพลิน
สานสัมพันธ์คนตกปลา#1
หรรษาตะวันแดง
บางเสร่รำลึก#4
ตะล่อนไปกับไต๋อ้วน
ตะลอนไปกับไต๋เปี๊ยก
แดงจ๋าแดงจ่า
ลีลาสละ
ลูกหมูย่ำสวาท
ผู้กล้าแห่งวารี
ไต๋ระยอดนักสู้
สายสัมพันธ์คนตกปลา#2
มือใหม่หัดเหวี่ยง
ผู้พันอินทรี
สัตว์ประหลาด
ยุทธการหักเขี้ยวอินทรี
จิตสังหาร
ลากมาอุ้ม
ปริศนาที่เร้นลับ
ดอนตะวันแดง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี3
ปลายักษ์ในตำนาน
ราพาร่าพรางตัว
สานสัมพันธ์คนตกปลา ครั้งที่ 4
อินทรีหลังโขด
ท่องไปกับตะวันแดง
รวมดาวกระจุย
บุกรังสีทอง
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี 4
อยากอัดไอ้หลาม
ปลอบขวัญที่กำพวน
วาฮูนักวิ่งน้ำลึก
วังสีทอง
กุเลาเกมส์พันธ์ดุ
รางวัลชีวิต
สานสัมพันธ์คนตกปลาปี5
ธิดาย่ำสวาท
กุเลาเกมส์คนวัยมันส์
เมษาพาเพลิน

มิตรภาพไร้พรมแดน
ตอน. หนึ่งเดียว
วันที่ 9 - 11 ก.ย.48

เรือJulia White ไต๋หนู

ผู้ร่วมทริบ 1.ชนบท 2.เต้ปลาแมน 3.รวยปลาแมน 4.คุณปิยะ 5.ไก่ปะการัง 6.พรชัย 7.หมูอ่อนนุช 8.สมรวย 9.บุญธรรม

หนึ่งเดียว
เสน่ห์ ของท้องทะเลที่เย้ายวนให้คนตกปลาหลงใหล จนเกิดความคลั่งไคลที่จะต้องมาเยี่ยมเยือน เฉกเช่นกับ หนุ่มน้อยวัยแตกพาน เมื่อมาประสบพบดรุณีแรกรุ่น เนื้อตัวและผิวพรรณกำลังเปล่งปลั่งแตกเนื้อสาว มีหรือที่หนุ่มน้อยหน้ามลเฉกเช่นคนตกปลาหน้าดำอย่างพวกเรา จะอดใจไม่เหลียวมอง ก็ออกจะแปลกพิกลแล้ว

บนถนนเลียบชายหาดของเกาะช้าง รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ 2 คันกำลังแล่นลัดเลาะ ไปบนถนนที่คดเคี้ยวผ่านแหลมไชยเชษฐ์ ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่มาท่องเที่ยวยังเกาะช้างแห่งนี้ จากแหลมไชยเชษฐ์ มาถึงหาดทรายขาว ที่ยัดเหยียดอัดแน่นไปด้วยสิ่งปลูกสร้างเป็นโรงแรมและรีสอร์ท ตลอดสองฝั่งของถนน เลยหาดทรายขาว มาถึงหาดไก่เบ้ ที่ชาวฝรั่งมังค่า ชอบมาพำนักอาศัยกระต๊อบน้อยบนหาดไก่เบ้ เพราะมันเงียบสงบ ปราศจากผู้คน แต่มาวันนี้กลับต่างกันอย่างฟ้ากับเหว ดงมะพร้าวกลับกลายมาเป็นตึกแถว เมื่อผู้คนมาเยือนมากมาย ความสงบเงียบเช่นแต่ก่อนก็จากไปพร้อมกับนำเอาไฟแสงสีและเสียงอึกทึกจากเสียงดนตรี ที่แข่งกันเปิดตามผับตามบาร์มาแทน รถยนต์ทั้ง 2 คันวิ่งเกาะกลุ่มคลานตามกันไปอย่างช้าๆ ผ่านหาดไก่เบ้จะเป็นทางขึ้นเขาที่ลาดชัน สองฝั่งถนนอุดมไปด้วยต้นไม้ป่าดิบชื่น ถนนชักจะคับแคบกว่าช่วงแรก เมฆฝนที่ตั้งเค้าก็เริ่มปล่อยพิษสง ด้วยการพรมน้ำ ลงมาจนถนนหนทางเฉอะแฉะ วิสัยทัศน์การขับขี่เริ่มเลวร้ายไปกว่าเดิม โดยเฉพาะช่วงที่ลงเขาแล้วเจอกับโค้งที่หักศอก มันชวนให้เสี้ยวไปถึงท้องน้อยจริงๆ ผับผ่าสิ! ในที่สุดการเดินทางก็มาถึงจุดหมายปลายทาง‘หมู่บ้านบางเบ้า'

“อุแม่เจ้าโว้ย อภิมหาเรือสำราญเลยนะนี่” เต้ปลาแมนอุทานออกมาทันที ที่ได้เห็นเรือ Julia White ลำโต “ท้ายเรือเหมาะแก่การดื่มกินมากเลยวะเต้” รวยปลาแมนแสดงความเห็นสนับสนุ่น สอดคล้องคล้อยตามเพื่อนเต้ไปด้วย “เชิญขึ้นมาบนเรือก่อนค่ะ” เสียงอันอ่อนหวานของอิสตรีนามว่า ‘อุทุมพร' ผู้ดูแลเรือลำนี้ ก็ดังขึ้นเพื่อ เชื้อเชิญสมาชิกสู่เรือสำราญลำนี้ หลังจากทักทายกันพอสมควรก็ได้เวลาเดินทางไปสู่หมายไดน์หมึก ‘ไต๋หนู' ทำหน้าที่ บังคับพังงาเรือมุ่งหน้าสู่ อ่าวสลักเพชร ทันที ก่อนที่จะสิ้นแสงตะวัน “แปลกเสียงเครื่องยนต์มันเงียบมากจนแทบจะไม่ได้ยินเลย” เฮียสมรวยกล่าว ระหว่างที่เรือวิ่งสู่ สลักเพ็ชร “นั้นสิ เครื่องยนต์เรือลำนี้ เงียบมากเลยไม่หนวกหูดี” เสียงสนทนายังคงดำเนินต่อไป สายตาก็เหลือบไปมองดู แม่ครัว ที่เริ่มบรรเลงเพลงทำอาหาร ท้ายเรือที่กว้างขวางมีโต๊ะนั่งขนาดใหญ่ บัดนี้ กลับกลายเปลี่ยนเป็นโต๊ะสุราไปเสียแล้ว “เอาเหล้ามากิน ดีก่า บรรยากาศท้ายเรือน่านั่งกินเหล้าจัง” สิ้นเสียงสั่งจากนายเต้ปลาแมน เพียงไม่นาน วงสุราขนาดย่อมก็เกิดขึ้น กระติกน้ำแข็งพร้อมขวดโซดา ถูกยกมาตั้งข้างๆ แม่ครัวประจำหน้าที่ เสียงเตาหลิวกระทบกระทะเหล็กดังโป้งเป้ง กลิ่นหอมหวนชวนให้น้ำลายไหลจากกลิ่นของอาหารก็โชยมากระทบจมูก “วู้ ได้กลิ่นนี้ที่ไหร่หิวข้าวทู๊กทีเลยตู” สมาชิกท่านหนึ่งกล่าว

จวบจนเรือ Julia White เดินทางมาถึงหน้าอ่าวสลักเพชร แขนไฟ ที่จัดเก็บไว้อย่างมิดชิด ไม่พาดเกะกะเหมือนเรือตกปลาทั่วไป ก็ถูกกางออก กิจกรรมตกหมึกหาเหยื่อได้เปิดฉากเริ่มต้นขึ้นแล้ว สมาชิกเริ่มขยับก้นลุกขึ้นไปคว้าคันเบ็ดชุดเล็ก ก่อนจะมานั่งหย่อนก้นแล้วโยกคันเบ็ดขึ้นโยกลงเพื่อเป็นการหลอกล่อให้ปลาหมึกมาจับโยทะกา แต่คืนนี้ เป็นคืนแห่งหมึกอับเฉา เพราะเราตกหมึกกันไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว แม้แต่การเฉหมึกก็ได้หมึกติดอวนมาไม่ถึง 30 ตัว ทะเลตราดขาดแคลนหมึกอย่างหนัก มันเป็นอย่างนี้มาหลายอาทิตย์ ติดต่อกันแล้ว เมื่อเหยื่อหมึกไม่มีแผนการตกปลาจึงต้องถูกเปลี่ยนไปตามสภาพ “ไต๋หนูเหยื่อไม่มี ผมว่าไปเกาะเรืออวนขอแลกปลาทูไปเล่นอินทรีกันดีกว่า” สมาชิกท่านหนึ่งเสนอความเห็น “ครับ ผมก็ว่าดีงั้นเราไปกันเลย เรืออวนล้อมจะอยู่หน้าเกาะรังกับข้างเกาะกูด ครับ” ไต๋หนูกล่าวจบก็หันหัวเรือ มุ่งหน้าสู่เกาะกูดทันที

แสงแดดยามเช้าส่องกระทบผิวน้ำสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ เป็นสัญญาณบอกถึงการเริ่มต้นวันใหม่ ท้องฟ้าที่สดใสปราศจากเมฆหมอก ไต๋หนูบังคับเรือแล่นมาถึงหินกองหน้าหาดพร้าวเกาะกูด อุปกรณ์ชุดสายลอยถูกหยิบขึ้นมาผูกทุ่นโฟมเตรียมไว้ “ไก่ ไปเตรียมชุดลอยอินทรีมาป่ะ” ปลาทูโม่งตัวใหญ่ถูกช้อนขึ้นมากห้องขังเหยื่อ ขึ้นมาแล้วบรรจงเกี่ยวเบ็ดตัวเล็กเบอร์ 10 ที่ใต้ผิวหนัง ก่อนจะโยนมันลงน้ำ “ไก่ค่อยๆ ส่งสายให้มันออกไปนะระวังให้สายตึงอยู่เสมอ อย่าดึงสายออกมากองละ” จนนายไก่ปะการังส่งสายให้ปลาทูจนได้ระยะไกลพอสมควร แล้วตั้งเบรกเปิดสัญญาณคลิกเสียงไว้ก่อนจะนำมาปักไว้ในกระบอก ‘แกรกกกกกกกก' ยังไม่ทันที่นายไก่ปะการังจะเดินหันหลังออกไปได้ไม่กี่ก้าว รอกของนายไก่ก็ส่งเสียงร้องดังสนั่นลั่นเรือ “อินทรีเล่นคันของไก่แล้ว” เสียงร้อง เอ๊ะอะเอ็ดตะโลดังลั่น นายไก่ รีบหันหลังกลับโดยอัตโนมัติ แล้วผวาเข้าไปคว้าคันขึ้นมาวัดไป 1 ฉึก

แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับรอก ของนายไก่ “เอ๊ะ เบรกติดครับพี่ ทำไงดี” นายไก่พบปัญหาอันหนักอึ้ง เสียแล้ว “ รีบคลายเบรกออกอย่างเร็วเลยครับไก่” สีชาแนะนำให้ผ่อนระดับเบรกให้เบาลง แต่มันก็ไม่สามารถจะช่วยแก้ไขสถานการณ์ ที่กำลังเลวร้ายให้ดีขึ้นมาได้เลย ‘เพี้ยยยยย' แล้วสายเอ็นขนาด 15 ปอนด์ก็ขาดสะบัน เสียงดังสนั่น นายไก่ แสดงสีหน้าที่ยังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิด “รอกผมเป็นอะไร? ” คำถามหลุดออกมาจากปากนายไก่ “ถอดดูแผ่นเบรกเลยดีกว่า” การถอดชิ้นส่วนเพื่อเช็คดูระบบเบรก จึงเริ่มขึ้นและก็เสร็จสิ้นลงในเวลาเพียงรวดเร็ว พร้อมจะนำมาใช้งานลอยสายต่อไป “เอ้า ขอปลาทูอีกสักตัว” แล้วเสียงสวรรค์ของคนตกปลาก็ดังขึ้น ‘แกรกกกกกก' ตามด้วยปฏิกิริยาตอบสนอง “อึ๊บ..... นี่แนะอยู่” ก่อนจะตามด้วยเสียงจากนรกดัง ‘เพี้ยยยย' เหตุการณ์แบบเดิมๆ เกิดขึ้นอีก 2 ครั้ง 2 ครา ติดต่อกันเหมือนเดิม นายไก่ ถึงกับคอตกและยอมรับในโชคชะตา เพราะพลาดโอกาสทองนี้ไปถึง 3 ครั้ง “ผมขอลงสายลอยลองดูบ้างนะครับ” เฮียสมรวยเอ่ยปากกล่าว “เอาเลยครับเฮีย เผื่อเฮียจะมีดวง” นายไก่เปิดทางให้เพื่อนผู้ร่วมทริบ ปลาทูของเฮียสมรวยวิ่งห่างเรือไปไม่ไกล ทุนโฟมก็โดนกระชากจมน้ำหายบุ๋มไปต่อหน้าต่อตา “ปลากินเหยื่อแล้วเฮียวัดคันเลย” เสียงตะโกนร้องดังขึ้น จังหวะเดียวกับที่เฮียสมรวยตั้งท่ารอคอยอยู่แล้ว จึงตะหวัดวัดคันขึ้นทันที “นี่แน่ะ นี่แน่ะ อยู่รึยัง” เฮียสมรวยสบถเสียงดังออกมาหลังจากวัดคันไปหลายดอก “พอแล้วเฮีย เดี๋ยวปากมันระเบิดออกมากันพอดี” สมาชิกท่านหนึ่งกล่าว

ในที่สุดอินทรีตัวแรกและตัวเดียวของทริบนี้ ก็ถูกตะขอเกี่ยวขึ้นมาบนเรือ ท่ามกลางความปรามปลื้มของเพื่อนๆ ที่ออกร่วมทริบ
ในขณะที่สายลอยพึ่งจะประสบผลสำเร็จ สมาชิกที่ลงสายหน้าดินไว้ ก็ได้เฮ ลั่นกันบ้างเมื่อนายรวยปลาแมน ใช้ชุดสปินนิ่ง งัดปลาจนคันโก่ง “ปลาอะไรวะรวย” นายเต้ปลาแมนถามเพื่อนรัก “ปลาตะเล วะเต้เอ็งรู้จักเป่า ฮะ ฮ่า! ” นายรวยตอบแบบกวนโอ้ย ในขณะที่บางคนกำลังจดจ้องอยู่กับทุ่นลอย และอีกบางคนกำลังจดจ่ออยู่ที่ปลายคัน ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นวัตถุขนาดใหญ่เคลื่อนตัวอยู่ใต้ผิวน้ำ ห่างจากท้ายเรือไม่เกิน 1 เมตร มันกำลังมุ่งหน้าไปยังหัวเรือ “หลามวาฬ ตัวใหญ่อยู่ท้ายเรือครับ มีไอ้ช่อนว่ายตามหลังมาด้วย 3 ตัว” เสียงร้องตะโกนบอกให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ถึงแขกผู้มาเยือนเรา ว่ามันคือปลาวาฬสีน้ำเงินตัวยาวกว่า 10 เมตร ที่ร่ายล้อมไปด้วยปลาช่อนทะเลตัวใหญ่ถึง 3 ตัว พวกเราได้แต่มองดูความสง่างามของหลามวาฬตัวนี้ จนมันว่ายผ่านเลยไปจนลับตา ในขณะที่ดวงตะวันเลื่อนคล้อยตัวต่ำลงเรื่อยๆ มันเป็นสัญญาณบ่งบอกเวลาของวันนี้ค่อยๆ ลดน้อยลงไป “ป่ะไต๋หนู วิ่งไปซากเรือกันเลยดีกว่า เดี๋ยวจะมืด จะค่ำเสียก่อน” เวลาผ่านไปนานนับ ชั่วโมงครึ่ง เรือจูเลียไวท์ก็เดินทางมาถึงซากเรือในเวลาที่มืดค่ำพอดี สมาชิกเริ่มทยอยลุกขึ้น มาคว้าคันเบ็ดเกี่ยวด้วยหมึกตายที่แวะซื้อมาจากเรืออวน แล้วไปหย่อนลงน้ำข้างกาบเรือ พอตะกั่วถึงพื้นปุ๊บ คุณพรชัยก็โดนทักทายทันที “โอ๊ะ มันกินเลยพี่” พรชัย กล่าวแบบไม่อยากจะเชื่อเมื่อปลาดึงคันเบ็ดที่ถืออยู่ทันที ที่เหยื่อลงเตะพื้นดิน ก่อนจะงัดเอาอังเกยไซร์เกิน 2 โล ขึ้นมานอนในตะกร้าเป็นตัวแรก คราวนี้ไม่รู้คันใครเป็นคันใคร แต่ละคนทั้งคุณปิยะ เจ้าเต้ปลาแมน เจ้าไก่ปะการัง เฮียสมรวยและคุณบุญธรรม ต่างก็วัดกันคนละตุ๊บคนละตั๊บ อังเกยไซร์ไล่เลี่ยกันทั้งนั้น และแล้วพี่หมูอ่อนนุช ก็เรียกเสียงฮือฮา จากเพื่อนๆ เมื่อพี่หมูอ่อนนุช งั้นเอาปลาแดงเขี้ยว ไซร์เกิน 4 กิโลขึ้นมานอนอ้าปากหวอในตะกร้า “อู้ ฮู ไอ้เขี้ยวตัวนี้ใหญ่ดี จัง” เฮียสมรวยหลุดปากออกมา

ในขณะกำลังชื่นชมแดงเขี้ยวของพี่อยู่นั้น ข้างกาบเรือก็งัดเอาปลาแดงเขี้ยว ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าตัวแรก ขึ้นมากลบเสียงฮือฮา เมื่อครู่ลงอย่างสิ้นเชิง “โอ้ โห้ ไอ้เขี้ยวตัวนี้ บั๊กละกั๊ก กว่าตัวแรก สะอีก สงสัยเราจะมาอยู่กลางดงไอ้เขี้ยวสะแล้ว ม้างไต๋หนู” ในขณะที่กำลังชื่นชมแดงเขี้ยวยักษ์ ที่หาตัวขนาดนี้ไม่ค่อยจะได้ง่ายๆ ทางหัวเรือ ก็กำลังวุ่นวายกับปลาอังเกยที่เข้ามาโฉบเหยื่อหมึกตายเป็นระยะพลอยให้ไม่เหงา แต่แล้วปลาที่ฉวยเหยื่ออยู่ดีๆ ก็หยุดกินเหยื่อไปเสียดื้อๆ “เอ๊ะ นั้นตัวอะไรขาวๆ ว่ายน้ำเร็วมากเลยเห็นมั๊ยครับ” เฮียสมรวยกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วให้เราดู วัตถุก้อนสีขาว ที่ว่ายอยู่ทางท้ายเรือบริเวณปลายแสงไฟ “นั้นมันปลาโลมาเผือกนี่หว่า แย่แล้วดันมีปลาโลมามากวนสงสัยต้องย้ายเรือหนีแล้วละ” ปลาโลมาตัวใหญ่เกิน 200 กิโล เข้ามาว่ายน้ำไล่กินปลา บริเวณที่เราจอดเรือตกปลา คงจะไม่มีปลาตัวไหนกล้าแหยมออกมาแน่ เราจึงจำเป็นต้องย้ายหมายไปยังที่ใหม่เพื่อหลบเจ้าโลมาเผือก เราตกปลาจนเหยื่อตายที่ซื้อมา 20 กิโล หมดเกลี้ยงไม่เหลือหรอ จะมีก็เพียงปลาหมึกหอม 4-5 ตัวที่เราตกได้เมื่อคืน ฟ้าเริ่มจะสางแล้ว ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นจับขอบฟ้า การตกปลาหน้าดินจึงจำต้องยุติลง เรือจูเลียไวท์ กำลังเคลื่อนตัวเข้ามายังเกาะกูด เพื่อมาตกปลาเก๋าลูกหมู ตามที่ไต๋หนูได้บอกไว้ กับการเดินทางอีก 2 ชั่วโมงคงจะเซ็งตายแน่ถ้าไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น “เต้โว้ย เอาเหล้ามากินท้ายเรือดีกว่าวะ” และแล้ววงสุราก็เกิดขึ้นบนพื้นที่ ที่กว้างขว้างของท้ายเรือ Julia White “เอาเหยื่อเบิร์ดมาลากปลาโอเล่นกันดีกว่า เอาม่ะ” นายพรชัย ทำสีหน้างวยงง ก่อนจะถามว่า “ปลาบินของพี่หมูโอเชี่ยน นี่นะหรือครับ เอามาลากปลาโอได้” “อื่มใช่นี่แหละเหยื่อลากสำหรับปลาโอโดยเฉพาะเลยละ ไว้เล่นแก้เหงาระหว่างเรือวิ่งได้ดีมากเลยละ” ‘เหยื่อเบิร์ด' เหยื่อลากสุด Hot จากพี่หมูโอเชี่ยน จึงเป็นทางเลือกที่จะนำมาเล่นเพื่อเป็นการ ‘ฆ่า' เวลาระหว่างที่เรือแล่น ‘ปรี๊ดดดดด' เสียงนกหวีดดังลั่น ตามด้วยเสียงร้องตะโกนจากนายพรชัย “ปลากินเบ็ดแล้ววววว!” ไต๋หนูเบาเครื่องเรือลง นายพรชัยรับหน้าที่เปิดเกมส์ ‘ลากปลาโอ' ด้วยน้ำหนักที่หนักอึ้งกว่าจะกรอเอ็นเก็บสายเข้าได้ก็เรียกเหงื่อเม็ดโป้งๆ ผลุดขึ้นที่ใบหน้านายพรชัยได้หลายเม็ด “โอ้ย หนักฉิบเป้งเลยพี่” นายพรชัยกล่าว “ก็แน่ละ ปลาโอตั้ง 4 ตัว จะไม่หนักได้ยังไงละฟ่ะ” พรชัยเปิดเกมส์ลากปลาโอได้สวยหรูกับปลาโอถึง 4 ตัว “เอ้า! ต่อไปคิวใครครับ “คุณปิยะ มาลองเล่นดูม่ะ สนุกดี ดีกว่าอยู่เปล่าๆ” พวกเรานั่งจิบเหล้าไป ปากก็คุยกันไป แต่สายตากลับไปเพ็งมอง ‘ปลาบิน' ที่วิ่งตีน้ำอยู่ท้ายเรือ “เฮ้ย ! ปลากินอีกแล้ว” คุณปิยะตะเบ็งเสียงออกมา ก่อนที่เสียงร้องจะร้องดังลั่นตามมาติดๆ ‘กรอกกกกก' “เล่นเองเลยครับปิยะ” พี่หมูอ่อนนุชกล่าว

คุณปิยะ บรรจงอัดปลาตามจังหวะ ของเทรนเนอร์ที่คอยพร่ำบอก “วู้.....เยี่ยม ได้ตั้ง 5 ตัวแน่ะ” พวกเราแบ่งปันกันอัดปลาแบ่งปันกันโยก กว่าจะมาถึงเกาะกูดเราก็ได้ปลาโอเกือบเต็มจะตะกร้า “เอ้า ถึงแล้ว ระวังหน่อยนะครับหมายนี้ เก๋าใหญ่นะครับ” ไต๋หนู เตือน อุปกรณ์ชุดใหญ่เตรียมพร้อม หมึกหอมถูกช้อนขึ้นมาเกี่ยวก่อนจะหย่อนลงยังที่หมาย “ป๊าบ ! อุ๊บ! อ๊าค!.” เสียงเหล่านี้ดังเล็ดรอดออกมาจากปากพี่หมูอ่อนนุช และเจ้าเต้ปลาแมน เมื่อคันที่ตัวเองถืออยู่โดนเก๋าลูกหมูเข้ามางาบเหยื่อหมึกหอม วิ่งจู๊ด เล่นเอาคนอัดปากเบี้ยวปากบูดถือคันโน้มอัดอยู่ชั่วครู่ คันที่โค้งง้อก็ชี้เด่ “โอว์ มายก๊อด สายขาดไปแล้ว” เสียงคนอัดร้องอุทานออกมาเสียงดัง ปลาเก๋ามันจากไปพร้อมกับเอาเบ็ดขนาด 7/0 ติดปากมันไปด้วย เมื่อความหวังที่จะยลโฉมเก๋าลูกหมู มีอันต้องพังทลาย ไปพร้อมกับ เหยื่อหมึกหอมที่มีก็หมดลง การเดินทางกลับเข้าฝั่งจึงเป็นหนทางเดียวที่เราเหลืออยู่ “ป่ะ เหยื่อใกล้จะหมดแล้ว เหลือแต่หมึกกะตอยตัวเล็กๆ ทั้งนั้น กลับเข้าฝั่งดีกว่า” นี้เป็นคำเสนอที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน เรือ Julia White จึงเบนเข็ม มุ่งหน้าเข้าสู่บางเบ้า ทันที
อาหารเที่ยงมื้อนี้ พิเศษหน่อยเพราะ แม่ครัวทำ ไก่ย่างส้มตำ พร้อมข้าวเหนี่ยวให้ทาน ระหว่างที่เรือแล่นมาจนจะถึงหินลูกบาตร เราก็เห็นฝูงปลาอีโต้มอญ กระโดด ไล่งับลูกปลาเล็กปลาน้อยอยู่รอบกองขยะที่ลอยน้ำ “เฮ้ย นั้นมันปลาอีโต้มอญนี่ แวะเล่นกับมันสักหน่อยดีกว่าไต๋หนู” เสียงร้องตะโกนบอกให้เรือหยุด พร้อมกับ ความชุลมุน ที่ร้องหาเหยื่อหมึกมาเกี่ยวเบ็ด “ป๊าบบบบ เข้าให้ อยู่แล้ว โว้ย ฮ่ะ ฮ่า! เสร็จตู” นายเต้ พร้อมเจ้ารวย สนุกสนานกับเกมส์อีโต้ประจัญบาน กันยกใหญ่ และเรียกเสียงเฮ ดังลั่น จากบรรดากองเชียร์ เมื่อยามที่มันกระโดดโชว์ตัว จนในที่สุด ก็ได้เวลาที่เราจะต้องกลับเข้าฝั่งเสียที “ป่ะ เก็บเบ็ดกลับเข้าฝั่งดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ทันเรือเฟอร์รี่เที่ยวสุดท้าย” รอยยิ้มของความสุขเปรอะเปื้อนเต็มใบหน้าของ ทุกคน โดยเฉพาะ พี่ปิยะ หรือ พี่เล็ก ที่อุตส่าห์ บินลัดฟ้ามาจากประเทศอังกฤษ และเราจะกลับมา ณ ที่แห่งนี้กันใหม่อีก ครั้ง กับเรือ Julia White เทพธิดาที่สง่างามของบางเบ้า

เรื่องราวในทริบนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ บทสรุปในทริบนี้ ไต๋หนูเป็นไต๋เรือที่มีความขยัน มุมานะ ประสบการณ์ทะเล สูงมาก ความขยัน หาตัวจับยาก มีหมายตกปลามากมายเรือโอ่อ่า อยู่สบาย นักตกปลาท่านใดสนใจจะใช้บริการเรือส.สุวัชนาวี เชิญติดต่อสอบถามได้ที่ เบอร์ 01-5242623 แล้วท่านจะประทับใจในบริการ

[กลับสู่หน้าเมนูหลัก]


Home | Bicycle | Offroad | Fishing | Radio Control | GPS Corner | Second hand | Member area
Copyright © 2000, www.WeekendHobby.com, All right reserved.

Contact Webmaster